หอยแมลงภู่ผัดฉ่า
ขาไก่ตุ๋น
เนื้อปูผัดพริกเหลือง
มัลเบอร์รี่ชีสเค้ก
เมี่ยงคะน้า
ไข่เจียวปู
บะหมี่น้ำขาไก่และปีกไก่ตุ๋น
ข้าวมันไก่
วันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปกินอาหารไทยแบบดั้งเดิมที่ ร้านครัวอัปษร ที่ปัจจุบันมีอยู่หลายสาขา โดยสาขาแรกอยู่ที่ถนนสามเสน ร้านนี้ทำอาหารไทยได้อร่อยมาก เพราะใช้เครื่องปรุงที่มีคุณภาพ และคัดเลือกวัตถุดิบแบบง่าย ๆ ปรุงรสชาติไม่จัดจ้านนัก ทุกสิ่งทุกอย่างลงตัวพอดีคือไม่เผ็ดจัด ไม่เปรี้ยว ไม่หวาน และไม่เค็มจนเกินไป รสชาติเหมือนชาววังทำเลยครับ
สำหรับสาขาที่ผมไปชิมนั้นอยู่บนถนนดินสอ ใกล้กับศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งถนนจะแคบแต่มีที่จอดรถก่อนถึงร้าน ก่อนหน้านี้ร้านครัวอัปษรจะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่ตอนนี้ได้ขยายออกไปข้างหลัง แต่ส่วนนี้ไม่มีเครื่องปรับอากาศ โดยจะมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติมากินกันอาหารมาก มาย เพราะอยู่ใกล้กับถนนข้าวสาร
ผมอยากให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักอาหารไทยเลยสั่งมาหลายอย่างครับ
เริ่มด้วยอาหารกินเล่นคือ เมี่ยงคะน้า จัดมาอย่างประณีต น้ำเมี่ยงใช้น้ำปลาอย่างดี น้ำตาลปี๊บมีคุณภาพ มะพร้าวคั่วใหม่ ๆ และคัดก้านคะน้ามาเป็นพิเศษ ไม่แก่ ไม่แข็ง รสชาติกลมกล่อม ไม่หวาน และไม่เค็มเกินไป อร่อยดีครับ
ต่อมาเป็น หอยแมลงภู่ผัดฉ่า ใช้หอยตัวใหญ่และสดมาก ล้างอย่างสะอาด ผัดได้พอดี ตัวหอยไม่หดจนเหลือตัวเล็กนิดเดียว แถมเนื้อหอยไม่แห้งทำให้ไม่เหนียว
ตามต่อด้วย ผัดดอกขจรหมูสับ เป็นอาหารโบราณที่อร่อย ผัดแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก และร้านนี้ได้ทำ ผัดผักกระเฉด มาให้ชิมด้วย ใช้แต่ยอดผักกระเฉดซึ่งตอนนี้หายากพอสมควร ผัดได้พอดี มีความกรอบ ไม่เหนียวเพราะเลือกก้านที่ยังอ่อน แต่ถ้าก้านแก่จะเหนียวเป็นเสี้ยนติดฟันครับ
มี ไข่พะโล้ น้ำพะโล้เข้มข้น แต่ผมอยากให้เคี่ยวนานกว่านี้ น้ำพะโล้จะได้ดำ ข้น และน่ากิน แต่ของเขาก็อร่อย ปรุงรสชาติได้ดี นอกจากนี้ยังมี เนื้อปูผัดพริกเหลือง ใช้เนื้อปูเป็นก้อน ๆ ใส่ถั่วฝักยาว ผัดแบบเร็ว ๆ โดยให้ถั่วยังคงกรอบ และสีของถั่วยังคงเขียวอยู่ ทำให้น่ากิน ยิ่งกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ยิ่งอร่อย
เมนูถัดมาผมลองสั่ง แกงป่าปลา มากินด้วย อร่อยมาก ไม่เหม็นคาว รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดมากนัก ถูกปากคนไทยแน่นอน และที่ขาดไม่ได้คือ ไข่เจียวปู ทอดได้ฟูหนาและแน่น กินกับซอสพริกหรือจะกินกับแกงป่าปลาก็เข้ากันดีครับ ยิ่งใส่น้ำปลาพริกลงไปสักเล็กน้อยยิ่งอร่อย นอก จากนี้ยังมี แกงเหลืองไหลบัวใส่กุ้ง รสชาติของแกงกำลังพอดี ไม่หวานและไม่เผ็ดมาก กินได้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
ส่วนเมนูของหวานเป็น กล้วยบวชชี รสไม่หวานมาก เนื้อกล้วยแข็งพอดี ๆ ไม่เละเกินไป และผมยังได้ชิม ข้าวเหนียวถั่วดำ ด้วย อร่อยไม่แพ้กัน รสชาติหวานกำลังดี
มาถึงร้านที่สองที่ผมจะพาไปชิมเป็นร้าน พจน์ ก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้าวมันไก่ และซูเปอร์ขาไก่ อยู่เชิงสะพานพระนั่งเกล้า ร้านนี้จะเปิดช่วงเย็นถึงดึก ผมอยากแวะไปกินมาหลายครั้งแล้วเพราะเป็นทางกลับบ้านของผม เมื่อไม่นานมานี้ผมก็ได้มีโอกาสแวะไป ผมติดใจเลยครับ
เมนูแรกที่ติดใจคือ ข้าวมันไก่ เพราะเนื้อไก่นุ่ม ต้มได้พอดี จึงทำให้เนื้อไก่ไม่แห้ง น้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อม เข้มข้น และยิ่งข้าวมันของเขาดีมาก โดยจะเอามันของไก่ไปผัดกับข้าวก่อนแล้วค่อยไปหุง ทำให้ข้าวมีกลิ่นหอม มัน นุ่ม กินกับไก่ที่ต้มมาเป็นอย่างดี อร่อยมากครับ
จานต่อมาผมสั่ง บะหมี่น้ำขาไก่และปีกไก่ตุ๋น น้ำซุปใช้โครงไก่ไปต้มและใส่เครื่องเทศลงไป ทำให้น้ำซุปหวานกลมกล่อม พอใส่พริกน้ำส้มเข้าไปยิ่งอร่อย
ส่วนเมนูเด็ดของที่ร้านจะเป็นซูเปอร์ขาไก่ ในส่วนของน้ำซุปกลม กล่อมกำลังดี ยิ่งเอาขาไก่หรือน่องไก่มาจิ้มกับน้ำจิ้มเฉพาะของร้านที่คล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยแล้วล่ะก็ อร่อยเด็ดอย่าบอกใคร
ร้านนี้ต้องแวะไปดึก ๆ อร่อยได้ใจผมเลยครับ ไปประมาณ 2-3 ทุ่มกำลังดี รถไม่ติด รับรองไม่ผิดหวังครับ.
มัลเบอร์รี่ชีสเค้ก - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุง
- ขนมคุกกี้ 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เนยละลายแล้ว 1/4 ถ้วยตวง
- ครีมชีสนุ่มแล้ว 115 กรัม
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- นมสด 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- ผิวมะนาวเหลืองขูด 1/2 ช้อนชา
- มัลเบอร์รี่กระป๋อง 1 กระป๋องที่ทำข้นแล้ว
วิธีทำ
1. นำขนมคุกกี้มาบดให้ละเอียด แล้วผสมกับเนยที่ละลายแล้วและน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
2. นำส่วนผสมของคุกกี้มากดลงกับถาดพิมพ์ให้เป็นแผ่นเรียบ แล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบให้เหลืองแล้วเอาออกพักไว้
3. นำครีมชีสที่ปล่อยให้นุ่มแล้วมาตีกับน้ำตาล เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วเติมเกลือและนมสด ตีให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วจึงเติมน้ำมะนาวเข้ากับส่วนผสม ตอกไข่ลงผสมทีละฟองตีต่อไปจนกระทั่งไข่หมด ปรุงกลิ่นด้วยวานิลลาและผิวมะนาวเหลืองขูด
4. ใส่มัลเบอร์รี่กระป๋องลงไปในส่วนผสมประมาณ 1/2 ถ้วยตวง แล้วคนให้ส่วนผสมของมัลเบอร์รี่กับแป้งพอเข้ากัน
5. นำส่วนผสมของชีสเค้กเทลงไปในถาดพิมพ์ที่ได้อบฐานคุกกี้ไว้แล้ว นำไปอบในเตาอบไฟ 180 องศาเซล เซียส ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที หรือจนกระทั่งสุก
6. เมื่อมัลเบอร์รี่ชีสเค้กสุก ยกออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น แล้วราดหน้าชีสเค้กด้วยมัลเบอร์รี่กระป๋องให้ทั่วแล้วนำเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนจะรับประทาน.
หมึกแดงไกด์ สำหรับ
ร้านครัวอัปษร
ความอร่อย
ความสะอาด
คุณภาพของวัตถุดิบ
การบริการ
ราคา
ความเผ็ด
ที่อยู่ : 169 ถนนดินสอ (ใกล้ศาลาว่าการกรุงเทพฯ)
เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทรศัพท์ : 0-2685-4531 และ 08-0550-0310
เวลาเปิด : 10.30-20.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์
หมึกแดง
//www.mcdangguide.com
ข้อมูลโดย เดลินิวส์
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [
