จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
5 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙

กาหรือหงส์ ตอน ๔๙





“ มาแล้วรึยายยม รู้หรือเปล่าฉันสองคนมารอหล่อนเกือบชั่วโมงแล้ว..”

“ นึกยังไงถึงมาเอามืดค่ำอย่างงนี้วะเพื่อนรัก”

มะยมวางกระเป๋าสะพายไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือที่ตั้งอยู่ใกล้กับหน้าต่าง ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นขึ้นมาเทใส่แก้วใสแล้วยกขึ้นมาดื่มช้า ๆ ก่อนจะหันมาฟังคำตอบ ..

“ แต่เราก็มาทันพ่อครูพลออกจากบ้านในตอนหัวค่ำนะมะยม...นี่พ่อครูยังฝากเฝ้าบ้านหน่อย รู้สึกว่าจะออกไปกับอาจารย์เมตตาขึ้นไปไร่ฟ้าเมฆา บอกจะกลับมาตอนดึกๆ..”

“ พ่อขึ้นไปที่นั่นทำไมค่ำมืด”

มะยมเอ่ยถามไปด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นว่าครูพลจะมีธุระอะไร “ ที่นั่น..” ตอนโพล้เพล้มาก่อน ...

“ เห็นสยามมาบอกเมื่อตอนเย็นว่าท่านชายไม่สบาย พ่อครูพลเลยรีบออกไปดู..”

“ ท่านชายไม่สบายรึมะหมี่ ไม่เห็นพ่อบอกอะไรชั้นเลย..”

“ พ่อครูคงไม่ยากให้เธอคิดมากมั้ง เพราะเรื่องนี้ฉันก็ได้ยินมาตั้งนานแล้ว หลังจากป้าอุ่นเรือน แม่ของอิสราเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อปีก่อน ท่านชายกลับมาอยู่ไร่ฟ้าเมฆาอย่างเงียบๆ ไม่ติดต่อหรืออกไปไหนเลย ทรงเก็บตัวอยู่แต่ในไร่อย่างเดียว กิจการทั้งหมดก็มอบให้สยามเป็นดำเนินการทั้งหมด คนข้างนอกที่ทรงติดต่อก็จะมีแต่พ่อครูพลคนเดียวเท่านั้น ... ข่าวคราวของอิสราก็เงียบหายไปเลยตั้งแต่นั้นมา ไม่รู้ป่านนี้จะหายจากอาการมองไม่เห็นหรือยัง..”

“ หยุดเล่าได้แล้วยัยหมี่ เธอไม่รู้อะไรดีอย่าเพิ่งพูดเป็นตุเป็นตะซี”

หยาดทิพย์ปรามเพื่อนชายใจสาว เมื่อเห็นว่าสาวสวยตาคมกำลังตาแดงๆ คล้ายคนกำลังจะร้องไห้ออกมา

“ ก็ฉันเล่าความจริง เธอจะกลัวอะไรหยาด เรื่องนี้ยัยยมก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เล่าซ้ำนิดหน่อยจะเป็นไรไป ...”

“ ไม่หรอกหยาดฉันฟังได้ ว่าแต่ว่าพวกเธอแห่มาหาฉันซะมืดค่ำมีอะไรกันเหรอเพื่อน..”

“ ก็นังหยาดมันร้อนใจเรื่องข่าวลือของเธอน่ะมะยม มันก็เลยไปลากฉันมาจากร้านในเมือง”

มะหมี่เล่ากระชากกระชั้นในน้ำเสียงเสียงจนดูท่าจะร้อนใจตามคำพูดจริงๆ ..

“ ข่าวลืออะไร” คนพูดคิ้วเริ่มขมวดด้วยความสงสัย ...

“ ก็เรื่องระหว่างเธอกับปลัดพระนายน่ะสิมะยม มันชักจะร่ำลือไปกันใหญ่แล้ว..”

“ แล้วพวกเธอเชื่อหรือเปล่าล่ะ..”

“ โอ๊ยใครจะไปเชื่อข่าวบ้าๆ พรรณนั้นเนอะ ฉันได้แต่ภาวนาไม่ให้มันเป็นจริง ..”มะหมี่พูดออกมาด้วยสายตาวิบวับเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความหวัง “ แล้วเธอล่ะหยาด” มะยมเยถามต่อไป “ ฉันเชื่อตัวเธอมากกว่า” “ ขอบใจที่เข้าใจนะ กำลังจะบอกว่าเมื่อครู่ฉันได้อธิบายความจริงทั้งหมดให้ปลัดพระนายรับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ต่อไปพวกแกไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะ..”

“ เย้ ๆ ๆ ดีใจจริงๆ แกไม่เอาฉันเอานะมะยม..”

“ มะหมี่ ...”

ทั้งมะยมกับหยาดทิพย์ร้องลั่นมาพร้อมๆกัน เมื่อเห็นท่าทีกระโดดโลดเต้นไปรอบๆ ของสาวร่างยักษ์ ดูแล้วน่าโดนเตะก้นงามงอนนั้นสักป๊าบสองป๊าบเป็นอย่างน้อย ...

“ อะไร้... ดีใจทำเป็นมาหวง ก็แกไม่เอาแล้วนี่ยัยยม คุณพระนายก็ต้องเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียวสิ ลา ลัล ลา ลา ลัล ลา เย้ เย ”

“ นังหมี่กรอบ แกคิดหรือว่าเค้าจะบริโภคของแปลกแบบหล่อนได้ลง..”

“ อ๊ะ ! ของอย่างนี้มันต้องลองถึงจะติดใจ ฮ่ะ ฮ่ะ แกรู้จักมั้ยผีแห้งกับโลงผุไงจ๊ะเพื่อนรัก”

“ แหวะ ... แกเป็นผีเน่าไปคนเดียวว่ะนังหมี่ คุณพระนายเค้ามีมะยมในดวงใจคนเดียว..”

หยาดทิพย์หัวเราะร่วนไปกับปฏิกิริยาค้อนขวับๆ ของมะหมี่เพื่อนซี้ที่ตอนนี้ระดมปาหมอนใส่คนพูดเป็นพัลวัลด้วยความเขินแกมรู้ทันของเพื่อนฝูง จนมะยมต้องเดินหลบออกมาเพื่อหาอะไรขบเขี้ยวในวงสนทนาที่กำลังเริ่มดุเด็ดเผ็ดมันส์ขึ้นเรื่อยๆ ...

เพราะกว่าหยาดทิพย์กับมะหมี่จะกลับเวลาก็คล้อยเข้าสู่หนึ่งนาฬิกาของวันใหม่แล้ว มะยมรั้งให้ทั้งสองพักนอนที่บ้านก็ไม่เป็นผล หยาดทิพย์อ้างว่าจะต้องรีบไปเตรียมการสอนแต่เช้าตรู่ ไม่สามารถนอนค้างได้จริงๆ ส่วนสาวสวยมะหมี่ก็กล่าวอ้างว่าต้องไปดูแลลูกน้องเปิดร้านเสริมสวยที่ชื่อดังที่สุดในจังหวัดในตอนเช้าตรู่เช่นกัน

มะยมจึงสุดจะรั้งทั้งสองเอาไว้ได้ จึงเดินทอดน่องช้าๆ ขึ้นบ้านไปเมื่อเสียงรถเก๋งสปอร์ตคันเล็กของหยาดทิพย์จากไปพร้อมมะหมี่หายไปในความมืดมิดย่ำวันใหม่ ..

หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนฟูกนุ่มด้วยความรู้สึกสับสนประเดประดังคล้ายๆปริวิตกในเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้วงกลางวันที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการปฏิเสธขอแต่งงานของพระนาย เรื่องไร่ฟ้าเมฆาล้มสลาย และเรื่องอิสราไปรักษาตาที่บอดในต่างประเทศ จนป่านนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย ...

หลังจากที่ได้ข่าวคราวจากสยามว่าหม่อมเจ้าปกรณ์เทวาประสบอุบัติเหตุร้ายแรงขาพิการเดินไม่ได้ ส่วนคุณอุ่นเรือนได้เสียชีวิตในระหว่างนั้นและต่อมาอิสราก็ถึงกับตาบอดเพราะแรงกระเทือนเส้นประสาทจนมองไม่เห็นไปตลอดกาล

ในตอนนั้นมะยมตกใจช็อกทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้สงสารคนรัก ช่วยเหลือได้เท่าที่ช่วยได้ ...

อิสราเดินทางไปต่างประเทศทันทีเพื่อไปทำการรักษาตาที่ใกล้มืดมิด งานแต่งของชายหนุ่มกับคู่หมั้นสาวสวย ชาติตระกูลเดียวกันต้องเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด โชคชะตาช่างโหดร้ายอะไรเช่นนี้ ...

นับจากที่ได้ข่าวคราวและคลาดแคล้วกันไปอย่างหวุดหวิดที่คุ้มฟ้าโอบดินวันนั้น อิสราก็ขาดการติดต่อทางการสื่อสารใดๆ ไปในทันที มะยมเฝ้าแต่รอคอยไว้สักวันว่าชายหนุ่มจะกลับมารักษาคำมั่นที่ให้ไว้บนผาเดียวดาย ก่อนจะมามัดจำรักด้วยแหวนทองเหลืองเกลี้ยงกลมวงน้อยตอนลาจากไปไกลในวันนั้น หญิงสาวยังจำได้ดี ไม่มีลืมเลือน ...

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หน้าที่ดูแลไร่ฟ้าเมฆาทั้งหมดตกเป็นของสยามเพื่อนรักของมะยม โดยมีครูพลเป็นที่ปรึกษาดูแลให้คำแนะนำ กระทั่งทุกอย่างผ่านมาได้จวบจนทุกวันนี้ ...

สำหรับพระนายที่ได้มาเฝ้ารักเฝ้าคอยหญิงสาวมาเป็นเวลาหลายปี จนทุกคนแทบจะเข้าใจกันดีแล้วว่าไม่ช้าไม่นานหญิงสาวจะต้องตอบรับการขอแต่งงานของชายหนุ่มแน่นอน ด้วยความเหมาะสมทั้งหน้าตา ชาติตระกูลและหน้าที่การงานที่เอื้อถึงกัน ..

แต่ทว่ามะยมก็ยังคงยึดมั่นสัญญารักที่คนๆหนึ่งได้มอบมาให้รักษาไว้ด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง โดยที่ไม่รู้ว่าจะสมหวังสมกับการรอคอยในวันไหน ...

หรืออาจจะต้องรอคอยกันอย่างนี้ตลอดไป ...

หญิงสาวยกมือป้อมขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลรินอย่างช้าๆก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับลงไปในคืนนี้ อย่างยากเย็น ...

---------------------------

ถึงแม้เวลาจะผ่านล่วงมาได้ถึงสองปีที่มะยมกลับมาทำงานที่บ้านเกิดท่าวังหินแห่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาด้วยเช่นกัน คฤหาสน์ฟ้าเมฆาทรุดโทรมลงไปมากเพราะเจ้าของหมดอาลัยตายอยากในชีวิตอยู่บนรถเข็น โดยมีมิตรแท้อยู่เพียงสี่คนก็คือสยาม ชายหนุ่มฉกรรจ์ผู้จงรักภักดีไม่สั่นคลอน ตามั่น คนรับใช้เก่าแก่ร่วมเป็นร่วมตายตลอดมา ครูพล มิตรใหม่ผู้เอื้ออารีทีเอื้อเป็นธุระให้ประมุขฟ้าเมฆาในทุกเรื่อง ส่วนคนสุดท้ายก็คือมะยม ลูกสาวคนเล็กของครูพล ที่นอกจากหน้าตาจะสะสวยจิ้มลิ้มคมขำ แววตามุ่งมั่นแล้ว ยังเป็นผู้ไม่เคยทิ้งกันในยามลำบากเช่นนี้เลยและมักจะคอยเป็นธุระให้เสมอในทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องอาหารการกินของท่านชายที่จะทรงเสวยในทุกวัน ..

เช้าวันนี้เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่แสงแดดอ่อนแสง มะยมได้พาแขกคนหนึ่งขึ้นเขาเพื่อไปหาประมุขเจ้าของบ้านตามที่ไดนัดแนะกันเอาไว้ ...

“ คุณแน่ใจนะครับว่าท่านชายจะต้อนรับผมน่ะครับมะยม”

ปลัดพระนายยังคงกริ่นเกรงชื่อและนามสกุลของหม่อมเจ้าปกรณ์เทวาอดที่จะเอ่ยทักขึ้นมาหลังจากเดินทางด้วยรถจิ๊บออกจากอำเภอมาเมื่อครู่

“ หัวหน้าไม่ต้องกลัวอะไรท่านลุงพระทัยดีสำหรับเด็กอย่างพวกเรา..”

“ ไม่น่าเชื่อว่าผมว่าจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้า เอ๊ย เข้าพบท่านพ่อของอิสรา เพื่อนรักของผม..”

“ ดิฉันก็ไปที่นั่นเกือบทุกวัน พ่อก็เช่นกันค่ะหัวหน้า..”

“ คิดไปคิดมาผมก็เสียดายปราสาทแห่งนี้เหมือนกันนะครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะโทรมได้รวดเร็วขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ตอนที่พวกเรายังเป็นเด็ก ผมยังไปวิ่งเล่นรอบๆที่นั่นจนเหนื่อยแทบแย่ ”

“ กาลเวลามักจะทำหน้าที่ของมันเสมอ ไม่มีอะไรอยู่ยั่งยืนเลยสักอย่าง”

“ พูดไปก็คิดถึงนายอิสราเหมือนกันนะครับ ป่านนี้รักษาดวงตาที่เมืองนอกเมืองนาหายดีหรือยังก็ไม่รู้ ถ้าหายกลับมาตอนนี้ก็คงจะดีไม่น้อย จะได้ช่วยท่านลุงฟื้นฟูไร่ฟ้าเมฆาขึ้นมาใหม่ ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมที่เคยมีมา”

“ คุณเงียบไปเลยนะ เป็นอะไรไม่สบายหรือเปล่า..”

“ ปละ ...เปล่าค่ะ พอดีฟังหัวหน้าเล่าเรื่องเก่าน่าสนใจดี..”

“ ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะติดต่อนายอิส เขายังไงดี เอ ... หรือว่าผมต้องลงประกาศไปว่าทางไร่ฟ้าเมฆาต้องการทายาทพันล้านกลับคืนบ้านดีมะยม”พระนายยังคงหัวเราะก๊ากกับมุขแป๊กของตัวเองที่ คิดเองหัวเราะเอง

“ ตอนนี้คุณชายอิสราอยู่ที่อังกฤษเมืองไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้ติดต่อท่านลุงปกรณ์มาร่วมห้าปีแล้ว ตอนที่ท่าวังหินนี่ก็ไม่มีใครตอบได้ว่าคุณชายไปอยู่ที่ไหนของประเทศอังกฤษ มีเพียงแต่จดหมายโทรเลขที่ให้ที่อยู่ไม่ตรงกันมาตั้งนานหลายปีแล้วเท่านั้น ..”

“ เดี๋ยวผมจะไปคุยเรื่องนี้กับท่านลุงแกเอง มะยมไม่ต้องเป็นห่วงนะ..”

พระนายเอื้อมมือมาตะปบมือมะยมเบาๆ แต่หญิงสาวกลับบ่ายเบี่ยงยกหนีไปในทันที ...

กระทั่งทั้งสองมาถึงยังไร่ฟ้าเมฆา หม่อมเจ้าปกรณ์เทวานั่งรอคนทั้งสองที่โต๊ะอาหารเช่นเคย แล้วทั้งสามก็นั่งสนทนากันเป็นจริงๆ เป็นจัง ก่อนจะสรุปประเด็นจบที่เรื่องติดต่ออิสราที่ประเทศอังกฤษ ..

“ ผมมีเพื่อนรักสองสามคนที่ลอนดอน พอจะมีทางไหว้วานให้ช่วยตามหาอิสราได้แน่นอนครับคุณลุง”
“ ลุงก็หวังว่าเป็นเช่นนั้น อิสราเป็นคนมีทิฐิ รักแรงเกลียดแรง ครั้งนี้ลุงผิดเองที่ทำให้คนที่เขารักที่สุดจากไป หนำซ้ำตาเค้ายังมามองไม่เห็นไปตลอด .. ลุงผิดเอง ลุงผิดเอง..”

“ ไม่หรอกครับคุณลุง เรื่องราวร้ายๆ มันผ่านไปแล้ว เดี๋ยวเรื่องดีดีก็จะเข้ามาแน่นอน…ไว้เรื่องนี้ไว้เป็นธุระของผมเอง คุณลุงรอฟังข่าวดีที่นี้ก็แล้วกันครับ ”

“ ขอบใจพ่อหนุ่มมากนะ แล้วช่วงนี้งานที่อำเภอยุ่งมั้ย..”

หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาเริ่มยิ้มระบายที่มุมปากด้วยความสบายใจในเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นไป อย่างน้อยๆ ก็จะเป็นข่าวดีในรอบหลายปีที่ผ่านมา

“ พอใช้ได้ครับท่านลุงแต่จะเหนื่อยตรงที่ไปช่วยพ่อหาเสียงสมัครผู้แทนราษฎรปลายปีนี้มากกว่าครับ”

“ อ้าวพ่อเราจะลงสมัคร ส.ส. แล้วรึ..”



“ ครับคุณลุง พ่อสังกัดพรรคแผ่นดินทองของคุณลุงปราโมช แว่วข่าวมาว่าปีนี้ผู้สมัครจังหวัดเราแต่ละคนสายแข็งๆ กันทั้งนั้น..”

“ คุณสมานเป็นคนเก่งได้รับการวางใจจากประชาชนจังหวัดเราอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร...ว่าแต่ว่าเราเป็นข้าราชการประจำไปช่วยพ่อหาเสียงอย่างนี้ คนอื่นไม่โวยวายว่าเอาตำแหน่งเอื้อพวกนักการเมืองเหรอ..”
“ เรื่องนี้ผมทราบดีว่ามันจะต้องเกิดเรื่องแน่ เลยตกลงกับพ่อว่าขอแค่ออกความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ขอปฏิบัติโดยเด็ดขาด มะยมก็เป็นพยานให้ได้ครับว่างานของผมหนักหนาสาหัสจริง ๆ..”

“ งั้นก็ดีแล้วนะ ลุงกลัวปัญหาฟ้องร้องกันเกิดขึ้นมา ...ว่าแต่วันนี้มะยมเงียบเสียงไปเลยนะเรา”

“ คะ...ค่ะท่านชาย ..” มะยมรู้สึกสะดุ้งสะดุดห้วงความคิดเรื่อยเปื่อยตั้งแต่มานั่งจนกระทั่งบัดนี้..

“ ท่านลุงถามคุณตั้งนานสองนานว่าวันนี้พ่อครูพลจะมากี่โมง..”

“ วันนี้พ่อไปหาหลวงปู่ที่วัดค่ะ อาจขึ้นมาที่นี่ตอนค่ำ ๆ ท่านชายต้องการอะไรหรือเปล่าคะ..”

“ ไม่ได้ต้องการอะไร วันนี้ฉันรู้สึกอารมณ์ดีอยากจะแจ้งข่าวให้มิตรสหายเท่านั้น”

“ ค่ะ ค่ะ..”

แล้วการสนทนาที่ออกรสก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บัดนั้น ท่านชายปกรณ์เทวารู้สีกเหมือนบรรยากาศเก่าๆ เริ่มกลับมาคึกคักในฟ้าเมฆาแห่งนี้อีกครั้ง เสียงหัวเราะของคนหนุ่มสาว เสียงสายลมพัดแกว่งไกวต้นไม้ดอกไม้ข้างนอกสะบัดวูบวาบล้อเล่นสวยงาม ดอกไม้สีสวยเริ่มผลิบานออกดอกสะพรั่งไปอีกครั้ง ...

วันเวลาดี ๆ กำลังจะเข้ามาในอีกไม่นานแล้ว ... หัวใจของผู้อาวุโสคิดไว้เช่นนั้น ... คิดนึกไปถึงคนที่ยังอยู่นั่นก็คือ บุตรชายคนเดียวสุดที่รักดั่งดวงใจ หม่อมราชวงศ์อิสรารังสรรค์ที่ตอนนี้กำลังพักรักษาดวงตาอยู่ที่ไกลแสนไกล ... เขาจะรู้ไหมหนอว่าหญิงสาวอันเป็นที่รักได้มาอยู่ใกล้ๆ ผู้เป็นบิดาที่นี้แล้ว รอคอยเพียงเวลากลับคืนมาท่าวังหินแห่งนี้เท่านั้น ทุกอย่างก็จะเป็นเหมือนเดิมแล้ว...

ขอเพียงกลับมา กลับมา ... นะที่รักของฉัน...

-----------------------------

ติดตามตอนหน้านะครับ สนุกเข้มกว่านี้อีกเพราะใกล้จบแล้วจริง ๆๆๆๆ
ขอบพระคุณที่ตามอ่านน่าชื่นใจคร้าบผม ..

นายอิส / เมฆชรา
๖ ตุลาคม ๒๕๕๓
๑๕ นาฬิกากว่า ๆๆ





Create Date : 05 ตุลาคม 2553
Last Update : 5 ตุลาคม 2553 15:10:51 น. 0 comments
Counter : 727 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.