จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
กรกฏาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
14 กรกฏาคม 2553
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กว่าที่มะยมจะเร่งฝีเท้าไล่ตามคนตัวสูงที่ก้าวขาฉับๆไปข้างหน้าอย่างรวดได้ทัน ทั้งสองก็มาถึงบ้านป่าน้ำใคร้ บ้านอาสาพัฒนาเป้าหมายในเวลาตะวันสาดแสงสีทองอยู่ตรงขอบฟ้า ใกล้เวลาโพล้เพล้พอดิบพอดี ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางด้วยเท้าในระยะทางร่วมสิบกิโลเมตรของทั้งสองส่งผลให้ความอิดโรยแสดงออกมาในรูปของอาการหมดแรงจนต้องนอนแผ่หลาราบไปกับพื้นหญ้าสีเขียวหน้าเสาธงโรงเรียน ...
มะยมลืมตาปรือๆมองคนตัวสูงแล้วระบายลมหายใจออกช้าๆ เพื่อคลายความเหนื่อยก่อนจะหันกลับไปมองอีกครั้ง คราวนี้ต้องสะดุ้งไปอีกครั้งเพราะเจ้าของสายตาอันคมกริบจ้องเขม็งมองมาด้วยความสงสัย เด็กสาวจึงเลิกคิ้วช้าๆทำทีท่าไม่สนใจก่อนจะเอื้อมมือไปปาดเม็ดเหงื่อที่อยู่ตามไรผมอย่างช้าๆ ก่อนจะหันกลับไปสบตาคมปลาบเหมือนจะสำรวจอะไรบางอย่าง ...
“ เหนื่อยมั้ยอิสรา นี่คงไม่เคยเดินป่าละสินะ ”
“ เดินแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก ไม่อยากจะโม้ผมเคยเดินป่าแถวแอฟริกามาซัมเมอร์เต็มๆเลย แต่ตอนนั้นเป็นช่วงหน้าฝนอากาศไม่ร้อนมากเท่านี้ ”
“ ป่าที่โน้นจะเหมือนบ้านเราได้ยังไงกัน ดูอย่างฟ้าฝนที่นี่สิตกต้องตามฤดูกาลตลอด ไม่เคลื่อนตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเลย”
“ มันก็ใช่นะครับ แต่ป่าที่โน้นน่ากลัวกว่าเยอะครับ ไหนจะสิงสาราสัตว์ ไหนจะคนป่าเผ่ากินคน เดินไปสยองไป อย่างเพื่อนผมเขาชื่อแสนเมือง ปกติจะเป็นสนุกสนานร่าเริงเสมอ พอเจอสภาพความลำบากที่นั่นถึงกับอึ้งและสาบานว่าจะมาแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว ผมอดขำเขาไม่ได้ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ ”
“ มะยมว่ายังไงๆป่าบ้านเราก็ยังมีความหลากหลายกว่านะ โดยเฉพาะป่าแถบภูคาแห่งนี้..”
“ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งดูเส้นทางที่เราเดินผ่านมาสิครับ หฤโหดซะเหลือเกินนั่นก็แสดงว่าป่าไม้บ้านเรายังคงอุดมสมบูรณ์ ไม่ได้ถูกรบกวนมากนัก ผมดีใจนะที่เป็นแบบนี้ มะยมล่ะตอนนี้หายเหนื่อยหรือยัง”
“ เราสบายดี เดินป่าแค่นี้เรื่องจิ๊บจ้อย ขอตัวก่อนนะอิสราเราจะไปตามหาเพื่อนที่บนอาคารเรียน”
“ ตามสบาย ผมขอนอนพักเอาแรงสักงีบ..”
มะยมชันตัวลุกขึ้นแล้วเดินจากไปในทันที อิสรามองร่างบางของเด็กสาวไปจนลับตา ก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้งเมื่อสายลมพัดแผ่วไล้ผิวกายให้รู้สึกสดชื่นรื่นเริงอย่างบอกไม่ถูก เด็กหนุ่มเผลองีบหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ...
งานหลักๆของคณะอาสาพัฒนาในค่ำวันนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าจับกลุ่มสนทนา ด้วยเพราะกิจกรรมทั้งหมดที่ได้ตระเตรียมเอาไว้จะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้เช้า นักเรียนหญิงเข้าที่พักแรมในอาคารเรียนเล็กๆสร้างด้วยสังกะสีอย่างง่ายๆส่วนนักเรียนชายทั้งหมดเข้าพักแรมยังหอประชุมกลางหมู่บ้าน ที่สร้างเป็นอาคารโล่งกว้างลมโกรกเย็นสบาย ...
คณะครูได้นัดแนะนักเรียนกลุ่มผู้นำเพื่อนำข่าวกิจกรรมที่จะทำไปแจ้งให้ลูกทีมที่แบ่งเป็นสีๆทราบแล้วปฏิบัติตามนั้นในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับแนะนำตัวกับผู้นำชุมชนคือ ผู้ใหญ่บ้านป่าน้ำไคร้ อบต. และสมาชิกที่สำคัญอื่นๆ จำนวนหนึ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในกิจกรรมเดินทางไกลในวันต่อไป ...
ลมหนาวพัดกรูเข้ามาพร้อมความเย็นจากร่องเขาที่มองเห็นเป็นเงาทะมึนรายรอบ จนเย็นยะเยือกไปทั่วบริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารเรียน สาวๆกลุ่มสาวซ่าส์เหลียวมองไปรอบๆจนเห็นว่าตอนนี้เหลือวงสนทนาเพียงสองกลุ่มคือกลุ่มตนเองกับกลุ่มหนุ่มหล่อเมืองกรุงที่นั่งล้อมวงรอบกองไฟส่งเสียงดังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน มะหมี่กระชับผ้าห่มผืนเดียวเข้ากับตัวโดยมีป้อมกับหยาดทิพย์นั่งกอดกันกลมดิก สั่นหนาวอยู่ข้างๆ จิ๊บที่กำลังง่วนอยู่กับมันเผาในเตาถ่านเอ่ยถามมะยมขึ้นมาว่า...
“ น้ำค้างลงหนักอย่างงี้ แกไม่รู้สึกหนาวบ้างเลยหรือวะมะยม”
“ ไม่เห็นหนาวเลย พอดีตอนเย็นได้อาบน้ำอุ่นด้วยแหละ”
“ เฮ้ย แกไปหาน้ำอุ่นมาอาบได้ที่ไหนวะ น่าอิจฉาชะมัด ...”
“ พอดีอิสราชวนไปคุยเรื่องกิจกรรมวันพรุ่งนี้ที่บ้านลุงผู้ใหญ่ท้ายบ้านโน้นแนะ พอคุยไปคุยมาลูกสาวตัวน้อยของแกก็โผล่มาร่วมคุยด้วย พวกเราคุยกันอย่างสนุกสนาน จนป้านิ่ม แม่ของชบา บอกว่าตอนนี้อากาศเริ่มเย็นเพราะหมอกโปรยลงมาแล้ว รอประเดี๋ยวจะต้มน้ำให้เราสามคนอาบ ก็เลยสบายตัวด้วยประการฉะนี้แล มีอะไรข้องใจมั้ยพี่..”
“ต๊ายตายอกอีแป้นจะแตก นี่แกแอบไปจู๋จี๋กับอิสรากันสองคนกันอีกแล้วเหรอ ร้ายลึกนะยะหล่อน เมื่อตอนกลางวันก็ทีหนึ่งแล้ว ฉันเห็นนะว่าหล่อนวิ่งตามคุณชายอิสแล้วหายไปเลย ทิ้งพวกชั้นไว้กับกองสัมภาระหนักๆไว้ข้างหลัง ตกลงแกชอบคุณชายอิสใช่มั้ย บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
มะหมี่วี้ดว้ายส่งเสียงดังออกมาทั้งที่ตาเริ่มปรือเหมือนคนง่วงนอนเต็มที่หลังจากได้ยินสาวตาคมมาดทอมบอยประจำกลุ่มเล่าว่าไปอาบน้ำอุ่นกันสองต่อสามกับที่ผู้ใหญ่บ้าน โดยไม่ได้ฟังเจ้าตัวขยายความอะไร ..
“ แกเป็นบ้าอะไรอีกวะนังหมี่ มันไม่มีอะไรในกอไผ่อย่างที่แกกำลังคิดนะโว้ย.. ครูพักตร์วานให้ข้ากับอิสราไปเรียนลุงผู้ใหญ่ว่าอาจารย์ประสงค์พร้อมนักแนะกิจกรรมที่จะให้กลุ่มชาวบ้านช่วยทำกับพวกเราในวันพรุ่งนี้ว่ามีอะไร เรื่องมันก็มีแค่นี้เอง ..”
“ ไม่รู้ล่ะ ก็เห็นแกเล่าว่าได้อาบน้ำอุ่นกับพ่อหนุ่มของชั้นนี่นา รายละเอียดใครจะไปรู้ล่ะ ..”
สาวสวยสลับเพศยังมิวายสงสัยเรื่องการอาบน้ำอุ่นของมะยมกับอิสราอยู่ จนต้นเรื่องส่ายหน้าไปมาอย่างระอาเต็มที ..
“ ที่แท้ติดใจประเด็นอาบน้ำอุ่นใต้แสงจันทร์ท้าลมหนาวนั่นใช่มั้ยวะนังหมี่ค้างคืน”มะหมี่หลบสายตาที่จ้องเขม็งมาวูบหนึ่งก่อนจะตอบไปเบาๆว่า “ อื่อ ..”
สาวตาคมจึงอธิบายไปอย่างยาวยืดหมดเปลือกว่า ..
“ พอฉันกับอิสไปถึงบ้านลุงผู้ใหญ่ ก็พบว่าลุงออกบ้านไปสักพักใหญ่กับผู้ช่วยแล้ว ป้านิ่ม เมียผู้ใหญ่เลยชวนอาบน้ำ เอ่อ น้ำอุ่นที่นั่นพร้อมกับรับประทานข้าวต้มแบบบ้านป่าจนอิ่มหนำสำราญกันแล้ว ฉันก็เดินกลับ ... ระหว่างที่กำลังเดินไปตามทางแคบๆเล็กๆมีใบไม้ให้เหยียบเสียงดังก๊อบแก๊บๆ สลับเสียงมวลหมู่แมลงต่างๆดังเซ็งแซ่ไปหมด หูของฉันแว่วได้ยินเสียงๆหนึ่งแทรกมาตามอากาศ เป็นเสียงเล็กๆเบาๆคล้ายจะมากระซิบที่ข้างหู แว่วไกลมาจากราวป่าต้นกล้วยฟากจอมปลวกใหญ่โน้น ... ฉันสะกิดให้อิสรามองไปยังป่ากล้วยที่ว่าก็พบว่าลมที่พัดรอบตัวเริ่มกรูเข้ามารุนแรงมากยิ่งขึ้นจนใบกล้วยที่เห็นสะบัดไปมาเหมือนมีคนกำลังโบกมือเรียกข้าไปใกล้ๆ แต่ทว่าเสียงปริศนาเล็กๆ เสียงนั้นยังคงรบกวนจิตใจ ฉันทำใจกล้าเดินตรงเข้าไปยังเสียงเรียกตรงนั่นโดยมีอิสราเดินตามใกล้ๆ พอเหลียวซ้ายแลขวาหาต้นเสียงแถบป่ากล้วยตรงนั้น ก็พบว่าไม่มีใครคนไหนอยู่แถวๆนั้นเลย พอเอ่ยถามอิสราว่าได้ยินเสียงอะไรมั้ย เขาก็ตอบว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ... ฉันขนลุกซู่ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ก่อนจะรวบรวมความกลัวครั้งสุดท้ายเพื่อเข้าไปดูในดงต้นกล้วยให้รู้กันไปเลยว่าเป็นอะไรกันแน่ ฉันค่อยๆ ย่องไปช้าๆ ช้าๆ จนมาหยุดตรงกอกล้วยที่หนาทึบกอหนึ่ง เสียงลมพัดวู่หวิวเมื่อครู่เงียบเสียงอย่างน่าอัศจรรย์ ฉันจึงเอื้อมมือไปแหวกกอกล้วยที่ใบบังอยู่สองสามใบอย่างช้าๆ ... พลันนั้นเอง ...เลือดในตัวฉันกำลังจะหยุดไหลเวียนไปชั่วขณะ เมื่อฉันกำลังเห็น กำลังเห็น ..”
มะยมหยุดเล่าไว้เพียงเท่านั้น ด้วยความตั้งใจจะปล่อยให้เพื่อนๆทั้งกลุ่มหัวเราะว่าตนเองแต่งเรื่องได้น่าสนใจ ตื่นเต้นดี แต่แล้วก็ผิดหวังเพราะคาดคิดไว้ผิด เพราะกลุ่มเพื่อนๆที่นั่งรอบกองไฟขยับเข้ามาอยู่รวมกันเป็นกระจุกเดียว พร้อมนั่งเงียบกริบ ไม่พูดจา ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจ
กระทั่งมะหมี่ สาวสวยประจำกลุ่มก็เถอะ คราวนี้นั่งพับเพียบแต่สงบเสงี่ยม ตาจ้องเป๋งมายังคนเล่าคล้ายเตรียมการอะไรสักอย่าง ก่อนะเอ่ยถามคำถามด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว ด้วยเป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็นรายรอบหรือด้วยความกลัวก็ไม่รู้ว่า...
“ กะ แก ....ก ....เห็นอะไรวะนังยม..”
มะยมที่มองเห็นปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของเพื่อนๆโดยตลอดตั้งแต่ต้น อดยิ้มที่มุมปากเล็กๆ แบบไม่ให้มองเห็น เริ่มสนุกกับการแต่งเรื่องบันเทิงใจขึ้นมาบ้างแล้ว จึงเล่าต่อด้วยการปั้นน้ำเสียงให้แผ่วเบาโหยหวนชวนขนลุกตามสภาพบรรยกาศที่ยะเยือกเย็นรอบๆ ตัว ..
“ ฉันเห็น มือ อ อ ... หนึ่งกำลังยื่นมาจากดงกล้วยนั่น ..”
.... กรี๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ....
เสียงกรีดร้องสนั่นบางของมะหมี่หลังจากสาวห้าวผู้นำกลุ่มเล่าเรื่องชวนสยองจองทำเอาสาวๆที่นั่งกอดกันกลมรอบกองไฟเล็กๆ ลุกแตกฮือเหมือนผึ้งแตกรังกระจายไปคนละทิศคนละทาง จนคนเล่าเองถึงกับต้องวิ่งตามด้วยความรวดเร็วเช่นเดียวกัน...
อิสรากับพวกของเดี่ยวที่นั่งคุยกันเงียบๆมานานอยู่ถัดไปอีกไม่ไกลต่างหันไปตามเสียงที่ดังสนั่นเมื่อครู่อย่างสนใจ ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมาจนท้องดัดท้องแข็งที่เห็นสาวๆวิ่งกระจายไปคนละทิศละทาง แต่ยังมีคนอีกคนหนึ่งที่เด็กหนุ่มเห็นว่ายังยืนอยู่ที่เดิม จึงเพ่งมองจนแน่ใจก่อนจะหยิบแก้วนมร้อนๆ เดินตัวปลิวไปยังจุดหมายทันที ...
“ เกิดอะไรเหรอมะยม เพื่อนๆถึงวิ่งแตกกระจายไปแบบนั้น..”
“ ฮ่ะๆๆ พวกมันขี้ขลาด แค่เล่าเรื่องผีๆให้ฟังสนุกๆ ก็วิ่งหางจุกตดเผ่นแน่บเข้านอนไปแล้ว”
“ มะยมเล่าเรื่องอะไรเหรอครับ”
คนตัวสูงอมยิ้มระบายความรู้สึกด้วยแววตาที่ระยิบระยับ พร้อมกับยื่นแก้วนมอุ่นๆให้เด็กสาวที่เริ่มขัดเขินเบื้องหน้าจนรู้สึกลังเลว่าจะรับไม่รับดี แต่สุดท้ายก็เอื้อมมือไปรับพร้อมคำขอบคุณที่มีน้ำใจเอามาให้ ...
“ ไม่มีอะไรมากหรอกจ๊ะ แค่ฉันเล่าเรื่องไปบ้านลุงผู้ใหญ่เมื่อตอนเย็นให้พวกขวัญอ่อนฟังเท่านั้นแหละ นี่ยังเล่าไม่ทันจะจบดีเลยเผ่นแน่บไม่เหลือหัวให้ได้คุยเลยซักคน..”
“ มะยมเล่าเรื่องผีให้เพื่อนฟังใช่หรอืเปล่า”
“ เปล่านะ..แค่เล่าเรื่องเราสองคนเจอน้องชบาในดงกล้วยให้พวกนั้นฟัง นายจำได้หรือเปล่า”
“ จำได้สิครับ ชบาเป็นเด็กน่ารัก ดูแกท่าจะติดมะยมมากเลยทีเดียวนะครับ เห็นจากเมื่อตอนเย็นไม่ยอมลงจากตักคุณเลย นี่ผมกะไว้ว่าพรุ่งนี้จะเอาขนมไปให้แกตามที่สัญญาเอาไว้น่ะครับ ไปด้วยกันมั้ย”
“ เดี๋ยวขอคิดดูก่อน เจ้าเด็กชบานี่แหละที่ทำให้พวกเพื่อนฉันวิ่งป่าราบได้ขนาดนี้ นี่คงจะเข้ากับคำโบราณที่ว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับเอามากระเดียด โดยเฉพาะยัยมะหมี่ แฟนของนายวิ่งแน่บขึ้นอาคารเรียนเป็นคนแรกเลย ฮะๆๆสมน้ำหน้าอยากรู้เรื่องคนอื่นดีนัก..”
“ พวกเพื่อนๆเลยคิดว่าชบาเป็นผีเด็กในดงกล้วย..” อิสราเอ่ยแทรกขึ้นมาบ้าง
“ ใช่ ใช่ ทั้งๆ ที่ฉันยังเล่าไม่จบเลยนะ อุ๊ยตายคุยไปคุยมานี่ดึกขนาดไหนแล้ว..”
“ ตอนนี้เวลาห้าทุ่มครับ..”
“ดึกมากแล้ว งั้นฉันขอตัวขึ้นนอนก่อนนะอิสรา ไว้พรุ่งนี้เราเจอกัน ฉันขออนุญาตเอาน้ำร้อนของนายไปให้ยัยน้ำหวานรับประทานต่อจะได้มั้ย..”
“ ตามสบายเลยครับ ผมก็ว่าจะไปเดินเล่นทางป่าฟากโน้นหน่อย แล้วค่อยเข้านอน ..มะยมจะเปลี่ยนใจไปด้วยกันมั้ย คืนนี้พระจันทร์สีเหลืองกลมโตสวยมากนะครับ น่าเสียดายออกที่ไม่ชื่นชมมัน..”
“ ไม่ได้หรอกอิส ฉันเป็นผู้หญิงจะไปเดินตากน้ำค้างดึกๆดื่นๆกับนายได้ยังไง เอาเป็นว่าคืนนี้ขอขอบคุณสำหรับนมสดร้อนๆ ราตรีสวัสดิ์นะ ฉันไปล่ะ ...”
พอเด็กสาวพูดจบก็หันควับกลับหลังไปในทันที ปล่อยให้คนร่างสูงบ่นพึมพำคล้ายคนละเมอว่า ..
“ ราตรีสวัสดิ์เช่นกันครับ คนดีของผม..”
------------------------
กากับหงส์ 17 จบแล้ว ติดตามตอนต่อไปอีกสองวันครับ .. ขอบคุณที่ติดตามกันเรื่อยมา ขอบคุณคร้าบ .. นายอิส / เมฆชรา
14 กรกฏาคม 2553
---------------------------
Create Date : 14 กรกฎาคม 2553
Last Update : 14 กรกฎาคม 2553 21:55:03 น.
0 comments
Counter : 815 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.