จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓

ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓


บรรยากาศยามค่ำ แดดร่มลมตก อากาศจากเครื่องปรับอากาศเป่าลมพัดเย็นฉ่ำเพื่อชดเชยอากาศที่ร้อนจากข้างนอกหลังฝนตกไม่ได้ทำให้อารมณ์ของรัศมิยาดีขึ้นเหมือนอากาศที่อยู่ภายในร้านกาแฟหรูที่ชื่อ “ กาแฟดอยภูหลวง ” แห่งนี้แต่อย่างใด มีแต่จะร้อนรุ่มเมื่อเวลาผ่านไปอย่างเร่งเร้า ...

การที่หญิงสาวสวยไม่มีที่ติ สมัยใหม่ทุกกระเบียดนิ้วด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์เนมชั้นนำพราวไปทั้งตัว อย่างรัศมิยาจะหน้าบูดบึ้ง อารมณ์เสียในตอนนี้ก็เพราะชายคนรักไม่รับสายโทรศัพท์ที่กระหน่ำโทรไปหาเป็นนับครั้งไม่ถ้วนไม่ยอมกดรับเลย ....

ใบหน้าสวยคมโฉบเฉี่ยวเคลือบฉาบด้วยเครื่องสำอางราคาแพงกำลังงอง้ำด้วยอารมณ์ที่บูดบึ้งไม่พอใจอย่างรุนแรง ทุกคนรายรอบตัวสัมผัสได้ทั้งหมด ...

“ อะไรกัน ...ทำไมไม่รับสายนะ บ้าจริงเชียว...”

รัศมิยากระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะจรดแก้วกาแฟที่พร่องลงมากโขอีกแล้วเงยหน้ามองสาวร่างท้วมที่ชื่อว่า อุบลวรรณ หรือ อุ้ม ขณะกำลังมองมาอยู่เงียบๆ ....

“ จะเอะอะให้มันได้อะไรขึ้นมากันมิย่า มาวินเขาอาจจะแบตมือถือหมดหรือไม่ก็อาจจะกำลังติดฝนที่ไหนสักแห่ง เธอก็รู้นี่นาว่าโคราชเป็นเมืองใหญ่ ฝนตกไม่เคยทั่วฟ้าอยู่แล้ว ....”

“ เอ๊ะอุ้ม ... เธอรู้เรื่องของวินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...”น้ำเสียงตวัดห้วนบอกความไม่พอใจอย่างแรง จนอีกฝ่ายถึงกับถอนหายใจแล้วตอบว่า ...

“ ช่าย ...ฉันจะไปรู้เรื่องคู่รัก คู่ใคร่ของหล่อนได้ยังไงกันยะ ก็แค่เดาๆ เอาจากเหตุการณ์แค่นั้น ”

“ ขอบใจย่ะที่หวังดี แต่คราวหลังขอไม่ต้องนะ เรื่องของชาวบ้าน ...คนนอกไม่เกี่ยว ..”

“ เออนังอุ้มแกคงรู้แล้วสินะว่าต่อไปต้องจำใส่กะลาหัวเอาไว้เลยว่าคราวหน้าอย่าไปเสือกเรื่องของชาวบ้านอีกต่อไป สมน้ำหน้าไหมล่ะที่นี้ … เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ซ้ำยังเอากระดูกแขวนคอให้หนักอีกต่างหาก จำเอาไว้หน่อยสินังอ้วนเอ๊ย ...”

อุบลวรรณบ่นให้ได้ยินออกมาดังลั่น จนรัศมิยารับรู้ถึงกับสะอึกเมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยของเพื่อนรักที่มีคำพูดเอาจริงเอาจังกับเรื่องที่พูดตามปกติจนเห็นได้ชัด ....

“ โธ่อุ้ม ฉันแค่โมโหวินนิดหน่อยทำงอนไปได้ ...”

“ เชอะ...โมโหคนรักแล้วมาลงที่เพื่อน ตอนนี้ชั้นกำลังแย่กับคำพูดของเธออยู่นะมิย่า เดาไม่ถูกเลยว่าเธอจะมาในอารมณ์ไหน ตอนไหน ยังไงกัน ...”

“ ฉันก็แค่หงุดหงิด เลยพาลไปทั่วแบบนี้ ขอโทษนะอุ้ม ฉันขอโทษ...”

“ เรื่องนายวง นายวินนี่ก็เหมือนกัน ... ในฐานะที่เธอยกฉันให้เป็นเพื่อนแสนสนิท ... ฉันขอพูดอะไรหน่อยเถอะจะได้ไหมมิย่า แต่เอ่อ ... ไม่รู้จะรับได้หรือเปล่า...”

คนเล่าขมวดคิ้วเข้าหากัน ส่งสายตาเหมือนเกรงใจบ้างอยู่ในที อยากเล่าก็อยากเล่า...

“ ก็ว่ามาสิอุ้ม.”

รัศมิยาก้มลงไปหยิบกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้ง คอตั้งเชิดตรง รอฟังเรื่องราวจากอีกฝ่ายด้วยใจจดใจจ่อเต็มที่ ...

“ จากเหตุการณ์ในวันนี้ ... ฉันว่าเธอเลิกคบกับนายวินคนนี้ดีกว่า ..”

รัศมิยายกมือทาบอก สีหน้าตกใจที่ได้ยินเพื่อนรักแสดงความเห็นประหลาดเช่นนี้ ก่อนจะอุทานอารมณ์ขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ..

“ ว้ายตายแล้วอุ้ม ... ทำไมคิดยังงี้ล่ะเธอบ้าไปหรือเปล่า ...”

“ ฉันไม่ได้พูดเล่นนะมิย่า ฉันคิดว่าเธอควรจะเลิกกับเขา แล้วก็เลิกแผนการที่จะหลอกนายมาวินไปเข้าโรงแรมเพื่อถ่ายคลิปวีดีโอบ้าแบล็กเมล์เขาซะทีเหอะนะ ฉันนึกภาพทีไรเห็นเธอเป็นเหมือนตัวอิจฉาสิ้นคิดในละครน้ำเน่าช่องหลากสี ยังไงก็ไม่รู้สิ ..”

“ หล่อนเอาอะไรมาพูดยะ ...พูดยังงี้ฉันเสียหายนะ...”

“ เลิกเสแสร้งต่อหน้าธารกำนัลได้แล้วจ๊ะมิย่าคนสวย โต๊ะที่เรากำลังนั่งอยู่นี่ ไม่มีใครเขามาฟังเรื่องที่เราคุยกันหรอก”
รัศมิยาเหลียวมองไปรอบตัวซ้ายที ขวาทีจนเห็นว่าเป็นจริงอย่างที่อุบลวรรณพุดไว้เมื่อครู่ ... ลูกค้าของร้านกาแฟดอยภูหลวงในตอนนี้มีลูกค้านั่งอยู่ในร้านอยู่เพียงสองสามโต๊ะเท่านั้น เมื่อแรกเดินเข้ามาในร้านก็ยังไม่มีลูกค้าคนอื่นๆ ... สาวสวยมาดดีขาประจำของร้านทั้งสองเลือกที่จะนั่งโต๊ะมุมประจำด้านในสุดของร้าน อยู่ห่างไกลกับลูกค้าอื่นๆเช่นเดิมพอสมควร ...

เรื่องราวการสนทนาของทั้งสองเริ่มต้นที่เรื่องราวเดิม ๆ เหมือนค่ำคืนก่อน รัศมิยากำลังเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมขาดการติดต่อของชายคนรักที่เป็นเอาบ่อย ๆ ในช่วงนี้ ...

คืนนี้ก็เหมือนเดิม .. มาวินหายไปจากชีวิตชั่วคราว ทิ้งไว้ให้ต้องนั่งรอคอยอย่างเบื่อหน่ายอีกแล้ว ....

ฝนตกริน ๆ ระลอกแล้วระลอกเล่าภายด้านนอกร้าน สัญญาณโทรศัพท์ที่ควรจะมีการตอบรับจากปลายสายเหมือนเดิมกลับเงียบสนิทเหมือนจงใจแกล้ง ...

หญิงสาวเหม่อมองไปนอกร้านอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจหมดหนทางจะทำอะไรต่อไปแล้ว ...

“ มิย่า มิย่า ... เธอกำลังฟังฉันอยู่หรือเปล่านี่..”

“ เออ .. เออ ..กำลังฟังมีอะไรจะว่าฉันก็ว่ามาสิอุ้ม...”

อุบลวรรณส่ายหน้าช้า ๆ ยิ้มระบายที่มุมปาก คิดสงสารเพื่อนรักคนนี้เสียเหลือเกิน ชะตากรรมคนสวยเปอร์เฟ็คทุกอย่างใช่ว่าจะงามหรู เหมือนในนิยาย ... อาจจะตรงกันข้ามเหมือนรัศมิยาในตอนนี้ที่ไปข้างหน้าก็ไม่ได้ถอยหลังก็ไม่เหมาะ...

“ ฟังฉันให้ดีนะมิย่า ถ้าฉันไม่รักหวังดีกับเธอ จะไม่พุดให้เมื่อยปากหรอกนะนี่...”

“ ฉันรู้ ฉันรู้ดี... จะด่าจะว่าฉันยังไง ก็ว่ามาเลย ฉันยอมแล้ว...”

“ เธอกำลังน้อยใจอยู่เหรอ....”

“ ไม่รู้สิอุ้ม ... ถ้าให้ชั้นเลือกได้ก้อยากจะเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งมีผู้ชายจริงใจ รักฉันคนเดียวมาหลงรัก ไม่มีวันเบื่อหน่ายหรือเงียบหายไร้การติดต่อแบบนี้ ...”

คนเล่าปาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตาอีกครั้ง สะอื้นออกมาเบาๆ คล้ายน้อยใจในเรื่องที่กำลังเล่าหรือถูกกระทำ สาวร่างอวบพยักหน้าว่าเข้าใจเอื้อมมือไปกุมไว้แล้วปลอบไปว่า ...

“ ฉันดูเขาออกนะมิย่า...”

“ เธอดูยังไง...”

“ ฉันก็ดูว่าแฟนหล่อนเขาไม่ได้รักหล่อน ไม่ได้ใยดีกับหล่อนแล้วนะสิ อย่าเพิ่งมาโกรธฉันนะ ...ก้แค่ประเมินจากเรื่องราวพฤติกรรมทั้งหมดของเขา ก็เท่านั้นเอง...”

“ เฮ้อ ..ใช่ ใช่ ...เขากำลังเบื่อฉัน และอาจกำลังมีหมายใหม่ที่ไม่ใช่ฉัน ...จนลืมเรื่องความหลังของเราสัมยเรียนไฮสกรูที่อังกฤษ ... ก่อนจะมารักกันที่เมืองไทยนี่ ...”

รัศมิยายกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วสะอื้นออกมาดังกว่าเดิม สะอื้นไห้เสียใจกับเรื่องราวฝังใจในอดีต แต่ไม่อาจหวนคืนกลับมาได้ ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร .... เสียแรงรักใคร่ เป็นเพื่อนรักกันมาหลายปี เพาะบ่มความรักจนสุกงอม สุดท้ายกำลังจะจบเห่ไปคนละทาง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ...

อุบลวรรณเข้าใจความเป็นไปทุกอย่างดี ความรักหนุ่มสาวคู่นี้มีแนวโน้มที่จะหมดอายุนานแล้ว เหลือเพียงเวลาที่เอ่ยปากที่เหมาะสมเพียงเท่านั้น ...

“ เธอควรทำใจกับเรื่องนี้ไว้บ้างนะมิย่าจ๋า ... ทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ดูฉันสิมิย่า ... ฉันลืมตาดูโลกาก็อ้วนตุ้ยนุ้ยตั้งแต่เกิด ใครก็เรียกฉันว่าอีหมูตอนมั่ง อียักษ์ขมูขีมั้ง ... หรือร้ายสุดเรียกนังผีเสื้อสมุทรไปโน้น ....พอเริ่มโตขึ้นมาก็ไม่มีใครมารักมาชอบเหมือนคนอื่นๆปกติเขา ... ทั้งที่ฉันก็อยากจะบอกว่าฉันก็เป็นคนจริงใจคนหนึ่งไม่น้อยกว่าพวกนังขี้ก้างผอมเหี่ยวทั้งหลาย ... ฉันต้องทนอยู่คนเดียวด้วยความเหงาใจ ไร้ผู้ชายคนไหนจะเหลือบตามมองเลย .... เวลาเดินผ่านไปที่ไหนดูเหมือนของไร้ค่าชิ้นหนึ่งที่ใครเมิน โดยเฉพาะมนุษย์เพศผู้ที่เราเรียกมันว่า ...ผู้ชาย...”

อุบลวรรณเชิดคอตั้งชัน แววตาจริงจังจนดูกร้าวแกร่งกว่าเดิมมาก ... รัศมิยาเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนรักดีเพราะแทบจะอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ...

“ ง้นแนก็ขอโทษที่พูดไม่ดีกับเธอนะอุ้ม ...”

“ ช่างมันเถอะย่า เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ว่าแต่เธอเถอะคืนนี้เขาคงไม่มาแล้ว..”

“ เด่ยวฉันว่าจะไปบ้านวิน คืนนี้เป็นไงก็เป็นกัน .. อยากจะเคลียให้ชัดๆไปเลย....”

“ ใจเย็นไว้หน่อยก็ดีนะจ๊ะเพื่อน...”

“ ขอบใจอีกครั้งอุ้ม ...ฉันจะพยายาม งั้นเราคิดเงินเลยดีกว่านะ...”

“ ฮื่อ ...ไปกันเถอะ ฝนจะลงเม้ดอีกครั้งแล้ว...”

อุบลวรรณพารัศมิยาเดินไปที่รถ แล้วยืนคุยกันอีกสองสามประโยค ก่อนจะแยกย้ายกันที่ลานจอดรถนั่น พร้อมสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาอีกครั้ง ....

-------------------------------------

ความเหม็นอับชื้นของผ้าปูที่นอนกับปอกหมอนบวกกับกลิ่นแอลกฮอล์ที่ส่งกลิ่นคละคุ้งจากชายสามคนที่ขณะนี้กำลังตะบปตะโปมทึ้งเสื้อผ้า ทำเอาดาวที่สลบไสลไปพักใหญ่ฟื้นตื่นผวาขึ้นมาจากฉุดลากเมื่อครู่ในทันใด ...

สติสตังการเอาชีวิตรอดถูกเรียกขึ้นใช้มาอย่างปัจจุบันทันด่วนหลังจากสลบไปเมื่อกะบะได้เลี้ยวเข้ามาในม่านรูดแห่งนี้ แสงเทียนแห่งความหวังค่อยสว่างขึ้นมาช้าๆ นับว่าเป็นความโชคดีที่มันกลับมาได้ในยามคับขันได้อย่างรวดเร็ว เร็วจนพอจะรู้ว่าชายใจทรามกำลังพยายามล่วงล้ำความเป็นมนุษย์ด้วยอาการไร้สติ ...

เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนานหลายนาทีในความรู้สึกหญิงสาว .... รอคอย ต้องรอคอยมันย่ามใจก่อนค่อยหาโอกาส ...

ดาวทำตัวให้นิ่งอ่อนโอนไปกับการโลมเล้าของฝรั่งใจทรามร่างสูงใหญ่คนนี้อย่างไม่มีขัดเขินด้วยมายาหญิงเท่าที่มีทั้งหมด ...ส่วนชายร่างใหญ่อีกสองคนกำลังคุยเสียงดังสลบักับเป่าบุหรี่มวนต่อมวนเข้าร่างกาย เพื่อรอคอยเข้ามาในห้องอย่างใจจดใจจ่อ ….

เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงดังขึ้นมาทำให้ดาวรู้สึกว่าสวรรค์กำลังเข้าข้างอยู่เช่นกัน ...

“ ฮัลโหล ...จะพูดกับใคร ...” เสียงห้าวเข้มบอกอารมณ์เสียของคนรับได้เป็นอย่างดี ....

“ หา หา ...ไม่ได้ยินเลย ... อะไรฟะ...”

เมื่อเห็นว่าผู้รุกล้ำโฉดชั่วกำลังสนใจกับการสนทนาที่ไม่รู้เรื่อง ดาวชันตัวลุกขึ้นช้าๆนั่งนิ่งแล้วเอื้อมมือไปคว้าเสื้อผ้าที่วางข้างเตียงขึ้นมาใส่อย่างลวก .... ก่อนจะถามตัวเองว่า ...

“ แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ...”

ขณะมีเวลาน้อยนิดเป็นตัวเร่งกระทำ ดาวกำลังถามตัวเองเพื่อจะหาคำตอบให้ชัดเจนอีกครั้งว่าจะทำยังไงต่อไป

แต่ทว่าขณะยังไม่ได้รับคำตอบก็มองเห็นว่าประตูที่ตนเองกำลังจ้องจะผลักออกถูกผลักเข้ามาในห้องอย่างรุนแรง ก่อนจะมีชายไทยแปลกหน้าไม่คุ้นเคยกวัดแกว่งเจ้ารีวอลโว่ขนาดเขื่องสีดำกำลังเล็งไปที่ฝรั่งผู้บุกรุกขณะกำลังตกใจยกมือขึ้นกุมท้ายทอยอย่างยอมความ ....

“ ถ้าไม่อยากตาย อย่าตุกติกแล้วยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้ ....”

เสียงคำรามของชายแปลกหน้าก้องกังวารไปทั่วห้อง สะกดผู้รุกล้ำให้นิ่งเงียบ ก่อนจะทำตามอีกครั้งอย่างเคร่งครัด

“ ดี .... หลับตาแล้วเดินไปทางโน้น ... เร็ว เร็วสิ...”

หลังจากนอนคู้คุดไปกับเตียงอยู่นานโข ดาวก็ผงกหน้าขึ้นมามองเหตุการณ์รอบๆตัวก็เห็นว่าคนชั่วได้ถูกมัดล่ามไว้ที่มุมห้อง ส่งเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ .... เมื่อทุกอย่างเงียบสงบลงแล้ว ชายแปลกหน้าสวมแว่นดำพรางสายตารูปร่างเพรียวบางได้รูปรีบเดินตรงมายื่นมือให้แล้วสั่งว่า ...

“ คุณจะรอให้ไอ้สองคนข้างนอกตื่นขึ้นมาหรือไง ... ลุกขึ้นตามผมมาเลย...”

ดาวรีบลุกผวาขึ้นแล้ววิ่งตามออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว จนมายืนหน้าซีดเมื่อมองเห็นว่าฝรั่งผิวมืดสองคนนอนสลบเหมือดอยู่หน้าห้องนี่เอง ...

----------------------------------------------

เหตุการณ์ทุกอย่างดูรวดเร็วเร่งเร้าไปหมด กว่าดาวจะหายขวัญหนีก็พบว่าตนเองกำลังยืนอยู่ริมระเบียงคอมโดหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ครบครันบนตึกสูงสุดชั้น 16 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มองเห็นทิวทัศน์ไปไกลเป็นสิบๆกิโล …

เพราะเสียงอาบน้ำชำระร่างกายในห้องอาบน้ำหรอกนะ ที่ทำให้หญิงสาวรีบเบือนหน้าหนี ก่อนจะเร้นตัวเดินเลี่ยงมาริมระเบียงสูงให้ลมพัดเย็นปะทะหน้ากระตุ้นสติสตังกลับมาเหมือนตอนเดินขึ้นมาบนที่แห่งนี้...

นึกคิดไปแล้วก็ขำตัวเอง พอมองเห็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตที่ช่วยให้รอดพ้นจากพวกโฉดชั่วต่างชาติสามคนนั่นครั้งแรก ก็ตกใจแทบจะช็อกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในคืนนี้ เพราะว่าเมื่อชายหนุ่มที่กึ่งลากกึ่งจูงออกจากม่านรูดแห่งนั้นได้ถอดแว่นตาสีดำเข้มออก .... หัวใจดาวแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อสายตาคมเข้ม เปล่งประกายกล้าบอกความรู้สึกแจ่มแจ้งแสดงออกมาจนหมดกำลังจ้องสบตามองตัวเธออยู่แทบไม่พกระพริบตา ...

“ ตอนนี้คงปลอดภัยแล้ว ... คุณเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม...” เสียงทุ้มนุ่มเอื้อนเอ่ยประโยคคำถามมาเจือปนด้วยความห่วงใยจนสัมผัสได้ด้วยความรู้สึก ...

“ ดาว ... เอ่อ ... ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณมากที่ไปช่วยไว้...”

“ งั้นก็ดีแล้ว ... สภาพคุณดูไม่ได้เลยนะ...”

ดาวก้มมองสำรวจเนื้อตัวก็เห็นว่าเสื้อผ้าขาดวิ่นเปื้อนเลือดสีแดงสดเป็นกระหย่อม กระดำกระด่างไปทั่วตัว เหงื่อไคลที่ไหลย้อยก็ดูเป็นคราบสีดำกระจุกๆ ...ซึ่งก็จริงอย่างที่คนพูดพูดไว้ทุกอย่าง ...

“ ผมว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านผมก่อนดีไหม ...”

ดาวยกมือขึ้นปิดส่วนที่โป๊ แล้วช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายเพื่อขอความเป็ฯส่วนตัวสักหน่อย ...คนตัวสูงก็ไม่ขัดยอมทำตามโดยดี แถมยังโยนผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดตากลิ่นหอมชุยจากน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดดีมาให้อีกหลังจากนั้น ...

หญิงสาวปิดป้องสำรวจตัวเองอยู่พักใหญ่ จนเห็นว่าคงต้องทำตามอย่างที่คนขับพูดเกริ่นไว้เมื่อครู่น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าสภาพผมเผ้ากระเชอะกระเชิง เสื้อขาดวิ่น ไม่เป็นชิ้นเป็นอันแบบนี้ ...

แต่เมื่อคิดไปคิดมาจนแล้วจนรอดก้ยังติดใจในเรื่องความปลอดภัยที่จะตามมา กลัวว่าจะหนีเสือปะจระเข้ซะมากกว่า ...
แต่พลขับที่เหลียวมองสำรวจเป็นระยะเอ่ยออกมาก่อน เหมือนกำลังรู้ว่าดาวกำลังคิดอะไรอยู่ ...

“ ผมคงไม่ซ้ำเติมคุณขนาดนั้นหรอกครับ ... ไม่ต้องกลัวไปเลยนะ ผมมาดี...”

“ เอ่อ ...ดาวขอโทษที่ไม่ไว้ใจคุณค่ะ ... แต่ก็เกรงใจที่คุณมาช่วยเหลือ เสี่ยงชีวิตเข้าไปที่นั่น ... ทั้งๆที่เราสองคนไม่เคยเห็นหน้ากัน หรือพบเจอกันมาก่อน ...”

“ คุณดาวอย่าคิดอะไรมากเลย เดี๋ยวเลี้ยวซอยหน้าก็ถึงคอนโดผมแล้ว ... ถ้าเดินขึ้นไปข้างบน แล้วมีคนมองแบบน่าเกลียด ก็อย่าตกใจไปเลย .... คนพวกนั้นเป็นอย่างนี้แหละ เขาไม่เคยเห็นว่าผมพาใครขึ้นไปข้างบน .”

“ คอนโดของคุณชื่อ ... นันทวรรณเพลส หรือเปล่า...”

“ ช่าย ... ผมพักอยู่ชั้น 16 ชั้นบนสุดเห็นวิวเมืองโคราชทั้งเมืองไปไกลถึงสนามบินแห่งใหม่เลย...”

“ ค่ะ ...ชั้นพอจะเข้าใจ..”

แล้วทั้งสองก็ไม่ได้สนทนาอะไรกันอีกเลยหลังจากนั้น กระทั่งได้เข้ามาอยู่ในห้องชุดชั้น 16 ดาวกอดอกห่อตัวลีบทันทีที่เข้าในห้อง ... ห้องสูทหรูหราทั้งห้องเป็นสีขาวอมเขียวทั้งหมด มีอยู่สามห้องเล็กกระจาดไปตามมุมต่างๆ มีครัวเล็กๆอยู่ใกล้ระเบียงที่ยื่นออกไปจากตัวตึก ... ภายในไม่กี่นาทีแอร์เย็นฉ่ำได้ทำงานตามหน้าที่ของมัน ...

ดาวให้เจ้าของห้องอาบน้ำชำระร่างกายก่อน ส่วนตนเองเดินออกมาสูดลมข้างนอก เพราะจะได้ทำใจร่วมอยู่กับชายแปลกหน้าไปด้วยอีกทาง ....


กระจกบานเลื่อนดังแกรกจนหญิงสาวต้องหันไปดูทันที แต่ก็ต้องรีบก้มสายตามองไปพื้นห้องเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในอาภรณ์ชิ้นเดียว นั่นก็คือ ผ้าขนหนูผืนบางตัวเดียว ....

“ ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เชิญดาว ... เอ่อ ...คุณดาวตามสบายนะครับ...”

ดาวไม่ตอบอะไร รีบเบี่ยงตัวไปอย่างช้าๆ ก่อนจะผลุบตัวเข้าห้องน้ำที่อยู่ถัดจากริมระเบียงไม่ไกล ...

สายน้ำจากฝักบัวชโลมร่างกายจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาอย่างประหลาด หญิงสาวเหลียวมองไปรอบๆตัวเพื่อดูว่าจะมีสบู่ชำระร่างกายเหมือนที่ห้องเช่าหรือเปล่า แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะมองเห็นแต่ขวดกระจกใสใส่ของเหลวที่มีหลายสีวางเรียงรายอยู่เป็นตับระรานตาเต็มไปหมด ... แต่ยังไงก็พอจะมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษอยู่บ้าง จึงเอื้อมมือไปหยิบขวดที่เขียนว่า SOAP ขึ้นมาแล้วกดจนของเหลวที่อยู่ในขวดไหลออกมา ส่งกลิ่นหอมประหลาดระคนติดหอมผิวกายและจมูก ....

พอเสร็จจากอาบน้ำชำระกาย ... ดาวเดินออกมาข้างนอกห้องก็เห็นว่าเจ้าของห้องหายตัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ขณะกำลังจะก้าวขาก็ได้ยินเสียงลูกบิดประตูดังแก๊ก แก๊ก ... พร้อมกับคนตัวสูงใบหน้าเกลี้ยงเกลาชวนให้ไหลหลงเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ พร้อมถุงเสื้อผ้าชุดใหญ่ ...

“ ไม่รู้ว่าพอดีไซด์ตัวคุณหรือเปล่านะ ... รีบ ๆ เลือกจากร้านเสื้อผ้าข้างล่างมาครับ...”

“ ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ ... อีกสักพักฉันก็จะไปแล้ว...”

“ เดี๋ยวไปเปลี่ยนผ้าก่อน เราค่อยคุยกันที่โต๊ะอาหาร...”

ดาวหลบสายตาคมที่มองอย่างแปลกประหลาดก้มมองไปพูดพร้อมเอื้อมมือไปรับเสื้อผ้า ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าไปยังห้องเล็กที่ชายหนุ่มผู้นี้ผายมือให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่น ... จนมองสำรวจร่างกายว่าเรียบร้อยแล้วดาวจึงเดินออกมาข้างนอก จนจมูกได้สัมผัสกลิ่นข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมฉุยมาจากห้องครัวที่ซ่อนโต๊ะอาหารเล็กๆน่ารักไว้อยู่ข้างใน ...

“ ทางนี้ครับคุณดาว...”

หญิงสาวเดินตรงไปอย่างเชื่องช้า ทั้งไม่คุ้นเคยกับสถานที่ และเจ้าของห้องหรูหราระคนกัน ...

“ นั่งชิมฝีมือข้าวต้มของผมดู ไม่รู้จะกินได้หรือเปล่า ... ผมทำสุดฝีมือเลยนะครับ ...”

คนพูดคุยอารมมณ์ดี จนพอดาวนั่งลง ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก ท้องไส้เริ่มร้องและปั่นป่วนหิวแบบคนหิวจัด น่าอับอายยิ่งนัก ดาวจึงหันไปมองเจ้าของบ้านที่กำลังมองมาและยิ้มที่มุมปากอย่างขบขัน พร้อมพยักหน้าให้ลงมือได้
“ นั่นแหละ ทานเยอะๆนะครับ มีแหลืออีกสองสามถ้วย ... เบิ้ลได้เลย...”

“ ขอบคุณค่ะคุณ ...เอ่อ ...คุณ...”

“ อ้อ ...ใช่สิ ผมชื่อมาวิน ...เรียกสั้นๆว่า ...วินก็ได้ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ...”

“ คุณวินกรุณาต่อฉันมาก ทั้งเรื่องไปช่วยในโมเต็ลนั่น หรือพามาอาบน้ำ หาเสื้อผ้า กับทำข้าวต้มแสนอร่อยให้กิน...”

“ คุณชอบหรือครับดาว ... ” มาวินยิ้มกว้างพลางก้มตักข้าวต้มตรงหน้ากินมือเป็นระวิงเมื่ออีกฝ่ายชมว่าอร่อย

“ อะ....อร่อยเหลือเกินคะคุณวิน...”

เป็นอีกครั้งที่ดาวก้มหน้าก้มตายกข้าวต้มทานไปอร่อยไป เหนียมอายสายตาคมปลาบที่จ้องมาอย่างไม่วางตา ยิ่งพยายามค้นหานัยความหมายของแววตาก็ยิ่งงุนงง เมื่อเห็นว่ามีแววยั่วล้อ คุ้นเคยอยู่ในนั้นทุกครั้งที่สบตาคู่เข้มนั้น ...

“ ดี ดี วันหลังผมจะได้ทำให้คุณกินอีกบ่อยๆ อย่าเพิ่งเบื่อพ่อครัวคนใหม่คนนี้ล่ะ...”

“ อาหารอร่อย ..คนทำให้ก็ใจดี....”

“ ผมทำเพราะอยากทำให้คุณกิน อย่าคิดมากนะครับ...”

“ ฉันแปลกใจนิดหน่อยที่คุณเข้าไปช่วยฉันที่นั่นได้ยังไงกัน...”

ดาววางช้อนลงยกน้ำเปล่าขึ้นมาจิบเหลือบตามองเห็นว่ามาวินก็กำลังอิ่มแล้วเช่นกัน ...

“ ถ้าผมเล่าให้คุณฟัง คุณจะเชื่อหรือเปล่า...”

“ หมายความว่ายังไง ดิฉันกำลังงงค่ะคุณมาวิน ...”

“ ไม่มีอะไรมากครับ ...เพียงแค่ผมจะสารภาพอะไรบางอย่าง ซึ่งมันอาจจะไม่เข้าท่า ถ้าคุณได้ฟังมัน...งี่เง่าจริงๆ..”

“ เรื่องอะไรเหรอคะคุณวิน...”

“ เรื่องมันเกี่ยวข้องกับคุณนั่นแหละครับ คือที่ผมเห็นว่าคุณถูกรังแกจากฝรั่งสามคนนั่นก็เพราะผมได้มาเฝ้าคุณอยู่เป็นเดือนแล้ว โดยที่คุณไม่รู้ตัวว่ากำลังมีใครแอบมองอยู่เสมอๆ ทุกวันๆ ไม่ได้ขาด แม้แต่วันนี้ซึ่งฝนตกหนัก ...ตัวผมก็ต้องมาเฝ้ามองดูคุณ ... ขอเพียงแค่ได้เห็นหน้าเท่านั้นก็พอ...”

ชายหนุ่มเน้นย้ำน้ำเสียงบอกความในใจให้อีกฝ่ายได้รู้ถึงสิ่งที่อยู่ข้างในอก ... คนฟังเมื่อได้ฟังถึงกับอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าจะมีพฤติกรรมที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ...

จะเป็นได้ยังไงที่ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ หรือชาติตระกูลที่อยู่ตรงหน้าจะมาเฝ้าดูตนเองด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่อาจจะไม่ใช่ความรักหรือเป็นความหลงก็เป็นได้ ...

“ คะ..คุณมาวินทำยังงั้นไปทำไม..”

ดาวถามคำถามแก้เขินไปยังงั้นแหละ ทั้งที่ในใจก็มีความสงสัยอยู่เต็มประดา ว่าทำไมคนที่มีฐานะรวยล้นฟ้า มีบ้านหรูหราเทียมเท่าวิมานเช่นมาวิน ยังต้องการความแปลกใหม่ในชีวิตด้วยการไปแอบมองดูผู้หญิงไร้ค่า ต่ำการศึกษา ไร้สกุลรุนชาติที่สูงส่งเช่นที่เล่ามา ...

“ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่ามีคืนหนึ่งผมเมาเพราะเบื่อหน่ายเพื่อน ๆ ที่พอเลิกงานก็จะพากันเข้าผับเข้าบาร็ น่าเบื่ออย่างที่สุด ผมปลีกตัวหนีมาที่สวนสาธารณะโดยบังเอิญพบเห็นคุณกำลังจะออกไปกับลูกค้า ... เกิดความรู้สึกแปลกๆเหมือนต้องชะตากับคุณขึ้นมาซะเฉย อยากเห็นหน้าทุกวัน ... และผมก็ทำตามที่ใจต้องการคือมานั่งรถดูคุณออกไปกับลูกค้า ... ก็ใจสลายไปทุกครั้งด้วยเหมือนกันที่เห็นคุณออกไปกับพวกเขา ...”

มาวินเล่าว่าตนเองคิดจะเดินลงรถไปแล้วเรียกใช้บริการหญิงสาวตั้งหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะรู้สึกตะขิดตะขวงใจยังไงก็ไม่รู้ อยากเข้าไปบอกให้หยุดแล้วออกมากับตนเอง แต่สุดท้ายความกล้าก็ไม่สำแดงฤทธิ์ ..ทำได้แค่มองไปวัน ๆ เหมือนเช่นทุกคืนที่ผ่านมา กระทั่งประจวบเหมาะมาคืนนี้ที่เกิดเรื่องพอดี ... จึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ ...

“ ก็เป็นอย่างที่ผมเล่ามานี้แหละครับดาว... ยกโทษให้ด้วย ที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของคุณ...”

“ ไม่เป็นไรหรอกคุณวิน ... คืนนี้ถ้าไม่มีคุณมาช่วยชีวิตเอาไว้ ดาวอาจจะตายอยู่ในม่านรูดนั่นก็ได้ ใครจะไปรู้...”

“ ผมเห็นท่าไม่ดีตั้งแต่พวกมันเดินเซมาแต่ไกล แล้วเดินเข้าไปกระชากแขนคุณขึ้นรถ อย่าวิสาสะ..”

“ ดาวไม่รู้จักพวกนี้เลย หน้าตาก็ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต มาจากไหนก็ไม่รู้ ...น่ากลัวชะมัด...”

ดาวยิ้มน้อยๆ กว่าที่จะพูดหรือเล่าอะไรออกมาคล้ายจะอารมณ์ดีขึ้น เป็นกันเองขึ้นกว่าตอนมาถึงแรกๆ แล้ว ... มาวินถอนหายใจโล่งออกมาเบาๆ รับฟังเสียงใสของอีกฝ่ายที่ไพเราะเสนาะโสตดีเหลือเกิน ...

“ ท่าทางจะเมามาจากที่อื่น ... ดาวจะเอาเรื่องพวกมันไหม ผมจะจัดการให้...”

“ อุ้ย ... คุณมาวินจะไปทำอะไรเขาคะ...” ดาวเอามือทาบอกตกใจที่เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีจริงจังกับคำพูดของตัวเองเมื่อครู่
“ ผมก็แค่จะสั่งสอนให้พวกนั้นหลาบจำ จะได้ไม่ทำกับผู้หญิงไทยเช่นนี้อีก....”

“ อย่าเลยค่ะ ดาวขอร้อง ...ไหนๆเรื่องก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ก็ปลอดภัยดี ... เชื่อด้วยว่าพวกเขาคงไม่กล้าไปที่สวนนั่นอีกเด็ดขาด .... จะว่าไปแล้วเมื่อกี้ก็น่าหวาดเสียวเหมือนกันนะคะ ...ดาวเห็นปืนของนิโกรคนนั้นตกวางอยู่ใต้เตียง ...”

“ อ้าวพวกมันพกปืนด้วยเหรอนี่ ....”

“ เหน็บติดตัวอยู่ตลอดเวลา จนขึ้นบนเตียงนั่นแหละค่ะ เขาถึงสอดวางมันไว้ใต้เตียง พอดีคุณมาวินโผล่พรวดเข้าไปเร็วมาก เขาเลยไม่ทันตั้งตัวได้ถนัด ... คงไม่คาดเดาว่าจะมีคุณกล้าบุกเข้าไปได้ขนาดนี้ ...”

“ นับว่าดวงยังเข้าข้างผม ... แล้วเป็นไงบ้างครับ ห้องหับคับแคบแบบนี้พอจะพักได้ไหมครับดาว...”

หญิงสาวหลบสายตาสะเทิ้นอาย หน้าแดงสุกเป็นลูกตำลึง ... ไม่คิดนึกว่าตนเองจะมีอาการเขินอายกับผู้ชายสายตาคม หล่อเหลาราวพระเอกหนังที่นั่งจ้องตรงหน้าได้ ทั้งๆ ได้ผ่านอารมณ์นี้มากับผู้ชายค่อนร้อน ค่อนพันมาเป็นสิบปี ...

“ สบายดีทุกอย่างค่ะคุณวิน ... ขอบคุณที่กรุณาช่วยชีวิตคนยากจนอย่างฉัน ชาตินี้ถ้าไม่ตายเสียก่อนคงได้ตอบแทนบุญคุณคุณถ้าฉันทำได้นะคะ ...”

“ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ครับดาว คุณก็รู้ผมชอบคุณมาก ... ผมจะไม่ปฏิเสธตัวเอง ถ้าคุณยังอยู่เป็นเพื่อนผมที่นี่...”

“ คุณวินหมายความว่า...”

ดาวถึงกับหน้าถอดสี เมื่อได้ยินประโยคคำพูดของมาวินที่บอกนัยความหมายว่าต้องการจะครอบครองตัวหล่อนเหมือนที่ชายร่างยักษ์กำลังจะคิดทำในหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ...

“ ปละ ... เปล่า อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ... ผมแค่อยากให้คุณพักผ่อนให้สบายใจในคืนนี้ที่คอนโดนี่ ... ผมสาบานว่าจะไม่ทำอย่างที่คุณดาวคิดแน่นอน ... สัญญาลูกผู้ชาย ...”

“ คะ คะ ...ดาวก็ขอโทษที่เข้าใจผิด... เอ๊ะ..รู้สึกจะมีคนมากดออดที่หน้าประตูนะคะ..”

มาวินรีบลงยืนขึ้นจากโต๊ะอาหาร แล้วเดินไปยังประตูห้อง ก็พบว่ามีพนักงานทำความสะอาดของนันทวรรณเพลสกำลังทำท่าเหมือนลุกลี้ลุกลนอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มจึงหยุดคุยสีหน้าเข้มครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินมาบอกว่า ...คนทั้งสองจะมาเปลี่ยนที่นอนให้ห้องที่ดาวจะเข้าไปพัก ...

หญิงสาวจึงค่อยเดินเลี่ยงไปด้านในที่เป็นห้องรับแขกเพื่อหลบสายตาคนทั้งสองที่มองมาอย่างคาดคั้นเอาความ ...

บนโต๊ะรับแขกมีนิตยสารการลงทุนอยู่สองสามเล่ม บนหน้าปกฉบับล่าสุดมีรูปชายหนุ่มตัวสูงหน้าคม คล้ามเข้ม ดูดีทุกกระเบียดนิ้วกำลังยิ้มทักทายคนอ่าน พร้อมโปรยปกตัวหนังสือขนาดใหญ่ว่า ...

... ฉบับนี้ห้ามพลาดบทสัมภาษณ์มาวิน ธนานุรักษ์ หนุ่มหล่อไร้ลิมิต หนุ่มสุดฮอตชื่อดังขวัญใจสาวแก่แม่ม่ายเมืองโคราชที่คุณจะต้องทึ่งกับการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ของเขา ต้องติดตามอย่ากระพริบตา ...

“ เขาเขียนเกินจริงไปนิดนึง ผมไม่ได้เปอร์เฟคขนาดนั้นหรอกครับ...”

“ ที่แท้คุณวินก็คือคนที่เพื่อนฉันในร้านคลั่งใคล้ ถึงขนาดไปสมัครเป็นแฟนคลับคุณในเวปไซต์นั่นเอง”

“ อ้อ ... น้องๆที่บริษัททำเวปให้น่ะครับ ... ดาวเชื่อไหมว่า ผมไม่รู้เรื่องอะไรพรรณนั้นเลย …”

“ พวกเพื่อน ๆ ฝันถึงคุณ พูดถึงคุณจนฉันจำรายละเอียดได้แทบทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะย่างกรายไปที่ไหนนักข่าวก็จะไปรุมทำข่าวเหมือนดาราที่อยู่กรุงเทพ แต่นี่เมืองโคราช ...ไม่ใหญ่โตเท่าเมืองหลวง แต่คุณก็ฮอตที่สุด ...”

“ อย่าไปถือสาระตะรกตัวตนแท้จริงของเราพวกนั้นเลยครับดาว ... ผมเลิกสนใจความเด่นดังแบบนั้นมานานเมื่อรู้ว่าตัวเองเริ่มแก่อายุเพิ่มมากขึ้น ... คิดได้ว่าทุกอย่างไม่จีรังยั้งยืนสักอย่าง แม้แต่ลาภยศ สรรเสริญ หรือทรัพย์สมบัติที่ผู้คนพยายามหากันให้ล้นฟ้าล้นหัวใจความคิดที่ดีงาม ...เหล่านี้เป็นต้นไม่ทำให้ผมมีความสุขได้สักอย่าง ... คุณเชื่อไหมว่าผมมีความคิดจะหนีไปอยู่ป่า อยู่เขา เงียบๆคนเดียวไม่ต้องติดสื่อสารใครๆได้ยิ่งดี ... ไม่ต้องรับรู้อะไรภายนอกอีกแล้ว ..”

ดาวฟังคำเล่าแล้วหลับตาพริ้ม นึกไม่ถึงว่าชายที่หญิงสาวทุกคนในเมืองนี้ถวิลหา จะมีความคิดที่ตรงกันข้ามกันกับผู้คนยุคบริโภคนิยมเช่นทุกวันนี้ อย่างตรงข้ามหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ ...

“ ฉันว่าชีวิตฉันน่าจะสลับกับชีวิตคุณ ก็น่าจะดีนะคะ...”

“ ผมรู้ ผมรู้ว่าคุณก่อนมาอยู่ที่วิกตอเรีย คุณก็ลำบากมาก ...”

หญิงสาวเลิกคิ้วเมื่อได้ยินว่าตนเองทำงานที่ร้านคาราโอเกะวิกตอเรีย ...

“ คุณวินทราบว่า ...ฉัน ..เอ่อ..ฉันทำงานที่นั่น...”

“ อย่างที่ผมบอก ผมติดตามคุณดาวมานาน ... คอยแฝงตัวในมุมมืด ไม่แสดงตัวซะทีว่าผมชอบคุณ...”

“ งั้นคุณก็รู้เรื่องฉันในวัยเด็กทั้งหมดแล้วสิคะ...”

“ ไม่ทั้งหมดหรอกครับ ... ผมรู้แต่ว่าคุณเป็นสาวสวยคนเดียวที่ใครๆก็ร่ำลือว่าสวยหยดย้อย เป็นหนึ่งเดียวของพนักงานในวิกตอเรีย ที่จะต้องจองคิวเป็นอาทิตย์กว่าจะได้คุยกับคุณ ที่สำคัญคุณดาวมีค่าที่สุดในวิกตอเรีย..”

“ ขอบคุณที่คุณวินไม่พูดอะไรออกมาทั้งหมด จริง ๆ แล้วฉันมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นคน ดิ้นรนเลี้ยงปากท้องด้วยวิธีที่ผิด ๆ ผู้คนในสังคมที่รู้ว่าพวกเราเป็นแบบนี้พากันรังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าที่หาเช้ากินค่ำข้างถนนยังตั้งหน้าตั้งตาพากันเดียดฉันท์ ตีค่าต่ำเพียงดิน .. ฉันไม่ได้เป็นดาวอย่างชื่อฉันหรอกค่ะ...”

ดาว กระพริบตาถี่ๆจนน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง มาวินนิ่งเงียบอยากจะเข้าไปซับน้ำตาให้ใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้เพราความสัมพันธ์ยังไม่ได้พัฒนาไปไกลถึงขนาดนั้น จึงทำได้แค่เอื้อมมือหนาใหญ่ไปตะปบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ...

“ เอาน่าถ้าคุณลำบาก ผมรับเลี้ยงตลอดชีวิตก็ยังไหวนะครับดาว..”

“ ฉันรู้ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี อย่ามาเกลือกกลั้วสิ่งชั่ว ๆ อย่างฉันเลยค่ะคุณวิน...”

“ ผมก็ไม่ได้ดิบดีอย่างที่คุณคิดหรอกครับ ... เอาไว้ว่างๆจะเล่าชีวิตให้ฟัง แต่คืนนี้พักผ่อนให้สบาย ผมจะไปพักอีกห้อง ถ้าต้องการอะไรก็กดหมายเลข 635 ผมจะรีบมาเลย ...”

“ ค่ะ ขอบคุณคุณมาวินที่ดีกับฉัน ถ้ามีโอกาสสักครั้งในชีวิตฉันจะตอบแทนคุณให้ได้แน่นอนค่ะ...”

“ โอ๊ย...อย่าคิดไปไกลขนาดนั้นเลยครับ เอาคืนนี้พักให้สบายใจ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ผมไปล่ะ ... ถ้วยชามพวกนี้กองเอาไว้ตรงมุมครัว ตรงโน้น พรุ่งนี้แม่บ้านจะมาเก็บและทำความสะอาดไปทีเดียว ... ราตรีสวัสดิ์ครับดาว ...”

หญิงสาวหลบสายตาที่มองมาอย่างหวานฉ่ำใบหน้าแดงสะเทิ้น ก่อนจะเห็นว่าคนตัวสูงใหญ่ได้อมยิ้มยียวนเดินจากห้องไปด้วยท่าทางและอารมณ์ที่เป็นสุขเหลือล้น ..

กว่าที่ดาวจะข่มตาลงเวลาก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่มานานแล้ว ... หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวสั่นคอนเมื่อมองเห็นความหรูหรารอบตัว ... ชีวิตคนเราเกิดมามีทุกอย่างครบเหมือนกันทั้งสมองและสองมือ แต่ไฉน ถึงต้องแตกต่างในเรื่องความเป็นอยู่หรือการดำรงชีวิตอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือได้เช่นนี้ ...

ตลอดที่ได้สนทนากันดาวรับรู้อีกอย่างหนึ่งว่ามาวินได้แอบปลื้มตนอย่างแท้จริงจนยากจะถอนตัวได้ คิดแล้วเพื่อกันปัญหาที่จะตามมาทั้งหมด ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เรื่องยุ่งยากจะตามมาแบบแทนคุณ ...

------------------------------------------------



จบตอนที่ ๓ ตามสัญญา แล้วพบกับตอนที่ ๔ อีกไม่กี่วันต่อจากนี้นะครับ .. ขอบพระคุณมากครับที่กรุณาเข้ามาอ่าน ..ขอบคุณจริง ๆ จากใจ..นายเมฆชรา


Create Date : 14 พฤษภาคม 2552
Last Update : 14 พฤษภาคม 2552 13:10:58 น. 0 comments
Counter : 1274 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.