กล่าวกันว่าท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2370 มีอุโบสถอายุกว่า 100 ปี เจดีย์บรรจุอัฐิของคุณหญิงโม เมื่อปีพ.ศ.2510 ได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ เป็นศิลปะไทยประยุกต์ มีลักษณะเรือสำเภาประดับด้วยกระเบื้องดินเผาด่านเกวียน เป็นเรื่องพุทธประวัติตอนเสด็จจากดาวดึงส์ บานประตู้เป็นโลหะดุนลายเป็นเรื่องมหาเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ วัดนี้ได้รับรางวัลดีเด่นด้านบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามพ.ศ. 2516

แผ่นดินเผาแสดงภาพพุทธประวัติตอนเสด็จลงจากสวรรค์
หลังจากเทศน์โปรดพุทธมารดาแล้ว

ภาพพุทธประวัติตอนนี้มักจะเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถเบื้องหลังองค์ประประธาน

ท้าวสุรนารี พร้อมด้วยพระยาปลัดทองคำ สามีของท่าน ได้สร้างวัดศาลาลอยเอาไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา เมื่อพ.ศ. 2370 ส่วนพระยาปลัดทองคำ สามีของท่านท้าวสุรนารี ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานฐานันดรศักดิ์ให้เป็นเจ้าพระยามหิศราธิบดี ปกครองเมืองนครราชสีมา แทนพระเนตรพระกรรณ เพื่อสนองพระเดชพระคุณในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้สืบต่อไป
ท้าวสุรนารี ถึงแก่อญัญกรรมเมื่อเดือนห้า ปีชวด พ.ศ. 2395 สิริรวมอายุได้ 81 ปี เจ้าพระยามหิศราธิบดี ได้ฌาปนกิจศพของท่านที่วัดศาลาลอย และก่อเจดีย์บรรจุอัฐิไว้ที่วัดนี้