<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
2 กุมภาพันธ์ 2553
 

ทอดน่องท่อง "มะละกา" Part XII : ไปเดินตลาดสดเมืองมะละกากันเถอะ



ความเดิมตอนที่แล้ว

เช้าวันที่ 3 ของทริปมะละกา ก็ตื่นตามสบายเช่นเคย
อาการปวดขายังมีอยู่บ้าง แต่ถ้าเริ่มเดิน ก็จะหายปวดไปเองนั่นแหละ (เชื่อแบบนั้น)
จัดแจงตัวเองเรียบร้อย ก็มารอเพื่อนร่วมทริปที่ lobby
เช้านี้ เราจะไปเดินตลาดสดกันบ้าง ...
เพื่อนเราถามคนพื้นที่ไว้แล้ว ว่าเขาจ่ายตลาดกันที่ไหน ถ้าไม่เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต
ได้ข้อมูลมาว่า เขาจ่ายตลาดกันนอกเมือง แถวๆ Melaka Sentral หรือบขส.นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น ก็ต้องอาศัยรถประจำทางสาย 17 อีกตามเคย
ไปตั้งหลักกันที่หน้า Megamall เหมือนเมื่อวาน ไม่แตกแถวแล้วล่ะ



รถเมล์ที่นี่ แบ่งสีตามบริษัทที่ให้บริการ เส้นทางวิ่งก็ต่างกัน
แต่ว่า...พวกเราไม่มีแผนที่การเดินรถหรอกนะ ...อาศัยเดาเอา
ยังไงซะสาย 17 มันต้องไป Melaka Sentral อยู่แล้ว และรถค่อนข้างดีถึงดีมาก
ก็รอกันจนได้สาย 17 สีแดง หน้าตาคุ้นเคย ค่ารถก็ 1 ริงกิตตลอดสาย



รถวิ่งผ่านย่านที่พักอาศัย ให้เห็นทั้ง บ้านเดี่ยว และตึกแถว แบบเฟลตดินแดง
ผ่านย่าน บูกิตไชน่า ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง
มีสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในคู่มือ 3 แห่ง คือ บ่อน้ำฮังลิโป ศาลเจ้าซำปอกง และสุสานบนภูเขาซำปอกง
มารู้เมื่อรถเล่นผ่านไปแล้ว ...ก็ปล่อยเลยตามเลย เพราะไม่ได้คิดจะมาเที่ยวถึงบริเวณนี้กันอยู่แล้ว

เราก็นั่งมองชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองจากบนรถนั่นเอง
มีรถเข็นขายอาหารริมทาง มีร้านอาหารที่เปิดแต่เช้า และชาวบ้านก็มากินข้าวนอกบ้านกันแต่เช้า



บนรถเราก็จะเห็นทั้งชาวมาเลย์ พูดภาษามาเลย์ และชาวจีน พูดภาษาจีน สลับกันขึ้นลง
จนกระทั่งรถเข้ามาจอดเทียบใน platform หมายเลข 8



เดินไปถามหาตลาดสดจากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อีกรอบนึง เพื่อความมั่นใจ
ส่วนที่เป็นตลาดนั้น อยู่ไม่ไกลจากบขส. เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของบขส.เลยก็ว่าได้นะ



อาคาร 2 ชั้น หน้าตาเหมือนตลาดสามย่าน (เดิม) เลยล่ะ
ชั้นบนเป็นส่วนร้านอาหาร ชั้นล่างแบ่งเป็นโซนอาหารสดและอาหารแห้ง



หิวกันแล้วล่ะ ...ไปหามื้อเช้าหม่ำกันก่อน
พอขึ้นชั้นบน ก็จะเห็นพื้นที่ขายแบ่งเป็นล็อค
ด้านหนึ่งเป็นฮาราล สำหรับมุสลิม อีกด้านไม่ฮาราล สำหรับชาวจีน
นักท่องเที่ยวที่กินได้สารพัดไม่จำกัดประเภทอาหารอย่างพวกเราก็เลยหย่อนก้นนั่งฝั่งร้านคนจีนก่อนแล้วจึงย้ายมานั่งฝั่งมุสลิม



อาหารคาวหวานเลือกมาลองกินจนอิ่มหน่ำสำราญใจ (ทั้งๆ ที่ไม่รู้ชื่อเลย)



แล้วก็ลงมาเดินชมตลาด โซนจำหน่ายเนื้อสัตว์แบ่งสัดส่วนชัดเจน
ตรงนี้ขายหมู ตรงนั้นปลา ตรงโน้นเนื้อว้ว ไก่ แพะ
ผัก ผลไม้ ก็คล้ายๆ กับของสดในตลาดบ้านเราแหละ
ของแห้งก็มีประเภทเครื่องเทศ ข้าวเกรียบ ผลไม้กวน ขนมปังกรอบ
ไม่ค่อยเห็นอะไรที่ประหลาดๆ หรือแปลกตา
ธรรมเนียมปฏิบัติของคนท้องถิ่นนี้ ไม่ให้ "ชี้นิ้ว" นะคะ ไม่สุำภาพ
แต่ก็เผลอกันบ่อย ..คนหนึ่งชี้ อีกคนก็ตีมือ ...เดินทั่วตลาด ก็เจ็บทั้งคนตี คนชี้ เลยล่ะ



ย้อนกลับเข้ามายังส่วนพลาซ่าในบขส.
เพิ่งสังเกตเห็นว่า บริการด้านการท่องเที่ยวของเมืองมะละกา จัดการไว้ดีมาก
มีจุดติดต่อจองที่พักที่สถานีกันเลย
ประมาณว่า คุณสนใจพักที่ไหน ที่มีป้ายอยู่ ก็ยกหู กดหมายเลขที่ระบุไว้ ติดต่อกับที่พักได้เลย
สะดวกดีมากมาย บขส.บ้านเรามีแบบนี้รึป่าว ...ไม่เคยสังเกตนะ

โอ้เอ้ เอ้อระเหย กันพอสมควรแก่เวลา ก็ขึ้นสาย 17 กลับเข้าเมืองกัน
ครั้งนี้พยายามจะถ่ายภาพบ้านพักอาศัย แต่ก็เก็บไม่ค่อยได้เลย



ได้แต่มัสยิด



แล้วก็ซุ้มแบบจีน คงจะเตรียมไปจัดงานที่ไหนซักแห่ง



หัวเสาตึกแบบชิโน-โปรตุกีส



นั่งรถเพลินๆ เกือบจะหลับอยู่แล้วก็มาถึงจตุรัสดัชต์สแควร์....ลงป้ายนี้แหละ



วันนี้ตั้งใจจะเดินชมเืมืองฝั่งตะวันตกของแม่น้ำมะละกา
พอได้จังหวะดีๆ ก็เก็บสัญลักษณ์ของชาวดัตช์ไว้ก่อน (เหมือนภาพถ่ายโปสการ์ดเลยเนอะ)



ตรงเกาะกลางถนน มีป้ายบอกทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และรูปปั้นกระจงสีขาว 1 ตัว



มีเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์ บอกไว้ว่า

ย้อนหลังไปก่อนที่กองทัพเรือของเจิ้งเหอมาถึงมะลาการาวหกปี หรือประมาณปีค.ศ.1400 ดินแดนแห่งนี้ยังเป็นป่าดงพงไพร ปกคลุมด้วยต้น "มะละกา" (Pokok Melaka or Embilica Officinalis) เจ้าชายปรเมศวร (Parameswara) แห่งเมืองปาเล็มบัง (Palembang) ทรงลี้ภัยทางการเมืองออกมาจากอาณาจักรมัชปาหิต (Majapahit Empire) บนเกาะชวาในปีค.ศ.1389 ข้ามช่องแคบระหว่างเกาะสุมาตราและคาบสมุทรมลายูมาอยู่ที่เมืองเตมุสิก (ปัจจุบันคือสิงคโปร์) จากนั้นก็อพยพพร้อมไพร่พลขึ้นเหนือมาถึงพูเลา เบซาร์ เพราะพอใจชัยภูมิที่มีชายฝั่ง ปราศจากต้นโกงกาง เหมาะเป็นเท่าเทียบเรือที่ดี และด้านหลังมีเนินเขาที่สามารถป้องกันการรุกรานของข้าศึกได้ วันหนึ่งขณะนั่งพักใต้ต้นมะละการะหว่างการล่าสัตว์ ทันใดนั้นมีหมาป่าล่าเนื้อสองตัววิ่งไล่กระจงตัวหนึ่งหนีออกมาจากป่าลึก แล้วมาหยุดต่อสู้กันตรงที่เจ้าชายนั่งพัก กระจงต่อสู่กับหมาป่าอย่างกล้าหาญ และสามารถเตะหมาป่าตัวหนึ่งตกน้ำไป เจ้าชายปรเมศวรเห็นดังนั้นก็ตะลึงในความห้าวหาญ และคิดว่านี่คงเป็นนิมิตหมายอันดี จึงตั้งอาณาจักรตามชื่อของต้นไม้ที่พักพิงว่า "มะละกา" และสร้างพระราชวังขึ้นที่เชิงเขา ณ ริมฝั่งแม่น้ำมะละกา


ไม่รู้ว่าจะเป็นตำนานหรือพงศาวดาร หรือว่าจารึกทางประวัติศาสตร์
แต่สัญลักษณ์นี้ก็กลายเป็นจุดขายของเมืองเช่นกัน

เอาล่ะ ข้ามแม่น้ำมะละกาแล้ว เราไปเที่ยวย่านคนจีนกันเถอะ ..



โปรดติดตามตอนต่อไป



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2553 0:16:02 น. 17 comments
Counter : 1938 Pageviews.  
 
 
 
 
เล่าวันที่ 3 แล้วเหรอ...

ไม่ได้ละ ต้องรีบปั่นต้นฉบับตามมาติดๆ
 
 

โดย: นู๋เมี่ยง (มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:26:07 น.  

 
 
 
คุณเมี่ยง >> เราเร่งปั้นเรื่องให้เธอลอกนั่นแหละ ..
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:17:40 น.  

 
 
 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ยังไม่เคยไป
 
 

โดย: Summer Flower วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:02:08 น.  

 
 
 
มาเที่ยวชมตลาดด้วยคน
นึกภาพตาม บอกคล้ายแถวแฟลตดินแดง
มาอีกหน่อย ตลาดสามย่าน อ้อ เป็นแบบนั้น

ชี้นิ้วไม่สุภาพเหรอคะ จะจำไว้
แหมได้ความรู้ มองเห็นภาพแบบแจ่มแจ๋ว
เหมือนเราได้ไปเดินมาด้วยกัน

อ่ะไหนก็อ่านมาแล้ว ได้รู้ความเป็นมาของประวัติศาสตร์อีก
ขอบคุณค่ะ กำไรเหลือหลายนะมาบ้านนี้

แล้วจะแวะมาอีกค่ะ


แอมอร
 
 

โดย: peeamp วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:30:51 น.  

 
 
 

แอบฝันใฝ่ไว้ว่า อยากแบกเป้เที่ยวสิงคโปร์
แล้วก็โดนหลายเสียงเป่าหูว่า จะไปทำไม
ให้ย้ายก้นย้วย ๆ ๆไปฮ่องกงหรือมาเก๊าดีกว่า
เฮ้อ ช่างไม่เร้าใจเอาซะเลย

มาเลเซียยังไม่อยู่ในมโนคิดเลยล่ะคุณ
แต่พออ่านไป ดูภาพไป ชักอยากไปหม่ำอะไรที่นั่นมั่งล่ะ

งั้นก็ มามะ มาแข่งกันเที่ยวดีกว่า
 
 

โดย: inmemoir วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:06:28 น.  

 
 
 
แวะมาเยี่ยมมาเที่ยว มะละกา ด้วยคนครับ..

ดูเป็นเมืองสงบๆดีนะครับ..อิอิ
มีความสุขมากๆครับผม


 
 

โดย: Little Knight วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:32:01 น.  

 
 
 
คุณ Summer Flower >> ด้วยความยินดีค่ะ ตามไปเรื่อยๆ นะคะ

คุณ peeamp >> การชี้นิ้วไปยังบุคคล เป็นเรื่องไม่สุภาพค่ะ อันนี้อ่านหนังสือคู่มือ

คุณ inmemoir >> มีเรื่องน่าสนใจเยอะค่ะ ..ค่อยๆ ตามอ่านไปนะคะ

คุณ Little Knight >> ใช่ค่ะ เมืองสงบ และนิ่งๆ ดีล่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:57:43 น.  

 
 
 
เข้ามาบล้อกนี้แล้วอยากไปเที่ยวขึ้นมาเลยอ่ะครับ

แต่ปัญหาใหญ่ติดอยู่ที่ไม่มีเงินเนี่ยสิ ฮ่าๆ
ก็คงได้แต่คิดต่อไป
 
 

โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:49:24 น.  

 
 
 
ตามมาแอ่ว .. ด้วยความตื่นตาตื่นใจ

นี่เราไม่ได้เที่ยวนอกบ้านนานเท่าไหร่แล้วหว่า..

สองปี สามปีแล้วม่างเนี่ย ?? ..

......... .

เห็นอาหารแล้วน่ากิน .. อิอิ

หวัดดีตอนค่ำจ๊ะ ..
 
 

โดย: SongPee วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:35:10 น.  

 
 
 
รูปสวย glitter emoticon comment glitter.mthai.com

แวะมาฝากบ้านสัก๓วันนะคะ ต้องพาเด็กไปเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีที่สุพรรณค่ะ แล้วจะนำภาพมาฝากนะคะ คุณนัทธ์สบายดีนะคะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:18:01 น.  

 
 
 
เห็นภาพอาหารแล้วท้องร้องเลย
 
 

โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:23:47 น.  

 
 
 
เมื่อไหร่จะกลับมา
 
 

โดย: คนขับช้า วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:56:50 น.  

 
 
 
น้องไอซ์ >> ตามไปเที่ยวกับพี่ใน blog แบบนี้แหละ ...ไม่เสียตังส์ด้วยนะ

คุณสองพี >> ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่ะ

ครูเกศ >> รับทราบค่ะ

คุณตูน >>

คุณคนขับช้า >> กลับมาแล้วไง แต่ยังเล่าไม่จบซะที
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:20:16 น.  

 
 
 
มอนิ่งยามเช้า - Hi5 กราฟฟิคสำหรับคอมเมนต์



ตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^
 
 

โดย: ท่านหญิงน่าเกลียด วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:41:18 น.  

 
 
 
ทีแรกกะว่า ถ้าไป จะค้างคืนเดียว
พอคุณนัทธ์เริ่มเล่า นึกๆว่า สงสัยจะสองคืนดีกว่า
อ่านมาถึงนี่ สามคืนแน่นอน

 
 

โดย: ตา (ta/'o-o/' ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:45:04 น.  

 
 
 
ตามมาเที่ยวค่ะ

แหม...อิจฉาคนได้เที่ยวจริงๆค่ะ
 
 

โดย: บุยบุย วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:44:25 น.  

 
 
 
คุณท่านหญิงฯ >>

คุณตา >> 3 คืนเนี่ย เที่ยวแบบสบายๆ ได้เลยล่ะ

คุณบุยบุย >> ไม่ต้องอิจฉาค่ะ เพราะเที่ยวมาเผื่อเพื่อนๆ ด้วยแล้วล่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:54:44 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com