<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
3 กรกฏาคม 2556

... “ไก่ย่างชวนชื่น-ตำโคราช”...





















“แม่ลิ้นจี่” เจ้าเก่าคอยเป็นผู้สรรหาอาหารอร่อยหลากหลายบรรยากาศ ตั้งแต่ระดับติดดินไปจนถึงระดับหรูหรามาแนะนำให้แฟนคอลัมน์ได้พากันไปเยี่ยมชิม....!!!


นี่ก็เหลืออีกเพียงหนึ่งสัปดาห์คอลัมน์ “แม่ลิ้นจี่พาชิม” ก็จะครบ 6 ขวบปีเต็ม และเมื่อถึงวันครบรอบกันทั้งทีก็คงต้องมีอะไรดีๆ มาฝากกัน นั่นก็คือ “แม่ลิ้นจี่” จะมี Gift Voucher จากห้องอาหารต่างๆ มามอบให้แฟนคอลัมน์ ส่วนกฎกติกาจะเป็นอย่างไรนั้นอ่านดูได้ในคอลัมน์ “คุยก่อนชิม”


ส่วนอาหารอร่อยประจำสัปดาห์นี้แม่ลิ้นจี่ยังคงมีเมนูเด็ดๆ มาแนะให้พากันไปแวะชิมเหมือนเช่นเคย และก็คงจะเป็นที่ถูกปากถูกใจสำหรับท่านที่ชอบรับประทานอาหารรสจัดจ้านกันเป็นพิเศษ เพราะฟังแค่ชื่อร้านก็บ่งบอกได้ถึงความเผ็ดร้อนของอาหารสารพัดชนิดที่มีอยู่ในเมนูของร้านนี้ ร้านที่ว่านี้เขามีชื่อว่าร้าน “แซ่บจัง”


และเหตุที่ต้องมาเขียนแนะนำก็เพราะว่าปากต่อปากบอกเล่ากันมาว่า อาหารของร้านนี้เขาทำได้...แซ่บจัง...สมกับที่นำมาตั้งเป็นชื่อร้าน เลยทำให้คนที่ชอบสรรหาของกินอย่างแม่ลิ้นจี่ต้องรีบมาเยี่ยมชิมเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลของบรรยากาศและรสชาติของอาหารนำมาเล่าสู่กันฟัง



จากการที่ได้พูดคุยกับ “คุณสุชาดา เลี่ยมแก้ว” หรือ “คุณหมู” ซึ่งเป็นเจ้าของร้านได้เล่าความเป็นมาของร้านนี้ให้ฟังว่า ตนเองนั้นมีงานประจำเป็นเลขา กก.ผจก.ใหญ่ บริษัท อะโรเมติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ปตท. และเหตุที่มาเปิดร้านนี้ก็เพราะว่าตนเองและสามีเป็นคนที่ชอบสรรหาอาหารอร่อยรับประทาน และเป็นคนที่สนใจในการปรุงอาหาร เมื่อมีโอกาสก็เลยมาเปิดร้านเป็นธุรกิจเสริมในยามว่างได้ประมาณเกือบ 2 ปี โดยในช่วงกลางวันจะมี “คุณศรัญย์ เลี่ยมแก้ว” ซึ่งเป็นลูกชาย และมีอาชีพเป็นโปรกอล์ฟคอยดูแล ส่วน “คุณหมู” จะมาช่วยดูแลหลังจากเลิกงานในยามเย็น


“คุณหมู” สาธยายต่อไปไปว่า ที่ร้านนี้จะเน้นขายอาหารไทยและอาหารอีสานเป็นเมนูหลัก โดยจะมีอาหารสารพัดชนิดให้เลือกสั่งมากมายกว่า 200 ชนิดในเมนู ทางด้านวัตถุดิบก็จะคัดสรรแต่เฉพาะวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สนนราคาค่าอาหารก็ไม่แพง เริ่มต้นที่จานละ 30 -180 บาท ที่สำคัญร้านนี้จะเน้นปรุงอาหารรสจัดแบบไทยๆ จึงเป็นที่มาของชื่อร้านว่า “แซ่บจัง”



ส่วนบรรยากาศของร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน ด้านนอกจะเป็นระเบียงแบบโอเพ่นแอร์ประดับประดาด้วยต้นไม้ดูร่มรื่น ส่วนด้านในจะเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ ผนังเป็นกระจกใสแจ๋วมองเห็นทัศนียภาพริมบึงน้ำได้ชัดเจน สภาพภายในดูสะอาดสะอ้านตั้งแต่ตัวร้าน ห้องนำ ไปจนถึงห้องครัว ที่กล้าการันตีเพราะ “แม่ลิ้นจี่” เดินสำรวจจนทั่วร้าน ทีนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะสั่งอาหารมาชิมลิ้มลองกันได้แล้ว ขอเริ่มต้นจานแรกกันที่



ไก่ย่างชวนชื่น... ซึ่งเป็นสูตรการปรุงแบบโบราณ โดยเขาจะนำไก่สาวพันธุ์เนื้อตัวขนาด 8 ขีด นำไปหมักกับเครื่องปรุงมี กระเทียม พริกไทย รากผักชี ซอสปรุงรส และนมสดเพื่อให้เนื้อนุ่มเนียน หมักไว้นานกว่า 3 ชั่วโมงจนเครื่องปรุงซึมซาบเข้าเนื้อใน ก่อนนำไปย่างบนเตาไฟอ่อนๆ ค่อยๆ ให้สุกไปทีละน้อย จนหนังไก่เกรียมกรอบเนื้อในสุกกำลังดี สับแยกร่างมาเป็นชิ้นๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 รส 2 แบบ มีทั้งน้ำจิ้มหวาน และน้ำจิ้มแบบแจ่วแบบอีสาน ความอร่อยอยู่ที่หนังไก่ย่างจนกรอบกรุบ เนื้อไก่นุ่มเนียนอร่อยลิ้น ในราคาตัวละ 120 บาท



ตำโคราช... จากฝีมือการตำของพ่อครัวชาวอีสานขนานแท้ ซึ่งเมนูจานนี้ตามตำรับเขาว่าเป็นเนื้อคู่กันกับไก่ย่าง โดยเขาจะนำมะละกอดิบสับซอยเป็นเส้น นำไปตำรวมกับพริกขี้หนูสด มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว กุ้งแห้ง ปูนาต้มสุก เพิ่มรสชาติยวนยั่วน้ำลายด้วยน้ำปลาร้าอย่างดีต้มสุก ปรุงรสออกเผ็ดนำ เปรี้ยว เค็ม โรยหน้าด้วยแค็ปหมู ความอร่อยอยู่ที่รสชาติจัดจ้านของเครื่องปรุง บอกได้คำเดียวว่า...แซ่บจัง ในราคาจานละ 40 บาท



ต้มแซ่บกระดูกอ่อน... เมนูนี้เป็นอีกอย่างที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ โดยเขาจะนำกระดูกอ่อนหมูสับเป็นชิ้นๆ พอคำ ก่อนนำไปต้มกับสมุนไพรไทยมี ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง พริกขี้หนูสด ปรุงรสออกเปรี้ยวนำ เค็ม เผ็ด และหวานนิดๆ ติดปลายลิ้น โรยหน้าด้วยพริกแห้งทอด เสิร์ฟมาในหม้อไฟเดือดพล่าน ความอร่อยอยู่ที่กระดูกอ่อนหมูเคี้ยวได้กรอบกรุบสนุกปาก ตักซดได้คล่องคอรสแซ่บจนเหงื่อซึม ในราคา 65-100 บาท



ปีกไก่ทอด... เมนูจานนี้เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดีเพราะไม่มีรสเผ็ดมาเจือปน โดยเขาจะนำปีกไก่ส่วนกลางทั่คัดขนาดมาเป็นพิเศษ นำไปหมักกับซอสปรุงรสและพริกไทยเล็กน้อย คลุกแป้งก่อนนำไปทอดในน้ำมันจนสุกเหลือง ความอร่อยอยู่ที่ปีกไก่ที่ทอดมาจนกรอบนอกนุ่มในกัดกินได้เต็มปากเต็มคำ จิ้มกินกับซอสมะเขือเทศหรือน้ำจิ้มแจ่วอร่อยอย่าบอกใคร ในราคาจานละ 65 บาท



ปลาช่อนโบราณ... เมนูทั่วไปแต่อยู่ที่ทีเด็ดของแต่ละร้าน โดยเขาจะนำปลาช่อนไซด์ขนาด 8 ขีด ขอดเกล็ดบั้งข้างตัวนำไปทอดจนสุกกรอบ ราดด้วยน้ำราดที่มีส่วนผสมของ หอมแดงซอย ตะไคร้ซอย พริกขี้หนูสับ มะม่วงดิบซอย ถั่วลิสงทอด น้ำพริกเผา ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก ให้ออกเปรี้ยวนำ เค็ม หวาน และเผ็ด โรยหน้าด้วยงาขาว พริกแห้งทอด และใบสะระแหน่ ความอร่อยอยู่ที่เนื้อปลาช่อนสดหวาน บวกกับน้ำราดรสกลมกล่อม ในราคาจานละ 180 บาท



นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายชนิดที่น่าชิมในเมนู อาทิ ยำแซ่บจัง เมี่ยงปลาช่อน หมูตกครก ปลาทับทิมเผาเกลือ ข้าวผัดน้ำพริกกุ้งสดเสิร์ฟพร้อมปลาทูทอด ฯลฯ ชอบแบบไหนก็ต้องลองแวะมาชิมกันเอง ถ้าไม่สะดวกมาที่ร้านเขาก็มีบริการเดลิเวอรี่จัดส่งให้ถึงที่รัศมีไม่เกิน 5 ก.ม. จากที่ร้าน ค่าจัดส่งตามระยะทาง


ที่ร้านนี้จะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์ที่ 2 และที่ 4 ของทุกเดือน) สถานที่ตั้งของร้านจะอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 14 (ซอยข้างโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ) เข้าไปถึงป้อมยามหมู่บ้านเมืองทองนิเวศร์ 1 เลยเข้าไปอีก 600 เมตร จะเห็นร้านอยู่ขวามือตรงข้ามกับบึงน้ำ หรือถ้าเกรงว่าจะหากันไม่เจอก็โทรมาสอบถามเส้นทางกันก่อนได้ที่ 0-2573-4045 และ 08-1924-9903

โดย “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 12”




ข้อมูลโดย บ้านเมือง















Create Date : 03 กรกฎาคม 2556
Last Update : 3 กรกฎาคม 2556 14:50:07 น. 1 comments
Counter : 3530 Pageviews.  

 


โดย: ญามี่ วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:50:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]