จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
พฤษภาคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
13 พฤษภาคม 2552
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ถึงแม้อากาศยามดึกเกือบตีสามภายนอกร้านวิกตอเรียของคืนวันนี้จะหนาวเย็นยะเยือกกว่าปกติ แต่ดาวยังคงยืนนิ่งรอคอยสีนวลที่กำลังคุยกับนางประคองอย่างเข้มข้นภายในร้านอีกครั้งให้รู้เรื่องราวทั้งหมด ตอนนี้นางประคองกำลังมีสีหน้าแดงกร่ำ เลือดขึ้นหน้ากว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมา เพราะอีกฝ่ายได้ยื่นขอเสนอที่ตนเองรับไม่ได้บางอย่าง ....
หนูกับดาวจะขอหลบไปที่ไหนสักที่หนึ่ง ไม่นานหรอกจ๊ะแม่คองที่หนูจะกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง
อะไร้นังนวล ... เดี๋ยวนี้แกกล้ามาขอฉันแบบนี้แล้วเหรอวะ ... หน๊อยเลี้ยงไม่เชื่องกันทั้งนั้น... นางประคองขมวดคิ้วย่นจนมองเห็นเป็นเส้นผากบนหน้าผากหลายเส้น ทอดสายตามองไปนอกร้านดูไฟท้ายรถวิ่งผ่านไปมาคล้ายจมในความคิดของตนเอง จนสีนวลที่นิ่งฟังรู้สึกขยาดไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ...
นวลขอโทษแม่ที่ต้องออกไปข้างนอกเพราะดาวกำลังลำบาก...
นี่ถ้าให้ฉันเดา ...คงจะเป็นเรื่องที่ไอ้หนุ่มรูปหล่อที่มาหานังดาวเมี่อคืนใช่ไหม ... นางประคองหยิบบุหรี่ขึ้นมาดูดแล้วค่อยปล่อยควันอย่างช้าๆ แววตาชากระด้างเดาควารู้สึกไม่ถูก ... สีนวลยังคงก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตา ได้แต่ตอบคำถามอ๋อม ๆ แอ้ม ๆ ตามเนื้อผ้าไปว่า ....
จ๊ะแม่คอง ... ดาวมันอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้วในตอนนี้ พอหนูเซ้าซี้ถามว่าเพราะอะไร ... เขาก็ไม่ยอมตอบ ...
แกไม่ต้องไปถามมันหรอกนังนวล... ชั้นพอจะรู้เรื่องแล้ว..
มันร้ายแรงขนาดเลยเหรอแม่ ...
ร้ายไม่ร้าย... แค่ชีวิตนี้ทั้งชีวิตของนังดาว มันจะไม่มีวันลืมเรื่องคนในครอบครัวนี้ได้ลงเด็ดขาด ...
มันเป็นยังไงเล่าให้นวลฟังบ้างจะได้ไหม...
นางประคองค่อยเล่าเรื่องราวของดาวนับตั้งแต่นางลำเจียก คนไม่เต็มเต็งไปพบหญิงสาวกำลังถูกชายโฉดหื่นกามสี่คนรุมโทรม จนแทบเอาชีวิตไม่รอดหากนางไปช้าอีกไม่กี่นาทีที่ไปถึง ทั้งสองรอดมาจากวิกฤตครั้งนั้นได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ต้องแลกกับขาที่พิการเพราะถูกของแข็งกระหน่ำตีทั้งสองข้าง พร้อมกับบาดแผลลึกเป็นบริเวณกว้างแถวหน้าผากของดาว ...
หัวใจที่บอบช้ำของผู้ถูกกระทำ ... หนักหนาเกินกว่าจะเยียวยาด้วยวันเวลา ทิ้งรอยแผลเป็นเป็นรอยจางๆประทับไว้ทุกลมหายใจเข้าออก จนคนเล่าถึงกับซับน้ำตาอีกครั้งด้วยความรันทดใจ ...
เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง หนูรู้แล้วล่ะว่าทำไมดาวถึงต้องหนี...
ชั้นรู้ดีว่า สักวันนังดาวมันก็คงต้องไปตามทางของมัน.... แต่ก็น่าเสียดายตัวมัน แขกในร้านกำลังติดแทบทุกคน...
แม่จ๋าแม่ ... พักนี้นังขมก็กำลังขึ้นหม้อไม่ใช่เหรอ ... ฉันกับดาวจะหนีไปกบดานสักพัก ถ้าจนไม่มีจะเลี้ยงท้องคงซมซานกลับมาขอข้าวแม่กินเหมือนเดิม ...
สีนวลรำพึงเสียงสั่น คล้ายไม่มั่นใจในหนทางข้างหน้าเท่าใดนัก ... คิดวิตกว่าการออกไปจากร้านวิกตอเรียไปตายเอาดาบหน้าจะไปทำมาหากินอะไรได้ นอกจากรับจ้างเย็บผ้าโหลหรือไม่ก็ไปเป็นเด็กเสริฟร้านเนื้อย่างเกาหลี ที่ฮอตฮิตผุดเป็นดอกเห็ดเต็มบ้านเต็มเมืองๆ พอๆกับร้านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของเด็กวัยรุ่น ....
เออ เออ ... ก็ยอมพวกมึงแล้ว แล้วนี่นังดาวมันไปมุดหัวที่ไหน บอกมาหาหน่อยสิ...
ดาวกำลังอยู่กับแขกจ๊ะแม่คอง ... เดี๋ยวฉันไปตามมาให้นะ..
รีบเข้าล่ะ เดี๋ยวแม่เปลี่ยนใจเสียหรอก...
จ๊ะ จ๊ะ จะไปเดี๋ยวนี้เลย ...
พอดาวเดินมาถึงนางประคองดึงตัวเข้ามากอดไว้แน่น แล้วบ่นพร่ำอีกสองสามประโยค ก่อนจะล้วงเอาซองสีน้ำตาลดูเก่าครึยื่นมาให้แล้วพูดว่า ...
เก็บออมเอาไว้ให้ดี ... ใช้ประหยัดๆหน่อย ถ้าเดือดร้อนก็กลับมาร้านได้ ไม่ต้องบอกนะว่าทำไม..
ดาวขอโทษป้าคอง ที่ต้องทำเรื่องยุ่งยากแบบนี้ ..
เอาล่ะข้าเข้าใจเอ็งทุกอย่าง จะรีบไปก็ไป อย่าพิรี้พิไรอยู่เลย...
ดาวกับสีนวลไปก่อนนะจ๊ะป้า ถ้ามีเวลาจะแวะมาหาบ่อยๆ ดูแลตัวเองด้วยนะจ๊ะ ...
เออ ...ไปซะทีรำคาญแล้วนะ...
นางประคองบ่นลากน้ำเสียงออกมายาว ๆ จนสีนวลต้องกึ่งลากกึ่งจูงดาวไปจากร้านวิกตอเรียทั้งน้ำตาที่อาบไหลนองหน้า ... ไม่รู้ว่าหนทางวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ในตอนนี้รับรู้แต่เพียงอย่างเดียวว่า ...
ชีวิตที่เหลือต้องสู้ จะขอทำเพื่อตัวเองและยายลำเจียกที่ป่วยอยู่โรงพยาบาลจิตเวชเท่านั้น ...
-------------------------------------
พอได้รับรู้จากอนึกว่าแทนคุณ ลูกชายคนโปรดออกจากบ้านไปในกลางดึก นางสุนีย์ ผู้เป็นแม่ถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้าตะโกนด่าทอนางละเมียด คนรับใช้อาวุโสที่รอรับที่ห้องรับแขกด้วยอารมณ์โกรธเกินจะยับยั้งได้ ...
หล่อนปกป้องกันเข้าไป ระวังเถอะสักวันจะหาว่าฉันไม่เตือนนะนังเมียด...
คุณแทนคงไปธุระด่วนอะไรสักอย่าง อย่าเพิ่งว่าเธอสิคะคุณ...
เอ๊ะเมียด ... เธออยากจะถูกด่าอีกคนหรือไง ถึงปกป้องกันดีนัก..
นางละเมียดถอยครูดไปข้างหลังเล็กน้อย เมื่อนางสุนีย์หันกลับมาเท้าสะเอว นัยน์ตาเบิกโพลงจ้องเอาความเต็มที่...
คุณจะเอาอะไรกันนักกันหนากับคุณแทน ... เธอเพิ่งเรียนจบด็อกเตอร์มาก็อยากจะมีอิสระบ้าง หลังจากเหน็ดเหนื่อยคร่ำเครียดมานานหลายปี นี่คงหลบปัญหาไปสักพัก พรุ่งนี้มะรืนคงกลับมา ... ใจเย็น ๆ หน่อยสิคะ..
นี่หล่อนว่าชั้นเป็นตัวปัญหาเหรอยะเมีดย ... หน๊อยเป็นขี้ข้ากำเริบเสิบสานนักนะ ... คงได้บ้านใหญ่ให้ท้ายมานะสิถึงยกหางได้สูงขนาดนี้..
บ้านใหญ่ที่นางสุนีย์ว่าหมายถึงบ้านมหศักดิ์นฤบดีที่มีคุณหญิงอาบจันทร์ คุณหญิงย่าของแทนคุณ เป็นประมุขของบ้าน ตั้งบนเนื้อที่ เกือบ 50 ไร่ บนทำเลทองแถบชานเมืองกรุงเทพ ฯ
นี่.. คุณนีย์จะว่าชั้นบกพร่องหน้าที่ก็ว่าไป ไม่ควรจะลามปามไปถึงท่านนะคะ มันไม่เหมาะสม...
นางละเมียด ที่เป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของบ้านมหศักดิ์นฤบดีที่คุณหญิงอาบจันทร์ส่งมาดูแลหลานชายคนเดียวที่บ้านหลังนี้ถึงกับสวนคำพูดออกไป ไม่ได้เกรงกลัวท่าทางนางสุนีย์เลยสักนิด ...
ยะแม่คุณ ... ฉันไม่ใช่ผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดินแบบหล่อนนี่ยะจะได้สนิมสร้อย ทนฟังอะไรไม่ได้ไปซะหมอ...
นางละเมียดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คิดนึกว่าคุณแทนคุณ นายน้อยเหนือชีวิต โชคดีมากที่ได้นิสัยถอดมาจากคุณอำนาจ ผู้เป็นพ่อมาทุกกระเบียดนิ้ว ... นางนึกภาพไม่ออกเลยถ้าหากแทนคุณได้นิสัยหยาบโลน เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ โลภในวัตถุสิ่งของมากกว่าจิตใจคนจากนางสุนีย์ ผู้เป็นแม่ ...
ซึ่งถ่ายทอดให้นนนี่ หรือ สาลินี น้องสาวคนเดียวของแทนคุณไปจนหมด ถอดแบบมาทุกอย่าง ...
ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว อีฉันขอตัวไปนอนนะคะนี่ก็ดึกมากแล้ว ...
จะไปตายไหนก้ไปเถอะยะ ...
นางสุนีย์ขว้างปาหมอนกอดบนโซฟาลงพื้นอย่างอารมณ์เสีย จะไถ่ถามว่าแทนคุณออกไปกับใคร ไปทำไมกันดึกดื่นป่านนี้ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรจากใคร แถมเดินหนีเอาดื้อทั้งสองคนทั้งอนึกกับนางละเมียด...
แต่นางก็ใจชื้นขึ้นมาอยู่อย่างเมื่อได้ยินเสียงแตรรถของสาลินีกำลังเรียกให้ไปเปิดประตูรั้วเพื่อจะเข้ามาบ้าน ...
สาลินีเป็นที่ปรึกษาเรื่องแทนคุณกับนังดาว เด็กไร้ค่าคนนั้นได้เป็นอย่างดี แค่คิดนางสุนีย์เริ่มฉีกยิ้มอย่างคนมีแผนการ กระทั่งสาลินีเดินโซเซคล้ายคนเมาจัดขึ้นมาบนตึก ....
--------------------------------------------
ในที่สุดสิ่งที่ดาวพูดไว้กับสีนวลในคืนนั้นก็เป็นจริง เมื่อได้ตัดสินใจลาจากนางประคอง ผู้มีพระคุณเจ้าของร้านคาราโอเกะวิกตอเรียเพื่อหลบหนีหน้าไปที่ไหนสักแห่งให้พ้นจากการติดตามของแทนคุณไปให้ไกลสุดขอบโลกได้ยิ่งดี...
แต่มาลองนึกดูอีกทีทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะความเย่อหยิ่งไม่ได้มาพร้อมกับปากท้องที่ร้องว่าหิว ...
จะคิดทำงานการอะไรดีล่ะกับสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองย่ำแย่แบบนี้ ดีนะ ถ้านั่งอยู่บ้านเช่าเฉย ๆ กินศักดิ์ศรีกับข้าวเปล่าคงอดตายกันพอดี ....
และแล้วดาวก็ทนอยู่เฉยบ้านเช่าของสีนวลไม่ได้อีกต่อไป ต้องออกมาเดินหาลูกค้าที่สวนสาธารณะกลางใจเมืองแห่งนี้
สวนเขียวขจีสวยงามด้วยประติมากรรมต้นไม้นานาชนิด ... บรรยากาศดีแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมืองโคราช บริเวณสวนถูกออกแบบอย่างสวยหรู ทันสมัยต้องรสนิยมคนเมือง ...
น้ำพุขนาดใหญ่ที่พุ่งสูงขึ้นท้องฟ้าครามก่อนจะตกลงพื้นล่างบอกความเคลื่อนไหวมีชีวิตชีวาให้กับ ผู้คนที่เดินพักผ่อนไปมาหนาตาในวันหยุดสุดสัปดาห์วันนี้ ... พื้นที่เกือบสามสิบห้าสิบไร่มีมุมกิจกรรมต่างๆให้ได้พักกายใจ ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ สนามหญ้า ลานกีฬาพื้นเมือง ห้องสมุดเคลื่อนที่ ลานดานตรี อย่างนี้เป็นต้น ...
ผู้คนที่ต้องการความสงบของธรรมชาติกลางใจเมืองมักจะหลั่งไหลมาที่นี่ในตอนเย็นจนถึงสามทุ่ม หลังจากนั้นก็ถึงเวลาคนกลางคืนอย่างเอื้อมดาว ....
หญิงสาวสองคนหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราสวยเด่น แต่ถ้ามองลึกลงไปจะเห็นดวงหน้าเคลือบฉาบด้วยเครื่องสำอางราคาถูก แต่ทว่ายังน่าสนใจน้อยกว่าชุดมินิสเกิ้ตสั้นสีแดงเพลิงกับสีม่วงเข้มของทั้งสองที่สั้นเต่ออวดเรียวขาสวย จนใครๆ ที่ขับรถผ่านต้องเหลียวมองซ้ำไปไม่ได้
ฉันขอโทษเธอนะสีนวลที่ต้องมาลำบากเพราะฉัน ขอโทษจริงๆ..
ดาวเกริ่นออกมาเบาๆ ขณะสายตากวาดไปมองรถราที่วิ่งไปมาขวักไขว่ แสงไฟหน้ารถส่องวูบวาบน่าเวียนหัว ถ้าได้เหลือบตาไปมอง แต่ถ้าแสงสว่างกลับมามืดคราใดหญิงสาวทั้งสองใจหล่นหายไปทุกครั้งเพราะนักท่องเที่ยวกลางคืนที่มาเป็นขาจรหรือขาประจำจะหายไปกับรถราคันไหนสักคันก็เป็นได้ ...
แสงไฟรถที่วูบหายแล้วกลับมาสว่างอีกครั้งดูไปช่างเหมือนชีวิตของหญิงสาวทั้งสองในตอนนี้ ...
โธ่ ... อย่าคิดมากสิดาว เราเป็นเพื่อนกันนะ ลำบากแค่นี้ไม่ตายหรอก...
แทนที่นวลจะอยู่ที่วิกตอเรียสบายๆ ก็ต้องมานั่งตบยุงหาแขก เป็นอีตัวริมทาง ต้องวิ่งหนีตำรวจเหมือนหมูเหมือนหมา แล้วไหนจะพวกเหลือบกลุ่มโน้นอีกล่ะ ...
สีนวลบุ้ยปากไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณสามคนที่ตอนนี้กำลังนั่งเป่าควันบุหรี่คลุ้งทั่วบริเวณ แถมยังซุบซิบส่งสายตาวาววับ จับต้องมองมายังสองสาวที่กำลังยืนสงบนิ่งเหมือนรอจังหวะอะไรบางอย่าง
ดาวปรายตามองไปแล้วนึกสังเวชใจ สงสารคนกลุ่มนี้อย่างที่สีนวล เพื่อนรักบอก ตนเองเชื่อว่าถ้าหากชายทั้งสามมีทางเลือกชีวิตที่ดีกว่านี้ คงไม่ต้องมาเป็นแมงดาคอยไถ่เงินค่าคุ้มครองอีตัวชั้นต่ำข้างถนนอย่างในตอนนี้ก็เป็นได้ ...
ช่างเขาเถอะนะ .. เราให้พวกนั้นเท่าที่พวกเราให้ได้ไม่ต้องมากมายอะไร ให้พออยู่ได้ทั้งสองฝ่าย แค่นี้ก็พอแล้วนะ.
พวกห่านี้ ... มันคงเชื่อเธอตายหรอกดาว ยิ่งได้คืบจะเอาศอกอยู่แล้ว...
เธออย่าคิดอะไรมากเลยจ๊ะนวล แค่ปากท้องเรารอดในแต่ละวันก็ดีถมไปแล้ว..
นี่เพราะเธอเป็นคนแบบนี้แหละ ฉันถึงยอมช่วยเหลือและหนีมาด้วยกัน..
ขอบใจจ๊ะนวล ...ฉันรู้ ฉันรู้..
และที่สำคัญเธอเป็นคนดีที่เคยช่วยครอบครัวฉันครั้งนั้น ... ฉันได้สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่มีวันลืม จะเป็นบุญคุณค้ำหัวไปตลอดชีวิต ... เธอรักษาความดีนี้ไว้เถอะนะจ๊ะดาว สักวันเธอจะได้ดี คุณพระคุ้มครองคนดีเสมอ ฉันเชื่ออย่างนั้น ...
บุญคง บุญคุณอะไรกันนวลเอ๊ย ... เงินแค่นั้น ขี้ประติ๋วชะมัด.. สีนวลทำตาโตแล้วอุทานว่า ...
เงินตั้งห้าหมื่นนี่น่ะเหรอขี้ประติ๋ว ...
ดาวส่ายหน้าช้าๆ แล้วระบายยิ้มจนเห็นฟันซี่เล็กๆเรียงวาบวับสดใสข้างใน ...
เล็กน้อยน่า ถ้าเรายังไม่ตายเสียก่อนก็หาใหม่ได้อีกแน่นอน ...
ทั้งที่เงินส่วนนี้ เธอกำลังจะเอาไปรักษาป้าเจียกที่ป่วยอยู่จิตเวชไม่ใช่เหรอ ...ฉันนี่แย่เอาซะจริง ๆ หยิบยืมเอาเงินเธอมารักษาแม่ที่คราวนั้นหมดไปในครั้งเดียว จนวันนี้ยังไม่มีปัญญาจะใช้คืนเลย ...
คิดมากน่านวลจ๋า ... ตอนนี้ป้าเจียกสบายดีขึ้นมากแล้วล่ะ ... นวลเก็บเงินนั่นไว้เถอะนะไม่ต้องมาคืนเราแล้ว..
ไม่ได้ ไม่ได้... เงินทองตั้งมากมายขนาดนั้น เราจะหามาใช้เธอจนได้ รอหน่อยนะดาว ...
เฮ้ยหยุด ... ฟังนะนวล ... ดาวไม่เอาเงินก้อนนั้นแล้ว แค่เธอออกมาอยู่ลำบากอดมื้อกินมื้อกับเรา เป็นเพื่อนทำงานคู่กับเรา ... ร่วมเป็นร่วมตายทุกอย่าง ... แค่นี้ก็เป็นบุญของเราแล้วที่ได้เป็นเพื่อนกับนวลนะ ... ทีหลังอย่าพูดเรื่องเงินอีกนะ มันไม่สำคัญไปกว่ามิตรภาพของเราสองคนหรอกจ๊ะ...
ขอบใจมากนะดาว ... ชีวิตของฉันก็มีแต่แม่คนเดียวเท่านั้นที่เป็นแรงใจยึดเหนียว ...
สีนวลน้ำตาคลอเบ้าบีบมือดาวไว้แน่น ...
ฉันก็เหมือนกัน .. ชีวิตที่เกิดมาโชคดีเหลือเกิน ได้พบเจอแต่คนดีหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือนวล ... ชาตินี้ฉันจะไม่ลืมเธอเลยแน่นอน ...
ดาวปาดน้ำตาออกจากหน้าแล้วเติมแป้งไปอีกนิดหน่อยให้ดูสวย ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเพื่อนสาวอุทานเสียงดังว่า
อุ้ยมาแล้ว พ่อขมองอิ่มของฉัน ....
แววตาของสีนวลระริกระรี้ดีใจเมื่อเห็นชายร่างใหญ่ แลดูกำยำสวมเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยสีน้ำเงินเข้มระบายยิ้มเห็นฟันเรียงสีขาววาววับมาแต่ไกล ...
เราไปก่อนนะดาว ... อยู่แถวนี้คนเดียวระวังตัวเอาไว้หน่อย
สีนวลพาร่างบอบบางแต่โรยแรงของตัวเองกับ รปภ. ขวัญใจผ่านจนลับตาไปในมุมสวนตรงหน้า ดาวกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเมื่อลมหนาวพัดกรูเข้ามาอีกระลอก ...
วันนี้เป็นคืนวันจันทร์ เป็นวันที่ปกติแล้วเจ้าหล่อนจะไม่มาออกรับลูกค้าริมสวนสาธารณะแบบนี้ แต่เพราะมีความจำเป็นต้องจ่ายค่าเช่าบ้านในวันพรุ่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว ... จึงต้องมาหาลูกค้าริมสวนในคืนนี้ทั้งที่ต้องเสี่ยงกับถูกสายตรวจตำรวจจับพอ ๆ กับถูกนักเลงคุมสวนสาธารณะแห่งนี้มาลวนลามเพื่อขอกินฟรีแล้วบังคับให้อยู่ในสังกัดแล้วจ่ายค่าคุ้มครองเป็นรายวัน ....
เมื่อมองดวงดาวไกลฟ้าลิบลับ ดาวบอกตัวเองว่าในค่ำคืนนี้ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากสีนวลเดินจากไปพร้อมคนรักก็ไม่มีรถยนต์คันไหนกล้าจอดชิดฟุตบาทเพื่อไถ่ถามราคา หรือบริการพิเศษหลังการติดต่อแม้แต่คันหรือรายเดียว ....
หญิงสาวหยิบตลับแป้งราคาถูกขึ้นมาซับมันแล้วส่องกระจกดูความเนียนเรียบของใบหน้าสวยอีกครั้งเพื่อความมั่นใจเหมือนเดิมในคืนก่อนๆ แต่ก็พบว่าเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็ยังไม่มีลูกค้าคนไหนชะลอรถจอดแล้วเรียกตัวเธอไปต่อรองราคาสักคันเลย เอื้อมดาวถามตัวเองว่าคืนนี้ถ้าไม่มีลูกค้าจะทำยังไงในวันพรุ่งนี้ดี ...
สายลมเย็นพัดโชยมาอีกครั้ง ลมหนาวทวีความหนาวบอกให้หญิงสาวว่าค่ำคืนนี้กำลังผ่านไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง น้ำค้างจากต้นไม้ใหญ่หยดแหมะมาถูกตัวจนต้องขยับเดินหนีจากตรงนั้น ...
วันนี้ลูกค้าขาประจำที่เคยมาหายไปไหนกันหมดนะ...
ดาวบ่นพึมพำอยู่คนเดียวส่ายตามองไปริมฟุตบาทใต้ร่มไม้ใหญ่ที่มีแสงสว่างสลัวรางเล็กน้อยให้ได้เห็น ... การที่มายืนตรงมุมมืดตรงนี้ก็เพราะต้องการจะหลบสายตาผู้คนที่ขับรถผ่านไปมาหรือใครบางคนที่อยากหนีไปให้ไกลตลอดทั้งชีวิตนี้ ...
หญิงสาวรู้ดีว่าการเร่หาเงินแบบนี้เสี่ยงต่อการไม่มีลูกค้าขาประจำเหมือนตอนอยู่ร้านวิกตอเรีย แต่ทำยังไงได้ ...
สถานการณ์ในอดีตส่งผลให้ต้องวิ่งหนีไกลจากมันโดยไม่แคร์ว่าจะต้องยากลำบากเรื่องปากท้องยังไงในทางข้างหน้า
หนีตายเอาดาบหน้ายังดีกว่าวิ่งถอยหลังกลับไปหาอดีต ....
เฮ้ยู ...ไปเที่ยวกันไหม...
เสียงทุ้มกังวาลก้องของชายรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีทองหน้าตาคมเข้ม สวมใส่เสื้อยืดรัดติ้ว กางเกงลายพรางทหาร ใบหน้าแดงกล่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างรุนแรงดังมาหาขณะย่างสามขุมเข้ามาดาวในระยะประชั้นชิดพร้อมกับเพื่อนในวัยฉกรรจ์อีกสองคนมีท่าทางไม่เป็นมิตรด้วยเช่นกัน ... ดาวขยับตัวจะผละหนีแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว ...
ว่าไงจ๊ะคนสวย ฟังไอพูดรู้เรื่องมั้ย ...
ดาวไม่ตอบทั้งๆที่ฟังภาษาที่ชายทั้งสามกำลังพยายามสื่อสาร และสัญชาติญาณภายในบอกกับตัวเองว่าชายทั้งสามคนนี้เป็นคนไม่ดีแน่นอน ... เพราะในทันทีที่พูดจบประโยคพวกมันกรูตรงเข้ามายึดแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้แน่น แล้วดึงไปยังรถกะบะสี่ประตูคันใหม่เอี่อมที่จอดอยู่บริเวณใกล้ๆอย่างรวดเร็วเกินจะตั้งตัวไว้ทัน ...
ปล่อย ปล่อยฉันนะไอ้ฝรั่งบ้า ...จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไป ... ช่วยด้วย ช่วยด้วย ...
หุบปากไว้ดีกว่าคนสวย ยูจะพาไปหาความสุขนะที่รักจ๋า ....
ไม่ ฉันไม่ไป ช่วยด้วย ช่วยด้วย ... อุ๊บบบ ...
ซุ้มเสียงของดาวหายเข้าไปในลำคอเมื่อหนึ่งในสามที่นั่งในรถเอื้อมมือหนาใหญ่ หยาบกร้านตะปบปากบางที่กำลังตะโกนอยู่สุดเสียงด้วยเรี่ยวแรงที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ... ดาวรับรู้ว่ากำลังกายทั้งหมดของตนเองกำลังจะหมดไปจากการดิ้นเหวี่ยงตัวไปมา .... กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในกะบะคันโตพร้อมชาวต่างชาติตัวโตหน้าแดงกร่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เต็มคราบนั่งประกบหลังยึดตัวไว้แน่น กระตุกกระดิกตัวไม่ได้เลย ...
ดาวหลับตานิ่ง ทำตัวอ่อนระทวย ผ่อนปรนไปกับจับชิดตัวจนรับรู้ว่ารถกะบะกำลังเคลื่อนตัวเข้าไปยังโฮเต็ลบรรยากาศคุ้นเคย คาดเดาได้เลยว่าอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะที่ตนเองไปยืนอยู่เมื่อครู่ ....
--------------------------------------------------------
ความมืดของค่ำคืนนี้ดูทึบทะมึนโรยตัวอยู่ทุกหนแห่ง ... เสียงสายลมพัดดังวู่ไหวไปมาจนดูเหมือนว่าฝนฟ้าคงจะตกกระหน่ำมาอย่างหนักในอีกไม่ช้าในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ...
มาวิน ธนานุรักษ์ เอื้อมมือไปลูบน้ำค้างบนกระจกบนตัวตึกเจ็ดชั้นของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งนี้อย่างช้าๆ จ่อมจมกับความเหงาของตัวเองกับเรื่องราวในชีวิตยี่สิบห้าปีที่แสนยากลำบากในอดีตที่ผ่านมา ... ด้วยหน้าที่และการงานอันมั่นคงกับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทรับเหมาก่อสร้างทุกชนิดแห่งนี้ บอกให้คนทั้งจังหวัดรับรู้ว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติ เป็นคนร่ำรวยทั้งเงินทองแลฐานะ มีพร้อมทั้งชื่อเสียงโจษจานไปทั่วเมืองแห่งนี้ ...
ชายหนุ่มโก้หรู จรัสท้องฟ้าเมืองใหญ่เมืองนี้ ใครๆก็รู้จักนายมาวิน ธนานุรักษ์ผู้โด่งดังคนนี้ ตลอดจนถึงการจัดตำแหน่งที่ยืนในสังคมโกหรู ที่ไม่มีใครรังเกียจถ้าเขาจะย่างกรายไปในที่ตรงนั้น ...
แต่ทว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกใบเบี้ยวใบนี้มักมีสองด้านเสมอ ...
ชายหนุ่มเหม่อมองไปนอกกระจกข้างนอกจนมองเห็นว่าวามมืดเข้าครอบคลุมความสว่างเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้นแล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือกริ้งดังขึ้นมาหลายครั้ง แต่เขากลับหาสนใจไม่ ...
นั่นคงเป็นสายของรัศมิยาโทรเข้ามาตามให้ไปตามนัด หรือไปรับที่บ้านของเจ้าหล่อน หรือไม่ก็ให้พาไปเที่ยวยังผับหรูวีไอพีเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน ...
มาวินรู้สึกเบื่อหน่ายกับการหาความสุขในรูปแบบนี้เต็มทน ...
ชีวิตวนเวียนอยู่แค่ตื่นเช้ามืดดื่มกาแฟแก้วโปรด รีบบึ่งรถคู่ใจฝ่าการจราจรที่หนาแน่นยามเช้าเพื่อออกไปให้ถึงสำนักงานให้ทันลูกน้องคนอื่นๆ เป็นแบบอย่างสำหรับบริษัทชั้นนำเช่นนี้ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโต๊ะทำงานกับกองเอกสารที่รอเซ็นกองสูงท่วมหัว ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วหลายชั้น ตวัดปากกาจรดลงไปอนุมัติโครงการทันทีแบบไม่ต้องคิดอีกแล้ว ... เมื่อเงยหน้าก็พบว่าถึงเวลาทานข้าวเที่ยงอีกแล้ว ...
คงจะเป็นเพราะชีวิตวนเวียนอยู่แบบนี้นี่เองถึงทำให้มาวินรู้สึกเหมือนว่าชีวิตประจำวันกำลังขาดหายอะไรไปสักอย่าง นั่นคือความสุขที่ต้องการ ...
ชายหนุ่มลูบน้ำค้างที่เป็นหยดน้ำที่กระจกอีกครั้งก่อนจะมองเห็นแสงสีความศิวิไลซ์ในเมืองใหญ่แห่งนี้ก็เจิดจ้า เฉิดฉายในยามค่ำคืน ... มาวินหยุดความคิดไว้แค่นั้นเมื่อมีสิ่งหนึ่งแว่บหนึ่งเข้ามาในหัวสมอง ทำเอาถึงกับสะดุ้งวาบแล้วบอกกับตัวเองว่า...
เออ ... ใช่สิเราต้องไปหาเธอ ...
พอยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมาดูก็รู้สึกใจหาย สงสัยค่ำคืนนี้คงไปถึงที่นั่นไม่ทันแน่ๆ แม่สาวน้อยนัยน์ตาเศร้าสร้อยคนนั้นคงไปกับลูกค้าคนสำคัญเรียบร้อยแล้วสินะ แต่คิดไปคิดมาก็น่าจะลองเสี่ยงออกไปดูสักหน่อยว่าเจ้าหล่อนจะยังคงอยู่ที่นั่นไหม เพราะถ้ายังคงอยู่เหมือนที่ได้ไปเ ฝ้าดูทุกวัน ตอนนี้คงได้เวลาสำคัญแล้วเสียทีที่จะแสดงตัวว่ามีความสนใจในตัวหล่อนมากกว่าแอบมองดูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเช่นนี้ ...
ชายหนุ่มคิดสรุปได้จึงรีบสาวเท้าออกจากสำนักงาน แล้วเดินตรงไปกดลิฟท์ที่เปิดอ้าค้างไว้รอแล้วด้วยหมายเลขที่ต้องการ ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปอย่างร้อนรน หัวใจเต้นแรงกว่าปกติ ...
กว่าที่เจ้าสปอร์ตคันหรู ราคาแพงระยับของมาวินจะฝ่าการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักหน้าห้างสรรพสินค้าจนแล่นมาถึงบริเวณสวนสาธารณะได้ก็ใช้เวลานานโขหลายนาที .... จนเมื่อจอดนิ่งสนิทใกล้ฟุตบาทที่เคยมาประจำมาวินเคาะกระจกใช้ความคิดแล้วนึกขำตัวเองว่า ...
ถ้าหากใครรู้ว่าชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าป๊อบปูล่าที่สุดในหมู่สาวๆ ของเมืองใหญ่แห่งนี้อย่างตัวเอง ตอนนี้กำลังสนองรสนิยมแปลกประหลาดที่ชอบมาเฝ้ามองผู้หญิงพิเศษตามสวนสาธารณะ จนถึงกับมาตามเฝ้าเจ้าหล่อนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันที่มีโอกาสว่าง ... อย่างวันนี้เป็นต้น ...
พอล้อรถหยุดหมุน มาวินก็มองเห็นว่าสาวน้อยที่ตนเองมาเฝ้าดูอยู่กำลังถูกชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ชาวต่างชาติสามคนกำลังฉุดกระชากยื้อยุดลากขึ้นกะบะสีดำสี่ประตูด้วยท่าทีเร่งรีบ ไม่เป็นมิตร ... ก่อนจะเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนคนกำลังกระทำผิดห้อตะบึงรถออกไปอย่างรวดเร็ว ...
ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง นิ่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ไม่คิดนึกว่าจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายกลางที่สาธารณะเช่นนี้ได้ ... ก่อนจะรวบรวมสติกลับมาให้ได้เมื่อมองเห็นว่าเจ้ากะบะสีดำคันนั้นได้เลี้ยวโค้งผ่านหัวมุมถนนหายลับไปกับตาแล้ว ...
มาวินเหยียบคันเร่งตามรถเจ้าปัญหาคันดังกล่าวอย่างติดๆ จนเห็นว่าฝรั่งสามคนกำลังเลี้ยวรถเข้าม่านรูดที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะนั่นเอง ...
----------------------------------------------
จบตอนสองแล้ว ติดตามตามสามเร็ววันพรุ่งนี้นะครับ .... นายเมฆชรา
ป.ล..ติ ชม กันได้เลย ... ส่วนคำผิดที่มีเยอะมาก จะตามไล่แก้ไขครับผม ขอบคุณพี่กุลธิดากับน้องจิ๊บที่ตามเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณ ขอบคุณมากมายจากใจครับ ...
Create Date : 13 พฤษภาคม 2552
Last Update : 22 พฤษภาคม 2552 13:16:38 น.
1 comments
Counter : 757 Pageviews.
Share
Tweet
เดี๋ยวอ่านครบทุกตอนแล้วจะเมนท์ทีเดียวนะฮับ
โดย:
Kitsunegari
วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:01:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.