จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
26 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘

กาหรือหงส์ ตอน ๔๘






...

.. ฟ้าเบื้องบนจงเป็นพยานว่ารักของฉัน จะเป็นนิรันดร์ตลอดไป ...
ไม่ว่าเวลาจะผันผ่านเนิ่นนานไปสักเพียงไหน ฉันจะยังยึดมั่นรักนั่นเอาไว้ ...ตลอดกาล

... ณ ที่นี่ตรงเส้นขอบฟ้า ที่เธอเมตตารับรักฉันด้วยใจเปี่ยมรอยยิ้มแห่งรัก ฉันปรารถนามัน

ปรารถนาจะรับรู้ความรู้สึกดีดี เช่นนี้ตลอดไป ....

... รักเอย ...รักนั่นเป็นฉันใด ไยมาแกล้งให้ฉันละเมอเพ้อพกอยู่คนเดียว เมื่อไหร่เธอจะตอบกลับมาว่ารักฉันมากที่สุด เหมือนกับที่ฉันรักเธอดั่งแก้วตาดวงใจ ...

.... กลับมานะสุดที่รัก ฉันคอยเธออยู่ตรงนี้ ที่เดิมของสองเรา ที่เดิมที่กำหนดไว้ว่าสองใจเราจะผูกกันมั่นนิรันดรตลอดไป ... กลับมานะ ได้โปรดกลับมา ฉันจะรอคอย ....



“ อารมณ์ดีร้องเพลงหวานตั้งแต่เช้าเลยนะจ๊ะมะยม..”

เสียงเอ่ยทักดังมาจากข้างหลังทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งไปเล็กน้อย รู้สึกสะดุดไปกับเสียงเพลงที่ร้องออกไปในตอนนี้ แต่เมื่อมองเห็นใบหน้าแฉล้มนวลที่มีรอยยิ้มพรายระบายอยู่เต็มหน้า ทำเอาอารมณ์ที่จะขุ่นมัวกลับดึงเอาไว้ได้ให้เป็นปกติ ด้วยความรู้ในเจตนาของหญิงสาวหน้าหวานพริ้มอยู่ตรงหน้าตอนนี้เป็นอย่างดี ...

วรรณรี หรือ หมิว เป็นเพื่อนใหม่ในจำนวนสองคนที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งพัฒนากร ระดับ 3 ท้องที่อำเภอท่าวังหินแห่งนี้ เมื่อสามเดือนที่แล้ว วรรณรีมีภูมิลำเนาเดิมแถบจังหวัดภาคกลาง พอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อก็สอบเข้ารับการบรรจุในสาขาที่ตนเองร่ำเรียนมาทันที ...

กระทั่งได้มาจับเข้าคู่กับมะยม ซึ่งก็ไม่ยากที่จะปรับความสัมพันธ์ให้เป็นเพื่อนสนิทในเวลาไม่นานเพราะความเป็นเจ้าบ้านและอัสยาศัยไมตรีอันดีเยี่ยมของมะยม ทำให้ทั้งสองจึงเป็นคู่ขาสาวสวยประจำที่ว่าการอำเภอท่าวังหินภายในเวลารวดเร็ว จนเป็นที่กล่าวขานเสมอเวลาที่มีการเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการระดับจังหวัด ..

กลุ่มงานพัฒนาอำเภอ มีหัวหน้างานก็คือประพันธ์ กับข้าราชการประจำสามคน มีมะยมกับหมิว และสถาพร โดยขึ้นตรงกับปลัดหนุ่มรูปหล่อไฟแรง ที่ชื่อ พระนาย ...

“ หรือหมิวจะให้เราอารมณ์บูดเหมือนเมื่อวานฮึ ..”

คนพูดค้อนไปหนึ่งที ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำคลอโรฟิลล์สีเขียวเข้มขึ้นมาจิบช้าๆ ปรายตามองคนแซวอย่างขุ่น ๆ เล็กน้อย...

“ ไม่ต้องมาย้อนเค้าเลยมะยม ก็เมื่อวานตัวเองทำให้คุณพระนายหน้าแตกกลางวงทำไม..”

“ เราไม่ชอบสถานการณ์แบบนั้น มันอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเองเลย..”

“ มันก็แค่เรื่องที่คุณปลัดแกอยากจะยกย่องคนที่รักที่ชอบ มันก็แค่นั้นเองน่ามะยม ซีเรียสไปได้..”

“ หมิว ..ฟังให้ดีนะ เราไม่ได้รักใคร่หรือชอบพอคุณพระนายไปเป็นอย่างอื่นนอกจากเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น คราวนี้ชัดเจนมั้ย..”

มะยมกระแทกน้ำเสียงได้ด้วยความเน้นย้ำประโยคที่เอ่ยกล่าวออกไป จนวรรณรีเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติในน้ำเสียงที่ผ่านมาแล้ว...

“ ขอโทษนะจ๊ะมะยม ... ไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวอะไรเธอเลย เราเสียอีกที่ควรจะอยู่ข้างเธอ เพราะเราเป็นเพื่อนรักกัน ..”

“ไม่มีอะไรหรอกหมิวเราก็ขอโทษเธอด้วยที่ทำเสียงดังไป เราแค่ เอ่อรู้สึกไม่สบายใจเรื่องๆนี้นิดหน่อย”

“ เรื่องที่คุณพระนายไปวนเวียนแถวบ้านอยู่บ่อยๆใช่มั้ย..”

“ นี่แหละจ๊ะที่เรากลุ้มหนักอยู่ทุกวันนี้ ..”

“ จะว่าไปแล้วแกมีความพยายามดีนะมะยม ... อ๊ะ! อย่าเพิ่งโมโหเลย มันเป็นเรื่องจริงที่เธอต้องรับรู้เอาไว้ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่จะวนเวียนเฝ้าถามไถ่ข่าวคราวคนที่หมายปองได้เป็นหกเจ็ดปี ตั้งแต่สมัยเด็กๆวัยรุ่น นี่ถ้าพ่อครูพลไม่เล่าให้ฉันฟัง ก็ไม่มีทางเชื่อโดยเด็ดขาด..”

“ ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนว่าคุณปลัดจะทำอะไรแบบนี้…พ่อเสียอีกที่ปิดปากเงียบเรื่องนี้ไว้นานหลายปี”

“ เขาเรียกกันว่าความรักข้างเดียว”

มะยมถลึงตาใส่คนพูดจนหมิวต้องพูดต่อประโยคเพื่อเป็นการเอาใจที่เผลอพูดผิดไป...

“ เฮ้อกลุ้มจัง ! ทำไมทีฉันไม่เห็นมีใครมาเฝ้ารักเฝ้าคอยอย่างนี้มั่งเน้อ”

“ ฉันยกคุณพระนายให้เอามั้ยจ๊ะหมิว”

“ เฮ้ย .. มะยมพูดเหมือนนิยายเล่มสิบบาทไปได้ คุณพระนายคงยอมอยู่หรอก ..”

“ ทำไมจะไม่ได้หมิว เพื่อนเราสวยหวานน่ารัก กิริยามารยาทงดงามขนาดนี้ ใครจะปฏิเสธได้ลงคอ..”

“ อย่างน้อยก็คุณปลัดพระนายคนหนึ่งล่ะที่ไม่สนใจสาวคนไหนเลยนอกจากหน้าห้องคนสวยคนนี้..”

“ ว่าไปนั่นหมิว ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ๊ะ เธอก็รู้ตอนนี้เรากำลังหลบหน้าหลบตาคุณปลัดแกอยู่นะ..”

“ เราว่าตอนนี้เธอหลบไม่ทันแล้วล่ะ ปลัดพระนายเดินมาโน้นแล้ว..”

คนพูดทำปากบุ้ยไปทางด้านหลังของมะยมซึ่งเป็นคอบันใดเดินขึ้นมาจากด้านล่างของที่ว่าการอำเภอแห่งนี้ จนมองเห็นชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มทั้งใบหน้าและรูปร่างที่สูงสมาร์ทเกินมาตรฐานชายทั่วไป อยู่ในเครื่องแบบราชการเต็มยศ กำลังเดินขึ้นมาอย่างเร่งรีบ กระทั่งมาหยุดที่โต๊ะของมะยม ....

“ หนังสือด่วนของท่านนายอำเภอเตรียมเรียบร้อยมั้ยครับมะยม ..”

“ อยู่นี่ค่ะหัวหน้า ... พร้อมสิ่งที่ส่งมาด้วยแนบอยู่ในซอง..”

“ งั้นโอเค คุณถือแฟ้มแล้วตามผมมาหน่อย ท่านอำเภอจะเซ็นงานอยู่ที่บ้านพัก ..”

มะยมพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้วรรณรีว่าช่วยดูแลงานเอกสารที่ทำค้างบนโต๊ะให้หน่อย หญิงสาวรับรู้พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้ว พระนายจึงเดินนำลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงรถกะบะสีขาวขับเคลื่อนสี่ล้อจึงก้าวขึ้นไปนั่งในตอนหน้าของรถ ก่อนจะเอื้อมมือปลดล็อกอีกด้านหนึ่งของประตูรถ เพื่อให้มะยมขึ้นมานั่งเคียงคู่ แต่ก็ชะงักเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ...

“ ผมลืมตรายางท่านนายอำเภอมะยม รบกวนไปหยิบในห้องให้หน่อยนะครับผมจะเช็คเครื่องประเดี๋ยว”

มะยมเปิดประตูรถแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบนที่ว่าการอีกครั้ง จนมาถึงโต๊ะทำงานทำด้วยไม้มะค่าสวยงามขนาดใหญ่หันซ้ายพลิกเอกสารบนโต๊ะที่กองท่วมไปหมด พลิกค้นจนกระทั่งพบเจอตรายางของท่านนายอำเภอตั้งวางอยู่ข้างปฏิทิน หญิงสาวจึงก้มไปหยิบ เตรียมวิ่งออกมาจากห้อง ....

แต่ก็ต้องชะงักเมื่อแว่บสายตามองเห็นรูปถ่ายที่ใส่กรอบทองอร่ามใบหย่อมตั้งอยู่มุมห้องด้านหลัง ทำเอามะยมถึงกับแปลกประหลาดใจเหมือนเจอสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลกก็ไม่ปาน ...

“ เรียบร้อยมั้ยครับมะยม..”

คนร่างสูงโปรยยิ้มละลายใจอย่างที่วรรณรีชอบว่าปลัดพระนาย ชอบยิ้มเพฒชฆาตใจเสมอ ๆ เวลาอารมณ์ดี …

“ ค่ะหัวหน้า..”

หญิงสาวตอบสั้นๆ ตาเหม่อมองไปข้างหน้าไร้จุดหมาย...

“ ดีแล้วครับ วันนี้ท่านนายอำเภอกำลังอารมณ์ดี ให้คุณนายทำอาหารอีสานเลี้ยงพวกเรา ว่าแต่ว่ามะยมมีธุระด่วนที่ไหนหรือเปล่า ถ้าเราจะกลับค่ำ..”

ปลัดพระนายเอ่ยถามด้วยความเกรงใจ จำต้องใช้ลูกไม้ง่าย ๆ เช่นนี้โดยแสร้งเอางานมาบังหน้าเท่านั้น ทั้งๆ ที่รับรู้อยู่เต็มอกว่ามะยมไม่ชอบใจนักหากได้ไปไหนต่อไหนกับตนเอง ...

“ ไม่มีค่ะหัวหน้า..”

มะยมพูดน้อยที่สุดเท่าที่จะเอ่ยออกมาได้ เพราะเหตุการณ์หลังจากที่มาเป็นลูกน้องใต้บังคีบบัญชากันแล้ว ปลัดหนุ่มรูปหล่อคนนี้มีความพยายามที่จะผูกสัมพันธ์กับตัวเองเกินเพื่อนร่วมงานจนใครๆ ในที่ว่าการอำเภอท่าวังหินต่างก็รู้เป็นนัย ๆ ว่ามะยมเสมือนเพื่อนร่วมงานที่มากกว่าเพื่อนร่วมงาน ....

แม้แต่ครูพลก็เถอะ ทุกวันจะมีความเห็นเข้าข้างปลัดรูปงามคนนี้จนออกนอกหน้า แถมชอบสร้างโอกาสอันไม่เข้าท่าเพื่อให้คนสองคนได้อยู่ด้วยกันเสมอ ๆ จนหญิงสาวคิดอยู่ในใจว่าถ้ามีโอกาสและเวลาจะขอพูดสิ่งที่อยู่ในใจให้คนตัวสูงที่ทำตาเชื่อมหวานมาให้เป็นระยะๆ ซะที ...

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสนั้น....

“ วันนี้ผมคิดว่าหลังจากรับประทานอาหารค่ำที่บ้านนายอำเภอแล้ว ผมกะจะชวนท่านนายอำเภอไปดูน้ำตกศิลาแลงด้วยกัน มะยมไปเป็นเพื่อนคุณนายหน่อยนะครับ ”

“ ดิฉันคงจะไปเที่ยวกับหัวหน้าไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแกไม่สบายตัวร้อนตั้งแต่เช้าแล้ว”

“ อ้าวงั้นเหรอครับ เมื่อวานตอนที่ผมแวะไปหา ดูแกก็ปกติดีนะมะยม”

“ แต่ตอนเช้านี้ พ่อบ่นว่าปวดหัวเลยให้นอนพักกินยาอยู่ที่บ้าน แล้วให้เพื่อนไปดูแล”

“ เพื่อนมะยมเป็นใครกันครับ..”

“ สยามน่ะค่ะ..” มะยมอดแปลกใจที่พระนายถามซอกแซกไปทำไม แล้วถ้าบอกว่าสยามเป็นใคร ...ตัวปลัดจะรู้จักหรือเปล่า “เขาเป็นใคร ไว้ใจได้แค่ไหนครับ..”พระนายยังคงถามไปเรื่อย ๆ เหมือนชวนคุยแก้ความเงียบที่เข้ามาปกคลุม “ สยามเป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกันตั้งแต่เด็กและพ่อก็รับเค้าไว้เป็นบุตรบุญธรรม ทางบ้านมีฐานะยากจน เขามาดูแลทุกอย่างให้เรา ”

“ งั้นก็แล้วไป นี่ใกล้ถึงบ้านพักนายอำเภอแล้วมะยมเตรียมเอกสารไว้ให้เรียบร้อย..”

“ ค่ะหัวหน้า ...”

มะยมตอบไปสั้นๆ พร้อมกับหลบสายตาคมโดยก้มต่ำมองพื้นยางรถตรงที่พักเท้า ก่อนจะมองเห็นว่ารถกะบะประจำตำแหน่งของปลัดพระนายเลี้ยวเข้าไปบ้านพักนายอำเภอที่อยู่ห่างจากอำเภอประมาณ 3 กิโลเมตรอย่างช้า ๆ จนจอดเทียบในโรงรถ แล้วทั้งสองก็เดินตรงไปยังบ้านไม้หลังสีฟ้าทั้งหลังด้วยความรู้สึกคนละแบบ..

“ พระนายทางนี้ ..”

ชายรูปร่างท้วมรูปร่างเจ้าเนื้อกำลังก้ม ๆ เงยส่ององค์เทพารามเทพอยู่ขมีขมัน หันมาเรียกคนทั้งสองเมื่อเห็นว่าจอดรถได้สนิทแล้วเดินตรงมายังที่นี่ ...

“ สวัสดีครับท่าน ผมเอาเอกสารเรื่องด่วนมาให้ท่านเซ็นไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านสะดวกหรือเปล่าครับ..”

“ ผมว่างพอมีเวลานิดหน่อย กำลังดูองค์เทพองค์ใหม่ที่เป็นกระแสดังอยู่ในตอนนี้..”

“ องค์ที่ท่านได้มาจากอยุธยาหรือเปล่าครับ..”

“ ก็นั่นแหละปลัด ผมชอบใจนักที่มีลูกน้องดีๆอย่างพวกคุณ คอยเอาใจใส่ดูแลผมกับแม่น้อยเป็นอย่างดี แล้วนี่มากันสองคนเหรอพระนาย..”

นายอำเภออำนวยเหลือบตาไปมองสาวสวยหน้าคมหวานที่เดินตามมาอย่างพินอบพิเนาคอยหลบสายตาของตนอยู่ข้างหลัง จนต้องเอ่ยแซวออกไป...

“ มากับมะยมสองคนครับท่าน พอดีผมรับปากพี่น้อยไว้ว่าจะมาชิมลาบอีสานที่นี่น่ะครับ..”

“ เออ ... ผมเกือบลืมไปว่าที่บ้านทำอาหารอีสานเลี้ยงคนอำเภอนี่ มะมาหนูเชิญขึ้นบ้านเลย”

พระนายเดินคล้อยหลังหญิงสาวเยื้องนายอำเภออำนวยไปเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือข้างหนึ่งที่ว่างอยู่โอบทางด้านหลังแผ่วเบา จนมะยมต้องรีบเดินให้เร็วไปข้างหน้าเพื่อให้พ้นจากเหตุการณ์ในตอนนี้

บรรยากาศการรับประทานอาหารค่ำที่บ้านนายอำเภออำนวยผ่านไปด้วยความชื่นมื่นกันทุกคนทุกฝ่าย แขกของเจ้าบ้านที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างก็ได้รับของที่ระลึกตามกระแสเป็นองค์จตุคามรามเทพ ส่วนมะยมได้แต่ถอนหายใจนั่งตัวลีบอยู่มุมโต๊ะรอคอยปลัดพระนายส่งสายตามาสะกิดว่ากลับบ้าน จนแล้วจนรอดก็ไม่มีการตอบรับ กระทั่งทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พำนักพักนอน พระนายกับมะยมถึงได้เดินทางกลับเป็นคณะสุดท้าย ...

พอนั่งรถจิ๊บของทางราชการ มะยมจึงนั่งตัวตรงไม่พูดไม่จา ใบหน้าเรียบเฉยจนชายหนุ่มรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นได้ด้วยบรรยากาศที่เงียบงันนั้น ...

เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ข้างนอกนั่นทำให้พระนายรู้ว่าต้องพูดอะไรออกไปสักอย่างแล้ว...

“ มะยมโกรธที่ผมพามาเถลไถลดึกดื่นอย่างนี้หรือเปล่าครับ ผมขอโทษไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นเช่นนี้เลย พยายามจะปลีกตัวออกมาหลายครั้งก็ทำไม่ได้สักที ดูเหมือนท่านนายอำเภอกำลังติดลมจบไม่ลง ”

มะยมค่อยๆ หันไปยังคนพูดช้า ๆ อยากจะอธิบายสิ่งที่ค้างคาใจมาเนิ่นนานให้คนร่างสูงเข้าใจอะไร ๆ ได้ถูกต้องซะทีจึงเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง...

“ ด้วยความสัตย์จริงดิฉันไม่เคยโกรธหัวหน้าเลยนะคะ ทุกวันนี้แค่ได้รับความกรุณาจากหัวหน้าเรื่องความดีความชอบ และเรื่องอื่นๆมากมายก็เป็นพระคุณยิ่งแล้ว..”

“ ไม่ต้องขอบใจอะไรหรอกครับมะยม ผมทำตามหัวใจเรียกร้องเท่านั้นเอง..”

“ ดิฉันแค่ไม่อยากให้หัวหน้าเข้าใจอะไรผิดๆ ในเรื่องบางเรื่อง ...”

“ เรื่องมันเป็นยังไง ผมพอจะเดาอะไรออกบ้างไหมครับ”

“ กรุณาอย่าเดาเลยค่ะหัวหน้า เพราะเรื่องนี้มันเกิดจากความเข้าใจผิดประการเดียวเท่านั้น”

“ เข้าใจผิดอะไรครับมะยม ผมรู้ดีว่าคุณกำลังจะพูดเรื่องอะไรอกมา..”

“ ถ้าหัวหน้าเข้าใจอะไรๆ ก็ดีแล้ว มะยมจะได้ไม่ต้องอธิบายซ้ำอีกในภายหลัง..”

“ ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับมะยม ขอถามหน่อย...”

“ ดิฉันก็มีเรื่องที่จะขออธิบายอยู่เหมือนกัน ..”

“ ผมไม่ดีตรงไหนครับมะยม คุณถึงต้องปฏิเสธการเข้าหาของผมเสียแทบทุกครั้ง ผมชอบคุณมาก คุณก็รู้อยู่เต็มอก ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะเวลาเจ็ดปีนั่นได้พิสูจน์แล้วว่า ผมจริงใจกับคุณ แต่ทำไมคุณถึงปฏิเสธมันเสียแทบทุกครั้ง ทำไม ผมไม่เข้าใจ..”

“ ก็เพราะดิฉันไม่เคยจะคิดกับคุณเกินเพื่อนร่วมงานธรรมดายังไงคะปลัด...”

“ ผมขอโทษที่รุกเร้าคุณจนเกินไป เพียงแต่ผมรู้สึกเหมือนมะยมกำลังรอใครสักคน ... ”

“ ดิฉันไม่ได้รอคอยใครอะไรทั้งนั้นค่ะหัวหน้า..”

มะยมพยายามจะกลืนก้อนแข็งๆที่มันจุกที่คอลงไปด้วยความยากลำบากเต็มทน ทั้งๆที่รับรู้อยู่ว่าปลัดพระนายพูดความจริงออกมาทั้งหมด...

“ แล้วทำไมคุณไม่ตอบรับไมตรีของผมล่ะครับ หรือว่าผมยังพร้อมไม่พอ...”

“ ไม่ใช่หรอกค่ะ หัวหน้าดีพร้อมที่สุดสำหรับผู้หญิงทุกคนที่จะรักและบูชาผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง”

“ แล้วผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่มะยม..”

คนพูดเอ่ยประโยคขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทอดเศร้า ...

“ มะยมขอบคุณที่กรุณาช่วยดูแลพ่อมาตลอดเวลาหกเจ็ดปี ซึ่งก็มันนานมากสำหรับการรอคอยอะไรบางอย่างที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง ...”

“ ผมทำอย่างนั้นไปด้วยความรู้สึกอยากจะทำ .. อยากจะทำอะไรให้มะยม ..”

“ คุณปลัดคงทราบว่าเรื่องของหัวใจ มันบังคับกันไม่ได้ หัวใจใครหัวใจมัน..”

“ ผมคงไม่ดีพอที่จะเป็นเจ้าของหัวใจของมะยม..”

“ ไม่หรอกค่ะหัวหน้าคุณเป็นคนดีที่สุด สักวันผู้หญิงคนที่ใช่จะเห็นความดีของคุณไม่ช้าไม่นานหรอกค่ะ”


“ เป็นอันว่ามะยมปฏิเสธความหวังดีของผมในตอนนี้ โดยมีสาเหตุที่เป็นความลับบอกใครไม่ได้..”

“ สักวันคุณปลัดจะทราบเองค่ะว่ามะยมกำลังรอคอยอะไรอยู่...”

“ ครับผมจะรอคอยวันที่มะยมเห็นใจในความดีที่ผมได้ทำมา ผมสัญญาว่าจะรอคอย ผมสัญญา...”

“ ถึงบ้านแล้วนะคะหัวหน้า ขอบพระคุณสำหรับอาหารแสนอร่อยในวันนี้ ดิฉันสนุกมากๆ ..”

“ ไม่เป็นไรหรอก...เราเป็น..เอ่อ ...เพื่อนร่วมงานมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน..”

“ ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ สวัสดีค่ะหัวหน้า..”

มะยมกระโดดลงรถจิ๊บประจำตำแหน่งของปลัดพัฒนาประจำอำเภอท่าวังหิน แล้ววิ่งเข้าบ้านไปด้วยความรีบเร่งเมื่อมองเห็นเงาคนสองคนที่คุ้นเคยนั่งเล่นอยู่ในห้องรับแขก...

ส่วนปลัดหนุ่มแห่งท่าวังหินเมื่อไม่ทันจะเอ่ยปากฝากคำอะไรออกไปกับสาวสวยที่กระโดดลงรถไปเมื่อสักครู่อะไรเลยเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกิน จึงทำได้แค่กระแทกพวงมาลัยไปอย่างหัวเสีย ก่อนจะเหยียบคันเร่งจมหายไปในความมืด ....

หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่เห็นคนสองคนกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่บริเวณโต๊ะไม้รับแขกที่มีผ้าปูโต๊ะถักด้วยลวดลายสวยงาม คนหนึ่งเป็นสาวร่างบางแต่งกายรัดกุมสวยงาม ส่วนอีกหนึ่งสาวดูเหมือนไม่เต็มจริตรูปร่างสูงใหญ่จนไม่น่าจะเป็นเพศหญิง ...

“ มะหมี่ หยาดทิพย์ มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่กันคิดถึงพวกเธอมากกกก....”

“ เฮ้ ! นังยมแกดูสวยเริ่ดขึ้นนะยะหล่อน เดี๋ยวนี้ริพาผู้ชายเข้าบ้านดึก ๆ ดื่นๆ”

“ ยัยหมี่ ...แกวอนจะให้ฉันตะแกอีกแล้วนะ”

“ เฮ้ยแกสองคนหยุดตีกันหน่อยจะได้มั้ย ทะเลาะกันอยู่ได้ตั้งแต่เป็นนักเรียนจนแก่ ไม่เบื่อกันหรือไง”

“ ไม่เบื่อ ฉันคิดถึงแกว่ะนังยม แกสบายดีมั้ย ...”

มะหมี่ถลาเข้ามาสวมกอดเพื่อนรักด้วยท่าทางดูเจ้าเล่ห์น่าดูจนทั้งสองกอดกันกลมอีกครั้ง ถึงจะเปิดฉากการสนทนาได้ ... ทั้งสามสนทนากันในเรื่องราวต่างๆ มากมายจนกระทั่งมาสะดุดในเรื่องที่ทำให้มะยมถึงกับเบือนหน้าออกไปข้างนอกหน้าต่างด้วยความครุ่นคิด ...

“ คนทั้งอำเภอเขาเล่าว่า แกจะแต่งงานกับคุณพระนายเหรอ ...”

------------------------------------

กาหรือหงส์ ตอนที่ ๔๘ จบลงแล้วเหลืออีกไม่ถึงสิบตอนก็จะจบลงแล้ว .. ขอบพระคุณเพื่อนๆๆที่ติดตามมาให้กำลังใจคนบ้านนอกหัดเขียนนิยายคนนี้ .. ขอบพระคุณมากนะครับ ติดตามตอนหน้าอีกสามสี่วันนะครับผม ..

นายอิส / เมฆชรา
๒๖ กันยายน ๒๕๕๓
๑๐ นาฬิกาครึ่ง






Create Date : 26 กันยายน 2553
Last Update : 26 กันยายน 2553 10:39:20 น. 0 comments
Counter : 1498 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.