ที่ Jennys Place Restaurant พระราม 9 ซอย 17
เมนูจานเด็ด..ประจำฉบับนี้
คงต้องขอเอาใจท่านผู้อ่านที่มีรสนิยมในการรับประทานอาหารอร่อยที่ปรุงมาจากวัตถุดิบคุณภาพระดับเกรด A กันดูบ้าง ซึ่งแม้แต่โรงแรมชื่อดังหรือห้องอาหารระดับ 5 ดาวในเมืองไทยส่วนใหญ่ก็ยังมิกล้าที่จะนำมาขาย แต่ที่ห้องอาหาร Jennys Place (เจนนี่ เพลส) นั้นเขาเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเขามีวัตถุดิบสารพัดสัตว์ทะเลสดๆ เป็นๆ ที่แหวกว่ายอยู่ในตู้เลี้ยง ที่ต้องไปจับจองกันถึงท่าเรือประมงน้ำลึกของออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็น กุ้งมังกร ตัวบิ๊กบึ้ม กั้งมังกร บิ๊กไซส์สดๆ ปูยักษ์ (King Crab) น้ำหนักกว่า 7 กก. ไว้บริการ เรียกได้ว่าหารับประทานกันไม่ได้ง่ายๆ นอกจากที่ร้านนี้เท่านั้น
คุณเจนนี่ เอ็มเม็ท สาวงามชาวเมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ได้บอกเล่าให้ แม่ลิ้นจี่ ฟังว่า หลังจบการศึกษาในเมืองไทยจึงได้เดินทางไปประกอบธุรกิจและทำงานอยู่ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียมานานกว่า 2 ทศวรรษ และจากที่ต้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองระดับ VIP จึงได้มีประสบการณ์ทั้งทางด้านการบริการและด้านอาหารที่ปรุงมาจากวัตถุดิบคุณภาพที่มีอยู่มากมายในออสเตรเลีย อีกทั้งตนเองยังชื่นชอบในการปรุงอาหาร และได้เคยช่วยเป็นลูกมือให้กับคุณย่าเมื่อครั้งยังวัยเยาว์ เมื่อมีโอกาสจึงได้มาเปิดร้านอาหารตามที่ตนเองใฝ่ฝัน โดยมีเครือญาติช่วยกันดูแล ส่วนตนเองนั้นก็จะเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯ และซิดนีย์เพื่อดูแลกิจการและนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพมายังประเทศไทย
ส่วนร้านแรกที่เปิดในเมืองไทยนั้นก็คือ ห้องอาหาร เจนนี่ เพลส ซึ่งตั้งอยู่ในอาคาร Oasis ซอยพัฒนาการ 53 ถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง กทม. ส่วนห้องอาหาร เจนนี่ เพลส สาขาที่ 2 จะตั้งอยู่ชั้นล่างริมสระว่ายน้ำในอาคาร Leticia Luxurious Residence Praram 9 ในพระราม 9 ซอย 17 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งสาขาที่ 2 นี้จะตกแต่งด้วยโทนสีขาวดูสว่างในบรรยากาศสไตล์ยุโรป ผนังอีกด้านจะเป็นกระจกใสมองเห็นทัศนียภาพริมสระว่ายน้ำได้ชัดเจนไม่อึดอัด มีบริการทั้งอาหารไทย จีน และยุโรป และมีอาหารอร่อยให้เลือกสั่งมากกว่า 60 ชนิดในเมนู สนนราคาก็เริ่มต้นกันที่จานละ 150 บาท ไปจนถึงหลักพันบาท และราคาตามน้ำหนัก
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่จะมีทั้งลูกค้าแบบครอบครัว คนในวัยทำงาน ลูกค้านักธุรกิจและนักการเมือง ที่ต้องการปลีกวิเวกหามุมสงบในการพูดคุย พร้อมกับรับประทานอาหารเลิศรสที่หาทานได้ยากในเมืองไทย ส่วนเมนูจานเด็ดที่ แม่ลิ้นจี่ จะแนะนำให้สั่งมาลิ้มลองกันในวันนี้ก็มี
กุ้งมังกรออสเตรเลียผัดพริกเกลือ
เมนูนี้ต้องสั่งจองกันล่วงหน้า เขาจะนำกุ้งมังกรตัวบิ๊กบึ้มน้ำหนักกว่าหนึ่งกิโลครึ่ง วัดรวมความยาวได้เกือบหนึ่งฟุตครึ่ง ผ่าหลังแยกร่างเป็นสองส่วน หั่นเป็นชิ้นใหญ่ติดเปลือก นำไปทอดในน้ำมันร้อนฉ่าพร้อมหัวและหางจนสุกได้ที่ ก่อนนำไปผัดแบบแห้งๆ กับ เกลือ กระเทียม รากผักชี พริกสด เสิร์ฟมาในจานใบใหญ่พร้อมด้วยน้ำจิ้มแบบซีฟู้ดรสชาติจัดจ้าน ความอร่อยอยู่ที่เนื้อกุ้งมังกรสดหวานที่ทอดมาสุกกำลังดีไม่หดแห้ง บวกกับพริกเกลือที่คั่วมาจนแห้งรสหวานเค็มเผ็ด จิ้มกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดได้อร่อยล้ำเกินคำบรรยาย ในราคากิโลกรัมละ 5,000 บาท ราคาจานนี้ 7,500 บาท
ปูทะเลเนื้อผัดผงกะหรี่
เขาจะนำปูทะเลหรือปูดำตัวใหญ่ก้ามโตหนักกว่า 9 ขีดที่คลานต้วมเตี้ยมอยู่ในตู้เลี้ยง แกะกระดองนำมาสับแยกร่างเป็นชิ้นใหญ่ ก่อนนำไปผัดในกระทะร้อนๆ ใส่พริกยักษ์ ต้นหอม ไข่เป็ด ผงกะหรี่ ผัดคลุกเคล้าจนเครื่องปรุงซึมซาบเข้าเนื้อใน ปรุงรสออกหวานเค็มมัน เสิร์ฟใส่จานใบใหญ่ เขาจะกระเทาะเปลือกมาให้เสร็จสรรพสะดวกในการกิน ความอร่อยอยู่ที่ปูทะเลเนื้อแน่นสดหวานหอมกลิ่นผงกะหรี่อย่างดี ในราคากิโลกรัมละ 1,800 บาท
เนื้อวากิวออสเตรเลีย No.9 ย่างจิ้มแจ่ว
เป็นเมนูลูกผสมระหว่างออสเตรเลีบกับอีสาน โดยเขาจะใช้เนื้อวากิวนัมเบอร์ 9 ซึ่งเป็นเนื้อวากิวเกรดดีสุดของออสเตรเลีย นำมาแล่เป็นชิ้นหนากำลังดี ย่างบนเตาร้อนๆ แค่พอสะดุ้งไฟ หั่นสไลซ์มาเป็นชิ้นพอคำ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วแบบอีสาน ความอร่อยอยู่ที่เนื้อวากิวหวานนุ่มละมุนลิ้นเคี้ยวกินแทบละลายในปาก เพิ่มความอร่อยล้ำเมื่อได้จิ้มกินกับน้ำจิ้มแจ่วพริกป่นรสแซบซ่านแบบอีสาน ในราคาชิ้นละ 2,700 บาท
เนื้อปลาเก๋าผัดพริกไทยดำ
เขาจะใช้ปลาเก๋าทะเลน้ำลึกที่มีน้ำหนักพอๆ กับเด็ก 12 ขวบ นำมาแล่เอาแต่เนื้อปลาพร้อมหนังหั่นเป็นชิ้นใหญ่พอคำ นำไปผัดกับหอมหัวใหญ่ พริกไทยอ่อน ต้นหอม พริกหวาน พริกไทยดำป่น และพริกชี้ฟ้าแดง ปรุงรสออกเค็มนำ หวานนิดๆ ติดปลายลิ้น หอมฉุนด้วยพริกไทยดำ ความอร่อยอยู่ที่เนื้อปลาเก๋าสดหวานที่มีหนังปลาหนานุ่ม ในราคาจานละ 1,200 บาท
ขาลูกวัวอบซอสไวน์แดง..เขาจะใช้เนื้อส่วนขาของลูกวัวชิ้นใหญ่ติดกระดูกคลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศ นำไปอบนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจัดวางใส่จานราดด้วยน้ำซอสสูตรเฉพาะที่มีส่วนผสมของไวน์แดง เคียงข้างจานด้วยหน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน มันฝรั่งบด ความอร่อยอยู่ที่ขาลูกวัวเปื่อยนุ่มที่เครื่องปรุงซึมซาบอยู่ภายใน เคี้ยวกินได้นุ่มเนียนจากเอ็นวัวที่แทรกซ้อนอยู่ในเนื้อ บวกกับซอสไวน์แดงรสชาติเข้มข้น ในราคาจานละ 890 บาท
นี่แค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยที่ได้แนะนำกันไป นอกจากนี้ในเมนูยังมีอาหารอร่อยที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย อาทิ สปาเกตตีปลาสลิด 390 บาท, ปาท่องโก๋เจี๋ยน 250 บาท, เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง 580 บาท ฯลฯ สะดวกกันเมื่อไรก็ขอเชิญแวะเวียนมาเยี่ยมชิมกันได้ ห้องอาหาร เจนนี่ เพลส จะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. โทรศัพท์มาจับจองโต๊ะกันล่วงหน้าได้ที่ สาขาพัฒนาการ 53 โทร.0-2320-3223 และที่สาขาพระราม 9 ซอย 17 โทร.0-2106-3085
โดย แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 12
ข้อมูลโดย บ้านเมือง