จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔

ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔




ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔

ถนนลาดยางที่มีไอละอองแดดลอยเป็นเปลวขึ้นไปบนอากาศบอกให้เอื้อมดาวรู้ว่าวันนี้สภาพอากาศจะร้อนทบทวีกว่าปกติอย่างแน่นอน หญิงสาวเป็นห่วงอาการป่วยกระเสาะกระแสะของนางลำเจีอกที่โรงพยาบาลจิตเวชจะกำเริบหนักขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหลังจากเดินด้วยอาการเร่งรีบไปให้พ้นออกมาจากโรงแรมหรูแห่งนั้นหญิงสาวก็รุดตรงไปถามอาการของผู้มีบุญสูงสุดในชีวิตอีกคนหนึ่ง จนปลายสายเอ่ยถามมาว่า ...

“ คุณต้องการทราบอะไรคะคุณดาว ...”

“ ฉันเอ่อ ... อยากรู้อาการป่วยของป้าลำเจียก ห้อง 36 ค่ะคุณพยาบาล...”

“ เมื่อตอนบ่ายป้าเจียกไข้ขึ้นสูง เพ้อและก็อาเจียนออกมาอยู่หลายครั้ง ตอนนี้คุณหมอวิชาญให้นอนพักฟื้นที่ห้องดูอาการค่ะ แล้วคุณเป็นใครเหรอคะ เป็นญาติป้าเจียกหรือเปล่า...”

“ ค่ะคุณพยาบาล ฉันเป็นญาติเพียงคนเดียวของป้า ...”

“ งั้นก็ดีแล้วที่เจอคุณ เพราะเมื่อตอนบ่ายคุณหมอบอกว่าช่วงนี้ญาติป้าเจียกต้องมาดูแลป้าอย่างใกล้ชิด ดีกว่าจะให้พยาบาลเวรดูแลกันเอง เพราะไม่รู้ว่าป้าจะอดทนกับโรคเบาหวานที่เรื้อรังนี้ได้อีกนานแค่ไหน ไม่มีใครรับประกันได้..”

“ แล้วฉันต้องทำยังไงค่ะคุณพยาบาล...”

“ ก็อย่างที่บอก ... คุณต้องมาดูแลป้าเจียกเอง เผื่อว่า ... เอ่อ อาการทางใจจะดีขึ้นมากว่าในตอนนี้...”

“ ค่ะ ค่ะฉันจะไปที่นั่นในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อจากนี้....”

ดาววางสายโทรศัพท์อย่างคนจิตใจอ่อนล้า เพราะเป็นห่วงในตัวยายลำเจียกผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิตว่าจะเป็นอะไรไปมากหรือเปล่า หรืออาจเป็นเพราะความผิดของตนเองทีเดียวที่ไม่ได้มาดูแลยายลำเจียกในช่วงนี้ มัวติดแต่เรื่องหนีอะไรบ้าๆ ก็ไม่รู้ เป็นไงล่ะตอนนี้เกือบสายเกินไปแล้ว นี่ถ้าป้าเป็นอะไรไปจะไม่ให้อภัยตนเองตลอดชีวิต ...

หญิงสาวพึมพำบ่นกับตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาป้ายรถเมล์ที่อยู่ถัดไปอีกสองเสาไฟฟ้า ด้วยอารมณ์เหม่อลอยเช่นเดิม

ระยะทางที่เอื้อมดาวมาถึงโรงพยาบาลจิตเวช ใช้เวลานานกว่าปกติเพราะผู้โดยสารที่แน่นขนัดเต็มคันรถ พอมาตึกผู้ป่วยประจำหญิงสาวเร่งรุดเข้าไปในทันที จนเห็นว่ายายลำเจียกระบายยิ้มน้อยๆ แต่ซีดเซียวขาดชีวิตชีวาของชีวิตอยู่บนเตียงนอนสีขาว โบกมือเข้าไปหา ...

“ ดาวของป้ามาแล้ว...”

เสียงเอ่ยทักของผู้อาวุโสทำเอาหยดน้ำตาของดาวหยดรินอาบสองแก้มนวล ยิ่งเมื่อเห็นสายยางที่พาดระโยงระยางไปมาเต็มไปหมดน้ำตาเจ้ากรรมไหลทะลักออกมาจนกลั้นไว้ไม่อยู่อีกทำนบใหญ่ .... พยาบาลสาวสองสามคนอดแปลกใจไปไม่ได้ที่เห็นหญิงสาวร่างเล็กบอบบางนอนกลั้วน้ำตากับคนไข้เป็นเวลานานสองนาน ก่อนจะเงยหน้าแล้วสนทนากัน ...

“ ป้าเจียกเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ...ปวดเมื่อยตรงไหนบอกดาวมาได้นะ..”

“ โธ่ดาวเอ๋ย ... ชีวิตแกก็ลำบากมากพออยู่แล้ว ยังมาห่วงป้าอีก… ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไรแล้ว ”

“ ดาวรู้นะว่าป้าไม่สบายมาก ตลอดเวลาที่ ดาวหายไป ป้าคงลำบากมาก ..”

“ วุ้ย ...ลำบากอะไรวะ อยู่ที่นี่กินนอนไปวันๆไม่เห็นต้องไปลำบากคุ้ยหาเศษขยะข้างนอกนั่น..” นางลำเจียกพยายามระบายยิ้มที่ฝืดฝืนเต็มทีออกไปเพื่อให้คนฟังสบายใจ แต่หญิงสาวกลับบีบมือผู้อาวุโสแน่น น้ำตาไหลนองหน้าอยู่เช่นเดิม ...

“ ดาวดีใจที่ป้าชอบที่นี่ วันนี้คุณพยาบาลฟ้องดาวว่าป้าไม่ยอมทานข้าว..”

“ ก็มันเบื่อนี่นา เช้าข้าวต้ม กลางวันซุป ตอนเย็นโจ๊กตบท้าย ... ไม่ให้อ้วกก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว ..”

“ อาการของป้าเจียกอยู่ในช่วงรอดูอาการ ให้คุณหมอท่านได้เช็ครายละเอียดโรคซะก่อนได้ไหมป้า ดาวขอสัญญาว่าถ้าป้าหายจากโรคนี้เมื่อไหร่ จะพาไปกินส้มตำรสเด็ดข้างสถานีตำรวจเจ้าประจำของเราสองคนให้ได้อย่างแน่นนอน ...”

“ ป้าไม่เป็นไรแล้ว เห็นไหมว่ายกแขนข้างนี้ขึ้นเหมือนเก่าแล้ว...” นางลำเจียกพยายามที่จะยกแขนขวาที่หนักอึ้งขึ้นสูงให้สูงขึ้นเพื่อแสดงว่าตนเองแข็งแรงดีเกือบเหมือนปกติ หญิงสาวไม่ต้องเป็นห่วงอะไร...

“ จ๊ะ ดาวเชื่อป้าเจียกแล้ว ...”

“ แล้วดาวเป็นยังไงบ้าง เลิกทำงานที่ร้านคาราโอเกะนั่นหรือยัง...”

“ ดาวบอกป้าเจียกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าได้งานทำที่นวนคร เป็นสาวโรงงานเย็บผ้าโหลเล็กๆ คนงานประมาณสองสามร้อย เจ้านายเป็นคนญี่ปุ่น ระเบียบจัดมาก แต่เขาก็จ่ายเงินสูงเช่นกันนะป้า ...”

ดาวระบายยิ้มตอบผู้อาวุโสที่ปรากฏยิ้มน้อยที่มุมปากเช่นกันก่อนจะเล่าต่อไปอีกว่า ...

“ วันนี้ดาวเอาเงินที่เก็บได้เล็กน้อย จากน้ำพักน้ำแรงมาให้คุณพยาบาลไว้เป็นค่ายา ค่ารักษาพยาบาล ค่าเฝ้าไข้ของป้าและค่าจิปาถะอีกหลายอย่าง ป้าอยู่ที่นี่ให้สบาย ไม่ต้องคิดมากเรื่องเงิน ... ดาวอยู่ข้างนอกจะหาเงินมาเยอะๆมาให้ป้าเจียกเก็บไว้ส้รางบ้านสำหรับเราอยู่กันสองคนเนอะป้าเนอะ...”

“ ป้าดีใจที่ช่วยคนไว้ไม่ผิด....”

“ เพราะดาวเชื่อป้า ทุกอย่างเลยลงตัวง่ายแบบนี้....”

“ เออ ...วันนี้ดาวไม่ทำงานเหรอจ๊ะ...”

นางลำเจียกเปลี่ยนเรื่องคุยไปสัพเพเหระ ไม่อยากให้หญิงสาวกังวลเรื่องเจ็บป่วยที่เห็นตรงหน้ามากเกินไป เป็นเพราะรู้ว่าเอื้อมดาวเป็นคนดี แต่โชคร้ายในชะตาชีวิต ...หญิงสาวคนนี้เป็นคน กตัญญูต่อตัวนาง สู้ทำงานหนักเอาตัวเข้าแลกเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งความสะดวกสบายกับบรรเทาท้องไส้ที่กำลังหิวโหยในทุกเมื่อเชื่อวัน ...

นางรู้ดีว่าการขายตัวหากินเป็นเรื่องไม่ดี แต่ชีวิตคนจนๆ ไม่มีหนทางให้เลือกมากนัก ....

“ เอ่อ ...คือ...ดาว หยุดทำงานสักระยะน่ะป้าเจียก...”

“ หยุดทำงานที่วิกตอเรียน่ะเหรอดาว ทำไมล่ะมีอะไรกับนังประคองมันหรือเปล่า...”

“ ป้าคองไม่ได้มาเกี่ยวเรื่องนี้หรอกจ๊ะป้า .... ดาวหนีออกมาทำงานข้างนอกเอง ....”

“ อะไรนะนวล.. ตอนนี้ดาวออกมาทำงานข้างนอก ...ที่ไหน ...อย่าบอกนะว่าข้างสวนสาธารณะใกล้อนุสาวรีย์...”

“ ในเมืองนี้จะมีที่ไหนอีกล่ะป้าเจียก ... ดาวไปหาแขกที่นั่นแหละ...”

“ เวรกรรม ... นี่พวกเราจะหมดหนทางทำมาหากินกันไปแล้วเหรอนี่....” นางลำเจียกประคองถอนหายใจอย่างปลงตก สบตามองอีกฝ่ายที่น้ำตาจะไหลขึ้นมาอีกครั้งตามประสาคนใจอ่อน รับความรู้สึกที่สื่อกันได้ดี ..

“ ก็พอมีลูกค้าบ้างบางคนที่จำได้ว่าดาวเคยอยู่ที่ร้าน ไม่ลำบากอะไรหรอกป้า ... อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้หมด...”

“ แล้วนังคอง ...มันไม่โวยวายเอาดเหรอดาว ที่หนีออกมาแบบนี้....”

“ ป้าคองเข้าใจเหตุผลที่ดาวหนีออกจากร้านกะทันหัน .... มันสุดวิสัยจริงๆ ทำอะไรมากกว่านี้ไมได้..”

“ แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ อยู่ทั่น่นมันก้ดีแล้ว มีข้าวกิน มีคนคุ้มครอง มีงานทำ ถึงแม้มันจะเป็นงานที่ใครๆต่างก็รังเกียจก็เหอะ แต่ก็ยังดีกว่าพวกโกงกินบ้านเมือง สร้างความร้าวฉานให้คนหมู่มาก...”

“ ดาวหนีออกมากับสีนวล เพราะเหตุผลส่วนตัวงี่เง่าอะไรก็ไม่รู้ป้าเจียก ...”

“ ถ้าไว้ใจป้าก็เล่าให้ป้าฟังก็ได้นะดาว เราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล...”

“ ที่ดาวมาหาป้าวันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องนี้ให้ป้าฟังนี่แหละ...”

พอดาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางลำเจียกฟังอย่างละเอียด ทั้งสองจับมือกันแน่นถ่ายทอดความรู้สึกเป็นห่วงจับใจให้แก่กัน กระทั่งพยาบาลเวรเดินมาพร้อมถาดยานางลำเจียกพยักหน้าบอกให้หญิงสาวกลับไปก่อนแล้วค่อยมาใหม่วันหลัง ...
ดาวค่อยกระเถิบตัวออกมานั่งข้างนอกจนเจอกับหมอวิชาญที่เดินมาทักทาย พร้อมกับหยอกล้อว่าจำได้ว่าเป็นญาติคนเดียวของนางลำเจียก .... ดาวหลบสายตาหมอหนุ่มแห่งโรงพยาบาลจิตเวชที่กำลังจ้องมาไปมองพื้น การสนทนาเป็นไปอย่างฝืดเฝือ ก่อนจะจบลง ... เมื่อดาวขอตัวเลี่ยงเดินออกมาว่ามีธุระที่จะไปทำในตัวเมือง ....

พอเดินมาถึงมุมตึกหน้าใกล้ถนนใหญ่เอื้อมดาวต้องหลบเข้ามุมบังตัวเองอย่างรวดเร็วเมื่อมองเห็นร่างสูงใหญ่แสนคุ้นเคยของใครสักคนกำลังเดินตรงมาจากรถสปอร์ตสีแดงเพลิงคันโตใกล้ถึงจุดที่หญิงสาวยืนอยู่ ห่างออกไปไม่ถึงห้าสิบเมตร ..
หัวใจที่เต้นแรงเหมือนกองระรัว ... เมื่อหลบทันบอกตัวเองว่าต้องหนีให้ห่างชายคนนี้ เพราะเป็นอันตรายต่อหัวใจข้างในเหลือเกิน ... เกินที่จะยับยั้งให้ได้กลับมาเหมือนเดิม เหมือนแต่ก่อนที่จะเจอกันเมื่อคืนนี้ ...

แต่แล้วดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อคนตัวสูงแวะมาแค่ฝากของสองชิ้นแล้วผละเดินขึ้นรถสปอร์ตออกไป...

ดาวถอนหายใจโล่งอกออกมาอย่างเบาใจ มองรถคันหรูลับตาจึงเดินหลบจากที่ซ่อนขึ้นฟุตบาธตรงออกปไปยังป้ายรถเมล์ เพื่อกลับบ้านเช่าไถ่ถามสีนวลว่าจะเอายังไงต่อไปดี ...

------------------------------------------------
จบตอนที่ ๔ ติดตามชีวิตของดาวในตอนที่ ๕ วันพรุ่งนี้นะครับ --- ขอบพระคุณมากที่สละเวลาอันมีค่ามาอ่านงาน
นักหัดเขียนครับ ...นายเมฆชรา/เมฆฉาย




Create Date : 21 พฤษภาคม 2552
Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 14:39:35 น. 0 comments
Counter : 711 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.