จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
11 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒

กาหรือหงส์ ตอน ๕๒









อิสรารีบบึ่งรถไปผาเดียวดายอย่างที่เสียงหัวใจข้างในสั่งให้เป็น ... ชายหนุ่มในเต้นโครมครามคล้ายจะทะลุออกออกมาให้ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าขาวคมเข้ม ดูปั้นปึ่งยามเง้างอน แสนยวนใจ ทำให้รถกะบะคันเก่าพุ่งทะยานไปจนถึงที่หมายในอึดใจเดียว ...

ลมกรรโชกแรงเป็นระยะทำให้อิสราต้องหยีตามองย้อนแสงอาทิตย์ขึ้นไปตามทางลาดชันโล่งเตียน จนเหลือบไปมองเห็นมองเตอร์ไซค์ของหญิงสาวอันเป็นที่รักจอดอยู่ใต้ต้นมะม่วงป่าต้นใหญ่รกครึ้ม ...

ชายหนุ่มจึงรีบสาวเท้าวิ่งขึ้นไปข้างบนหน้าผาด้วยใจที่ลิงโลดประหนึ่งโรมิโอกำลังจะขึ้นไปหาจูเลียตบนปราสาทยังงั้นแหละ ...

มะยมมองทุ่งหญ้าที่สะบัดใบพลิกพลิ้วไปมากลายเป็นระลอกคลื่นดูสวยงามดั่งภาพฝันในเบื้องล่างจนถ้าหากมองไกลไปจนถึงขอบเขาเบื้องล่างก็จะเห็นลำน้ำน่าน สายเลือดใหญ่ของท่าวังหินคดเคี้ยวไปมาคล้ายงูขนาดใหญ่ แต่ถ้ากวาดสายตามองต่อไปก็จะเห็นทุ่งนาหย่อมเล็กหย่อมน้อยคล้ายตารางหมากรุก...
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แต่เสียงลมพัดอู้เมื่อครู่กลับทำให้ใจคอแทบจะไม่เป็นส่ำ มันเป็นเสียงร้องเรียกชื่อตัวเอง แว่วมาตามสายลม ...

หลังจากที่บอกครูพลว่าจะขึ้นเขามาสงบสติอารมณ์ปล่อยหัวใจให้ว่างเปล่าจากเรื่องต่างๆ มะยมก็ขึ้นมาจนถึงริมหน้าผาจนมองเห็นต้นกาสะลองต้นเดิม ดอกสีขาวของมันยังร่วงคงหล่นเกลื่อนกราดอยู่รอบๆ ต้น มะยมสลัดเสื่อผืนเล็กๆที่นำติดตัวมาแล้วกวาดปูไปยังโคนต้นกาสะลองที่ตอนนี้เงาร่มตกตรงนั้นพอดี ...

เมื่อเห็นว่าเวลายังเหลืออีกมากสำหรับการพักผ่อนบนนี้ หญิงสาวคิดว่าจะเดินไปเรื่อยๆตามทางเดินเล็กๆ ที่มองเห็นทอดยาวไปไกลลิบจนถึงเกือบสุดหน้าผา ....

มะยมเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งมาถึงจุดชมวิวใกล้หน้าผา ก็ต้องตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของชายผู้หนึ่งยืนเด่นเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ...

“ อิสรา ... เป็นเธอหรือเปล่า...”

เพียงแค่แว่บแรกแว่บเดียวมะยมก็สามารถจดจำเรือนร่างที่สูงใหญ่ขึ้น จนตนเองต้องแหงนหน้าขึ้นมองในขณะนี้ ชายหนุ่มสะดุ้งตัวเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังกลับมามาช้าๆ พร้อมยิ้มที่ระบายอยู่เต็มใบหน้า ...

“ ไม่พบกันนานเลยนะมะยม ..”

ชายหนุ่มที่มะยมเห็นในตอนนี้ต่างจากอิสราคนเดิมอย่างสิ้นเชิง เด็กหนุ่มคนนั้นตัวสูงใหญ่ก็จริงแต่ท่าทางก็องแก๋งมากกว่านี้ แต่ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในเครื่องแต่งกายที่ดูเป็นผู้ใหญ่ รูปร่างของเขา สูงสง่าล่ำสัน ใบหน้าคมสันแลดูคล้ำแดดเป็นสีน้ำตาลอ่อนอย่างคนมีสุขภาพดี เวลาที่ทอดยิ้มมามองเห็นฟันสีขาวสะอาดเรียงกันอย่างมีระเบียบ แถมไรคางมีหนวดเขียว ๆ ขึ้นจาง ๆ จนหญิงสาวตกตะลึงอึ้งไปชั่วขณะ ...

“ ผมมารอคุณอยู่ตรงนี้ได้สักครู่แล้วครับ ...”

“ คะ คุณคืออิสราเหรอค่ะ...”

มะยมรู้สึกเก้อเขินเมื่อสายตาคมปลาบจ้องมองมาจนตัวเองแทบจะละลาย ขนแขนลุกแล้วลุกอีก ก่อนจะก้มหลบลงมองพื้นจนคนร่างสูงต้องเดินเข้ามาใกล้แล้วโอบไว้หลวมๆ หญิงสาวดิ้นขลุกขลักไปสักครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับเจ้าของอ้อมกอดแข็งแกร่ง ...

มือเล็กเรียวบางยกขึ้นสัมผัสไปรอบๆดวงตาของชายหนุ่มอย่างช้าๆ แล้วหยดน้ำแห่งความดีใจก็ไหลริน

“ คุณมองเห็นแล้วเหรอคะอิสรา ...”

“ ผมมองเห็นเมื่อไม่นานก่อนกลับเมืองไทยครับมะยม ท่านอาต้อมกับแสนเมืองคอยช่วยเหลือทุกอย่างจนผมกลับมามีวันนี้ กลับมาสู่ท่าวังหิน เพื่อมาหาคุณคนเดียว..”

“ เพื่อท่านชายปกรณ์เสด็จพ่อของคุณดีกว่านะคะอิส และก็สำหรับทุกคนที่รอคอยคุณกลับคืนมาบ้าน...ที่นี่เงียบเหงาเมื่อขาดคุณ..”

“ ขอบคุณทุกคนที่ยังคิดถึงผม คุณล่ะมะยม คิดถึงผมบ้างหรือเปล่าเราไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะ”
“ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่เราสองคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น..”

“ คุณมารอใครบนนี้หรือเปล่า ... ผมภาวนาว่าคนๆนั้นต้องใช่ผม ..”

“ อิสราฟังฉันนะ เพื่อนๆขอฉันหลายคนหาว่าฉันยังเป็นเด็กไม่รู้จักโต ด้วยเหตุเพราะฉันรอคอยอะไรบางอย่างจากแหวนทองเหลืองวงเล็กไร้ราคาวงนี้วงเดียว ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนๆเหล่านั้นไปเช่นไร เพราะทุกอย่างมันคือความจริงทั้งหมด ...”

“ โธ่มะยม ผมขอโทษที่ทำให้ยุ่งยากใจมากขนาดนี้ ผมไม่ได้เจตนาจริงๆ แค่อยากจะเซอร์ไพรซ์คุณสนุกๆ ให้สมกับที่รอคอยกันมานานมาก..”

“ ฉันรู้ ฉันรู้ ว่าเราสองคนจะต้องมีวันนี้ในสักวันหนึ่ง ไม่งั้นฉันคงไม่รอคอยอะไรนานขนาดนี้..”

“ ชื่นใจที่ได้ยินคำๆ นี้ครับมะยม ตอนก่อนนี้ผมยังสับสนว่าจะมาหาคุณ และพบปะผู้คนได้ยังไงทั้งที่ดวงตามองไม่เห็นแสงสว่างอะไรเลย ชีวิตผมเหมือนคนสิ้นหวัง ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เหมือนคนอื่นๆ แต่สุดท้ายสวรรค์ก็มีตาให้โอกาสผมได้กลับมาตามหาความฝันอีกครั้ง จนยืนอยู่กับคนร่วมฝันได้ในเวลานี้แล้ว”

“ ช่วงเวลาผ่านไปแปดปีมันอาจจะนานสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับฉันแล้ว...มันไม่ได้ยาวนานอะไรเลย”
“ ผมดีใจที่มองเห็นมะยมคนเดิมอีกครั้ง ..”

“ ฉันก็ดีใจที่เห็นนายไม่เปลี่ยนเลยนะอิสรา...”

อิสราโผเข้ากอดมะยมไว้แน่น เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่รินไหลอาบสองแก้มงามก่อนจะปลอบด้วยความรู้สึกเปี่ยมล้นรำพัน ....

“ ผมรักคุณเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และจรักคุณตลอดไปนะครับมะยม คุณต้องเชื่อใจผมนะ..”

“ ฉันเชื่อ ... ฉันเชื่อคุณอิสรา ..”

มะยมพยักหน้าพร้อมเงยหน้ารับรอยจูบประทับที่กดทับลงมาจนสัมผัสได้ว่าความรักของคนตัวสูงท่วมท้นสุดจะพรรณนาจริงๆ ...

“ ผมรักคุณมะยม ผมรักคุณ...”

“ เช่นกันค่ะอิสรา ...”

ช่วงเวลาแห่งความสุขของคนทั้งสองได้หยุดนิ่งไปชั่วขณะ โลกที่สวยงามกำลังรอคอยทั้งสองในวันพรุ่งนี้ หากไม่มีเมฆหมอกร้ายพัดพามาเสียก่อน ... ทุกอย่างก็จะเป็นดังฝัน ...

----------------------

เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่อากาศยามเช้าดูนิ่งงันไม่มีลมพัด ลมที่พัดลอดผ่านม่านลูกไม้สีขาวแทบจะไม่โบกพลิ้ว พระนายเดินออกจากโต๊ะทำงานอย่างช้าๆ ตรงไปกดพัดลมเพดานที่หมายเลขหนึ่ง จนรู้สึกว่าความเย็นได้ถูกไล่ออกไปจากห้องทำงานเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจรดปากกาเพื่อเซ็นเอกสารที่ผู้ช่วยสาวสวยได้จัดเตรียมไว้ทางมุมด้านขวาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินคนสองคนสนทนามาตามบันใดข้างล่าง กระทั่งมาหยุดตรงหน้าห้อง

พระนายเงยหน้าขึ้นมามองก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นลูกน้องคนโปรดแต่งกายในชุดลำลองธรรมดา เป็นเสื้อและกระโปรงสีขาวทั้งตัวขลิบลายสีชมพูดูสวยหวานและเก๋ไก๋ น่ารักเหมาะกับคนใส่ ...

“ อ้าววันนี้ไม่ทำงานเหรอครับมะยม ... มีอะไรหรือเปล่ามาที่ทำงานแต่เช้าตรู่..”

“ ดิฉันจะมาขอลากิจสามวันค่ะ..”

“ มะยมจะขอลากิจไปธุระที่ไหนเหรอครับ..”

ปลัดหนุ่มแห่งอำเภอท่าวังหินอดจะแปลกใจไม่ได้ที่จู่ลูกน้องคนสนิทมาลาพักผ่อนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งที่ประวัติการลาไม่เคยมีเลยสักครั้ง...

“ ดิฉันเอ่อ ...ขอลาทำธุระส่วนตัวค่ะ..”

“ วันนี้มีอะไรพิเศษหรือครับ ท่าทางคุณลุกลี้ลุกลนไปนะ..” คนพูดอดอมยิ้มด้วยความเอ็นดูไปไม่ได้ที่เห็นกิริยาแปลกของหญิงสาวสวยตรงหน้าไม่เป็นเช่นทุกวัน ...

“ มีคนจะมาพบหัวหน้าค่ะ กำลังรออยู่ที่ประตู...”

“ บ๊ะมะยมวันนี้คุณดูแปลกไปจริงๆ เรียกเขาเข้ามาสิครับ ยืนลับๆล่อๆทำไมที่หน้าประตู..”

ไม่ทันที่พระนายจะพูดจบ ร่างสูงโปร่งกำยำลำสันของใครคนหนึ่งก็เดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆ จนทำให้พระนายถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นผู้ที่กำลังปรากฏกายอยู่ตรงหน้า ...

“ เอ๊ยเพื่อน ...ไปไงมาไงนี่...”

พระนายลุกขึ้นยืนพร้อมกับถลาไปโอบไหล่เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสิบปีให้เข้ามานั่งตรงหน้า ... โดยปล่อยให้สาวสวยยืนอึ้งนิ่งอยู่กับมุมห้องทำอะไรไม่ถูก ...

“ ห้องทำงานนายดูโก้ไม่หยอกนะพระนาย ดูดีกว่าที่มะยมเล่าให้กันฟังตั้งเยอะ..”

“ มะยมเล่าให้นายฟัง ... หมายความว่านายรู้จักกันเหรอนี่..”

“ ฮ่ะ ๆ ๆ กันขอโทษว่ะเพื่อนลืมแนะนำว่าที่เจ้าสาว มัวดีใจได้เจอเพื่อน..”

“ เจ้าสาว ... ใครกันอิส? เธอรอนายอยู่ข้างนอกหรือไง...”

พระนายยังทำท่างงๆจนอิสราขำแทบแย่ ..

“ ที่ยืนเท่ห์อยู่ข้างนอกไม่ใช่เจ้าสาวฉันหรอก แต่เป็นเพื่อนเราอีกคน ... แสน แสนเข้ามาได้แล้ว..”

พอแสนเมืองเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ระบายเต็มหน้า พระนายถึงกับกระโดดเข้าไปหาชายหนุ่มด้วยความคิดถึง ..

“ เฮ้ยแสนเพื่อนรัก ...ก็มาเยี่ยมเยียนอำเภอท่าวังหินเหมือนกันเหรอเพื่อน..สบายดีนะ ”

“ ดูนายอ้วนถ้วนสมบูรณ์ขึ้นนะพระนาย เดี๋ยวนี้ยังตีเทนนิสอยู่หรือเปล่า..”

“ งานเยอะมาก... ไม่ค่อยมีเวลาว่ะแสน ว่าแต่นายสองคนเหอะวันนี่นึกยังไงถึงรวมตัวมาหาพร้อมกัน มีข่าวดีอะไรหรือเปล่า...”

“ ใช่ นายรู้ได้ยังไงว่าอิสรากำลังจะมาบอกข่าวดี...”

“ เฮ้ยจริงหรือเปล่าแสน เจ้าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใครกันนะ อย่าบอกกันนะว่าเป็นสาวแถวท่าวังหินนี่ ”

พระนายอดตื่นเต้นกับสองหนุ่มที่ยืนยิ้มประกายตาวิบวาวตรงหน้าไม่ได้ แต่ก็รู้สึกช็อกไปชั่วขณะเมื่อได้รับคำตอบว่า ...

“ เห็นมั้ยมะยม แสนบอกแล้วว่าพระนายน่าจะรู้แล้วว่าเธอกับอิสราจะแต่งงานอาทิตย์หน้า..”

“ ดะ เดี๋ยว ...อะไรนะมะยมจะแต่งงานกับอิสราอาทิตย์หน้า ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า..”

“ ไม่ผิดหรอกพระนายเพื่อนรัก ..นายอิสราเพื่อนรักของนายที่ยืนอยู่ตรงนี้จะเข้าสู่พิธีมงคลสมรสกับนางสาวมะยม อภิรักษ์โยธา ลูกน้องแสนสวยของนายในอาทิตย์หน้านี่ก็คือการ์ดเชิญครับผม...”

แสนเมืองเดินไปหยิบซองสีชมพูจากมือมะยมแล้วยื่นให้พระนายที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าทุกอย่างจะรวดเร็วอะไรเช่นนี้ ...

เพื่อนรักสองคนที่ไม่ได้เจอกันนับสิบกว่าปีเดินทางมาหา พร้อมกับบอกข่าวมงคลว่าหนึ่งในสองคนจะแต่งงานกับลูกน้องสาวแสนสวย ผู้เป็นดวงใจหนึ่งเดียวในชีวิต ทุกอย่างจึงดูเหมือนโลกกำลังถล่มทลายตรงหน้า..

พระนายแสดงสีหน้าอิลักอีเหลื่อไปชั่ว แต่ก็เพียงแค่แว่บเดียวเท่านั้น ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเอ่ยว่า “ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ จู่เพื่อนรักมาแจกการ์ดแต่งงานกับลูกน้อง แบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวอย่างนี้ ..

มะยม..คุณก็จริงๆนะ ไม่บอกกันสักคำเลยว่ามีเจ้าของหัวใจเป็นเพื่อนรักของผมนั่นเอง...”

มะยมรู้สึกใจสลดลงไปวูบหนึ่งเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่แหบเครือของผู้เป็นหัวหน้า จึงอดที่จะสงสารไปไม่ได้

“ ดิฉันตั้งจะเรียนหัวหน้าเมื่อวานวันแล้ว แต่ไม่มีจังหวะซะที ”

“ อย่าไปดุเธอเลยพระนาย เราสองคนก็มัวแต่ยุ่งเรื่องจัดงานที่วัง จนแทบจะไม่มีเวลาพบปะหรือบอกใครเลย แต่ก็ยังดีที่แสนเมืองมาช่วยเรื่องต่างๆ ไว้ได้เยอะมากทีเดียว”

อิสราเดินมาพร้อมโอบรั้งสาวคนรักไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะยื่นมือไปขอจับกับอีกฝ่ายหนึ่ง เหมือนเป็นพันธะสัญญาอะไรสักอย่าง ...

“ มะ... มา... เรามาจับมือแสดงความยินดีกับความสุขวันนี้หน่อยเพื่อน..”

“ ดะ..ได้สิอิสรา...เราขอให้นายกับมะยมมีความสุขตลอดไป เรายินดีกับนายด้วยจริงๆ..”

“ แล้วอีกไม่นานแสนเมืองก็จะมีข่าวดีตามมาแล้วนะพระนาย ... นายรีบๆหาเจ้าสาวล่ะเพื่อน..”

“ จริงอ่ะแสน เจ้าสาวคนนั้นเป็นใครเพื่อน..”

“ คนไม่ใกล้ไม่ไกล เป็นเพื่อนรักของมะยมนั่นเอง ... เค้าชื่อเดือนเต็มดวง”

“ สงสัยวันนี้เราเกงานแล้วไปฉลองให้กับความสุขของเพื่อนๆ ซะแล้วล่ะมั้ง ... ไปร้านไหนดีล่ะมะยมช่วยเลือกให้พวกผมหน่อย...”

หญิงสาวนิ่งอึ้งไปสักพักก่อนจะปรับจิตปรับใจตอบปลัดพระนายว่าควรจะไปกินปลากับกุ้งแม่น้ำที่ร้านน่านน้ำ จะดีกว่าช่วงเช้าๆ อย่างนี้ไม่ค่อยมีคน ทั้งหมดจึงเห็นชอบด้วย ..

พระนายขออนุญาตสะสางงานครึ่งชั่วโมงก่อนจะขับรถตามไปทันที...

การรับประทานอาหารเต็มไปด้วยบรรยากาศชื่นมื่น ... แสนเมือง อิสราและพระนายต่างผลัดกันเล่าเรื่องความหลังครั้งเก่าสมัยเด็กๆ ด้วยความขบขันจนโต๊ะข้างๆ ที่อยู่ติดกันมองมาเป็นระยะๆ

มะยมนั่งเงียบๆ เหม่อมองไปตามสายลำน้ำน่านที่ทอดไหลไปข้างหน้าคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนมาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงทุ้มนุ่มของพระนายดังแว่วให้ได้ยินเป็นคำถาม ...

“ ตกลงอิสรากับมะยมจะมีเจ้าตัวเล็กกันสักกี่คน ผมจะได้เตรียมตัวไว้หนวดและก็แก่ ฮ่ะๆๆ”

“ ไปแซวอย่างนั้นได้ไงวะเพื่อน ดูสิมะยมเขินแย่แล้ว...”

แสนเมืองเอ่ยขวางจังหวะพูดของพระนายไป แต่ก็อดชำเลืองมองอิสราที่นั่งจ้องดูว่าที่เจ้าสาวจะตอบยังไง ด้วยใจจดใจจ่อ ....

“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะเจ้า เรื่องนี้มะยมให้สิทธิ์แก่พ่อบ้านค่ะ..”

“ แหมสามัคคีกลมเกลียวกันตั้งแต่ยังไม่แต่งเลยนะเพื่อน… กันชักอิจฉานายแล้วว่ะอิส เจ้าสาวนายใจกว้างฉิบเป๋งเลย ”

“ มะยมก็เป็นคนอย่างนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมด้วยกันแล้วล่ะพระนาย เขาเป็นคนพูดจริงทำจริง..”

“ รักจริงด้วยใช่มั้ยอิส..”

พระนายยิ้มกว้างออกมาจากใจ ...

“ ใช่ ใช่แล้ว ถูกต้องที่สุดพระนาย .. มะยมยังเป็นคนเดิมที่ผมรู้จักเมื่อเกือบแปดปีที่แล้วทุกอย่าง ที่ตาเราหายจากการบอดก็เพราะกำลังใจทางจดหมายของมะยมนี่แหละ วันนี้ถึงเป็นวันของเราไงล่ะ..”

“ เฮอะ ๆ เลิกหวานกันสักวันไม่ได้หรือไงอิส เพื่อนแถวนี้อิจฉานะ..”

แสนเมืองเอ่ยทักอย่างอารมณ์ดีตามนิสัย จนสร้างบรรยากาศให้ทุกอย่างได้คลี่คลายไปจนได้อีกครั้ง ..

“ ให้ถึงวันแต่งก่อนเถอะ จะหวานยิ่งกว่านี้ให้ดู ฮะ ๆ ๆ ..”

อิสราหัวเราะด้วยเสียงอันดังลั่นแก้เขินกับคำแซวของเพื่อนๆ กระทั่งมะยมที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวก็สัมผัสได้ถึงมิตรภาพอันอบอวลไปด้วยความจริงใจแท้จริงได้ ...

มิตรภาพของระหว่างเพื่อน แม้จะมีเรื่องราวมากมายมาสั่นคลอนไปในบางครั้ง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลับมาคืดังเดิมได้ทุกครั้งเฉกเช่นความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสามในตอนนี้ ...

------------------------

พิธีการทางสงฆ์ในตอนเช้าตรู่ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานจำนวนนับร้อยทยอยกันกลับไปจนเกือบหมดคงเหลือแขกเจ้าภาพเพียงไม่กี่คน หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาเอนตัวลงพิงกับพนักเก้าอี้บนเบาะนุ่มในห้องหนังสืออย่างช้า ครุ่นคิดถึงคุณอุ่นเรือนที่น่าจะได้ชื่นชมคู่บ่าวสาวที่น่ารัก สมกันราวกิ่งทองใบหยกคู่นี้ในวันนี้ กระทั่งมีเสียงกระแอมดังมาจากข้างหลังประมุขของวังฟ้าเมฆาหันกลับมาช้าๆไปที่ประตูก็พบว่าเป็นเจ้าบ่าวที่ดูสง่าในเครื่องแต่งกายไทยประยุกต์กำลังเดินตรงมาแล้วทรุดนั่งลงไปกับพื้นห้องที่ปูด้วยพรมสีกุหลาบ ....

“ ท่านพ่อมาหลบอยู่ที่นี่เอง แขกจากกรุงเทพฯถามหากันให้คลั่ก ”

“ มีอะไรหรือลูก..”

“ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับท่านพ่อ เหลืองานตอนเย็นที่อาต้อมกับแสนเมืองจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ” อิสราเอื้อมมือไปกุมมือผู้เป็นบิดาเบาๆ เหมือนรับรู้จิตใจของผู้เป็นพ่อได้เป็นอย่างดี ..

“ ดีแล้วลูก เราน่ะโชคดีที่ใครๆต่างก็อยากจะมาช่วย ไม่เหมือนตอนที่พ่อกับแม่ของเราแต่งกัน..”

“ ท่านพ่อคิดถึงแม่ใช่มั้ยครับ..”

“ อื่อ .. คิดถึงมากจับใจ ถ้ามีแม่เราอยู่ในงานวันนี้ก็คงดีสินะ..”

“ ผมรู้สึกว่าตอนนี้แม่คงมองดูพวกเราอยู่บนสวรรค์ แล้วอวยพรให้มีความสุขตลอดไป..”

“ ใช่วันนี้เป็นวันมงคล พ่อไม่น่าจะพูดเรื่องเศร้าเลยนะ...”

“ ไม่หรอกครับท่านพ่อ ลูกก็คิดถึงมากเหมือนกัน ยิ่งเห็นหน้าเจ้าสาวก็นึกถึงแม่ ท่านพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าวันแต่งงาน แม่อุ่นเรือนของลูกสวยจับใจ ไม่มีใครเทียบ...”

“ คุณอุ่นเรือนเหมือนเพชรในเรือนใจของพ่อ จะอยู่ในนี้ตราบนานเท่านาน ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง..”
“ แม่คงรับรู้ว่าท่านพ่อรำลึกถึงตลอดเวลา..”

“ ใช่คุณอุ่นเรือนคือแสงสว่างในชีวิตพ่ออย่างแท้จริง ... ว่าแต่ว่าตอนนี้เจ้าสาวของลูกอยู่กับใคร ทำไมแยกกันเดินเสียล่ะ..”

“ มะยมกำลังอยู่กับเจ้าย่าของเดือนส่องครับท่านพ่อ พอสักประเดี๋ยวจะออกไปเตรียมตัวในงานตอนเย็นแล้ว ลูกแยกออกมาดูว่าท่านพ่อต้องการอะไรหรือเปล่า... ”

“ ตอนนี้ไม่ต้องการอะไร... ลูกไปทำหน้าที่เจ้าบ่าวก่อนดีกว่า พ่อขอเวลาพักสักครู่เดี๋ยวจะเรียกเจ้าสยามให้พาลงไปเอง ”

หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณว่าต้องการอยู่เงียบๆ คนเดียวแล้ว ...

“ งั้นลูกลงไปก่อนนะครับ ...”

พออิสราเอื้อมมือปิดประตูหน้าห้องหนังสืออย่างแผ่วเบาแล้วหันหลังกลับเพื่อลงไปยังงานมงคลด้านล่าง แต่แล้วก็ต้องชะงักไปในทันทีที่มองเห็นยายน้อม แม่บ้านเก่าแก่ยืนใบหน้าซีดเซียว เหงื่อกาฬไหลย้อยเต็มหน้าละล่ำละลักอธิบายเรื่องราวจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง ...

“ มีอะไรป้าน้อม ใจเย็นๆ ค่อยๆเล่าว่าอะไร..”

“ ตอนนี้แม่พลอยใส ลูกสาวครูพลกำลังอาละวาดอยู่ที่เรือนกล้วยไม้ ... เรียกหาคุณชายโหวกเหวกน่ากลัวมากค่ะ ... เจ้าแสนเมืองให้น้อมมาตามคุณชายลงไปด่วนเลย ...”

“ ไป ไป ป้าน้อม...รีบไปเดี๋ยวนี้เลย...”


----------------------
กาหรือหงส์ ตอนที่ ๕๒ จบแล้วติดตามตอนหน้าใกล้จบแล้วจริงๆ ขอบพระคุณเพื่อนหนอนทุกท่านที่ติดตามกันมายาวนาน .. ถ้าเป็นไปได้อย่าลืมอุดหนุนรวมเล่มเรื่อวนี้ด้วยนะครับผม ..

นายอิส / เมฆชรา
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
๑๔ นาฬิกากว่าๆ







Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2553 13:47:16 น. 2 comments
Counter : 1015 Pageviews.

 


โดย: MaFiaVza วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:59:51 น.  

 
กลับมาแล้วหายไปน้าน นาน


โดย: chajee วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:25:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.