<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
9 มกราคม 2557

“Kin Yakiniku” อร่อยรสแบบจัดเต็ม กับสุนทรียภาพแห่งการปิ้ง-ย่าง สไตล์ญี่ปุ่น








บรรยากาศร้าน “Kin Yakiniku” โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมเย็นๆ


บรรยากาศโต๊ะนั่งห้องแอร์


ชุดหมูรวม


ชุดเนื้อรวม


เนื้อวากิว


ชุดซีฟู้ดรวม


สลัดคิน


ปิ้ง-ย่าง อร่อยบนเตาร้อนๆ


กิมจิหม้อไฟ


ถ้าความสุขของคนชอบเที่ยว คือการที่ได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ อันงดงาม ฉะนั้นความสุขของคนชอบกิน อย่าง “ตระเวนกิน” แล้ว ก็คือการที่ได้ออกเดินทางไปกินอาหารอร่อยๆ ยังร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆ ชวนนั่ง แค่นี้ก็สุขสุดๆ แล้ว



เหมือนที่มื้อนี้เราได้ชวนก๊วนเพื่อนนักกิน มาหาความสุขกันตามประสาคนชอบกินของอร่อยๆ กันที่ร้านอาหารแห่งนี้ “Kin Yakiniku” (Kin คิน เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ทอง) เป็นร้านปิ้ง-ย่าง น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน แต่ว่ามีความน่าสนใจดึงดูดให้ชวนมากินปิ้ง-ย่างสไตล์ญี่ปุ่นของที่นี่เป็นอย่างมาก ซึ่งทางร้านมีสโลแกนประจำร้านที่ว่า “Kin Yakiniku สุนทรียภาพแห่งการปิ้งย่าง”



บรรยากาศของที่ร้านชวนนั่งเสียเหลือเกิน ทางร้านจัดโต๊ะนั่งแบบเปิดโล่งให้นั่งรับลมธรรมชาติเย็นๆ เป็นโต๊ะนั่งเก้าอี้แบบโซฟานุ่มๆ มีหมอนหลากสีสันให้อิงกาย แล้วแต่ละโต๊ะมีเตาส่วนตัวเป็นเตาถ่านเก็บกลิ่น ใช้ถ่านไม้เกรดเอที่มีควันน้อย แต่ให้ความร้อนสูงและร้อนอยู่นาน



และที่โซนโต๊ะนั่งด้านนอกนี้ ยังมีเวทีเล็กๆ มีนักดนตรีมาเล่นเพลงเพราะๆ ให้ฟังทุกวัน 2 วง เวลา18.30-20.00 น. และ 20.30-22.00 น. แต่ถ้าใครอยากนั่งห้องแอร์ก็มีให้บริการอยู่ 2 ห้อง ห้องละ 2 โต๊ะ



ส่วนปิ้ง-ย่างของที่ร้านนี้ อย่างที่บอกแล้วว่าเป็นสไตล์แบบญี่ปุ่น และนำเสนอเป็นแบบอาหารจานเดียว มีเนื้อสัตว์หลากหลายให้เลือกสั่ง ซึ่งทางร้านได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี เน้นเรื่องคุณภาพและความสดใหม่เป็นสำคัญ รวมถึงยังมีเมนูอาหารจานเดียวสไตล์ญี่ปุ่น และเกาหลีให้ได้เลือกลิ้มลองกันอีกด้วย



ในมื้อนี้พวกเรามากันหลายคน เลยเลือกสั่งเมนูเด่นๆ มาชิมกันมากมาย จานแรกที่สั่งมาคือ ชุดหมูรวม (310 บาท) ในชุดมีเนื้อหมูส่วนสันคอ หมูเนื้อแดง ตับหมู ซี่โครงหมู เบคอน และราดด้วยน้ำซอสที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ นำเนื้อหมูต่างๆ ลงไปปิ้ง-ย่าง บนเตาถ่านร้อนๆ แล้วนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ทางร้านปรุงคี่ยวขึ้นมาโดยเฉพาะตามสูตรเด็ด เพื่อให้ถูกปากคนไทย และยังมีพริกซอย กระเทียมซอย และเหล้าสาเกญี่ปุ่น ให้ปรุงรสเพิ่มตามความชอบใจ กินเนื้อหมูต่างๆ ย่างร้อนๆ จิ้มกินกับน้ำจิ้มรสเด็ดถูกปาก เนื้อหมูต่างๆ เคี้ยวนุ่มโดนใจ



ตามมาด้วย ชุดเนื้อรวม (970 บาท) เป็นเนื้อไทยทั้งหมดที่คัดมาอย่างดี มีทั้งเนื้อแดงส่วนสันคอ เนื้อส่วนช่วงท้องติดมัน ส่วนสันคอติดมัน และลิ้นวัว ทั้งหมดราดด้วยซอสเนื้อสูตรพิเศษที่ทางร้านปรุงขึ้นมา นำเนื้อย่างบนเตาร้อนๆ เนื้อสุกได้ที่ จิ้มน้ำจิ้มส่งเข้าปากเคี้ยวเนื้อนุ่มหนึบหนับปาก เนื้อฉ่ำนุ่มหวานถูกปากดีแท้



แล้วก็สั่งเนื้อนำเข้าอย่าง เนื้อวากิว (970 บาท) มาชิมกัน ทางร้านนำเข้าเนื้อวากิวมาจากญี่ปุ่น แบบเกรดพรีเมี่ยม เป็นเนื้อส่วนติดกับซี่โครง หั่นเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆ นำไปย่างบนเตาถ่านร้อนๆ พอเนื้อสุกได้ที่ตามความชอบ ส่งชิ้นเนื้อเข้าปากเคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงความหวานนุ่มฉ่ำของเนื้อชั้นดี แทบจะละลายได้ในปาก


จากนั้นก็สั่งเมนูนี้ ชุดซีฟู้ดรวม (690 บาท) มาแบบจานใหญ่อลังการ ในจานมีปลาแซลมอนจากแอตแลนติก ปลาเนื้อนุ่มเป็นปลาไทย ปูม้า กุ้งขาว หอยแมลงภู่จากนิวซีแลนด์ หอยจอบ หอยคราง หมึกกล้วย หมึกกระดอง ทุกอย่างราดซอสแดงสูตรพิเศษ ปิ้ง-ย่างซีฟู้ดบนเตาสุกได้ที่ กินแล้วซีฟู้ดทุกอย่างเนื้อหวานสดได้ใจ กินกับน้ำจิ้มเข้ากันดี และยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซบมาให้อีกด้วย


พวกเรากินปิ้ง-ย่าง กันจนแทบจะอิ่ม แต่ก็ยังสั่ง สลัดคิน (110 บาท) เป็นสลัดผักสดจานเด่นมาชิมกันอีก ทางร้านนำผักสดหลายอย่างมีแครอท แตงกวาญี่ปุ่น ผักกาดหอม กะหล่ำปลี มะเขือเทศราชินี เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำแข็ง ทำให้ผักเย็นและสดกรอบมากๆ จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของพริกเกาหลี และงาขาว อร่อยถูกปากดีจริง


และก็ยังสั่ง กิมจิหม้อไฟ (280 บาท) มากินปิดท้ายมื้ออิ่ม เป็นหม้อไฟสไตล์เกาหลี เสิร์ฟมาแบบหม้อร้อน ในหม้อเป็นน้ำซุปกิมจิสูตรเด็ดของทางร้าน ใส่เนื้อหมูส่วนสันคอ เต้าหู้ หอมหัวใหญ่ เห็ดชิเมจิ กะหล่ำปลี กุยช่าย ผักมิโดริ และใส่ไข่มาด้วย เวลากินก็คนทุกอย่างให้เข้ากัน ได้ซดน้ำซุปกิมจิร้อนๆ ชุ่มชื่นโล่งคอรสชาติดี เนื้อหมูเคี้ยวนุ่ม


แต่ถึงแม้ว่าพวกเราจะปิดมื้อปิ้ง-ย่าง และอาหารอื่นๆ ที่กินกันจนอิ่มแน่นท้องแล้ว แต่ก็ยังแอบเห็นว่าในเมนูยังมีอาหารจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ เนื้อออสเตรเลีย (570 บาท) เนื้อสันคอส่วนพิเศษ (570 บาท) ข้าวหน้าเนื้อตุ๋นญี่ปุ่น (170 บาท) ข้าวยำเกาหลี (280 บาท) ฯลฯ



เห็นทีว่าคราวหน้ามื้อใหม่เราค่อยกลับมากินปิ้ง-ย่าง และเมนูจานเด็ดอื่นๆ ของร้าน “Kin Yakiniku” แห่งนี้กันอีก แต่ถ้าหากแฟนๆ นักกินคนไหนชื่นชอบกินอาหารประเภทปิ้ง-ย่าง จะแซงคิวมาอิ่มอร่อยกันก่อนก็ไม่ว่ากัน



“Kin Yakiniku” (คิน ยากินิกุ) ตั้งอยู่ที่ 288 ถ.เฉลิมพระเกียรติสวนหลวง ร. 9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. การเดินทางถ้ามาจากห้างซีคอน ให้ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกอุดมสุข ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถ.เฉลิมพระเกียรติสวนหลวง ร. 9 และวิ่งตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นร้านKin Yakiniku ตั้งอยู่ระหว่างซ.เฉลิมพระเกียรติสวนหลวง ร.9 26 กับ 28 มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน มีที่จอดรถภายในร้าน เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-24.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 16.00-24.00 น. ถ้ามากินเสาร์-อาทิตย์ ควรโทร. มาจองโต๊ะ โทร. 08-6239-8448 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : KIN yakiniku



ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์














Create Date : 09 มกราคม 2557
Last Update : 9 มกราคม 2557 11:41:00 น. 2 comments
Counter : 2621 Pageviews.  

 


โดย: ญามี่ วันที่: 9 มกราคม 2557 เวลา:11:42:15 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
AppleWi Dharma Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Gargen Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
ญามี่ Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 11 มกราคม 2557 เวลา:23:16:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]