จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
กันยายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
6 กันยายน 2553
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
“ อิสรากลับมาหรือยังคุณอุ่น…ถ้ามาแล้วให้ไปพบผมในห้อง ห้ามใครรบกวนถ้าไม่ได้เรียก..”
“ ยังไม่กลับมาค่ะ คิดว่าคงสักประเดี๋ยวคงมาถึง กำชับไปแล้วว่าอย่ากลับค่ำ..”
“ อ้อ ..คุณรู้เห็นกับชายอิสด้วยหรือนี่ คุณรู้มั้ยว่าตอนสาย ๆ ฟ้าเมฆาแทบแตก หญิงพิลาสกับวันวิสาหาเจ้าของวันเกิดไม่พบ พาลมาหาว่าฉันเอาชายอิสไปซ่อน ไร้สาระอะไรไปโน้น ที่แท้คุณก็รู้เห็นกับลูก..”
“ ฟังอิฉันอธิบายหน่อยสิคะคุณ เมื่อวานตอนเกือบเที่ยงคืนชายอิสมาหาที่ห้องนอนด้วยใบหน้าที่หมองเศร้ากลุ้มใจ อยากจะขอทำอะไรสักอย่างในวันพิเศษพรุ่งนี้ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะไปทำอะไร ... อิฉันจึงตอบตกลงอนุญาตกับลูกไปด้วยความสงสาร ก่อนจะกำชับให้กลับก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ... ต้องกราบขอโทษด้วยถ้าการตัดสินใจของดิฉันเป็นการตัดสินใจที่ผิด”
น้ำเสียงและสีหน้าของคุณอุ่นเรือนบอกอาการงอนเง้าแกมประชดประชันผู้เป็นสามี จนหม่อมเจ้าปกรณ์เทวาที่อารมณ์ขุ่น ๆ ต้องเด้งอารมณ์ให้กลับมาสู่ปกติโดยเร็วพลัน ...
“ ผมไม่ได้ตำหนิคุณนะอุ่นเรือน เวลานี้เราต้องเข้าใจกันไม่ใช่ทะเลาะกัน”
“ ค่ะข้อนั้นดิฉันรู้ดี แต่ที่ฝืนคำสั่งตามที่ตกลงกันไว้ก็เพราะสงสารลูก อยากจะให้เขามีความสุขอีกสักครั้ง ... ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสอย่างนี้ในวันข้างหน้าอีกหรือเปล่า อีฉันสงสารชายอิสจริง ๆ ”
“ เรื่องอย่างนี้มันต้องทำใจ กันทุกฝ่าย พรุ่งนี้อิสราจะออกเดินทางแล้ว เราสองคนเป็นพ่อแม่ต้องวางตัวเป็นกลางไม่เอนเอียงไปข้างหนึ่งข้างใด และที่สำคัญต้องคิดเสียว่าเขาทั้งสองคนไม่ใช่เนื้อคู่กัน มาพบ มารักกัน ... เพื่อจากกันเท่านั้น”
ท่านชายปกรณ์เทวาเอ่ยสุรเสียงออกมากด้วยความสั่นพริ้ว ใจหวิวหายแน่นอยู่ในอกเมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้เช้าที่จะมาถึงอย่างทรมานใจ .... คุณอุ่นเรือนยังคงยืนนิ่งฟังเหมือนรูปปั้นที่ไม่มีชีวิต ก่อนจะเอ่ยถ้อยมธุรสด้วยความรันทดใจว่า ...
“ ทั้งมะยมและอิสราคงไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้…ดิฉันขออนุญาตเข้าไปดูคนงานในไร่ตอนที่ส่งอิสราขึ้นรถนะคะ”
“ ตามใจคุณสิคุณเรือน ... อิสราคงจะเข้าไปหาคุณหลังจากพบผมแน่ ๆ พยายามพูดปลอบใจให้เขาหายโศกไว้บ้างก็ดีนะ ... ผมคงทำหน้าที่พ่อที่แย่เต็มทนนะคุณอุ่น ไม่สามารถทำเรื่องที่ใหญ่โตให้ลุล่วงไปได้ จนต้องให้ลูกชายเข้ามาช่วยกูเสถานการณ์เช่นนี้ ... น่าละอายจริง ๆ ”
“ ไม่หรอกค่ะ ท่านชายทำดีที่สุดแล้ว ...ทุกอย่างมันเป็นไปตามวัฎจักรของมัน อิฉันเชื่อว่าถ้าเขาทั้งสองเป็นเนื้อคู่กัน วันใดวันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องได้อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม ..”
“ ขอบใจที่คุณเข้าใจนะคุณอุ่น ก็หวังว่าคงจะเป็นเช่นนั้น ... ฟ้าดินคงให้คนสองคนได้อยู่ด้วยกัน หลังจากรักใคร่กันมานาน ถ้าสวรรค์มีตา..”
“ ค่ะ ...ไม่เป็นไรอิฉันเข้าใจ...”
คุณอุ่นเรือนเดินจากไปพร้อมกับซับน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้านวลสวย ท่านชายปกรณ์เทวาทรุดนั่งลงไปบนเก้าอี้นุ่มอย่างอ่อนแรง อ่อนล้ากับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเต็มทีจนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าเดินหยุดตรงมุมประตูห้องหนังสือ พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งที่ตรงนั่น ...
“ คุณชายอิสรากำลังจะขึ้นมาจากข้างล่างแล้วครับท่านชาย ..”
หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาผงกตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้นุ่มอย่างรวดเร็ว หันเก้าอี้ตั้งตรง หยัดกายาให้ผินไปทางประตูเตรียมจะตรัสเรื่องสำคัญที่สุดให้บุตรชายคนเดียวฟังอย่างตั้งพระทัย ...
กระทั่งร่างสูงใหญ่ของผู้ที่ถูกพาดพิงก้าวเข้ามาถึงประตูหน้าห้อง ทำความเคารพแล้วเดินตรงเข้ามานั่งบนเก้าอี้ตรงกันข้ามเอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าเริงร่ามีความสุข จากการมองแสงกระทบหน่วยตาทั้งสอง ที่ตอนนี้มันกระพริบวิบวับ คล้ายคนอิ่มความสุขเต็มแปล้ภายในหัวใจ ...
“ ท่านพ่อมีอะไรจะบอกผมหรือครับ ...”
หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาทอดสายตามองบุตรชายอันเป็นที่รักด้วยแววตาครุ่นคิด ตรึกตรองมาแล้วอย่างหนัก ก่อนจะเอ่ยวาจาประกาศิตออกไป ....
------------------------
เช้าวันนี้เป็นวันแรกของการปิดภาคเรียนแรกของโรงเรียนมัธยมท่าวังหิน สาวน้อยบ้านนายังคงตื่นตั้งแต่ไก่โห่ ทำภารกิจประจำวันอย่างคล่องแคล่วปกติ แต่ที่พิเศษหน่อยก็ตรงที่วันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษกว่าทุกถึงกับร้องรำฮัมเพลง เดินถือกับข้าวกับปลา ดอกไม้และน้ำเปล่าขวดจิ๋วที่จัดเตรียมจะใส่บาตรพระ ตรงลิ่วไปยังลานหน้าบ้านพร้อมกับเสียงเห่าบ๊อก ๆ ของเจ้าแสนดี จอมซน ...
เช้าวันนี้พระสงฆ์เดินผ่านมาไม่ครบองค์ตามจำนวนที่ได้ใส่ในทุกวัน พอทุกอย่างเสร็จตามประสงค์มะยมส่ายตามองหาเจ้าแสนดีที่วิ่งลับหายไปกับโค้งถนนข้างหน้าตั้งนานสองนาน ก่อนจะวางกลับมาพร้อมกับรถเบนซ์สปอร์ตคันเดิมคุ้นตา ที่ขณะนี้กำลังจะมาจอดเทียบตรงหน้าด้วยความละมุนละม่อมมีมารยาทของคนขับ พอชะโงกหน้าข้ามไปดูที่คนขับก็มองเห็นว่าอิสรากำลังนิ่งนิ่ง ๆ หลับตา คล้ายคนกำลังหลับสบาย ๆ
จึงเดินค่อย ๆ ย่องตรงไปที่นั่นทันทีด้วยความหมั่นใส้เล็ก ๆ โทษฐานที่เก็กหล่อในรถหรูเกินเหตุ ...
“ จ๊ะเอ๋ ...ผีตาโขนมาแล้วจ้า... แบ๋ ๆ ๆ ...”
... ทุกอย่างผิดคาดคนตัวสูงใหญ่กลับนั่งนิ่ง ๆ ไม่กระดุกกระดิกรับรู้มุกหยอกล้อของคนทัก แต่อย่างใดเลย มะยมรู้สึกหน้าเสียที่หยอดมุกไปแล้วเป็นมุกแป้ก ขนาดเบ้อเร่อ ...
จึงแกล้งเอามือจี๋ที่เอวของคนขี้เก้กไปอีกครั้ง ...
... ทุกอย่างก็ยังคงเงียบไปเช่นเดิม มะยมเริ่มใจไม่ดีที่มองเห็นหยดน้ำตาเริ่มไหลรินเป็นหยดไหลเป็นทางหล่นมาถูกแขนตัวเอง จึงกระชากมือกลับทันที แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เมื่อคนร่างสูงดึงมือนิ่มเอาไว้ พร้อมกับลืมตาที่เปียกปอน ไหลหลั่ง จ้องเขม็งมายังคนหยอกล้ออารมณ์ดีอย่างเต็มที่ ....
“ นายเป็นอะไรอิสรา ... เกิดอะไรขึ้นหรือ”
ทุกอย่างยังคงเงียบเหมือนชั่วไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่มะยมมองเห็นใบหน้าเศร้าหม่นที่มากับแววตาสะท้อนความรู้สึกนับร้อยนับพันอย่าง ทอดส่งมายังตัวเองที่นิ่งขึงตกตะลึงอยู่ตรงหน้าจนแทบทะลักทะลายล้นออกมาเสียให้ได้ ...
“ ผมขอโทษมะยม ผมขอโทษ..”
“ เกิดอะไรขึ้น..”
มะยมละล่ำละลักถามด้วยความตกใจยิ่ง จนมือไม้สั่นไปหมด ..
“ ผะ ผม ... ต้องไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาท่าวังหินอีกเมื่อไหร่...”
“ นายจะไปไหน ... ไปทำอะไร..”
“ ผมต้องไปเรียนกรุงเทพในเทอมหน้า พ่อส่งตัวผมพร้อมกับวันวิสาไปกรุงเทพวันนี้ ไม่อย่างนั้นไร่ฟ้าเมฆาจะถูกขายทอดตลาดอย่างจนตรอกไร้ศักดิ์ศรี ถ้าผมไปอยู่ที่นั่นจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลงไป ท่านพ่อวิงวอนขอให้ช่วยด้วยตัวเอง เป็นครั้งสุดท้าย ...”
“ นายจึงต้องไปกรุงเทพฯ เพื่อแต่งงานหลังจากเรียนจบ..”
มะยมพูดไปด้วยใจที่เศร้าสลด จนแทบจะกลืนก้อนแข็ง ๆ ที่อยู่ในลำคอแทบไม่ลง สายตาที่ทอดมองอิสราเริ่มจะพล่าเลือน เพราะน้ำที่ไหลท่วมอยู่ตรงนั้น...
“ ไม่นะมะยม ผมจะไม่แต่งกับใครทั้งนั้น นอกจากคุณคนเดียว คนเดียวเท่านั้นเข้าใจไหม..”
“ ไปเถอะนะอิสราอย่าทำให้ฉันต้องเป็นตัวถ่วงความรับผิดชอบของนายเลย ... นายต้องไป ไปทำหน้าที่ของลูกที่ดี ฉันจะยังรอนายอยู่ที่นี่ อยู่ที่ท่าวังหิน อยู่ที่ต้นกาสะลองของสองเราตลอดไป ฉันขอสัญญา.”
“ โธ่โว้ย !ทำไมโชคชะตาเล่นตลกอะไรอย่างนี้ ...”
“ ไม่มีใครกำหนดเส้นทางชีวิตได้หรอกจ๊ะอิส ไปเถอะไม่ต้องเป็นห่วงฉัน อีกไม่กี่ปีเราก็เรียนจบมหาวิทยาลัย เราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วนะ เข้มแข็งไว้ดีกว่า...”
“ ผมขอโทษจริง ๆ ผมขอสัญญาว่าวันหนี้อกไม่นานนับจากนี้ ผมจะกลับมาขอมะยมแต่งงานทันที คุณไว้ใจผมมั้ย..”
“ ฉันเชื่อมั่นและไว้ใจในตัวอิสราเสมอ และจะรอวันนั้นที่กำลังจะมาถึงทุกลมหายใจเข้าออกทีเดียว”
“ ชื่นใจจริง ๆ ครับมะยม .... เวลาที่ไม่อยู่ผมขอมอบเจ้าสิ่งนี้ไว้เป็นตัวแทนผม หวังว่าเวลามะยมคิดถึงผม เจ้าแหวนวงนี้คงเป็นตัวแทนผมได้ชั่วคราวนะครับ..”
อิสราค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนแทนรักไปที่นิ้วเรียวสวยของมะยมอย่างช้า ๆ จนแทบจะหยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้ชั่วขณะ แม้กระทั่งเวลาที่คืบคลานผ่านไป ก่อนจะยกขึ้นมาบรรจงจุมพิตไปที่แหวนวงนั้นอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง ...
มะยมยิ่งน้ำตาไหลนองเต็มหน้ายิ้มอย่างมีความสุข ก่อนที่จะดึงร่างสูงใหญ่ที่ตคัวเองเคยเรียกยักษ์ปักหลั่นเข้ามาแนบกายอย่างไม่มีความเขินอายเหมือนทุกครั้งอีกแล้ว
อิสรากอดรัดสาวร่างบางไว้แน่นเหมือนจะถ่ายทอดความรักทั้งหมดไปให้กับสาวบ้านนาที่อยู่ในอ้อมแขนคนนี้จนหมดสิ้นทั้งตัวและหัวใจ ...
หลับตาพริ้มอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อขาว แห่งวัดป่าท่าวังหินไปว่า ...
“ ชาตินี้ทั้งชาติลูกขอรักและปกป้องคุ้มครองให้ความรัก ทะนุถนอมผู้หญิงคนนี้ตลอดไป จนกว่าชีวิตของลูกจะหาไม่ ..”
มะยมกอดอิสราไว้แน่นอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กนักเรียนเริ่มจะเดินเข้ามาโรงเรียนกันแล้ว จึงคลายอ้อมกอดออกก่อนจะพยักหน้าให้อิสรากลับไปได้แล้ว. ....
สัญญาใจของสองเราเป็นอันรับรู้นิรันดร์ ....
แล้วทั้งสองก็ได้แยกจากกันในเช้าอันแสนสดใสในวันนั้น มะยมเดินกลับขึ้นบ้านด้วยอารมณ์ตรงข้ามกับตอนลงไปตักบาตร.... เดินเข้าห้องนอนไปไม่เอ่ยทักทายพลอยใสกับครูพลที่กำลังหน้าเคร่งกันอยู่ริมระเบียงอีกเลย ส่วนอิสรากลับถึงไร่ฟ้ามฆาด้วยท่าทีที่นิ่งเงียบกว่าปกติ คำมั่นสัญญายังกึกก้องอยู่ในหัวสมอง สะท้อนกลับไปกลับมา จนต้องอดอมยิ้มกับปฎิกิริยาตกใจของมะยมไม่ได้ ...
มะยมรักเรา มะยมรอคอยเราอยู่ที่ท่าวังหิน และต้นกาสะลองของสองเรานั่นอีกล่ะ ....
แต่แล้วความสว่างใสของหัวสมองก็พลันดำวูบลง เมื่อเห็นกระเป๋าสัมภาระใบโตของตนเอง กองรวมอยู่ที่กระตูด้านหน้า โดยมีนายแม้นกับสยามกำลังขมีขมันขนขึ้นรถสปอร์ตกึ่งบรรทุกด้วยความรีบเร่งตามคำบัญชาของผู้อาวุโสอย่างน้อยสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ...
“ อ้าวชายอิสกลับมาแล้วเรอะ งั้นพวกเราออกเดินทางกันเถอะนะแม่พิลาส..”
ผู้พูดเป็นสตรีชราร่างท้วม ผิวขาวละเอียด ดวงตาบ่งบอกว่าเป็นผู้มีอำนาจส่งพุ่งตรงมายังผู้ที่ถูกเอ่ยถึงคล้ายจะตำหนิ แต่ผู้ที่ดูสาวกว่าสะบัดตัวพร้อมกับก้าวเดินขึ้นรถไปตามคำบัญชา... แต่มิวายจะตวัดสายตามองผู้ที่กำลังเดินเข้ามาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเอ่ยคำตอบออกไป ...
“ ค่ะคุณยาย ..หนูกับวิสาพร้อมตั้งนานแล้ว..”
“ พ่อปกรณ์ แม่อุ่นเรือน ฉันไปนะ ”
คำเอ่ยลาสั้น ๆ แต่กินความหมายลึกล้ำ เสียดแทงหัวใจคนฟังอย่างที่สุด หม่อมเจ้าปกรณ์เทวากับคุณอุ่นเรือนก้มกราบผู้อาวุโสทรงอำนาจที่ตอนนี้เชิดคอตั้งบ่าก้าวขึ้นรถตู้หรูหราด้วยท่าทีปั้นปึง ไม่พอใจนัก ...
อิสราแหงนมองดูวังฟ้าเมฆาที่เคยวิ่งเล่น เคยพำนักมานานแสนนานด้วยความอาลัย ก่อนจะพยักหน้าให้กับเหล่าแม่บ้าน คนสวน ตลอดจนคนงานส่วนหนึ่งของไร่ฟ้าเมฆา เป็นเชิงว่าอีกไม่นานจะกลับมาอีก จนเดินมาหยุดที่ตรงหน้าของสยามที่ตาเริ่มแดง ๆ เหมือนคนอื่น ๆ แล้วกล่าวสั้น ๆ เป็นเชิงสั่งการว่า ...
“ ฝากมะยมด้วยนะสยาม ส่งข่าวไปบอกฉันตามที่ตกลงกันไว้ ฉันไปล่ะทุกคน..”
คุณอุ่นเรือนเดินเข้ามาโอบกอดบุตรอันเป็นแก้วตาดวงใจน้ำตาคลอ หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาก้าวเข้าสมทบพร้อมกับโอบรับทั้งสองคน เวลาผ่านไปชั่วขณะ อิสราก้าวขึ้นรถไปด้วยท่าทีเศร้าสร้อย กระทั่งรถตู้ขนาดใหญ่ทันสมัยจะเคลื่อนหายลับไปในมุมโค้งประตูด้านหน้า ..
.
“ เฮ้อ ! ไปแล้วจริง ๆ ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตนเองได้แล้ว ... คุณอุ่นเราไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้กันมั้ย ไม่ได้ไปนานแล้วนี่ ”
หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาเอ่ยชวนผู้เป็นคู่ทุกข์คู่ยากให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยกระทำมาตลอดนานตั้งแต่แก่เฒ่ากันขึ้นมาจนอีกฝ่ายแปลกใจ แต่ก็เข้าใจเจตนาว่าผู้ชวนต้องการปลอบจิตใจที่แตกสลาย จึงเดินเข้าไปสู่อ้อมกอดที่เปิดรอรับไว้ เหมือนนกน้อยที่เดินเข้าหาไออุ่นจากผู้เป็นที่รัก ...
“ ค่ะ ...ไปสิคะ...”
----------------------
กาหรือหงส์ ตอนที่ ๔๑ จบลงแล้วติดตามตอนหน้าวันพุธครับ ขอบพระคุณเพื่อนๆที่ติดตามอ่านมายาวนาน ขอบพระคุณมากครับ ..
นายอิส/เมฆชรา
๖ กันยายน ๒๕๕๓
เวลาสี่โมงครึ่งครับ
Create Date : 06 กันยายน 2553
Last Update : 6 กันยายน 2553 16:34:46 น.
0 comments
Counter : 949 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.