จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
สิงหาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
26 สิงหาคม 2553
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
สายน้ำน่านที่ไหลเชี่ยวข้นคลักอยู่ข้างกายสวนทางแล่นลิ่วไปข้างหลังอย่างรวดเร็วราวกับสายลมแรงกล้า อีกทั้งเสียงปลุกเร้าที่รายรอบตนเองขณะนี้ทำเอาหัวใจที่เต้นตุบตั๊บดังกองเพลระรัวลั่น เลือดในร่างกายฉีดพุ่งปรู๊ดปราดคล้ายกระแสไฟแรงสูงแล่นไปมาของอิสราแทบจะโลดแล่นไปชิมลิ้มรสความหอมหวานของชัยชนะของเส้นชัยที่อยู่ตรงหน้าเพียงแค่เอื้อมเท่านั้น ....
เพราะตั้งแต่เสียงปืนดังลั่นไปทั่วบริเวณเส้นปล่อยตัว ฝีพายรูปประมาณเกือบสามสิบชีวิต ร่างกำยำบ่งบอกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดแกร่งทนทานและอดทนอย่างเต็มที่ ที่ตอนนี้สวมเสื้อสีเขียวสลับส้มอันเป็นสีประจำโรงเรียนมัธยมท่าวังหินพลิกพลิ้วสะบัดไปตามแรงลมที่พัดเข้ามาปะทะจะมองดูแล้วทั้งสวยงามและแก่งกล้าในเวลาเดียวกัน ต่างก็ทุ่มแรงกายทั้งหมดไปที่ไม้พาย พร้อมกับเงี่ยหูคอยฟังสัญญาณที่ได้ยินจากท้ายเรือ ...
..... ออก ออก อัด อัด และ บิน บิน ....
อิสราออกแรงไปที่แขนทั้งหมดด้วยเรี่ยวแรงที่มี สายตาชำเลืองไปยังเรือพายของคู่ต่อสู้ เห็นเพียงลำโขนเรือโผล่ขึ้นแรงมาเรื่อย ๆ กระทั่งมาเทียบเท่ากับตำแหน่งพายของตัวเอง เสียงปลุกเร้าดังขึ้นมาอีกคำรบตามมาด้านหลัง ...
“ เอ้าออกแรงพายจ้ำให้หนัก ท่าวังหิน สู้ สู้ บินไปเลยพวก บินไป”
....... เฮ้ เฮ้ ....... เฮ้ เฮ้ ....... เฮ้ เฮ้
....... เฮ้ เฮ้ ....... เฮ้ เฮ้ ....... เฮ้ เฮ้
เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนจะบินไปตามเสียงปลุกเร้าที่อยู่ด้านหลัง ทุ่มแรงลงไปที่ไม้พายอย่างเต็มที่ใจข้างในโผนทะยานไปข้างหน้าใกล้เส้นชัยอย่างใจฝัน เรือแข่งของโรงเรียนท่าวังหินออกนำห่างจากเรือแข่งบ้านท่าค้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อิสราเพ่งมอง เส้นชัยที่มองเห็นราง ๆ ข้างหน้าด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าครั้งใด ๆ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวก็จะหยิบชัยชนะไปให้คนหน้าใสที่ยืนอยู่อัศจรรย์เชียร์นั่น ..
แต่เอ๊ะ ! เกิดอะไรขึ้นที่บนริมฝั่งนั่น อัศจรรย์เชียร์ที่เคยเห็นอยู่ตั้งแต่การแข่งขันในวันแรกหายไปไหน? แล้วทำไมผู้คนถึงแตกตื่นส่งเสียงวุ่ยวายทั้งตื่นตระหนก ทั้งร้องขอความช่วยเหลือกันขนาดที่ได้ยินมาจนถึงมากลางลำน้ำน่านแห่งนี้ อิสราเสเลยมองไปยังจุดเชียร์ของโรงเรียนในทันที มือหนึ่งจ้ำพายไปข้างหน้า แต่สมาธิทั้งหมดกลับทุ่มเพ่งมองไปยังอัศจรรย์ที่ค่อยจมหายไปในน้ำ ...
“ เฮ้ยนั่น ! กองเชียร์พวกเราจมน้ำนี่หว่าอิส”
เสียงของเดี่ยว เพื่อนร่างบึกตัวใหญ่ ก้องดังขึ้นมาจากด้านหลัง ตรงใจกับที่อิสราคิดเอาไว้ว่าจะทำอะไรดีกับเหตุการณ์ในยามคับขันเช่นนี้ ... ด้วยตนเองเชื่อได้ว่ามะยมกำลังอยู่ลำน้ำน่านแน่ ๆ เพราะก่อนที่ตนเองกับเพื่อน ๆ จะพายเรือทวนน้ำขึ้นไปเริ่มแข่งขันที่จุดเริ่มต้น มะยมกับเพื่อน ๆ โดยเฉพาะมะหมี่ โบกมือมาให้เป็นกำลังใจจากแถวหน้าสุด ...
อิสราหยุดชะงักการพายไปในทันที เรือแข่งของโรงเรียนมัธยมท่าวังหินเริ่มถูกเรือของบ้านท่าค้ำตีเทียบเสมอ ก่อนที่จะเตรียมที่จะแซงไปได้ในทันทีในไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้ว ..
“ นายหยุดพายทำไมอิสรา เรือเรากำลังจะโดนแซงนะ”
“ ขอโทษด้วยนะเพื่อน...ฉันไปล่ะ”
เรือที่จ้ำพายขณะจะพุ่งเข้าสู่เส้นชัยมีความเร็วในระดับหนึ่ง การขับเคี่ยวเพื่อให้ได้ชัยชนะมักจะวัดกันตรงใกล้จะถึงเส้นชัยนี่แหละ…
กำลังเรี่ยวแรงที่มีจึงถาโถมเข้าใส่อย่างเต็มที่ แต่ทว่าฝีพายคนหนึ่งของโรงเรียนมัธยมท่าวังหินได้ทำในสิ่งที่หลายคนต้องหวัดร้องออกมาด้วยความตกใจ อย่างไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำ ...
-----------------------
ความขุ่นของลำน้ำน่านเป็นสีแดงเข้มทำเอามะยมแทบจะลืมตาในน้ำเพื่อมองหา ร่างของพลอยใสไม่เจอ แต่ดูแล้วเหมือนทุกอย่างเป็นจังหวะบังเอิญไปซะหมดเพราะรองเท้าสีชมพูคู่นี้ ...
มะยมดำดิ่งลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว เพ่งสายตาจนมองเห็นว่าพลอยใสกำลังอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ดวงตาที่แลเห็นลิบ ๆ ดูเหลือกถลนออกมาคล้าย ๆ กำลังกลัวสุดขีด มือไม้แกว่งไกว่ไปมา ริมฝีปากขยับขึ้นลงคล้ายกำลังจะเอ่ยประโยคอะไรออกมา โดยที่มะยมฟังไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าตอนนี้พลอยใสกำลังเดือดร้อนหนัก
“ ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย ..”
นี่คือประโยคที่มะยมเดาเอาจากริมฝีปากบางได้รูปของพี่สาวร่วมสายเลือด ..
ปฏิกิริยาของมะยมรวดเร็วเสมอมาตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยครูพลเคยสอนให้ชกมวยและเอ่ยชมอยู่เสมอว่ามะยมน่าจะเกิดมาเป็นเด็กผู้ชายมากกว่าที่จะเป็นเด็กผู้หญิงเช่นนี้ ...
เด็กสาวมาดทอมบอยรีบพุ่งเข้าไปประคองให้พลอยใสให้ตัวตั้งตรง เพื่อจะให้อีกฝ่ายรีบสลัดแก้เชือกหรือทำอะไรสักอย่างที่กำลังพันเรียวขาอยู่ขณะนี้ให้หลุดพ้นไปในทันที ...
แต่พลอยใสกลับส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าทำไม่ได้ ก่อนจะชี้ไปที่ข้อเท้าด้านล่าง มะยมดำดิ่งลงไปในน้ำที่อยู่ในห้วงลึกในทันที จนพบกับปัญหาที่พลอยใสขยับตัวพุ่งขึ้นเหนือน้ำไม่ได้อย่างชัดเจนแล้วว่า มันเป็นอะไร..
... มันคือเส้นตาข่ายของแหนั่นเอง ...
มะยมแก้เชือกไนล่อนที่พันติดขาพลอยใสออกด้วยความเร่งรีบ เพราะด้วยอากาศที่สูดเข้าปอดก่อนจะดำน้ำลงมาเบื้องล่างใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว จนในที่สุดขาของพลอยใสก็หลุดพ้นจากพันธนาการ ก่อนจะพุ่งขึ้นสู่เหนือน้ำไปโดยไม่หันหลังกลับมาเลย ...
พลอยใสค่อยประคองตัวเองขึ้นสู่ฝั่ง จนเจอครูเมตตาที่ยืนรอรับพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ เด็กสาวโผเข้าไปสวมกอดผู้อาวุโสด้วยความกลัวและกำลังต้องการกำลังใจยิ่งนัก ...
น้ำตาที่ไหลอาบสองข้างของสาวหน้าใสทำเอาไทยมุงที่มุงมาตั้งแต่พลอยใสขึ้นจากน้ำค่อย ๆ แตกกระจายไปคนละทิศละทาง จนมีร่างบางร่างหนึ่งเดินตัวเปียกโชกเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่ร้อนรน แล้วเอ่ยถามว่า
“ นังยมที่ไปช่วยแก มันขึ้นมาจากน้ำหรือยัง”
“ ไม่รู้สิ...ไม่เห็นมีใครช่วยฉันนี่ ฉันว่ายขึ้นมาจากน้ำเองนะ”
พลอยใสค่อย ๆ ปาดน้ำตาออกก่อนจะเชิดหน้าคอตั้งอย่างกิริยาปกติยามอยู่เงียบ ๆ คนเดียวหือเดินเหินไปไหนต่อไหน ..
“ พูดหมาหมา ก็นังยมไปช่วยแกขึ้นมาจากน้ำไม่ใช่เรอะ ! ตอนนี้มันหายไปไหนวะ”
“ เอ๊ะ! ฝน ... เธอมาตะคอกฉันทำไม ฉันไม่รู้ก็ไม่รู้สิ จะมาเค้นเอาความจริงอะไร”
“ ก็ตะกี้ตอนอยู่ในน้ำ พอฉันช่วยยายวันวิสา นังยมมันก็เลยผละไปช่วยหล่อนไงล่ะจำได้หรือยังแม่นกหงส์หยกความจำสั้น”
“ นี่หล่อน ..”
พลอยใสทำท่าทางจะเอะอะโวยวายออกมาจนเกินเหตุ ครูเมตตาที่อยู่ใกล้ ๆ จึงโบกมือให้ทั้งสองหยุดเถียงกันได้แล้ว ครูลมจะจับแล้ว ทั้งสองจึงได้เงียบลงหันหน้าไปกันคนละทาง กระทั่งได้ยินเสียงฮือฮามาริมฝั่งน้ำ ก่อนเสียงซุบซิบจะดังขึ้นเรื่อย ๆ ...
“ ว้ายตายแล้วพวกเราดูนั่นสิ ... คุณชายอิสรากำลังอุ้มใคร ขึ้นมาจากน้ำน่ะ”
“ อุ๊ย ...พวกเราพี่มะยมนี่หว่า ไหงไปจมอยู่ในน้ำนั่นได้นะ ฉันงงไปหมดแล้ว”
เสียงสนทนาดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณริมน้ำ น้ำฝนพอจะจับใจความและลำดับเรื่องราวได้ จึงหันหลังกลับไปจ้องมองสาวหน้าใสที่สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอีกคราแล้ว ...
“ ฝีมือเธอใช่มั้ยพลอย ... เธอทำอย่างนั้นได้ไง ! นั่นน้องเธอนะ ... กะให้ตายเลยเรอะ”
“ อย่ามากล่าวหาฉันพล่อย ๆ อย่างนี้นะหล่อน ... ใครทำอะไรฉันไม่รู้เรื่อง”
“ เฮอะ! ไม่รู้เรื่อง ... เธอคิดเหรอว่าคนอื่น ๆ เค้าจะเชื่อคำโกหกคำโตของเธอ”
“ ฉันก็ไม่ได้ง้อให้ใครมาเชื่อนี่ยะหล่อน ... ฉันบริสุทธิ์ ฉันไม่ได้ทำอะไร”
“ เอาเถอะนะพลอย เชิญเธอหลงตัวเองไปเถอะ ... สักวันกรรมจะสนองเธอเอง ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับผลตอบแทนไปตามนั้น หนีไม่พ้นหรอก”
“ เอ๊ะ !อยากจะมีเรื่องกับฉันนักหรือฝน ถึงต้องมาไล่จี้เหมือนพ่อเหมือนแม่ฉันอย่างนี้ ”
“ ไม่มีอะไรแล้วพลอย ... ฉันจะไปดูคู่รักหวานแหววขึ้นจากน้ำดีกว่า ไปล่ะนะพลอย”
น้ำฝนหยักไหล่ขึ้นสูงเมื่อพูดจบประโยค ก่อนจะเดินลิ่วลับตาไปยังไทยมุงเกือบร้อยชีวิตข้างหน้าด้วยอาการทอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ ข้างฝ่ายพลอยใสรู้สึกหน้าร้อนผ่าวเหมือนถูกตบด้วยคำพูดขึ้นมา ... จึงคำรามอยู่ในใจ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยอารมณ์พุ่งพ่านภายใจเสมือนกองไฟกองใหญ่กองนั้นดับลงได้เลย ...
อิสราไม่น่าจะช่วยมันให้ขึ้นมาจากในน้ำได้เลย มันน่าจะตาย ตาย ให้จบเรื่องจบราวไปซะที ...
“ มะยมเป็นยังไงบ้างอิสรา ฟื้นหรือยังล่ะ”
เสียงครูเมตตาที่กำลังแหวกไทยมุง ก็คือ นักเรียนท่าวังหินเกือบสองร้อย ค่อย ๆ เข้ามาจนถึงเต็นท์ปฐมพยาบาลของสภากาชาดที่จัดไว้สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน ...
“ ยังไม่ฟื้นเลยครับอาจารย์ สงสัยจะกินน้ำเข้าไปมาก เดี๋ยวรถพยาบาลกำลังจะลงมารับที่นี่ครับ”
“ โธ่ยายมะยม ! ทำไมช่างโชคร้ายอะไรอย่างนี้นะ”
ครูเมตตาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เมื่อมองเห็นชัดแล้วว่ามะยมนอนนิ่งสงบ หายใจระรวยอยู่ท่ามกลางคณาจารย์รายรอบเกือบสิบกว่าคน ...
“ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรนะครับอาจารย์ มะยมปลอดภัยดีแล้ว เมื่อกี้ลืมตาขึ้นมาครั้งหนึ่ง พี่ ๆ พยาบาลให้พักผ่อนก่อน เดี๋ยวสักพักจะให้น้ำเกลือ”
“ นี่ถึงต้องให้น้ำเกลือกันเลยเหรอ เป็นเวรกรรมอะไรหนอยายมะยม เจอแต่เรื่องร้าย ๆ ได้ตลอดเวลา แล้วนี้ครูพล ไม่มีฉีกอกชั้นตายเหรอนี่ ”
ครูเมตตายกมือขึ้นทาบอกถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ก่อนจะทรุดลงนั่งข้าง ๆ ลูกศิษย์คนโปรดที่มีเรื่องให้เกี่ยวข้องกันได้ตลอดเวลา ... อิสราขยับตัวลุกขึ้นเพื่อไปหยิบน้ำดื่มมาให้อาจารย์เมตตาก่อนที่จะตอบคำถามของครูอาวุโสว่าแผลที่ขาได้ให้พยาบาลดูหรือยัง เด็กหนุ่มตอบว่าเรียบร้อยแล้ว ... ครูเมตตาจึงถามว่าทำไมถึงกระโจนออกมาจากเรือแข่งอย่างนั้น อิสราจึงเล่าไปคร่าวว่า ....
“ พอผมมองเห็นอัศจรรย์เชียร์เลื่อนไหลจมน้ำ น้อง ๆ วิ่งหนีตายกันอลหม่าน เชียร์ลีดเดอร์หลายคนช่วยกันขึ้นจากน้ำสำเร็จ จนเหลือสามคนบนแพไม้ไผ่ วันวิสาถึงฝั่งก่อนกับน้ำฝน จนพลอยใสโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำคนเดียว ผมจึงกระโดดจากเรือแข่งลงไปช่วยพลอยจนถึงฝั่ง ได้สักพักหนึ่งหยาดทิพย์วิ่งมาบอกว่ามะยมไปช่วยพลอยใสแล้วยังไม่ขึ้นมาจากน้ำเลย ... ผมรู้สึกช็อค จึงกระโจนลงน้ำไปในทันที ก็พบว่ามะยมกำลังจะหมดแรงอยู่ใต้น้ำ ผมจึงแก้เชือกที่พันติดที่ขาแล้วอุ้มขึ้นน้ำมานี่แหละครับอาจารย์”
“ ขายายมะยมไปติดอะไรในน้ำ”
“ เป็นเส้นใยพลาสติกคล้ายแหครับอาจารย์ มะยมคงหมดแรงที่จะดึงตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำได้ เลยจมน้ำอยู่อย่างนั่นครับ พี่พยาบาลบอกว่าชีพจรของมะยมเต้นช้ามากในตอนแรก ๆ จนมาดีขึ้นเมื่อครู่นี้ครับ”
“ นี่มีใครไปตามครูพลมาหรือยัง”
“ ผมให้เดี่ยวไปตามแล้วครับอาจารย์ ประเดี๋ยวคงตามไปที่โรงพยาบาล”
“ เฮ้อ !โล่งอกไปที แล้วคนอื่น ๆ ใครเจ็บอะไรตรงไหนมั่งยายจิ๊บ” ครูเมตตาหันไปถามกลุ่มสาวซ่าส์ที่นั่งเงียบฟังคนสองคนสนทนาหน้าสลอนกันอยู่สามสี่คน “ พวกน้อง ๆ เจ็บกันคนละนิดละหน่อย พวกเชียร์รีดเดอร์ตกใจวิ่งขึ้นจากแพทันกันหมด ยายวันวิสา เอ่อ วันวิสาทางบ้านรับกลับไปแล้วค่ะอาจารย์”
“ งั้นก็ดีแล้ว อ้าวนั่นท่านอาจารย์ใหญ่มาพอดี เดี๋ยวครูไปเรียนท่านก่อนนะ”
พอครูอาวุโสเดินคล้อยหลังออกจากเต็นท์พยาบาลออกไปข้างนอก เป็นจังหวะเดียวที่มะยมฟื้นตื่นลืมตาขึ้นมา ด้วยอาการที่ยังคงสลึมสะลือ ส่ายตามองไปบนหลังคาเต็นท์อย่างเหม่อลอยกว่าปกติ กระทั่งจิ๊บตะโกนลั่นด้วยเสียงอันดัง จนสติสะตังของสาวตาคมร่างบางกลับมาอีกครั้ง จนมองเห็นใบหน้าคมเข้มของใครคนหนึ่งลอยเด่นอยู่ใกล้ด้วยอาการแย้มยิ้ม ทอดสายตาบอกความนัยทั้งหมดปรากฏอยู่ในดวงตาคู่นี้ ...
“ อ้าว! แม่ตัวดีตื่นแล้วหรือจ๊ะ ... แหมแกล้งนอนหลับไปซะนานเลยวุ้ยเพื่อน”
“ เฮ้ย …นังจิ๊บแกพูดเบา ๆ หน่อยสิเกรงใจคนป่วยมันหน่อยสิ ”
มะหมี่ที่นั่งนิ่ง ๆ หันมาทำตาโตพร้อมกับตีแขนสาวทอมบอยเสียงแปดหลอดดังเพียะ จนทุกคนต้องหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน ...
“ แกมาตีฉันทำไมนังกระเทยควาย ”
“ ก็หล่อนเงียบ ๆ เสียงหน่อยได้มั้ย ปล่อยให้คนช่วยชีวิตนังยมเขาถามไถ่กันเองดีกว่า”
“ เออ เออ บอกแค่นี้ก็รู้แล้ว” จิ๊บกับมะหมี่ถอยร่นออกไปข้างเตียงปล่อยให้คนสองคนเอ่ยถ้อยสนทนากันอยู่อย่างเงียบ “ ปวดหัวหรือหิวน้ำมั้ยครับมะยม” เสียงทุ้มนุ่มนวล ชวนน่าเคลิ้มและหลงใหลแว่วดังมากระซิบข้างหู จนมะยมถึงกับหันไปตามเสียงนั่น ....
“ เวียนหัวนิดหน่อยจ๊ะ... แล้วนี่เพื่อน ๆ ของฉันหนีไปไหนกันหมด”
“พวกเขารอมะยมอยู่ข้างนอกให้ผมมาถามอาการเบื้องต้นของมะยมก่อนเดี๋ยวรถพยาบาลจะมารับแล้ว”
“ ฉันไม่อยากจะไปโรงพยาบาลเลยอิสรา” มะยมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงละห้อยดูน่าสงสาร จนคนร่างสูงอดยิ้มและปลอบใจไปว่า …“ คงไม่มีอะไรมากหรอกมะยม แค่ไปเช็คระบบต่าง ๆ ของร่างกายว่ายังทำงานปกติหรือเปล่าเท่านั้น คงไม่ได้นอนค้างที่นั่นหรอกครับ”
“ ฉันอยากจะกลับบ้าน ฉันกลัวโรงพยาบาล กลัวเข็มฉีดยา”
“ ฮึ ฮึ ไม่น่าเชื่อว่าหญิงเก่งและแกร่งอย่างมะยมจะกลัวเข็มไปได้นะครับ”
“ ก็ตอนเด็ก ๆ ของฉันมีเรื่องฝังใจไม่ดีเกี่ยวกับโรงพยาบาลกับเข็มฉีดยานี่นา ถ้าเล่าไปเรื่องมันจะยาวและน่าขายหน้านักเชียว” มะยมเริ่มหน้าง้ำด้วยความขวยเขินและพยายามแก้เขินด้วยการดึงทึ้งผ้าห่ม...
“ ผมจะบอกมะยมว่า ผมก็กลัวเหมือนกันครับ ฮ่ะ ๆๆๆ”
“ จริงหรือเปล่าอิสรา ... งั้นนายพาฉันกลับบ้านตอนนี้เลยได้มั้ย”
“ ผมคิดว่าคงไม่ได้แล้วล่ะครับมะยม รถพยาบาลกำลังมาถึงพอดี ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณที่โรงพยาบาล คนกลัวเข็มฉีดยาสองคนจะต้องอยู่เป็นเพื่อนกันใช่มั้ยครับ”
เด็กสาวพลิกตัวตะแคงข้างไม่ตอบหรือเอ่ยอะไรอีกเลย กระทั่งเตียงพยาบาลพร้อมบุรุษพยาบาลยกตัวคนไข้ขึ้นสู่เปลเหล็ก แล้วเคลื่อนเตียงคนไข้ขึ้นสู่รถพยาบาลฉุกเฉินนออกจากเต็นท์ริมน้ำแห่งนี้ไปในทันที ...
อิสราเดินออกมานอกกระโจมด้วยการเดินกระเพก ๆ เดินสวนทางกับวันวิสารที่นั่งแฝงตัวอยู่กับเปลคนไข้ที่วางเรียงรายปฐมพยาบาลกันหนาตา เด็กหนุ่มทำได้แค่ชำเลองมองแค่หางตา ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปยังรถกะบะสปอร์ตสีเขียวใบไม้ที่สตาร์ทเครื่องไว้รอท่าอยู่แล้ว ...
“ ไปโรงพยาบาลครับลุงแม้น”
-----------------------
พอลืมตาขึ้นจากการงีบหลับไปชั่วขณะ มะยมก็ได้ยินเสียงคนสองคนสนทนาแว่วอยู่ริมระเบียงนอกห้องคนไข้ จึงดันตัวเองให้ลุกขึ้น แล้วใช้หมอนดันตัวให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ก่อนจะเงี่ยหูฟังเรื่องราวที่คนทั้งสองสนทนาอย่างน่าสนใจ ...
“ อะไรนะอิสรา ! นายกำลังจะบอกฉันว่ายายยมจมน้ำครั้งนี้ ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ”
“ ผมไม่กล้ายืนยันฟันธงถึงขนาดนั่นหรอกครับ เพียงแต่สันนิษฐาน ปะติดต่อเรื่องราวไว้เล่นๆแค่นั้นเอง” อิสราจ้องมองไปยังสายฝนที่หล่นพรำอยู่ข้างนอกอาคาร ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน ...
“ ตอนที่ฉันหิ้วยัยวิสา คู่หมั้นของนาย ออกมาจากแพนั่น ฉันเห็นยายยมของฉันอาการร่อแร่แล้ว ไหนจะว่ายน้ำช่วยเด็กมอต้นตั้งหลายรอบ แล้วไหนจะช่วยยายวิสาอีก จนไปช่วยยายพี่สาวใจมารนั่นอีกล่ะ ... แค่นี่ถ้าไม่หมดแรงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว”
“ มะยมช่วยชีวิตวันวิสาด้วยเหรอครับน้ำฝน”
“ ก็แหงล่ะ แฟนนายแหกปากซะลั่นคุ้งน้ำขนาดนั้นคนอย่างนังยมน่ะเหรอจะไม่ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก”
“ โธ่มะยม ... ไม่น่าเหนื่อยยากลำบาก จนหมดเรี่ยวหมดแรงเกือบเอาชีวิตไม่รอดขนาดนี้”
“ นั่นไม่สำคัญเท่ากับถูกพี่สาวร่วมสายเลือดเหยียบหัวจมน้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอดหรอก”
“ ผมว่าน้ำฝนกำลังเข้าใจพลอยใสผิดอยู่นะครับ เขาอาจจะไม่มีเจตนาก็ได้”
“ เชอะ ! ใครจะไปเชื่อแม่จอมกระล่อนคนนั้นให้โง่ล่ะอิสรา มันนั่นแหละที่เหยียบหัวนังยมจนจมน้ำแทบจะเอาชีวิตรอดกลับมาไม่ได้ เป็นเพราะบุญเก่ามันยังมี นายถึงต้องกระโดดเรือแข่งลงมาช่วยมันไว้ไงล่ะ”
“ ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุเราไม่ควรไปปรักปรำเขาทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานอะไร”
“ ถ้านายไม่เชื่อก็ลองถามนังยมมันดูก็ได้ เดี๋ยวมันคงจะตื่นแล้ว”
“ ถ้าเป็นจริงอย่างที่เล่า มันก็เป็นเรื่องเลวร้ายที่ให้อภัยกันไม่ได้ เดี๋ยวผมจะถามเรื่องนี้กับมะยมตรงๆ”
อิสราจบการสนทนาด้วยความกังวลและสับสนในความสัมพันธ์อันลึกลับซับซ้อนของพี่น้องสายเลือดเดียวกันของมะยมกับพลอยใส ก่อนจะผลักบานประตูเข้าไปในห้องคนไข้ที่สะอาด ดูสีขาวสะอ้านไปทั้งห้อง..
.
“ คุยอะไรกันเหรอยัยฝน .. แล้วนี่.เพื่อนเรากลับกันหมดแล้วรึ”
“ พวกมันกลับตั้งแต่ตอนค่ำแล้ว พ่อครูพลไม่อยู่ไปสัมมนาที่ต่างอำเภอ ตอนดึก ๆ จะมาเยี่ยมเธอ”
“ อ้าวงั้นเหรอฝน ... แล้วนี้ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ ใครมารับที่นี่ล่ะ”
“ เดี๋ยวพ่อก็มารับ ฉันจะไปรอที่ตึกหน้าก่อนนะมะยม”
“ เออไปเถอะฝน ประเดี๋ยวพ่อของฉันก็คงจะมาเหมือนกันขอบใจสำหรับทุกอย่างในวันนี้นะเพื่อนรัก”
“ ไปล่ะอิสรา ไปละมะยม”
พอได้อยู่กันสองคนตามลำพัง ทั้งคู่กลับนิ่งเงียบไปในทันที ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีกเลย จนเวลาล่วงผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง มะยมจึงเอ่ยคำพูดแทรกบรรยากาศที่เงียบงันขึ้นมาว่า ...
“ เรื่องที่คุยกันริมระเบียงฉันได้ยินหมดแล้วนะอิสรา นายมีเรื่องอะไรจะถามฉันก็รีบถามสิ”
“ ผมอยากจะถามว่าเพราะอะไรมะยมถึงจมน้ำได้ ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามอย่างเบี่ยงประเด็นแบบอ้อม ๆ
“ เอาเป็นว่าฉันขอขอบคุณสำหรับเรื่องราวในวันนี้กับนายก่อน ขอบใจมากนะอิส ... ถ้าฉันไม่ได้นายช่วยชีวิตเอาไว้ ฉันคงต้องตายอยู่ที่ใต้น้ำนั่นแน่ ๆ ”
คนพูดน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ออกมาทันที จนคนฟังต้องเอื้อมมือเรียวเนียนละเอียดขึ้นมาเกาะกุมไว้ในระหว่างหัวใจ ...
“ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ผมแค่ทำตามหน้าที่ของหัวใจผมเท่านั้นครับมะยม”
“ แต่นายก็ช่วยชีวิตฉันอีกครั้งหนึ่งแล้ว ชีวิตของฉันเป็นหนี้นายไม่รู้กี่ครั้งแล้ว”
“ ไม่หรอกครับมะยม ผมยินดีและเต็มใจที่จะทำเช่นนั้น”
มะยมแย้มยิ้มออกมาทั้งที่น้ำตาไหลออกมา สายตาสองคู่ประสานกันมั่นนิรันดร ไม่มีอะไรจะเอ่ยออกมาได้เป็นถ้อยคำอีกแล้ว ....
-----------------------
ติดตามกาหรือหงส์ ตอนที่ ๓๗ วันอาทิตย์ดึกๆๆนะครับ ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านมา ขอบพระคุณคร้าบ
นายอิส/เมฆชรา
๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ สี่ทุ่มกว่าๆๆ
Create Date : 26 สิงหาคม 2553
Last Update : 26 สิงหาคม 2553 22:28:53 น.
1 comments
Counter : 709 Pageviews.
Share
Tweet
ทักทายนะค่ะ
สนุกๆๆดีจัง ฮ่าๆๆ
มาอ่านของเรามั้งน๊า เราพึ่งอัพลงบล็อก อิอิ
ยินดีนะค่ะ
โดย: โรสชมพู (
bon_ob
) วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:19:27:58 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ทักทายนะค่ะ
สนุกๆๆดีจัง ฮ่าๆๆ
มาอ่านของเรามั้งน๊า เราพึ่งอัพลงบล็อก อิอิ
ยินดีนะค่ะ