กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอนที่ ๕ ไปฟัดกับใครมาเหรอวะมะยม หน้าตาถึงเขียวคล้ำได้ซะขนาดนี้ เสียงใสดังแว่วมาจากมุมห้องนั่งเล่นมุมหนึ่งติดกับเครื่องเสียงขนาดย่อม ที่ตอนนี้เสียงเพลงร็อคเกอร์ตามแนวสมัยนิยมกำลังแผดเสียงดังกลบเสียงทุกอย่างไปได้หมด ... พลอยใสนั่นเอง วันนี้ดูจะมามาดแปลกอารมณ์ดีเป็นพิเศษไม่ขี้วีนขี้งอนเหมือนปกติ ... แต่มะยมกลับนิ่งเฉยเดินเลี่ยงไปในทันที แต่ก็ต้องชะงักขาที่ก้าวเอาไว้เพราะพลอยใสเดินตรงมาขวางไว้เหมือนจงใจแกล้ง ก่อนจะถามต่อว่า... เจ็บแผลมั้ยจ๊ะ มามะฉันจะทายาให้ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังได้หรือยัง ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกเล็กน้อยเท่านั้น คือว่า .. เอ่อ .. เมื่อวานตอนเย็นมันมืดมากมะยมขี่เจ้าแก่ไปบ้านน้ำหวาน มองไม่เห็นทางเลยไปชนควายคนแถวนั่นน่ะพลอย ... ไม่อะไร ไม่ต้องไปเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟังนะ เดี๋ยวจะไม่สบายใจเปล่าๆ พลอยใสทำตาลุกโตเหมือนได้ฟังเรื่องอัศจรรย์พันลึก ก่อนจะแย้งกลับมาไปในทันทีที่มะยมเล่าจบ ความที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดกันมานานแสนนานตั้งแต่เด็กจนโต จนรู้นิสัยและความคิดกันเป็นอย่างดี เพราะดูจากกิริยาท่าทางของน้องสาวต่างสายเลือดแล้ว คงไม่ยอมเล่าง่ายๆ แน่ ซึ่งข้างมะยมก็รู้ถึงข้อนี้ดีด้วยเช่นกันว่ายังไงๆ พลอยใสก็ต้องซักไซร์ไล่เรียงรู้เรื่องนี้จนได้แน่นอน .. มอเตอร์ไซต์ล้มทำไมมีรอยเล็บเต็มหน้าและตามตัวล่ะมะยม นี่เธอไปตบตีใครมาใช่ไหม! ใช่หรือเปล่า ! เล่ามาเหอะเราไม่บอกพ่อหรอกไว้ใจสิ ..คือ ..ฉัน..เอ่อ.. เล่ามาเหอะไว้ใจฉันสิ.. พลอยใสยิ้มหวานละมุนตามกิริยาปกติเช่นเคย ก่อนจะเอื้อมมือมาสัมผัสที่หลังมือน้องสาวที่อายุห่างกันไม่ถึงปีดีคล้ายเป็นการส่งกำลังใจให้ คือฉันไป เอ่อ ตีกับพวกแก้วตาเมื่อตอนเย็น.. มะยมเล่าให้พลอยใสฟังทั้งหมดจนอีกฝ่ายเข้าใจดีแล้ว แต่เด็กสาวได้เว้นเรื่องที่อิสรามาช่วยไว้อย่างเฉียดฉิว เมื่อมองเห็นว่าพลอยใสอาจจะไม่จบเรื่องนี้ถ้ารู้ว่าว่าที่คู่หมั้นเพื่อนรักไปทำอะไรคำๆมืดๆกับตนเองสองต่อสอง ... ยายแก้วตาลูกครูประดิษฐ์น่ะเหรอ ยัยนี้ร้ายไม่ใช่เล่นนะ ท่าทางคิดแค้นพวกเรามาตั้งนานแล้วนี่นา ก็คงทำนองนั้นแหละ แต่มะยมว่าจะไม่เอาเรื่อง อยากให้จบไปเลย.. คงไม่ได้หรอกฉันว่าพวกเพื่อนๆกลุ่มเธอ คงไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่ พลอยพูดฟันธงอย่างที่มะยมคิดอยู่ในใจเหมือนกัน เพราะจากสภาพใบหน้าที่บวมคล้ำคล้ายคนถูกรุมสะกรัมมาอย่างหนักเช่นนี้ ถ้าพรุ่งนี้เช้าโผล่ไปถึงโรงเรียนทุกคนต้องถามหาสาเหตุเป็นอย่างแรกเป็นแน่ เด็กสาวเล่าเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงทุ้มนุ่มดังมาจากตรงหน้า ... หน้าตาปูดบวมเขียวอื้อซะขนาดนี้ ไปโดนอะไรมาลูกมะยม.. เสียงครูพลดังขึ้นมาขัดจังหวะที่สองพี่น้องที่กำลังสนทนากันอย่างเข้มข้นจนทั้งคู่ต้องหันไปตามเสียงพร้อมกับยิ้มที่ฝืดเคืองเต็มทนของมะยม มะยมน่ะซุ่มซ่ามทำอีแก่ข้างล่างล้มทับตัวเองที่สะพานข้ามน้ำน่านใกล้บ้านน้องน้ำหวานจ๊ะพ่อ.. จริงเหรอลูก ทำไมสะเพร่าขนาดนั้น คราวหน้าคราวหลังระมัดระวังตัวมากกว่านี้หน่อยซิลูก เราเป็นสาวเป็นแส่ไม่ใช่เด็กๆเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ ... พออีกหน่อยมีแฟน มีครอบครัวแล้วแยกจากพ่อไป ถึงวันนั้นจริงๆ พ่อจะได้ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว พลอยใสก็เช่นกันนะลูก ต้องหัดดูแลตัวเองและดูแลน้องด้วย โดยเฉพาะน้องสาวคนนี้ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย ครูเมตตาบอกพ่อว่าเป็นลิงเป็นค่างขึ้นทุกวัน .. พ่อน่ะ มะยมโตแล้วนะจ๊ะ สิ้นปีหน้าก็เรียนจบมอหกแล้ว ถึงตอนนั้นก็เรียนมหาวิทยาลัยได้เป็นสาวเต็มกายไม่ทำให้พ่อปวดใจอีกแล้วล่ะจ๊ะ มะยมเถียงไปอย่างข้างๆ คูๆ ก่อนจะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นพ่อด้วยความรักเหมือนเช่นเดิม จนพลอยใสที่อยู่ข้างๆเริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที... หนูดูแลเค้าแน่จ๊ะพ่อ ว่าแต่ว่าเจ้าตัวเค้าจะให้ดูแลหรือเปล่านี่สิปัญหา พลอยเอ่ยตอบคำถามไปด้วยความรู้สึกน้อยใจ แต่ครูพลรู้ปัญหาของสองพี่น้องคู่นี้ดี จึงดึงตัวมาทั้งสองคนให้อยู่ในอ้อมกอด .. ฟังพ่อนะพลอยใสกับมะยม ในวันหน้าข้างหนทางชีวิตอาจจะคดเคี้ยวจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ อย่าไปสนใจอะไรมันมากนัก .. เรารู้ไว้แต่เพียงว่าคนไหนทำความดีไว้มากๆ ซักวันความดีนั้นกลับมาเกื้อหนุนแน่นอนจำคำสอนของพ่อเอาไว้นะลูก .. ทั้งสองนิ่งเงียบคิดไปคนละทิศละทางแตกต่างกันไป แต่มะยมคิดอยู่ในใจว่าถ้าหากหยุดเวลาดีๆในตอนนี้เอาไว้ได้ เด็กสาวงจะต้องทำอย่างแน่นอน เพราะสายสัมพันธ์ที่รัดตึงกันไว้อย่างนี้อีกไม่นานจะขาดสะบั้นลงไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมาเหมือนวันเก่า ๆ เช่นวันนี้อีกแล้ว ..แล้วจู่ๆครูพลก็เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาขณะนั่งบนโต๊ะอาหารในบ้านพัก มะยมหันไปมองพลอยใสที่แว่บแอบประตูเตรียมจะลงบ้านไปพร้อมกับอานนท์ที่รออยู่ด้านล่างแล้ว เมื่อวานตอนค่ำพ่อได้รับโทรศัพท์จากครูพักตร์โทรศัพท์มาหาพ่อแล้วบอกว่าจะขอตัวมะยมเป็นนางนพมาศของโรงเรียนในงานลอยกระทงที่จัดขึ้นที่หน้าที่ว่าการอำเภออาทิตย์หน้า ... พ่อเห็นว่าไม่เสียหายอะไรเลยรับปากตกลงไปแล้วนะมะยม แต่ตอนนี้นางงามของพ่อหน้าเขียวบวมปูดไปทั้งตัวอย่างนี้จะทำไงดีนี่ ผู้อาวุโสเล่าไปเรื่อยๆ อย่างอารมณ์ดีที่ได้หยอกลูกสาวคนโปรด ห้า พ่อจ๋าฟังมาผิดหรือเปล่า ครูพักตร์ต้องการลูกสาวพ่อคนไหนกันแน่พลอยหรือตัวหนู เด็กสาวรู้สึกข้องใจเป็นอย่างมากที่ได้ยินผู้เป็นพ่อบอกว่าตนเองได้รับการทาบทามให้เป็นนางนพมาศของโรงเรียนท่าวังหินพิทยาคม แทนที่จะเป็นพี่สาวคนสวย ที่ทั้งอ่อนหวาน น่ารัก สวยเก๋เลิศเลอกว่าใครในโรงเรียนออกปานนั้น หนำซ้ำยังเนื้อหมอขนาดมีคนมารุมชอบรุมรักกันทั้งโรงเรียน แต่ตอนนี้ไหงกลับตาลปัดอย่างงี้หว่า .. ไม่อยากจะเชื่อเลย ... ไม่ผิดหรอกมะยม ครูพักตร์เปรยๆว่าคนสวยน่ารักอย่างพลอยใสมีเยอะเต็มโรงเรียนแล้ว แต่หาสายคมเข้มอย่างมะยมหายากมาก ถ้าแต่งหน้าดีๆ เข้ม ๆ คงสวยพิลึกกึกกือ ฮ่ะ ๆ ๆ .. ครูพลล้อเลียนลูกสาวคนโปรดอย่างขบขัน อารมณ์ดีตรงข้ามกับมะยมที่นั่งหน้าง้ำเหม่อลอยและครุ่นคิดไปไกลนอกหน้าต่างว่าจบขบคิดจะแก้ปัญหาหนักอกครั้งนี้ยังไง เฮ้อ ! ทอมบอยกับนางงาม มันตรงกันข้ามสุดขั้วขนาดนี้ สงสัยงานลอยกระทงปีนี้คงสนุกดีพิลึก พ่อจ๋ามะยมจะทำไงดี รู้สึกไม่ชอบการเป็นนางงามอะไรนี่เลยจ๊ะ ดูไร้สาระ ปัญญาอ่อนสิ้นดี หนูคิดว่าจะส่งนังมะหมี่ไปแทนได้มั้ยล่ะ ... มันก็ของแปลกเหมือนกันกับหนู เฮ้ย ! ทำเป็นเล่นไปลูก เมื่อวานครูพักตร์โทรหาพ่อสองสามรอบเชียวนะ พ่อว่าแกคงจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่เห็นมั้งลูก อย่าคิดมากไปเลยนะ เราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดดีกว่า เรื่องอื่นไม่สำคัญแล้ว ก็ได้จ๊ะพ่อ ... มะยมไปเรียนก่อนนะตอนเย็นเจอกันค่ะพ่อ .. คนพูดยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อก่อนจะวิ่งลงบันใดบ้านพักครูไปในทันที ครูพลส่ายหน้าช้าๆ อย่างคุ้นชินกิริยากระโดกกระเดกเหมือนม้าดีดกะโหลกของของลูกสาวคนนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ในใจก็ยังอดห่วงลูกสาวอีกคนอยู่ไม่วาย เพราะลูกสาวคนโตคนนี้มีนิสัยใจไม่เหมือนลูกสาวคนเล็กเลย ไม่ว่าจะเป็นกิริยามารยาท นิสัยใจคอ ความชอบ หรือรสนิยมอื่น ๆ ตนเองเป็นพ่อทำได้แค่เพียงภาวนาให้ทั้งสองรักกันอยู่อย่างนี้ตลอดไป ไม่อยากเห็นความบาดหมางเกิดขึ้นในครอบครัวอีกเลยนับจากวันที่การะเกด เมียรักจากไปเพราะความเข้าใจผิด ...สายลมพัดเอื่อยเฉื่อยพัดเอากลิ่นดิน กลิ่นโคลนจากการดำน้ำ หว่านข้าวใหม่ๆ ทำเอามะยมที่กำลังควบเจ้าแก่ผ่านทุ่งนาที่ไกลสุดลูกลูกตาเป็นตารางสี่เหลี่ยมคล้ายตารางหมารุกต้องเงยหน้าขึ้นสูงอีกนิดเพื่อสูดกลิ่นเหล่านี้เข้าให้เต็มปอด เด็กสาวรู้สึกชอบกลิ่นแบบนี้เป็นที่สุด ชีวิตเด็กผู้หญิงบ้านนอกธรรมดาๆ จะหาความศิวิไลซ์ไปได้นอกจากท้องไร่ท้องนาแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว มะยมเหลียวมองไปรอบๆตัวจะเห็นทิวเขาสีน้ำเงินทะมึนจรดขอบฟ้าสีกระจ่าง มองเห็นเมฆกระจายลอยฟูฟ่องเต็มไปทั่ว ... เฮ้อ ! ชีวิตอันแสนสุขของเราคงจะอยู่ที่นี่ตลอดไปแน่นอน ...พอพ้นโค้งถนนก็เลี้ยวผ่านศาลาริมทางที่พวกนักตกปลาในวันหยุดมักจะใช้เป็นที่ชุมนุมและสำหรับพักเหนื่อย คลายร้อนกันเป็นหมู่มาก แต่วันนี้กับร้างไร้ผู้คน มะยมเกือบจะมองเลยผ่านจนแว่บสายตามองเห็นร่าง ๆ หนึ่งแสนจะคุ้นเคยยืนพิงเสาศาลาเหม่อไปข้างหน้าอย่างเดียวดาย เด็กสาวหยุดเจ้าแก่แล้ววนรถกลับคืนมาดูให้แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า .... เป็นจริงอย่างที่คิดไว้เป็นสาวหน้าหวานคนเดิมนั่นเอง .. มายืนคอยใครที่นี่หรือจ๊ะน้ำหวานจ๋า พี่กำลังจะไปรับที่บ้านอยู่นะ มะยมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงออกมาทางน้ำเสียงที่นุ่มชวนฟัง .. พี่มะยมต้องช่วยน้ำหวานนะ แม่กับพ่อจะให้หนูไปอยู่กรุงเทพกับป้า น้ำหวานกลัวลุง กลัวพี่พัดลูกชายป้า พวกเค้าชอบลวนลามน้ำหวานเวลาป้านวลไม่อยู่ ฮือๆๆ นี่ถ้าไปอยู่บ้านนั้นตลอดเทอมใครจะรับรองความปลอดภัยน้ำหวานได้ ฮือๆๆ น้ำหวานตายแน่ๆ สาวหน้าหวานสมชื่อน้ำตารินไหลอาบสองแก้มและเปียกชุ่มผ้าเช็ดหน้าสีชมพูที่ถืออยู่เพราะความอัดอั้นความรู้สึกข้างใน ก่อนจะโผเข้ากอดมะยมไว้จนแน่น .. มันไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกน่าน้ำหวาน พี่ว่าเราค่อยหาทางแก้ไขกันคราวหลังดีกว่า ตอนนี้ไปเรียนหนังสือกันก่อน เดี๋ยวพี่ไปสายอาจารย์เมตตาดุเอา มะยมพูดตัดบทพร้อมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เด็กสาว แต่แล้วน้ำหวานกลับเขย่งตัวขึ้นมาจุ๊บที่แก้มมะยมอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวรู้สึกเขินไปบ้างเหมือนกัน พี่มะยมน่ารักจัง เข้าใจน้ำหวานทุกอย่าง เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะพี่นะ.. เด็กสาวทำเสียงออดอ้อนคล้ายสาวอ้อนหนุ่ม จนมะยมรู้สึกแปลกๆเหมือนจะไม่คุ้นเคยพิกล ก่อนจะตอบไปแบบกึ่งรับกึ่งสู้ว่า จ๊ะ ! ได้จ๊ะไปเราไปโรงเรียนกันเถอะ .. พอมาจุดนัดพบ แก็งสาวซ่าส์ลุกแตกฮือเมื่อเห็นว่าใบหน้าเนื้อตัวของมะยมบอบซ้ำเหมือนไปฟัดใครมาอย่างที่ครูพลว่า น้ำฝนปราดเข้ามาสำรวจอาการเป็นคนแรกตามด้วยจิ๊บ หยาด ฝน แมว มะหมี่และส้มโอ แกไปทำอะไรมานังยม หน้าตาเยินขนาดนี้ .. มะหมี่สาวสวยประจำกลุ่มถามขึ้นมาเป็นคนแรก เฮ้ย... ไม่ต้องตกใจไม่มีอะไร แค่โดนหมาหมู่มันรุมเอาเมื่อวานตอนเย็น... มะยมช่างใจว่าจะเล่าต่อไปหรือหยุดเล่าดี เพราะตอนนี้เพื่อนทั้งกลุ่มลุกยืนขึ้นพร้อมกันแล้วยืนมุงค้ำหัวตัวเองแทบจะหายใจไม่ออก จึงแสร้งพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนสถานการณ์แล้วเล่าต่อไปว่า พวกแกไม่ต้องเดือดร้อนเพราะข้าขนาดนี้ก็ได้วะเพื่อน ซึ้งจังว่ะ ... ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แค่นี้ไกลหัวใจจะตาย คนอย่างอีมะยมไม่เคยกลัวใครหน้าไหนพวกแกก็รู้ มะยมเล่าไปเอามือลูบคางป่อยๆ ใช้ความคิด แต่ก็นึกฉิวไปทุกครั้งเมื่อคิดถึงพฤติกรรมหมาหมู่ของแก้วตา .. ใครทำแกวะนังยม แล้วนี่หล่อนทำไมไม่มาตามพวกชั้น ไปลุยเดี่ยวอย่างนั้นทำไมวะ ... คิดว่าตัวเองเป็นแรมโบ้หญิงหรือไงย่ะ ส้มโอเอื้อมมือไปลูบที่ใบหน้าของมะยมแล้วพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ก่อนจะทุบกำปั้นบนฝ่ามืออย่างเคืองแค้น .. ใครนะที่กล้าลูบคมเสือ อย่างงี้ต้องเอาคืน ไม่เอาน่าเพื่อน ๆ เรื่องมันก็แล้วไปแล้ว ฉันไม่ติดใจอะไรพวกนั้น อีกอย่างฉันก็ผิดที่ปากเร็วไปรับปากท้าตีท้าต่อยกับพวกนั้นโดยไม่ปรึกษาพวกแกก่อน ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆสาบานได้ พอดีมีคนไปช่วยไว้ทันเวลาพอดี มะยมพยายามอธิบายท่ามกลางหน้าที่ที่เครียดขึ้งของเพื่อนสาวทุกคนในแก๊งค์ พวกนังแก้วตาใช่มั้ยมะยม ส้มโอ ปกติจะเป็นคนโผงผางมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเอ่ยถามอย่างคาดคั้น มะยมเหลียวมองไปรอบๆโต๊ะก็เห็นแววตาคาดคั้นจากเพื่อนทุกคนเช่นกันรวมทั้งน้ำหวานด้วย .. ใช่ ! เพื่อน ... ฉันไปท้าตีกับแก้วตาที่หลังโรงเรียนสองต่อสอง แต่มันผิดพลาดไปหน่อย .. ผิดพลาดยังไงวะ แกโดนพวกมันรุมมาหรือเปล่า แมวที่ปกติจะเป็นสาวห้าวเข้มเต็มพิกัด ชอบอยู่เฉยๆฟังเพื่อนสนทนามากกว่าจะออกความเห็นเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ทีแรกฉันก็นึกว่าแก้วตาจะมาคนเดียว ที่ไหนได้มันพาโจทย์เก่าทั้งหมดมาคิดบัญชีฉันใหม่อีกครั้ง แทบปางตาย แต่มันก็ดีแล้วเรื่องมันจะได้สะสางจบๆไปซะที แล้วค่อยคิดบัญชีหน้าใหม่กันต่อไป เฮ้ยเพื่อนๆ ดูหน้าตาพวกแกสิทำหน้ายังกะจะไปฆ่าแก้วตาตอนนี้ซะให้ได้งั้นแหละ มะยมพยายามฝืนยิ้มทั้ง ๆ ที่รู้สึกปวดแปลบที่ตรงมุมปากนิดๆ ถึงแกทนได้ แต่พวกเราทนไม่ได้หรอกนะมะยม ตอนเย็นนี้แหละฉันกับพวกนี้จะไปคิดบัญชีแค้นกับนังผีบ้าแก้วตานั่นเอง คราวนี้จะคิดบัญชีทั้งต้นทั้งดอกเบี้ยเลยคอยดู คอยดูสิว่ามันจะรอดเงื้อมมือพวกเราไปได้ยังไง ..หนอย ! เล่นกับใครไม่เล่นเล่นกับพวกข้า วอนหาเรื่องตายซะแล้ว ส้มโอสาวห้าวอีกคนแค่นเสียงออกมาดังลั่น จนหยาดทิพย์สาวหวานซ่อนเปรี้ยวประจำแก๊งต้องเอามือปิดปากเอาไว้เพราะกลัวคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน ... ส่วนสาวสุดสวยอย่างมะหมี่ กระโดดพุ่งออกมานอกโต๊ะ ชูมือชูแขนแล้วเตะแข้งเตะขาไปข้างหน้า ตีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังผิดปกติ ก่อนจะเอ่ยประโยคบางประโยคออกมา .. ฉันก็ทนไม่ไหวแล้วนะนังยม วันนี้จะขอเสียสละเรือนกายอันเป็นหญิงแสนสวยของฉันแปลงร่างเป็นชายแมนล่ำไปกอบกู้ศักดิ์ศรีของเธอคืนมาให้ได้ คอยดู้ คอยดูสิ .. พวกแกหยุด ๆ ๆ ๆ เลย ไม่เอา ไม่เอาน่า คราวนี้ฉันขอให้มันผ่านไปเถอะนะ ความจริงฉันเป็นถึงประธานนักเรียนไปท้าตีท้าต่อยไร้สาระอย่างนั้นได้ไง น่าละอายจริงๆ คราวหน้าถ้าเกิดเรื่องทำนองนี้อีก ฉันรับปากพวกแก ๆๆๆ ว่าจะพาไปตะลุยพวกมันให้ราบเป็นหน้ากลองเลยเพื่อน เอาให้พวกมันเจ็บมากกว่าที่ทำกับฉันสิบเท่า ตกลงมั้ยวะ.. ความเงียบเข้าปกคลุมไปนานครู่ใหญ่ ก่อนจะมีการคุยกันในเรื่องอื่นแล้ว นั่นก็แสดงว่าสถานการณ์ดีขึ้นเข้าสู่ปกติแล้ว .... มะยมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นเพื่อน ๆ มีปฏิกิริยาอารมณ์ที่เบาและเย็นลงทุกคน แต่ก็คงอาการไว้ได้ไม่นานนักเพราะเสียงทุ้มดังมาทางด้านหลังโต๊ะเสวนา ว่าไงมะยมได้ข่าวไปฟัดกับหมามาเหรอ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ เสียฟอร์มไปเลยนะเพื่อนรัก เสียงของเดี่ยวที่ดังลั่นมาพร้อมหน้าตาที่ยียวนกวนประสาท ทำให้ทุกคนถึงกับหันหลังกลับไปมองทันที .. ไอ้หมาเดี่ยว ทำไมเว้าหมาๆ อย่างงี้ล่ะ.. แกมาต่อยกับชั้นเลยมะ ส้มโอทำท่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะไปชกปากเดี่ยวจริงๆ อ๊ะ! ข้าไม่ได้พูดเองนะโว๊ย ยัยแก้วตาไปโวที่โรงอาหารอยู่ในตอนนี้ ไม่เชื่อก็ลองไปฟังดูสิ ไปตอนนี้ก็ยังทันนะ เผื่อของจะขึ้นกันมั่ง ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ เดี่ยวยังคงบรรยายต่อไปอย่างเมามัน ไม่สนอารมณ์คนฟังแม่แต่น้อย วอนหาเรื่องซะแล้วไอ้เดี่ยว ถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปไกลๆเลยปะ.. แมวทำท่าแยกเขี้ยวขึ้นมาขู่อีกคน จนเดี่ยวกับพวกต้องถอยกราวรูดไปในทันที มะยมเหลือบตามองแก๊งหนุ่มแสบทั้งหมดอย่างนึกฉิวตามไป แต่แล้วก็ต้องหยุดสายตาไปในทันทีเมื่อมองเห็นคนสุดท้ายที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่...อิสรานั่นเอง มายืนแอบข้างหลังอยู่เงียบๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้.. มะยมนึกฉุนอิสราขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะชวนทุกคนไปเข้าแถวเมื่อออดสัญญาณดังขึ้นมาแล้ว ไปเข้าแถวกันเถอะพวกเรา .. จบตอน ๕ มาต่อตอนที่หกในวันสองวันนี้นะครับ .. ขอบพระคุณเพื่อนหนอนที่กรุณาเข้ามาอ่าน .. ชีวิตของมะยมกับคุณชายอิสจะเป็นเช่นไรโปรดติดตามต่อไป อย่าพลาดสักตอนเดียวครับ (โฆษณา) อิอินายอิส / เมฆชรา