จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
กาหรือหงส์ ตอน ๖

กาหรือหงส์ ตอน ๖





อากาศยามเย็นคลายความร้อนลงไปมากแล้วสำหรับลมพัดโชยกลิ่นป่าที่โอบรอบหลังโรงเรียน มะยมสูดอากาศสดชื่นยามเย็นอยู่หน้าห้องอาจารย์พักตร์วิไล เพื่อรอคำสั่งให้ทำอะไร ๆ ในวันลอยกระทงที่จะมาถึงในอาทิตย์หน้า หลังจากที่ครูพักตร์ให้เด็กรุ่นน้องไปตามสองสามรอบแล้ว เด็กสาวอดแปลกใจที่ครูพักตร์ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะหน้าห้องอาจารย์ใหญ่เช่นทุกวัน จึงเดินเลาะอาคารไม้กำมะลอที่สร้างขึ้นอย่างง่าย ๆ สำหรับนักเรียนชั้น ม.1 ทั้งหมด 12 ห้องได้ใช้เป็นที่สำหรับการเรียนการสอนทั้งหมด …

มะยมเดินลัดเลาะไปตามทางเดินโรยกรวดเล็ก ๆ กระทั่งถึงบริเวณสนามฟุตบอล จนมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังแบกเสลี่ยงขนาดหนึ่งคนนั่งอยู่ด้านบนได้เดินกลับไปกลับมา โดยมีครูพักตร์วิไลยืนมองกับคนๆ หนึ่งอยู่ห่างๆ เด็กสาวจึงเดินเข้าไปใกล้ๆทางด้านหลัง จนอาจารย์สาวสวยแห่งท่าวังหินมองเห็นพอดี …

“ เพิ่งโผล่มาเหรอแม่ตัวดี นี่ครูกับเพื่อน ๆ ยืนรอเธอคนเดียวมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนเหรอจ๊ะ” พอครูพักตร์วิไลพูดจบประโยคนี้ มะยมรู้สึกหน้าชาจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ด้วยทุกคนต่างหันมามองที่ตนจนหมด คราวนี้จะหาทางแก้ตัวยังไงดีล่ะ..

“ คือหนู … มัวแต่นั่งทำการบ้านส่งอาจารย์สนิทเพลินไปหน่อย ลืมไปว่าได้นัดอาจารย์ไว้ ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ช้า ”

“ งั้นไม่เป็นไร มาช้าดีกว่าไม่มานะมะยม อ้าวแล้วนี่รู้ยังว่าครูจะให้เรานั่งบนเสลี่ยงคู่กับอิสราน่ะ..”

“ อะไรนะคะอาจารย์ จะให้หนูนั่งคู่กับอิสราน่ะหรือ..” คนพูดสะบัดน้ำเสียงจนคนร่างสูงที่ยืนอยู่ไกลออกไปไม่ถึงสิบแมตรต้องหันขวับกลับมามองตามต้นเสียงแล้วอมยิ้มมีเลศนัย จนเด็กสาวต้องถลึงตาไปปรามอย่างโกรธเคือง ..

“ แล้วมีปัญหาอะไรหรือเปล่ายม ดูทำหน้าทำตาเข้าสิ เหมือนจะไปออกรบซะยังงั้นแหละ..”

“ หนูไม่เป็นนางนพมาศของโรงเรียนได้มั้ยคะอาจารย์ รู้สึกอึดอัดใจกับคนบางคน ”

“ ไหงมากลับลำเอาตอนนี้ล่ะมะยม ครูอุตส่าห์โทรศัพท์ไปขอพ่อเธอตั้งสองสามครั้ง แล้วจู่ๆเธอจะมาขอเลิกง่ายๆแบบนี้น่ะหรอ ! แล้วจะให้ครูไปหาใครมาแทนเธอทันล่ะจ๊ะแม่คุณ อีกประเดี๋ยวก็ห้าโมงเย็นแล้วก็มืดค่ำกันพอดี ..”

“ หนูกราบขอโทษไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ค่ะอาจารย์ ”

มะยมเอ่ยออกไปอย่างแผ่วเบา มือไม้อยู่ไม่เป็นสุข รู้สึกได้ตลอดเวลาว่ามีสายตาคมปลาบคู่หนึ่งจ้องมองมาอย่างคาดคั้นและผิดหวัง …

“ ครูไม่อาจเข้าใจเธอทุกเรื่องได้นะมะยม เอาเถอะวันนี้ครูจะตามใจเธอ แต่ครูรู้สึกผิดหวังมาก ทำไมมะยมคนนี้ถึงเอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลได้ ยัยมะยมคนขยันคนเดิมหายไปไหน รู้อะไรมั้ยจ๊ะมะยม ครูหลายคนเขาชื่นชอบความเก่งกล้าและพร้อมจะสนับสนุนเธอทุกอย่าง ทั้งที่ก็มีครูหลายท่านได้ท้วงติงว่าการที่ครูเอาเธอมาเป็นนางนพมาศของโรงเรียนมันไม่เหมาะสม ... เธอไม่สวยและน่ารักพอ จนในที่สุดครูก็ชนะ เพราะเชื่อและมั่นใจว่ามะยมลูกศิษย์ของครูคนนี้สวยและน่ารักเกินกว่าที่ใครจะมองอย่างฉาบฉวย... แล้วเธอล่ะมะยม เธอไม่พิสูจน์ตัวเองกับคำพูดเหล่านั้นล่ะ พิสูจน์สิว่าเราก็มีดี .... เอาล่ะตอนนี้เธอจะกลับก็กลับได้เลยนะ ขอบใจที่เสียสละเวลามาในวันนี้ ... ”

พอครูพักตร์วิไลพูดจบมะยมรู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งโลกทลายลงมาทับตัวเองแบนอยู่กับพื้นที่ตรงนั้น รู้สึกตัวเองเหมือนนักโทษข้อหาร้ายแรงที่ยังไม่ได้รับการประหารชีวิต จึงรับเดินเลี่ยงออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ …

แต่ก็ต้องหยุดกึกไปในทันทีเมื่อปะทะกับร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งเข้าอย่างจัง จึงเงยหน้าขึ้นมอง เห็นประกายตาคมวาววับคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง ... มะยมจึงรีบเบี่ยงตัวหลบในทันที แต่ทว่าหลบยังไงก็หลบไม่พ้นเพราะมือที่เหมือนคีมเหล็กมาจับที่แขนสองข้างแน่นหนาเอาจริงเอาจัง จนเจ้าตัวรู้สึกเจ็บ ..

“ ปล่อยฉันนะ...กล้าดียังไงมาทำอย่างนี้กับฉัน”

“ ผมไม่บังอาจหรอกครับมะยม แต่อยากให้คุณลองใช้เหตุผลและสติคิดรอบคอบมากกว่านี้หน่อย”

“ ทุกอย่างก็เพราะนายนั้นแหละ ฉันถึงต้องยอมเป็นคนสับปลับโลเลอย่างนี้ ”

“ ผมรู้นะว่าคุณไม่ค่อยชอบหน้าผม แต่คุณก็โตเป็นผู้ใหญ่ระดับหนึ่งแล้วนะมะยม ลองแยกให้ออกหน่อยสิว่าอันไหนเป็นเรื่องส่วนตัว อันไหนเป็นเรื่องส่วนรวม เมื่อกี้ได้ทันมองดูหน้าอาจารย์พักตร์วิไลมั้ยครับ คุณครูทั้งผิดหวังและเสียความรู้สึกดีๆที่มีให้กับคุณมากมาก ... ผมรู้สึกได้..”

“ นายไม่ต้องมาหลอกด่าฉันหรอก..”

“ ผมไม่ได้ด่า ตอนที่ผมมาอยู่ที่ในวันแรก มะยมที่ผมเคยเห็นเป็นคนหนักแน่น เข้มแข็ง รับผิดชอบเป็นที่หนึ่ง คนคนนั้นตอนนี้หายไปไหนแล้ว “

“ เพราะนายไงล่ะอิสรา นายคนเดียวทำให้ฉันเป็นแบบนี้ พอใจหรือยัง..”

“ ถ้าผมเป็นต้นเหตุทั้งหมดในวันนี้ ก็ต้องขอโทษด้วย ไม่ทราบจริงๆว่าอาจารย์จะเลือกผมนั่งบนนั้นคู่กับคุณ...งั้นประเดี๋ยวผมจะบอกอาจารย์ให้เป็นคนอื่นนั่งแทนผมคู่กับคุณก็แล้วกัน เรื่องทั้งหมดจะได้จบกันซะที”

อิสราปล่อยมือที่จับแขนสองข้างของมะยมแล้วผละจากไปในทันที จนได้ยินเสียงดังแว่วแผ่วเบาตอบกลับมาจากคนข้างหลัง …

“ ฉันขอโทษ ... ฉันจะไปหาครูพักตร์เดี๋ยวนี้แหละ..” อิสราหันกลับมายิ้มใบหน้ากระจ่างใส ก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมาอย่างดีใจ “ ต้องอย่างงี้สิมะยมของแท้และดั้งเดิม” ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งนำหน้าสาวหน้าใสไปยังกลุ่มคนกลุ่มเดิมที่กำลังวุ่นวายเก็บของ แล้วตะโกนอันดังว่า ..

“ ไม่ต้องเก็บของแล้วครับ ซ้อมต่อได้เลยนางนพมาศคนสวยของเราเดินมาโน้นแล้ว..”

เสียงร้องโห้ไชโยดังลั่นสนามฟุตบอลจนนักฟุตบอลที่กำลังซ้อมอยู่ในสนามต้องหันมามองกันทุกคน
อิสราปรบมือต้อนรับมะยมเป็นคนแรก จนเสียงคนอื่นๆดังตามมากึกก้องตามมา มะยมรู้สึกเขินๆมองหน้าครูพักตร์ที่อมยิ้มนิ่งมองมาอย่างเข้าใจ จึงโค้งบอกความขอบคุณไปยังทุกคน ..

“ ขอบคุณทุกคน ขอบคุณมากจ๊ะ.. ”

เด็กสาวกวาดสายตาไปทั่วทุกคนก่อนจะหยุดนิ่งที่ใบหน้าคมเข้มของเด็กหนุ่มผู้เป็นแรงบันดาลใจในงานวันนี้ มะยมเปิดยิ้มด้วยความรู้สึกดีดีให้อิสราอย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก …

- - - - - - - - - - - - - - - -

ขบวนแห่นางนพมาศในงานประเพณีลอยกระทงของโรงเรียนมัธยมท่าวังหินสวยงามวิจิตรอลังการสมที่คณาจารย์และนักเรียนทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจจัดทำมานานแรมเดือน ทั้งฐานกระทงที่ทำจากวัสดุพื้นบ้านในท่าวังหิน และกลีบดอกบัวที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติในโรงเรียนนั้นเอง แต่สิ่งที่ทุกคนรอคอยและอยากเห็นมากที่สุดในคืนวันนี้ก็คือตัวพระตัวนางนพมาศที่นั่งในกระทงใหญ่ประดับแสงไฟระยิบระยับตระการตานั่นต่างหาก

มะยมกับอิสราก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพราะทั้งสองสวยและหล่อสมใจกองเชียร์ที่ยืนมุงอยู่รายรอบกระบวนแห่ทั้งแก๊งสาวซ่าส์และหนุ่มแสบที่คราวนี้มารวมตัวกันอย่างสมานฉันท์ …

ครูพักตร์วิไลให้นางนพมาศคนสวยสวมชุดไทยประยุกต์สมัยสุโขทัยเต็มเครื่อง ภายใต้ดวงตากลมโตในรูปวงหน้าคมเนียนสะดุดตา ยิ่งต้องแสงไฟในยามค่ำคืนเช่นนี้แล้ว ...

มะยมสาวห้าวแปลงโฉมไปจนแทบไม่เหลือเค้าความแก่นทโมนเอาไว้เลย ครูเมตตาและครูพักตร์มายืนนิ่งในมุมมืดด้านหลังเอ่ยชื่นชมอย่างจริงใจว่า…

“ ปีนี้ครูพักตร์เลือกคนได้ถูกคนจริงๆ ไม่นึกฝันว่ายายทอมบอยแก่นกะลาอย่างยายมะยมนี่จะกลายร่างเป็นนางนพมาศสุดอลังการไปได้ น่าอัศจรรย์ใจจริงๆ ยกนิ้วให้ครูเลย ตาถึงจริงๆ … แต่เอ๊ะ! ดูตัวพระที่นั่งข้าง ๆ สิคะครู นั่นนายอิสราเด็กใหม่ใช่หรือเปล่า เด็กคนนี้หน้าตาดีไม่เบาเลยทีเดียว ... ดูทั้งสองเหมาะสมกลมกลืนกันมากๆ...”

อาจารย์เมตตาแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่เด็กนักเรียนในขบวนแห่อันยาวเหยียดไม่ได้แตกแถว หรือส่งเสียงคุยกันเลย กับได้เห็นนางนพมาศสวยเด่นเกินใครในวันนี้ …

แต่ครูพักตร์วิไลที่ยืนคุยกับครูเมตตากลับถอนหายใจรู้สึกตรงกันข้าม เพราะคิดอยู่ในใจว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ตัวเองรู้สึกเหนื่อยสายตัวแทบขาด ไหนคนโน้นจะเป็นอย่างงี้ คนนี้ต้องการอย่างโน้น วุ่นวายเช่นนี้มาร่วมเดือนแล้ว โดยเฉพาะตัวนางนพมาศเองก็สำคัญนัก เจ้าตัวโยกโย้ในหลายเรื่อง อย่างเช่นเรื่องการแต่งหน้าเข้มจัดที่ยื้อกันมาตั้งนานกว่าจะออกมาเป็นเช่นนี้ ... ครูพักตร์กับอิสราช่วยกันกล่อมมะยมตั้งนานสองนาน แต่สุดท้ายผลงานออกมาให้ได้รับการชื่นชมมากมาย คนดำเนินการจัดการทั้งหมด รู้สึกปลื้มใจ ดีใจกับผลลัพท์กับความเหน็ดเหนื่อยมาร่วมเดือน จึงพยักหน้าเห็นด้วยกับครูเมตตาในขณะที่ประสานสายตากับนางนพมาศแสนสวยที่ชื่อมะยมข้างบนอยู่เนิ่นนาน …

แต่ถ้าหากใครสักคนสังเกตตัวพระที่นั่งบนเสลี่ยงใกล้ๆตัวนางนพมาศในคืนนี้ ก็จะมองเห็นว่าเด็กหนุ่มนั่งไม่ติดกับที่ เพราะสายตามัวแต่จับจ้องงนางนพมาศคนสวยอย่างไม่วางตา ...

การที่อิสราตะลึงในความสวยเด่นของมะยมในคืนนี้ด้วยเพราะไม่คาดคิดว่าเด็กสาวแก่นแก้ว ไม่มีความเป็นลูกผู้หญิงเลยสักนิดอย่างมะยม จะกลายร่างเป็นนางในวรรณคดีได้หยดย้อยขนาดนี้ เด็กหนุ่มเกิดความรู้สึกพิเศษขึ้นมาอีกอย่างเมื่อเห็นมะยมเป็นเด็กสาวเต็มตัวเช่นคืนนี้ …

คืนนี้เป็นคืนสำคัญสำหรับเรา .. เด็กหนุ่มได้แต่พร่ำบอกตัวเองไว้เท่านี้ ..

“ อธิษฐานอะไรอยู่ครับ..”

คนถูกถามรู้สึกสะดุ้งโหยง ไม่คิดว่าจะมีคนเห็นตนเองที่เดินเลี่ยงมาลอยกระทงตรงมุมต้นข่อยยักษ์บังมิดเช่นนี้ได้ เพราะหลังจากที่ขบวนแห่นางนพมาศของโรงเรียนท่าวังหินพิทยาคมถึงบริเวณงานแล้ว คณะนายอำเภอกล่าวขอบคุณคณาจารย์และนักเรียนทั้งหมด ... ครูพักตร์ก็บอกให้มะยมไปลอยกระทงที่อยู่ในมือแล้วรีบกลับมาหาครูที่นี่ เพราะจะไปส่งที่บ้านด้วยตัวเอง …

มะยมมองหาเพื่อนสมาชิกแก๊งค์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นส้มโอ หยาด แมว จิ๊บ ฝน หรือแม้แต่น้ำหวาน หวานใจตนเอง ไร้วี่แวว มองไม่เห็นใครเลย จึงค่อยแอบย่องเดินเลี่ยงผู้คนที่มาเที่ยวงานมากมายลัดเลาะจนถึงหลังต้นข่อยต้นนี้ กำลังจะยกกระทงขึ้นอธิษฐาน จนสะดุ้งเมื่อมีเสียงทุ้มดังมาจากข้างหลัง...

“ แล้วมันกงการอะไรของนายมิทราบ..” คนพูดตวัดน้ำเสียงท่าทีไม่ค่อยพอใจนัก ...

“ ผมมองเห็นคุณมาทางนี้เลยเดินตามมา กลัวจะเกิดเรื่องแบบวันนั้นอีก ..”

“ ขอบใจนะอิสรา ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ใครจะมาทำอะไรฉันในชุดไทยเต็มยศอย่างนี้..”

“ ก็ไม่แน่นะมะยม ถ้าคนมันโกรธแค้น .. สถานการณ์ไหน มันก็ไม่เว้นทั้งนั้นแหละครับ”

อิสราเอ่ยด้วยความขึงขังจริงจังจนมะยมอดรู้สึกเครียดไปกับบรรยากาศดีๆ ในเดือนวันพระจันทร์เต็มดวงเช่นนี้ แต่ก็เงียบนิ่งไว้ด้วยอาการครุ่นคิด ยังคงปล่อยให้เด็กหนุ่มพร่ำบ่นอะไรไปอีกหลายๆ ประโยค …

“ ตกลงมะยมอธิษฐานว่าอะไรบอกหน่อยได้มั้ย”

“ ตื้อจริงๆ บอกก็ได้ ในฐานะที่นายเสมือนผู้มีพระคุณ ฉันอธิษฐานว่าอย่าได้มานั่งลอยกระทงริมน้ำน่านกับนายอย่างนี้อีกทุกชาติเลย พอใจมั้ย ..”

มะยมเอ่ยบอกสิ่งที่ตนเองไม่ได้บอกในใจเพื่อแกล้งอิสราให้เลิกราติดตามกวนใจเสียที แต่คนฟังกลับยิ้มกริ่ม ทำหน้าประหลาด ๆ แล้วเอ่ยว่า ..

“ อยากรู้มั้ยครับว่าผมอธิษฐานอะไร อ๊ะ อย่าเพิ่งทำหน้าดุสิ ! บอกก็ได้ ผมก็อธิษฐานตรงกันข้ามกับที่คุณพูดเมื่อกี้ทุกอย่าง ชัดเจนมั้ยครับ..”

อิสราพูดเสร็จก็ยกกระทงขึ้นเทินบนศรีษะอีกครั้ง ปล่อยให้คนนั่งข้างหน้าแดง หน้าเขียวสลับกันไปมาอย่างนั้นเป็นนานสองนาน ก่อนจะยกกระทงขึ้นเหนือศรีษะแล้วอธิษฐานจริงๆ เสียที …

“ พระแม่คงคาขา ลูกมาขอขมาท่านในวันนี้ก็อยากจะขอให้ท่านช่วยให้พ่อมีสุขภาพดีแข็งแรงอยู่กับหนูไปนานๆ และขอให้ครอบครัวเราอยู่ดี รักกันอย่างนี้ตลอดไปนะคะ..”

พออธิษฐานจบมะยมจึงค่อยปล่อยกระทงใบตองที่ทำจากวัสดุธรรมชาติลงน้ำไป จนลืมสังเกตว่าคนตัวสูงข้าง ๆ ก็เพิ่งปล่อยกระทงลงไปในน้ำพร้อมๆด้วยกันเช่นกัน…

.“ ดูสิมะยมกระทงเราสองคนลอยไปแล้ว เย้ เย เย ” อิสรากระโดดโลดเต้นไปมาดูเหมือนเด็กๆ จนมะยมยืนมองส่ายหน้าแย้มยิ้มอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจนเกือบจะเดินชนกับร่างเล็กบอบบางที่เดินสวนขึ้นมาจากริมฝั่งน้ำด้วยเช่นกัน …

“ อ้าวมะยม มาลอยกระทงกับใครล่ะ ..” พลอยใสทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสเช่นปกติ โดยมีอานนท์ยืนยิ้มเรื่ยๆ ทักทายอยู่ข้างๆ พลางเหลียวซ้ายแลขวาหาคู่ลอยกระทงของมะยมไปด้วยอีกคน ..

“ ไม่ต้องหาหรอกนะพี่นนท์ … มะยมลอยกระทงคนเดียวแล้วรีบออกมานี่แหละ อยากจะกลับบ้านไปล้างเครื่องสำอางออกให้เร็วที่สุด .. พลอยใสผ่านมาทางโน้นเห็นครูพักตร์แถวนั้นมั้ย ”

“ เห็นสิ เห็นอาจารย์กลับพร้อมอาจารย์ประสงค์แล้วนี่ งั้นตัวก็กลับพร้อมเราก็ได้นี่นา ให้อานนท์ไปส่ง แต่ประเดี๋ยวขอพลอยดูเขาจุดพลุก่อนค่อยกลับนะ เอ๊ะนั่น!คุณอิสรานี่ ทำไมมายืนคนเดียวยังงั้นล่ะ คุณอิสราค่ะทางนี้ค้า ..” พลอยใสผุนผลันวิ่งฉิวไปหาคนร่างสูงทันที โดยปล่อยให้คนสองคนต้องมองหน้ากันไปมา จนทั้งสองเดินตรงมาทางนี้...

“ อิสราคะนี่อานนท์ …เอ่อ .. เพื่อนของพลอยค่ะ..”

มะยมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินพลอยใสแนะนำคนรักที่คบหามานานหลายปีว่าเป็นแค่เพื่อนต่อหน้าผู้ชายอีกคน แต่อิสรากลับช่วยให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้น ..

“ ยินดีที่ได้รู้จักคุณอานนท์ แล้วนี่กำลังคุยอะไรกันอยู่ครับ..”

“ คุยไปเรื่อยเปื่อย สักพักก็จะกลับบ้านกันครับคุณอิสรา แล้วนี่ได้ลอยกระทงหรือยังครับ ..”

“ อ้อ ! เรียบร้อยครับ ไปลอยกระทงกับคนพิเศษทางด้านโน้นครับ..” อิสราตอบพลางยักคิ้วให้มะยมเล็กน้อย แต่เจ้าตัวกับทำปากเบ้หมั่นไส้ไปซะนี่ …

“ วิสาไม่ได้มาด้วยเหรอคะคุณอิส ”

คนพิเศษในความคิดของพลอยใสที่อิสราพูดถึงก็คือวันวิสา แต่เด็กสาวก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เพื่อนใหม่จากกรุงเทพฯ จะยอมใจอ่อนมาเที่ยวงานวัดกระจอกๆ หยังนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เมื่อตอนค่ำตนเองได้โทรศัพท์อ้อนวอนขอให้มาร่วมดูงานแห่กระทงซะแทบแย่ แถมยังบอกย้ำอีกว่าเบื่อคนมากๆ ซึ่งแท้จริงแล้วตนเองรู้ดีว่าวันวิสารู้อับอายที่ตนเองไม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นนางนพมาศแทนที่มะยมต่างหาก …

“ พอดีหม่อมย่าเพิ่งเดินทางมาถึงจากกรุงเทพ ฯ วิสาเลยต้องอยู่ต้อนรับครับ ”

“ งั้นตอนนี้คุณอิสจะกลับหรือยังคะ พวกเราสามคนกำลังจะไปเที่ยวงานวัดหมู่บ้านข้างๆไม่ทราบว่าจะไปด้วยกับพวกเรามั้ยค่ะ..” พลอยใสกุเรื่องขึ้นมาแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว มะยมอ้าปากจะแย้งว่าต้องรีบกลับแล้วตอนนี้พ่อกำลังรออยู่ที่บ้าน แต่อานนท์กับดึงแขนมะยมไว้ไม่ให้เอ่ยอะไรออกไป…

“ ตกลงครับ ผมขอไปเที่ยวด้วยคน แต่มีข้อแม้ว่าต้องนั่งรถผมไปคันเดียวนะครับ ..”

อิสราพูดจบ พลอยใสกระโดดตัวลอยไชโยดีใจที่จะได้ไปเที่ยวโดยนั่งรถคันโก้กับคุณชายผู้สูงศักดิ์แห่งไร่ฟ้าเมฆา แถมรบเร้ายังติต่างจะให้มะยมไปเป็นเพื่อนด้วย เพราะรู้ดีว่าถ้าไปด้วย ครูพลผู้เป็นพ่อจะไม่โกรธและลงโทษหนักอย่างแน่นอน …

มะยมทำหน้าเซ็งโลกสุดชีวิต … ส่วนอานนท์ยิ้มเงียบขรึมตามอิริยาบถปกติ …


-- -- --- --- --- --- --- --

กาหรือหงส์ ตอน ๖ จบลงแล้ว .. ถ้าหากเพื่อนหนอนจะกรุณาก็ขอคอมเม้นท์ติ หรือชม กับนวนิยายทีผมโพสต์ ได้ไม่ว่ากัน .. สามสี่วันมาอ่านตอนที่ ๗ ตอ่นะครับ .. อาทิตย์นี้ผมมีนวนิยายชีวิตเข้มข้น กุ๊กกิ๊กน่ารัก ประสาชาวรากหญ้า บ้านนอกบ้านนา ..มานำเสนอเป็นเรื่องใหม่ให้เพื่อนหนอนได้ลิ้มชิมรส อีกแบบหนึ่ง ..

... มนต์รักป่ามัน ..

... ชื่อเรื่องไม่ได้ทะลึ่งตึงตัง .. แต่เป็นเรื่องรักสนุกสนานชาวบ้านป่า .. ชาวไร่มันสำปะหลัง (ทางอิสานเรียกว่า .. มัน หรือ ป่ามัน(สำปะหลัง)ครับ)
สนุกสมคำโม้ผมหรือป่าว ติดตามกันนะครับ .. ขอบพระคุณครับ ..







Create Date : 16 มิถุนายน 2553
Last Update : 16 มิถุนายน 2553 10:36:20 น. 0 comments
Counter : 911 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.