จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
มิถุนายน 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
29 มิถุนายน 2552
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ถึงแม้อากาศยามเช้าจะสดชื่นจนอยากจะออกไปสูดอากาศที่แสนสบายนั้นเข้าเต็มปอดเหมือนอย่างที่เคยทำทุกเช้าบนดาดฟ้าของคอนโดแห่งนี้อย่างไงมาวินก็หามีความคิดที่ทำแบบนั้นอีกไม่ คิดเป็นเพราะว่าเช้าวันนี้ไม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมานั่นเอง ... ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม ร่างกายสูงใหญ่กำยำจากการเล่นกีฬากลางแจ้งอยู่เป็นนิจยืดแข้งยืดขาเพื่อขับความเมื่อขบก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนที่ตั้งตรงกลางลาน ...
เสียงโทรศัพท์ที่คล้องคอดังขึ้นมาสามครั้ง มาวินเอี้ยวตัวหยิบขึ้นมาดูว่าเป็นเบอร์ของใครถึงได้โทรมาหาในเวลายามเช้าตรู่เช่นนี้ เพราะถ้าหากเป็นลูกน้องคนสนิทจะรู้ได้ในทันทีว่าเวลานี้ไม่ควรรบกวนเวลาส่วนตัวของเจ้านาย ... แต่เสียงเรียกเข้าเร่งเร้า กระชั้นชิด จนชายหนุ่มรู้ได้ว่าต้องมีเรื่องไม่ธรรมดากับใครบางคนที่ปลายสายเข้าแล้ว ... จึงหยิบขึ้นมาดูปลายสายเป็นใคร ... มาวินถึงกับตะลึงเมื่อรู้ว่าเป็นใครกำลังโทรมา ...
ฮัลโหล..ว่าไงมิย่า มีอะไรเหรอถึงโทรมาแต่เช้าตรู่ขนาดนี้..
วินหรือเปล่าคะนั่น ...
ใช่ผมเอง มีอะไรกันเหรอเสียงถึงสั่นขนาดนั้นมิย่า ... เมื่อวานผมไปตามหาคุณที่ร้านกาแฟเขาภูหลวง พนักงานในร้านบอกว่าคุณไปเที่ยวหัวหินกับคุณเหมียว กับเพื่อนอีกหลายคน ...
มาวินพยายามป้อนคำถามไป แต่อีกฝ่ายยังคงอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบพร้อมน้ำเสียงที่สั่นเครือเช่นเดิมว่า ...
ใช่ย่ามาเที่ยวหัวหิน กับเพื่อนๆ กับคุณสินธพ ... วินคงรู้จักดีนะ...
อะไรนะย่า ... คุณไปกับไอ้หน้าปลาจรวดนั่นได้ไง ... มันมีลูกมีเมียแล้วนะ รู้หรือเปล่า ...
ฉันรู้ ฉันรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ... แต่ก็ไม่แคร์หรอกว่าใครจะว่าอะไร คิดอะไร ...ช่างหัวมันเถอะ เอาอะไรมากกับชีวิตมากมายนักนะวิน ... ดูอย่างคุณสิเพชรแท้อยู่ในมือแท้ๆ กับทิ้งลงพื้นแล้วหยิบก้อนกรวดไม่มีราคาค่างวดขึ้นมาเชยชม แล้วหลอกตัวเองว่า นี่แหละสิ่งที่ตัวเองต้องการ ... ทั้งๆที่เวลาอยู่ในสังคม มันคนละเรื่องกัน...
นี่มิย่า ... ผมไม่รู้ว่าคุณไปรับรู้ข่าวอะไรมา แต่ผมขอบอกก่อนนะว่าอย่าไปละลาบละล้วงถึงบุคคลอื่นๆ จะคุยกับผมก็พูดถึงผม หรือคนรู้จักอะไรก็ ได้ ... ไม่ต้องพาดพิงถึงใครคนไหนอีก เข้าใจนะย่า ...
แต่ก่อนวินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยงั้นแสดงว่าที่คุณเอานังโสเภณีพลัดถิ่นที่ชื่อเดือน ๆ ดาว ๆ อะไรนั่นน่ะเป็นเรื่องจริง
ถ้าผมตอบว่าใช่ คุณคงไม่เชื่อ เอาเป็นว่าผมกับดาวกำลังอยู่ในช่วงคบหาดูใจกัน ... โอเคมั้ยย่า...
วินขา ... ทำไมคุณถึงคิดสั้นไปเอานังเด็กต่ำๆ นั่นมาแทนย่าล่ะ ..
ไม่มีใครแทนใครน่ะย่า ผมชอบดาว รักดาวอย่างจริงใจ ... และที่สำคัญเธอเป็นคนดี ไม่มีพิษภัยกับใคร แต่บังเอิญอาภัพโชคถูกคนรังแกอยู่ตลอดเวลา ชีวิตเลยต้องตกต่ำ .. ไม่มีวันลืมตาอ้าปากอะไรได้เลยในชีวิต ...ถ้าหากผมไม่ช่วยเธอออกมาจากนรกนั่น ... เราอาจจะเสียคนดีๆในสังคมไปก็ได้ ...
อ้อ ... ที่แท้เป็นความรักที่เกิดจาดความสงสารนั่นเอง ... รัศมิยาหัวเราะร่วนคล้ายเยาะเย้ยถากถางกลายๆ
ไม่นะย่า ... ผมเห็นเธอครั้งแรกก็รู้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้แหละที่ผมจะอยู่ด้วย แก่เฒ่าด้วยกันไปตลอดชีวิต...
แต่ย่าว่าตอนนี้คุณกำลังหลงอยู่นะคะวิน ... คุณจะมีความสุขกับความแตกต่างได้ยังไง ... นังโสเภณีนั่นมันคนละชั้นกับพวกเรา มันหาเช้ากินค่ำ มันเห็นเงินสิบบาทยี่สิบบาทเป็นเรื่องใหญ่โต แต่สำหรับสังคมพวกเราแค่นั่นมันเศษเงิน พวกเราต้องสิบล้าน ร้อยล้ายถึงจะมาพูดคุยกัน ...
โธ่มิย่า ... งั้นแสดงว่าตั้งแต่เราคบกันมานานหลายปี คุรไม่เคยเข้าถึงความคิดผมเลย ...
อะไรกันวิน ... ย่าก็ทำทุกอย่างๆที่วินต้องการแล้วนี่นา ... จะเอาอะไรอีก..
คุณยังขาดความเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา รากหญ้าเดินดินกินข้าวแกงไงล่ะย่า ... คุณกินก๋วยเตี๋ยวข้างถนนกับผมได้ไหม คุณไปบริจาคอาหารที่บ้านพักคนตาบอดกับคนชราวัดม่วงได้ไหมล่ะ ... ตอบผมมาหน่อยสิ...
ใช่ย่ายอมรับว่ารังเกียจสิ่งที่วินพูดมา ย่าคงทำไม่ได้เหมือนอีนังเด็กวิกตอเรียนั่น ...
เวลาคุยกับผม อย่าไปพาดพิงถึงคนอื่น ... เข้าใจมั้ยย่า...ผมไม่ชอบ...
รู้ค่ะรู้คุณมาวิน ... เดี๋ยวนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วนี่นา ... ย่าควรสำนึกเอาไว้ใช่ไหม ... รัศมิยาปล่อยโฮออกมาอีกรอบ พร้อมเสียงสะอื้นที่มาวินฟังดูน่าสงสารอดีตคนรักอย่างบอกไม่ถูก จึงปลอบไปว่า ...
ผมไม่ได้หมายความว่ายังงั้นสักหน่อยย่า ...
ไม่ต้องมาปลอบย่าแบบฝืนทนหรอก ... ต่อไปก็ปล่อยให้ย่าเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว ... คุณมีความสุขกับคนที่รัก แล้วย่าล่ะวิน ... ย่าจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีคุณ ชีวิตที่เลือกทางดีมาตลอด พอเจอคุณย่าก็มีความหวัง .. มีอนาคตที่ดีงามรอข้างหน้า ... แต่พอวันเวลาผ่านไป ... คนที่เปลี่ยนแปลงไปกลับเป็นวิน ... ทั้ง ๆ ที่เราสองคนเคยสัญญาต่อหน้าท่านย่าโมว่าจะอยู่กันจนแก่เฒ่า ไม่แยกจากกันไปไหนอีกแล้ว ... วินจำวันเกิดของวินวันนั้นได้ไหม...
หญิงสาวไม่ได้ยินคำตอบในทันที แต่พอเวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่กลับได้ยินเสียงถอนหายใจดังมาจากปลายสายแทน ..
ฟังผมนะมิย่า ... คุณไม่ต้องขุดเอาเรื่องเก่าๆมากระตุ้นเตือนผมหรอก ... ตลอดเวลาที่เราคบหากันคุณคงไม่รู้หรอกนะว่า ผมรู้เรื่องที่คุณไปนอนกับใครต่อใครมากมายหลายคน จนลูกเมียเขามาอาละวาดก็ตั้งหลายครั้ง ... นี่ไงล่ะสาเหตุที่ผมเลือกที่จะเดินจากคุณไปเพราะคุณไม่เคยซื่อสัตย์กับผมในทุกครั้งที่ผมเผลอหรือไปดูงานต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ...
บ้า บ้าที่สุด ... วินเอาอะไรมาพูด... ย่าไม่เคยไปไหนนอกจากร้านกาแฟของเราสองคนเท่านั้น...
ถ้าจะบอกว่าผมมีหลักฐานเป็นวีดีโอ ... คุณจะตกใจไหมมิย่า...
อะไรนะวิน ... คุณไปจ้างนักสืบเอกชนติดตามตัวชั้นหรือนี่ ... รัศมิยาแทบร้องกรี๊ด เอามือทาบอกด้วยความตกใจ
ผมเพียงแค่อยากจะรู้เรื่องราวบางอย่างก็เท่านั้นมิย่า ... ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ก็คุ้มแสนคุ้ม ... ผมดีใจกับคุณด้วยนะที่สามารถจับนายสินธพได้ ถึงแม้ตอนนี้มันอาจกำลังหลอกคุณว่ากำลังจะหย่าเมีย แล้วลูกๆสองคนไม่ได้เป็นภาระ..
รัศมิยาได้ฟังเรื่องราวจากปลายสายแทบจะร้องกรี๊ดออกมาให้ลั่นห้องไป แต่ก็ติดตรงที่สินธพกำลังหลับสบายอยู่ข้างๆ นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข ... ปล่อยให้หญิงสาวรับฟังเรื่องบ้าๆ อะไรอยู่ก็ไม่รู้ ....
ไม่จริง ... วินโกหกใช่ไหม...
ผมจะหลอกคุณไปทำไมย่า ... คุณก็ลองเถียงผมสิว่ามันไม่จริง เป็นเรื่องที่สายสืบผมเข้าใจผิดจากภาพในกล้องวงจรปิด และภาพถ่ายอีกเป็นร้อยเป็นพันนั่นอีกล่ะ ....
ฮือ ๆ ๆ ๆ คุณใจร้ายมากเลยนะวิน ... ทำไมเราไม่คุยกันดีๆ บอกย่ามาสิว่าไม่พอใจอะไร จะได้ปรับปรุงให้ถูกใจไงล่ะ ... แต่วินต้องรู้อยู่อย่างหนึ่งนะว่าที่ย่าเป็นแบบนี้ก็เพราะใคร ... ไม่ใช่เพราะไอ้การงานที่คุณทุ่มเทจนไม่เป็นเวล่ำเวลา พอกลับมาที่คอนโดคุณก้เอาแต่นอน ... ยิ่งพักหลังคุณห่างเหินมิย่าไปเหมือนเป็นคนละคนกับคนก่อนๆ ... ถ้าคุณเป็นย่าคุณจะทำยังไงถ้าไม่ทำวิธีนี้ ...
วิธีการที่คนรุ่นใหม่เรียกว่าสวมเขาผม และเป็นชู้กับผัวชาวบ้านกันทีละหลายๆคนงั้นเหรอย่า ...
กรี๊ด ๆๆ ..คุณดูถูกย่าแบบนี้ได้ไง ... ย่าไม่ยอมนะ...
เฮ้อ ... เอาล่ะไหน ๆ ก็ได้เจอได้คุยและได้เปิดอกอะไรกันมาเยอะแล้ว ... ผมจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่คุณมีให้ผมด้วยดีมาตลอด เอาไว้วันหลังจะยกวีดีโอทั้งหมด รวมทั้งภาพอุจาดตาพวกนั้นให้คุณไปทั้งหมดเลย ถือว่าเราสองคนเจ๊ากันไป ถ้าเป้นไปได้อย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย ... ส่วนหุ้นส่วนร้านกาแฟกับร้านเค้กในห้าง ผมก็ยกให้เป็นของขวัญการคบหากันของคุณกับเจ้าสินธพ ... อ้อ ... อย่าลืมไปบอกนายสินธพที่กำลังนอนข้างๆ คุณด้วยว่าการเข้าหาผู้หญิงแล้วใช้เจ้าหล่อนเป็นเครื่องมือแบบนี้ ... เขาไม่เรียกว่าลูกผู้ชายหรอกนะ ... โชคดีนะมิย่า ..ผมขออวยพรให้คุณมีความสุขตลอดไป ...
เดี๋ยวก่อนสิวิน ... เดี๋ยวสิเดี๋ยว ... โธ่ วางสายไปแล้ว ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ ...คนใจร้าย...
รัศมิยากระแทกโทรศัพท์ลงบนเตียงด้วยความรันทดใจ ร้องไห้คร่ำครวญออกมาอย่างเสียงดัง ไม่กลัวสินธพที่นอนร่างเปลือยอยู่บนที่นอนจะรับรู้เสียงร้องไห้ของหัวใจที่แตกสลายอีกต่อไปแล้ว ... ร่างขาวโพลนสูงใหญ่พลิกผ้าห่มไว้พันกายแล้วยันตัวลุกขึ้นมา สีหน้างัวเงียยังไม่ตื่นจากการนอนดี เอ่ยถามด้วยความงุนงงว่า ...
เกิดโลกแตกอะไรขึ้นเหรอมิย่า ...ทำไมร้องไห้ฟูมฟายตาแดงซะขนาดนี้...
ไป ไป ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ... ฉันจะไปอาบน้ำและกลับกรุงเทพเดี๋ยวนี้แล้ว...
อะไร ... เป็นอะไรกันอีกนี่คุณ..
สินธพมีสีหน้าท่าทางงุนงงกับปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก่อนจะเดินโทงๆ ไม่มีอาภรณ์ติดกายเข้าไปอาบน้ำร่วมกับหญิงสาว ซึ่งวิธีการนี้ชายหนุ่มบอกกับตัวเองว่ามันใช้ได้ผลกับผู้หญิงช้ำใจมาหลายคนแล้ว ....
----------------------------------------
แม้จะมองเห็นว่ารถราวิ่งผ่านไปมาจนตาลายไปหมด แต่ร่างบางก็พยายามหยัดตัวให้พิงเสาไฟฟ้าให้ได้ ถึงอาการเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัวจะพยายามฟ้องตลอดเวลาว่าให้หาที่หยุดนั่งพักก่อน แล้วค่อยทำอย่างอื่นต่อไปก็ตามเถอะ ...
ดาวเซทรุดไปพิงกับป้ายรถเมล์ที่มองเห็นตรงหน้า ซึ่งก็นับว่าโชคดีแล้วที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่คนงานในโรงงานใหญ่ใกล้ๆที่หญิงสาวยืนอยู่จะออกมาจากที่นั่น กันในกะค่ำกะนี้ ... บาดแผลจากการถูกรุมทำร้ายยังปวดหน่วง ๆ ไม่หาย .... สภาพใบหน้าที่เริ่มจะเขียวคล้ำและบวมพองกำลังแสดงออกมา .... ทุกอย่างดูเลวร้ายที่สุดในวันนี้เพราะความอาฆาตแค้นของคนเพียงสองคนเท่านั้น ...
พอคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสักครู่ใหญ่ที่ผ่านมา ... ดาวถึงกับปล่อยให้น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาเป็นทางอาบสองแก้มนวลโดยไม่เช็ดเลย ... ถ้าถามความเห็นนางสุนีย์กับสาลินีว่ารุมทำร้ายตนเองทำไม ... ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้รับคำตอบที่แท้จริงกลับมาหรือเปล่า เพราะการที่คนทั้งสองพาชายฉกรรจ์ไม่ต่ำกว่าสี่คนเข้ามาประทุษร้ายถึงในบ้านแทนคุณ
มันเป็นเรื่องไม่ธรรมดาเลยถ้าคนทั้งหมดไม่มาอย่างประสงค์ร้ายเต็มที่ ...
แต่ก็นับว่ายังดีที่ป้าแก่คนเหงาข้างบ้าน ได้เห็นภาพคนหมู่มากกำลังรุมทำร้ายสาวน้อยบอบบางอย่างอยุติธรรม จนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดถ้าตนเองไม่ทำการอะไรไปสักอย่าง ... ความคิดแรกแว่บเข้ามาในหัวของหญิงชราก็คือต้องเรียกยามรักษาการณ์ที่หน้าหมู่บ้านให้มาช่วยหญิงสาวเพื่อนบ้านเคราะห์ร้ายโดยเร็วที่สุด เท่าที่จะเร็วได้ ....
ในตอนนั้นดาวรับรู้แต่ว่านางสุนีย์บริภาษตนเองอย่างแสบร้อน พร้อมกับยกปืนขึ้นมาเล็งที่ขมับ พร้อมกับขู่เอาไว้ว่า...
จำเอาไว้ใส่กะโหลกหนา ๆ ของแกเอาไว้เลยนะอีขี้ข้า ... ว่าชาตินี้มึงจะไม่มีทางได้เป็นลูกหลานกู หรือแม้แต่สะใภ้อย่างที่ฝันไว้ก็อย่าหวัง ...
สาลินีที่ยืนตัวแข็งอยู่ข้าง ๆ หลับตาปี้กลัวเจ้ารีวอลโว่สีดำทะมึนจะลั่นออกมา ...
แม่จะยิงนังสกปรกนี่เหรอ ...
ฉันเป็นแม่แก ฉันรู้อะไรควรไม่ควร ...
แต่แม่จะเป็นฆาตกรฆ่าคนตายนะ ... นี่กลัวน่ะแม่ ...อย่าทำเลยนะจ๊ะ...
นางสุนีย์หัวเราะออกมาอย่างสะใจ ก่อนจะ ก้มมองร่างที่ถูกซ้อมมาอย่างสะบักสะบอมของหญิงสาวแล้วหัวเราะอย่างสะใจอีกครั้ง คราวนี้มันบาดลึกเสียดแทงความรู้สึกดาวอย่างแท้จริง ... สาลินีโบกมือให้ชายฉกรรจ์ท่าทางไม่เป็นมิตรออกไปนอกบ้านก่อน ... แต่ตัวเองกลับมายืนจ้องปืนที่อยู่บนขมับศัตรูหัวใจกึ่งอยากดูกึ่งกลัว แต่มิวายที่จะวี๊ดว้ายออกมาเป้นพัก ๆ
แม่จ๋า ... นี่ว่าอย่าฆ่านังดาวมันเลย ... ถ้ามันตายก็เท่ากับเราฆ่าหลานในสายเลือดเราไปนะแม่...
เชอะ ..ใครไปนับญาติว่าลูกมันเป็นหลานชั้นไม่ทราบ ... ฉันกำลัง จะฆ่ามันให้มันตายไปจากครอบครัวเรา แทนคุณจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น อนาคตสวยงามกำลังรอเขาอยู่ ไม่ใช่มาจมปลักกับโคลนเลนสกปรก ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีวันได้โผล่พ้นน้ำแน่ๆ ... นี่เสียดายที่รู้ช้านะ ถ้ารู้เร็วกว่านี้รับรองว่า มันแหลกคาร้านคาราโอเกะเน่าๆพรรณนั้นไปแล้ว ...
นางสุนีย์แกว่งปืนไปมาน่าหวาดเสียว โดยที่มือข้างหนึ่งจิกผมหญิงสาวจนหน้าหงาย ก่อนจะพูดต่อไปว่า ...
นี่นนนี่ ... ฉันขอถามแกสักหน่อยว่าแกจะยอมรับนังสารเลวคนนี้มาเป็นญาติแกเหรอ ... ถ้าแกรู้ว่ามันเคยเป็นเมียพ่อแกตั้งแต่อายุสิบสี่ แถมยั่วให้ท่าจนเกิดเรื่องวันนั้นที่พ่อแกแทบตายเพราะถูกยิงเข้าที่ท้อง รักษาหมดไปหลายแสน ... ก่อนที่มันไม่รักดีชอบใจบุญให้ทานด้วยร่างกายไว้เป็นของสาธารณะ .... ใครมีเงินก็ได้ขึ้นสวรรค์ไปกับมันด้วยเงินไม่กี่ร้อย ... แบบนี้เหรอที่แกจะให้มันมาเป็นพี่สะใภ้ ... ฉันขอถามหน่อยสิ ...
แต่แม่ก็ทำเกินไป ... ดูมันสิน่าสงสารออก ...
นนนี่ ... ฉันเลี้ยงแกมาไม่ได้เพื่อจะให้มาอ่อนแอเหละแหละใจอ่อนแบบนี้ ... แกเป็นลูกที่ฉันรักที่สุด ขอให้ได้สักครึ่งในสิ่งที่เป็นก็พอ .. แม่ไม่ขออะไรมากแล้วในชีวิตนี้ ...
นี่เข้าใจแม่ดี ...
สาลินีหยุดคำพูดเอาไว้แค่นั้นยืนเฝ้ามองผู้เป็นแม่กวัดแกว่งปืนไปมาอย่างหวาดเสียว ก่อนจะตกตะลึงเมื่อนางสุนีย์เปลี่ยนใจเก็บปืนไว้ข้างตัวแล้วพูดว่า ...
ฉันว่าเปลี่ยนใจดีกว่า...
แม่เรากลับกันเถอะดูสิ ...นังดาวมันสลบไปกองกับพื้นไปนานแล้ว...
ก่อนที่ทั้งสองจะมองเห็นว่าดาวได้นอนสลบจากการถูกซ้อมมาอย่างหนักแล้วได้ลงไปนอนกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว เสียงเอะอะก็ดังมาจากจากข้างนอกพร้อมความโกลาหลเกิดขึ้นมากลายๆ ... ชายผิวดำคล้ำร่างสูงใหญ่ ไว้หนวดไว้เคราดูน่ากลัวท่าทางไม่เป็นมิตรกับใครในโลกได้โผล่พรวด หน้าตาตื่นวิ่งเข้ามาแล้วละล่ำละลักว่า ...
คุณนีแย่แล้ว ...ไอ้ทัพที่ยืนดูลาดเลาตรงสี่แยกหน้าหมู่บ้านมันบอกว่า รถตำรวจกำลังตรงมาทางนี้ ... ผมว่าเรารีบเผ่นกันเถอะ ประเดี๋ยวจะซวยกันไปหมด ... ผมยังไม่อยากจะเข้าไปตารางตอนนี้...
สาลินีเอามือทาบอก ใบหน้าซีดด้วยความตกใจที่เหตุการณ์ร้ายๆกำลังจะกลับมาลงโทษพวกตนเอง ก่อนจะตอบว่า...
เรากลับกันเถอะแม่ ..นี่ยังไม่อยากจะเป็นข่าวหน้าหนึ่ง...
ไป ไป นายโผน เอารถออกเดี๋ยวนี้เลย ...
ครับ ... งั้นเรารีบไปกันเถอะ...
นางสุนีย์เดินลิ่วออกไปนอกบ้านพร้อมกับนนนี่อย่างรวดเร็วทำเวลาแข่งกับตำรวจที่จะเข้ามาตรวจตราความเรียบร้อยตามคำแจ้งความของยายพลเมืองดีข้างบ้าน ... พอเสียงบดล้อของกลุ่มนางสุนีย์เคลื่อนออกไปอย่างรวดเป็นจังหวะเดียวที่สติสัมปชัญญะของหญิงสาวได้ฟื้นคืนกลับมาในทันทีทันใด ....
ดาวหันซ้ายหันขวาจนเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทุกอย่างได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือร่องรอยการรื้อค้น ทำลายข้าวของ และความปวดระบมไปทั่วร่างกายยังคงมีให้ได้รู้สึก .... ประสาทสัมผัสที่หกรับรู้และสั่งการแบบปัจจุบันทันด่วนว่าต้องหนีออกไปจากบ้านหลังนี้ให้เร็วที่สุดไม่ว่าจะอยู่ในสภาพร่างกายเป็นยังไงก็ตามที...
หญิงสาวเดินลัดเลาะตามทางเล็กแคบพอให้รถสองคันวิ่งผ่านได้ในหมู่บ้านออกไปถึงถนนใหญ่ ก่อนจะไปหยุดตรงป้ายรถเมล์ใกล้ๆ โรงงานทำปลากระป๋องที่มีพนักงานร่วมสามพันคน ....
----------------------------------------
หลังจากได้แวะเวียนไปไถ่ถามหาหญิงสาวอันเป็นดวงใจที่ร้านคาราโอเกะวิกตอเรียตรงหัวมุมโค้งใกล้โรงแรมชื่อดัง มาวินก็ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนทุกครั้งนั่นก็คือ ... ดาวไม่ได้มาที่นี่ และไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ... ตั้งนานแล้ว ...
แต่ความพยายามในทุกวันก็ไม่ได้สูญเปล่า เพราะในการมาที่นี่ทุกครั้งมักจะได้รับการต้อนรับจากสาวน้อยตาคมชาวใต้ได้มารายงานข่าวคราวของหญิงสาวอยู่เป็นระยะ และทุกครั้งด้วยเช่นกันที่ชายหนุ่มมักจะมีของขวัญของฝากติดไม้ติดมือมาไว้ให้พนักงานในร้านอยู่ไม่ขาด ...
วันนี้เป็นอีกวันที่มาวินว้าเหว่ใจ ... จะด้วยไม่มีใครให้ได้ถามแม้แต่สาวน้อยตาคมคนเดิม เพราะร้านวิกตอเรียปิดประตูที่หน้าร้านพร้อมประกาศเอาไว้ว่าจะเดินทางไปทำบุญที่จังหวัดศรีสะเกษเป็นเวลาสามวัน ... ชายหนุ่มจึงหิ้วขนมหวานและของฝากอีกจิปาถะกลับมาขึ้นรถดังเดิม พร้อมหัวใจที่ห่อเหี่ยว ท้อแท้ ในการตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก ...
หลังจากเหตุการณ์ที่คอนโดในคืนวันนั้น ... มาวินไม่นึกคิดเลยว่าผู้หญิงอย่างดาวจะใจเด็ด ผละหนีหายไปจากชีวิตตนเองอย่างไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้เลย ไม่ว่าจะพลิกแผ่นดินเมืองโคราชออกตามหายังไงก็ตามที ก็ไร้เงาของหญิงสาว ...
ชายหนุ่มรับรู้ถึงความผูกพันที่เกิดขึ้นอย่างแสนหวาน ละมุนละไม ประทับตราไว้ในความทรงจำตลอดไปของค่ำคืนที่แสนพิเศษ ยังวนเวียนก้องอยู่ในหัวสมองอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่เกมสวาทที่ผ่านมาตนเองก็ช่ำชองมากพอสมควร ... แต่กับดาว ไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงอยากจะลิ้มชิมรสหอมกรุ่นจิตอยู่ได้ ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเหมือนกับผู้หญิงสาวสวยมากหน้าที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางความรัก ....
รัศมิยานั่นก็อีกคน ... บทรักที่เร้าร้อนและความรุนแรงที่โหมเข้าโรมรันทำเอามาวินเพ้อไปอยู่พักใหญ่ แต่พอเวลาผ่านไปนานสองสามปี ชายหนุ่มกลับไม่รู้สึกอยากจดจำ และกระทำแบบนั้นอีกต่อไปอีกแล้ว ... ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร จนเพื่อนฝูงบางคนถึงกับแซวมาว่าความรักของมาวินกับรัศมิยามาถึงทางตัน และกำลังเหมือนยาที่รอวันเวลาหมดอายุ ... ซึ่งความจริงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำ ... หญิงสาวสวย รวยเด่นดังมากหน้าหลายตา ทั้งที่มีพันธะและไม่มีพันธะต่างดาหน้าเข้ามาให้บริการกับชายหนุ่มเนื้อหอมแห่งเมืองใหญ่ภาคอีสานกันคับคั่งหนาตา ....
สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เลือกใครเป็นจริงเป็นจังสักคน มีแค่คบหาควงไปตามงานเลี้ยงต่าง ๆ ก็คือสาวสวยหยดย้อยที่ชื่อรัศมิยาคนนี้คนเดียว ... แต่ก็อย่างที่บอก ความรักก็เหมือนนมแก้วหนึ่ง ที่พอทิ้งเอาไว้นานจนลืม มันก็บูดเน่าเสีย ... ไร้ราคาเหมือนตอนที่เทลงแก้วครั้งแรก ...
เสียงเครื่องยนต์ดังหึ่ง ๆ จนราบเรียบปกติ บอกให้มาวินรู้ว่าตอนนี้ได้ออกมานอกเมืองมาไกลโขแล้ว ... จุดหมายปลายทางที่ไม่ได้คาดคิดไว้ผุดขึ้นมาให้ได้มากมายหลายที่ แต่เพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน ตามนโยบายช่วยชาติของรัฐบาลยังมีที่ที่หนึ่งที่ชายหนุ่มคิดไว้นานแล้วว่าจะแวะเวียนไปให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปเสียที อาจจะเป็นเพราะไม่มีเวลาหรือนึกคิดแต่เรื่องส่วนตัวมากเกินไป จนลืมความฝันอันหนึ่งที่อยากจะทำมานานแสนนานแล้ว ....
พอรถเลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ ที่มีต้นหญ้าขึ้นทึบท่วมไปจนเกือบมองไม่เห็นทาง ตัวรถสปอร์ตหรูถึงกับกระเด้งกระดอนไปตามเส้นทางที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อไปตลอดทาง .... พอพ้นโค้งถนนตรงหน้าก็เข้าสู่เวิ้งฟ้ากว้างจนมองเห็นผืนน้ำไกลสุดลูกหูลูกตา .... มาวินระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่ตามหาจุดหมายปลายฝันได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ... รถสปอร์ตที่ตอนนี้ฝุ่นเกาะเกรอะกรังไปทั้งตัวรถจอดเทียบสนิทบนลานกว้าง ๆ ที่ตอนนี้มีสองชายหญิงวัยกลางคนยืนเตรียมพร้อมต้อนรับด้วยท่าทีที่เป็นมิตรยิ่งนัก ....
บ้านที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกระต๊อบไม่ใหญ่ไม่เล็กที่ปรากฏอยู่ทางด้านหน้าของมาวินในตอนนี้ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับทึ่งจัดในการจัดวางองค์ประกอบที่เรียกว่าความเรียบง่ายแต่มากประโยชน์ ... เพราะตัวบ้านที่เรียงรายด้วยไม้ประดับหลากชนิดจัดวางคู่กับก้อนหินน้อยใหญ่เรียงรายไว้อย่างน่าดูชม ... เสียงน้ำพุดังค่อยๆในตัวบ้านบอกให้รู้ว่าเจ้าของบ้านมีอารมณ์สุนทรีย์และมากรสนิยมสักแค่ไหน .... มาวินยกมือไหว้คนทั้งสองแล้วเดินตามไปซุ้มต้นพวงแสดที่กำลังออกดอกสีส้มบานสะพรั่งเต็มต้น ส่งกลิ่นหอมพิเศษชวนไหลหลงเข้ามาแตะจมูกจนต้องย่นเอามือปิดไว้บ้าง ...
คุณวินคงไม่คุ้นกลิ่นเจ้าพวงแสด ... มันหอมดีนะครับ...
เอ่อ ...ก็หอมใช้ได้ ... แต่ผมอาจจะไม่คุ้นกับกลิ่นของมันก็เป็นได้ครับลุงแสน...
นั่นสิคะ...ดูคุณวินท่าจะไม่เคยออกมาข้างนอก สูดอากาศโล่งๆ แบบบ้านท้ายอ่างนี่...
ผมอยู่แต่ในอาคารที่มีแอร์คอนดิชั่นตลอดวัน ... พอเย็น ๆ ยังต้องเล่นกีฬาในห้องที่ติดแอร์อีก แถมพอจะนอนก็นอนหลับไม่ลงถ้าไม่เปิดเจ้าทำความเย็นตัวนี้อีกครับ ... เฮ้อ...ชีวิตคนในเมืองก็อย่างนี้แหละครับลุงแสน ป้าแก้ว วัน ๆ มันก็หมุนเวียนไปอย่างนี้แหละ ... ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะเรื่องหนีไปจากเจ้าแอร์พวกนี้ ... อย่างที่ตั้งใจไว้ไงครับลุงป้า ....
มาวินเล่าเรื่องราวของตนเองให้ทั้งสองลุงป้าด้วยใจที่เป็นสุข พลางยื่นมือไปรับน้ำหวานสีเขียวใสส่งกลิ่นอายโซดา พร้อมน้ำแข็งที่ระไอความเย็นลอยขึ้นมาเหนือแก้ว ดูน่ารับประทานในสภาพอากาศร้อนแบบนี้ ...
เราสองคนก็รอคุณวินมาอยู่นานแล้วเหมือนกัน ... เมื่อวันก่อนโทรไปบอกคุณสุเทพ ผู้ช่วยของคุณก็ได้คำตอบไม่น่าพอใจนัก เห็นเขาพยายามจะเล่าว่าธุรกิจหลายอย่างของคุณกำลังจะดิ่งลงเหว เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อบ้านจัดสรรน้อย ... แถมวัสดุอุปกรณ์ก็ขึ้นราคาเอากันยกใหญ่ ..และที่สำคัญวงการบ้านจัดสรรในเมืองโคราชการแข่งขันก็สูงมาก ยิ่งตอนนี้บริษัทเดินรถยักษ์ใหญ่ของประเทศก็กำลังจะโดดลงมาลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกเจ้าหนึ่งด้วยแล้ว ... ผมฟังไปมันชักทะแม่งๆยังไงก็ไม่รู้สิคุณวิน ....
นายแสนพยายามเล่าความคิดที่ตนเองได้พบเจอขณะจะขอพบเจอหรือพุดคุยกับมาวินที่บริษัทให้ชายหนุ่มฟัง แต่คำตอบที่ได้รับทำเอาชายชราถึงกับอึ้ง มองดูคล้ายบริษัทของมาวินกำลังจะล้มสลายไปพร้อมกับต้มยำกุ้งรอบที่สอง
ต้องขอโทษแทนเขาด้วยที่ทำกิริยาไม่ดีกับลุง ... ตอนนี้ผมไล่นายสุเทพออกไปเรียบร้อยแล้วครับลุง...
อ้าวงั้นเหรอ ..ทำไมเป็นยังงั้นล่ะคะคุณวิน...
ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับป้า แค่ผมจับได้ว่าเขาปล่อยข้อมูลบริษัทไปให้คู่แข่งตั้งหลายครั้งแล้ว ... จนยกระทั่งผมมาระแคะระคายเอาเข้าจริงๆก็เมื่อเพื่อนที่ธนาคารโทรมาบอกว่าโครงการประมูลบ้านแถวการเคหะ ... ผมยื่นซองไปไม่ทัน ทั้งๆที่ได้สั่งล่วงหน้าไปเกือบสองเดือน ... เขาเค้นเอาความจริงจากหลักฐานว่าเขาเข้ามาบริษัทตอนดึกๆเสมอๆ ก่อนจะกลับออกไป พร้อมเอกสารปึกใหญ่ ... เมื่อจำนนด้วยหลักฐานเช่นนี้ ผมเลยให้ทางเลือกเขาสองทางคือ จะลาออกจากบริษัทโดยไม่ได้เงินเดือนหรือโบนัทอะไรเลย กับจะถูกล็อกตัวไปเพราะตำรวจจากกองเมืองมาลากไป ... เขาเลือกอย่างหลังครับ...
ว้า ...ไม่น่าเชื่อนะครับ .. คุณสุเทพนี่เห็นจะอยู่กับคุณวินมานานแล้ว...
ใช่ครับลุง เขาอยู่มาตั้งแต่ผมเปิดบริษัทใหม่ๆ ตอนนั้นสำนักงานเล็กตั้งอยู่ใกล้วัดปาสาละวันไงครับ...
นี่แหละน่า ... ความโลภของคนไม่เข้าใครออกใครเลยจริงเชียว ... ขนาดคุณสุเทพที่ธรรมะธัมโมออกปานนั้นก็เหอะ..ไม่วายถูกกิเลสเข้าครอบงำ น่าเสียดายคนดีๆ มาเสียคนตอนแก่ เพราะความโลภตัวเดียวแท้ ๆ ...
ไหนเรื่องก็ผ่านไปแล้ว ก็ช่างมันเถอะครับ ... ลุงป้าเตรียมผังไร่ที่ผมฝากร่างไว้หรือยังครับ...
นายแสนเด้งตัวออกจากม้านั่งแล้วเดินเข้าไปในบ้านครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกระดาษพิมพ์เขียวแผ่นใหญ่กางลงที่โต๊ะพร้อมกับเกริ่นออกมาว่า ...
มัวนอกเรื่องตั้งนาน ลุงขอโทษคุณวินด้วย ... ผมจะอธิบายระบบน้ำหยดในไร่เสมอดาวให้คุณฟังคร่าวๆนะครับ ..
เริ่มเลยดีกว่าครับลุง ...
พื้นที่ที่ผมจัดโซนเอาไว้ทั้งหมดห้าโซนตามแปลนอันนี้จะฝังท่อไว้ใต้ดินทั้งหมดเหมือนกับระบบไฟฟ้าในทั้งไร่ จะมีแค่ในเรือนคนงานกับโรงเก็บเครื่องมือที่ต้องเดินสายไฟฟ้าลอยไว้เผื่อจะแก้ไขในวันหน้า ถ้าคุณวินไม่ชอบแบบเดิมๆ ...
นี่คือแปลนไร่เสมอดาวทั้งห้าสิบไร่ใช่ไหมครับลุงแสน...
มาวินวาดมือไปบนพิมพ์เขียวอย่างเบามือ ... ความตื้นตันล้นปรี่ขึ้นมาจุกอก ไม่คิดนึกว่าที่ดินรกร้างว่างเปล่าที่ตนเองได้ซื้อไว้เมื่อตอนขึ้นเหนือคราวนั้นจะสานต่อความฝันอันเฉิดฉาย จนเป็นจริงได้อย่างที่ใจนึกคิดในวันที่ใกล้ถึงจุดอิ่มตัวทางธุรกิจ ... อา..ไร่แห่งความฝันกับคนรู้ใจที่จะหยุดเวลาไว้ด้วยกันตรงนั้น ...
ครับทั้งหมดห้าสิบสองไร่ ... แต่ถ้าเราซื้อที่ข้างๆก็จะได้เพิ่มมาอีกเท่าตัว ...
ตอนนี้ผมว่าเราพอแค่นี้ก่อนดีกว่า ...ไว้ไปถึงที่นั่นค่อยคิดกันอีกที ผมพอจะรู้ว่าชาวบ้านแถบนั้นต้องการขายที่ที่ตนเองมีอยู่แทบจะทุกเจ้า เพราะทนการบีบคั้นนายทุนเจ้าของไร่ส้มไร่ติดกับเราไม่ไหว ...
คนที่นั่นลำบากเรื่องนายทุนบุกรุกที่ป่าอย่างนั้นเหรอครับลุงแสน... นายแสนหยิบแก้วที่พร่องไปของมาวินขึ้นไปเติมน้ำหวานที่ด้านในของกระท่อม เป็นจังหวะเดียวที่นางแก้วเอ่ยอธิบายแทนมาว่า ...
ค่ะคุณวิน ... ชาวบ้านจะทนนายทุนหน้าเลือดกันไม่ไหวแล้ว ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่พวกมันพ่นยาฆ่าแมลง ... บนดอยเขาเสมอดาวจะคลุ้งไปด้วยกลิ่นสารเป็นพิษ .. ไม่น่าอยู่เลยสักนิด...
ฮืม ... น่าคิด น่าคิด ถ้าผมได้ไปอยู่ที่นั่น คงได้ต่อสู้กับนายทุนพวกนี้เป็นแน่ ... ชายหนุ่มเปรียบเปรยไว้ด้วยท่าทีขึงขัง แต่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันที่มีมาพร้อมกันในน้ำเสียง ...
ป้าก็เชื่อว่าคุณวินทำได้อยู่แล้ว ... ว่าแต่ว่าบ้านเสมอดาวที่ให้ลุงออกแบบไว้ต่างหาก คุณวินจะให้ใครไปอยู่เหรอคะ
เธอเป็นคนพิเศษของผม ...
คนพิเศษคนนี้เรียกว่าแฟนได้หรือเปล่าคะ...
นางแก้วยั่วยิ้ม ... พร้อมกับรับแก้วน้ำจากนายแสนที่กลับมาคราวนี้มีกล้วยน้ำว้าหวีใหญ่กับม่ะมวงถุงใหญ่วางกองไว้ที่พื้นเตรียมเอาขึ้นรถถ้ามาวินกลับไปหลังจากการสนทนาในวันนี้ ชายหนุ่มตาคมระบายยิ้มออกมาเช่นกัน เข้าใจในคำถามของอีกฝ่ายที่จงใจจะถามว่าหญิงสาวที่จะไปอยู่ที่ไร่เสมอดาวนั้นเป็นใคร ...
ก็ทำนองนั้นครับป้า ... เอาไว้ถ้าพวกเราอพยพไปที่นั่นกันถาวรก็คงได้เห็นจนเบื่อแหละครับ...
แล้วเมื่อไหร่ล่ะครับคุณวินที่เราจะไปอยู่นั่น ...
ทำไมเหรอครับลุงแสน ... มีใครมาไล่ที่ท้ายอ่างลำตะคองนี่...
มันก็ไม่เชิงหรอกครับ .. จริง ๆ แล้วเรื่องเจ้าหน้าที่กรมชลประทานมาไล่ที่ลุงแทบทุกปีที่น้ำลดลงแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะความเคยชินน่ะคุณวิน ... แต่อีกไม่กี่เดือนที่จะถึง น้ำฝนท่าจะมาแรงกว่าทุกปี ถึงตอนนั้นตัวบ้านกับเรือนเพาะกล้าไม้ และต้นหมากรากไม้ของลุงคงจมอยู่ใต้ก้นลำตะคองไปแล้วในตอนนั้น ...
ผมเข้าใจเรื่องที่ลุงพูดนะครับลุงแสน ... ผมรับปากว่าจะเคลียร์ตัวเองเพื่อขึ้นไปอยู่จังหวัดน่านพร้อมกับลุงกับป้าและแม่ของผมโดยเร็วที่สุด ไม่น่าจะถึงสามเดือนต่อจากนี้ ...
ดีค่ะคุณวิน ... ป้าจะได้เก็บข้าวของไว้รอ..
อย่าหาว่าลุงเร่งอะไรเลยนะครับคุณวิน .... เรื่องราวมันก็เหมือนที่ผมบอกนั่นแหละครับ ขอโทษจริงๆ..
ผมเข้าใจจริงๆลุงแสน ไม่ต้องกังวลอะไรนะ รอโทรศัพท์ของผมอยู่ที่นี่ ... ถ้าผมโทรมาบอกว่าจะเคลื่อนย้ายข้าวของ ลุงกับป้าก็แพ็คเป็นกล่องไว้ได้เลย เพียงแต่ตอนนี้ผมจะขอไปเคลียร์เรื่องบริษัททั้งหมด รวมทั้งเรื่องแม่ที่อยู่โรงพยาบาลจิตเวชนั่น กับเรื่องเอ่อ .... ส่วนตัวอีกนิดหน่อย ....
เออ ...พูดถึงเรื่องแม่คุณวิน ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง...
ยังไม่กระเตื้องขึ้นมาเลยครับป้า ... ผมไม่มีญาติที่ไหน ได้แต่จ้างพยาบาลพิเศษดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่บางทีผมก็แวะไปนอนเป็นเพื่อนแม่บ้างเหมือนกัน ... แต่ดูเหมือนแม่จะเบื่อที่นั่นเต็มทน เห็นบ่นว่าพยาบาลดุ อาหารก็ไม่อร่อย แถมสุขอนามัยก็ทำแบบขอไปที ... ผมอยากจะเอาตัวแม่มารักษาเอง แต่ก็ติดที่ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย ... วัน ๆ วิ่งรอกไปทั่ว ทำแต่งาน งาน และก็งานครับลุงป้า...
มาวินบ่นออกมาเหมือนได้ระบายความรู้สึกที่อยู่ข้างใน นางแก้วกับนายแสนหันหน้ามามองกันแล้วก็ส่ายหน้าอย่างเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องราวของชายหนุ่ม ... ก่อนที่นายแสนจะเอื้อมมือไปจับที่ต้นแขนมาวินแล้วบอกว่า ...
คุณวินทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า ..ปีนี้อายุคุณก็เยอะมาสมควร น่าจะหาคนมาดูแลได้แล้วนะครับ ...
จะมีสาวคนไหนมาแลคนไม่มีเวลาให้อย่างผมล่ะครับลุงแสน ...
แหมมาหยอกคนแก่เล่น ... ก็ผมเห็นคุณวินเนื้อหอม ชื่อเสียงดังเกรียวกราวตามหน้าหนังสือพิมพ์แทบจะทุกฉบับของเมืองโคราชไม่เว้นแต่ละวัน ... แถมยังได้ชื่อว่าคาสโนว่าฆ่าไม่ตายของสาวแก่แม่ม่ายอีกตั้งเยอะแยะ จนใครๆที่มีลูกสาวต่างก็กลัวว่าคุณจะไปหว่านเสน่ห์จนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้กันครับ ...ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ
โอ๊ยอย่าไปเชื่อข่าวลวงพวกนั้นเลยครับลุง ... มันไม่จริงอย่างนั้นหรอก แค่เขาขายข่าวให้ได้เท่านั้นเอง...
แต่ผมก็เห็นสาวๆในภาพข่าวแล้วหลายคน แต่ละคนสวยสะเด็ดยาดไปเลยนะครับ..
สาวๆพวกนั้นเป็นแค่ได้คู่ควง ... แต่ตัวจริงไม่นานลุงจะได้เห็น ...
งั้นผมกับยายแก้วคงต้องรอวันนั้นนะครับคุณวิน...
ครับลุง ...
มาวินตอบไปเพียงสั้นๆ แล้วมองไปที่นาฬิกาก็เห็นว่าเวลาที่นั่งคุยกันนานร่วมสองสามชั่วโมงแล้ว เห็นควรจะขอตัวกลับในตัวเมิองซะที เพราะบางที่ถนนลูกรังที่เข้ามาน้ำอาจจะท่วมขึ้นมาก็เป็นได้ ... นายแสนเห็นว่าคุยธุระเหมาะสมแล้วจึงเดินออกมาส่งพร้อมยกกล้วยและมะม่วง แถมด้วยน้อยหน่าอีกจำนวนหนึ่งขึ้นรถสปอร์ต ...
พอรถขึ้นบนถนนลาดยางหกเลน ... ชายหนุ่มถึงกับโล่งใจที่หนทางสะดวกกว่าที่คิดเอาไว้ว่าวันนี้เป็นวันทำการธรรมดา บนถนนมิตรภาพจึงมีรถราวิ่งฉิวเข็มไมล์ได้เกิน 120 และไม่มีรถวิ่งจอแจเหมือนตอนเทศกาล ...
ชายหนุ่มขับรถเรื่อยมาตามทางเกิดความคิดอยากจะแวะหาอเนก เพื่อนร่วมเป็นร่วมตายครั้งเรียนมัธยมที่ตอนนี้กำลังนอนป่วยด้วยโรคสุราเรื้อรังอยู่ที่หมู่บ้านจัดสรรนอกเมืองโครงการใหม่ ... พอรถเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านจนมาเจอบ้านของอดีตเพื่อนรัก มาวินก็พบว่าบ้านมีแต่ความเงียบเข้าปกคลุม ... พรางคิดในใจว่าสงสัยอเนกจะเข้าไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชอีกแล้ว
สงสัยอาการเก่าจะกำเริบ ...
ขณะรถสปอร์ตหรูกำลังจะเลี้ยวออกมาจากหมู่บ้านเพื่อตัดเข้าถนนใหญ่อีกครั้ง ด้วยความเร็วเรื่อยเฉื่อยฉิวไม่มีธุระเร่งรีบจะไปใหน ... ชายหนุ่มจ้องมองไปข้างหน้าเพื่อใช้สมาธิในการขับให้ได้ดีที่สุด แต่ก็แว่บหางตามองเห็นว่ามีร่างบอบบางร่างหนึ่งกำลังเดินโซซัดโซเซอยู่ริมฟุตบาทคล้ายคนที่ใช่ในความคิดยังไงบอกไม่ถูก ....
เสียงล้อบดถนนเพื่อหยุดรถดังเอียดก่อนที่จะหันกลับไปทางเดิมทำเอาวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ใกล้ๆ เลี้ยวตามองแทบจะทุกคน ก่อนที่สปอร์ตหรูจะวิ่งกลับไปทางเดิม แล้วหยุดตรงป้ายรถเมล์ ... พร้อมกับอาการถลาวิ่งไปของเจ้าของรถ ...
ดาว ...ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ...
มาวินโอบร่างที่เกือบจะสิ้นสติของหญิงสาวเข้ามาไว้แนบอกก่อนจะยกร่างบางลอยหวิวไปยังรถสปอร์ตที่จอดอยู่ พร้อมกับออกตัวไปข้างหน้า เพื่อไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เร็วที่สุดเท่าที่เร็วได้ ...
อย่าเพิ่งตายนะดาว ... ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล ...
-------------------------------------------------
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐ จบลงแล้ว โปรดติดตามตอนที่ ๑๑ ได้ในอาทิตย์หน้านะครับผม ... ขอบพระคุณที่ติดตามชีวิตของดาวที่โชคชะตาแสนจะโหดร้าย กระหน่ำซ้ำเติมเข้ามา ... แต่อย่าเพิ่งตกใจเพราะชื่อเรื่องของนวนิยายเรื่องนี้คือ ฟ้ายังมีดาว ยังไงยังไง บนท้องฟ้าก็จะยังมีดาวเป็นเสมือนเครื่องเตือนใจชีวิตเราเสมอ ๆ .... นายเมฆฉาย
Create Date : 29 มิถุนายน 2552
Last Update : 29 มิถุนายน 2552 10:07:57 น.
5 comments
Counter : 825 Pageviews.
Share
Tweet
กว่าจะเจอนะพ่อคุณ อิอิ
โดย:
Kitsunegari
วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:50:05 น.
way not up date more?
โดย: 4748 IP: 213.37.170.151 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:6:44:24 น.
กะว่าเข้ามาจะเจอบทใหม่ แต่ที่ไหนได้ เฮียเบี้ยวซะงั้น
โดย:
Kitsunegari
วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:16:56:24 น.
จะรอเรื่องนี้นะคะ
โดย: คน IP: 125.26.58.160 วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:2:12:59 น.
ขอบคุณมากคะ เปนเรื่องราวที่น่าติดตาม สะท้อนสังคม หวังว่ามันจะเปนแค่นิยาย
เปนกำลังใจให้นะคะ
โดย: อ้อม IP: 69.243.101.20 วันที่: 20 สิงหาคม 2555 เวลา:23:28:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.