|
เที่ยวเมืองเวียงจันทน์ Part I
หลุดจากการตรวจจับความเร็ว ในที่สุดก็เดินทางเข้าถึงเมืองเวียงจันทน์ซะที จุดแรกที่แวะเที่ยวชม ก็คือ หอพระแก้ว
หอพระแก้วนี้สร้างโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อพ.ศ.2094 เมื่อครั้งที่ย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางลงมาเมืองเวียงจันทน์
เดิมนั้นเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ก่อนที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จะอัญเชิญลงมากรุงธนบุรี ในการศึกสมัยรัชกาลที่ 3 กองทัพสยามก็ได้ทำลายหอพระแก้ว เหลือเพียงบานประตูไม้แกะสลัก 2 คู่นี้เท่านั้นที่เป็นของดั่งเดิม
นอกนั้นสิ่งที่ปรากฎแก่ตาพวกเรา คือ หอพระแก้วที่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ครั้งหลังสุดในปีพ.ศ. 2485 ปัจจุบันเป็นหอพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาวัตถุโบราณและพระพุทธรูปมากมาย มีบุษบกสำหรับประดิษฐานพระแก้วมรกต พระแท่นบัลลังก์ปิดทอง จารึกพระไตรปิฎกภาษาขอม ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ...ก็เลยได้แต่เก็บภาพภายนอกมาเท่านั้น
พระพุทธรูปที่เห็นเรียงรายรอบหอพระแก้วนี้ ...เปลวพระเกศ ไม่มี...บางองค์..มีรอยแงะที่ดวงตา อันนี้ได้รับคำอธิบายมาว่า ช่วงสงครามกับฝรั่งเศสนั้น พวกฝรั่งแงะอัญมณีที่ติดประดับไว้ไป รวมทั้งรู้ว่า เวลาสร้างพระ ประชาชนชอบใส่ของมีค่าทำบุญลงไปภายในองค์พระ ดังนั้น ถึงถูกตัดเปลว เพื่อเทแก้วแหวนเงินทองที่บรรจุภายใน และเอาเปลวพระเกศที่เป็นทองไป ยังดีกว่า พระพุทธรูปบ้านเราหน่อยนึงนะเนี่ย ...ของเราตัดไปทั้งเศียร ...เห็นแล้วเศร้าใจ
อ้อ ...บุษบกที่เห็นเป็นงานไม้แกะสลักปิดทองประดับกระจกสี... ไม่งามเท่าบุษบกที่ประดิษฐานพระแก้วมรตกในวัดพระแก้วบ้านเรา แถมยังต่ำเตี้ย ไม่อลังการงานสร้างเท่าไรนัก
จากหนังสือคู่มือท่องเที่ยวบอกว่า ศิลาจารึกพระธาตุศรีสองรักของจริงที่สร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเก็บที่นี่ แต่ไกด์ไม่พูดถึงเลย ....ไม่รู้ว่าจะเป็นหลักศิลาที่ถ่ายภาพมานี้หรือไม่ อือม์ นึกอีกที ก็ไม่น่าใช่นะ จำได้ว่ามีอีกแผ่นเก็บไว้ด้านในหอพระแก้ว
แม้ว่าหอพระแก้วที่เราเห็นจะเป็นการบูรณะขึ้นใหม่ แต่ก็เป็นการบูรณะจากรูปแบบเดิม ลักษณะการตกแต่งทั้งหมด จะเป็นงานปูนปั้น ราวบันไดเป็นปูนปั้นรูปเหราอมนาค หรือ เหรากลืนนาค....ไม่ใช่พญานาคแบบที่เห็นตามวัดที่ผ่านๆ มา
ด้านนอกมีประติมากรมรูปหล่อสำริดชายหญิง ...ถือบายศรี อยู่คู่นึง นัยว่าเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ต่อมา..พวกฝรั่งก็ปั้นรูปนายฝรั่งคนนึง ...คนสำคัญของฝรั่งเศสตอนนั้น มาวางได้ด้านหน้ารูปปั้นคู่นี่ บอกเป็นนัยๆ ว่า ....ลาวยกประเทศให้ฝรั่งเศส พอปลดแอกจากฝรั่งเศสได้ คนลาวก็ขนเอารูปปั้นนายคนนั้น ไปโยนทิ้งแม่น้ำโขง ฟังแล้ว สะใจดี ....
แล้วก็มี "ไหหิน" จากทุ่งไหหิน ให้ดูเป็นตัวอย่าง 1 ไห ใหญ่มาก ลองดูขนาดเทียบกับไกด์ของเราได้เลย ชะโงกดูข้างในไม่มีอะไร ....นอกจากบางคนโยนเหรียญทำบุญลงไปอ่ะนะ
ออกจากหอพระแก้วก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เดินไปอีกนิดนึงก็ถึง "วัดสีสะเกด" วัดนี้สร้างโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 3 หรือพระเจ้าอนุวงศ์ ในปีพ.ศ.2361 ถือเป็นวัดประจำรัชกาล พวกเราเดินทางถึง ประตูทางเข้าก็ปิดไป 1 บาน ใกล้เที่ยงแล้ว ....เจ้าหน้าที่จะพักกลางวันแล้วล่ะ
คุณบุญเข้าไปบอกกล่าว..เพราะเราเป็นนักท่องเที่ยวที่แจ้งไว้ล่วงหน้า เข้าไปถึงก็เลยกราบพระก่อนแล้วจึงเข้าไปชมในสิม...ยังคงไม่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอีกตามเคย
สถาปัตยกรรมและศิลปะที่ปรากฎที่วัดนี้ เป็นลักษณะแบบต้นรัตนโกสินทร์ กล่าวกันว่า พระเจ้าอนุวงศ์ทรงโปรดปรานศิลปะเช่นนี้ตั้งแต่ครั้งที่มาศึกษาอยู่ในกรุงเทพฯ ภายในการอุปถัมภ์ของรัชกาลที่ 2 และด้วยเหตุนี้ ทำให้วัดนี้ไม่ถูกกองทัพสยามเผาทำลายในการศึกเจ้าอนุวงศ์ สมัยรัชกาลที่ 3
ผนังด้านในระเบียบคดรอบสิม เจาะเป็นช่องเล็กๆ สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปองค์เล็กๆ จำนวนมากถึง 6 พันกว่าองค์
หอไตร มีลักษณะแบบเดียวกับวัดไทยใหญ่หรือพม่า
ท้องร้องเตือน ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว ก่อนจะขึ้นรถ ไกด์ชี้ไปตึกข้างๆ ที่มองเห็นแนวรั้วสีขาว บอกว่าเป็น "ทำเนียบ" ไหนๆ ก็ช้าแล้ว ขอเวลาไปเก็บภาพหน่อยละกัน
หันมามองทางวัดสีสะเกดอีกครั้ง...เพิ่งเห็นว่าหอไตรล้ำรั้วออกมาด้วย
ได้ภาพตามต้องการกันพอควร...ก็ขึ้นรถไปกินข้าวกันได้ซะที ร้านนี้อยู่ติดริมแม่น้ำโขง...มองไปก็เห็นฝั่งไทย ใกล้จะได้กลับบ้านแล้วซิ
ปล. คำอธิบายเชิงประวัติคัดย่อจากหนังสือคู่มือท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบาง โดย นายรอบรู้ และคำบอกเล่าจากคุณบุญ ไกด์สาวชาวลาวของพวกเรา
Create Date : 28 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 28 ธันวาคม 2551 22:18:12 น. |
|
8 comments
|
Counter : 3356 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:21:54:33 น. |
|
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:22:30:40 น. |
|
โดย: Gigg_Pat วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:22:54:18 น. |
|
โดย: Penguin*Air (DuckGuinZ ) วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:23:18:06 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:7:21:49 น. |
|
โดย: รสสภัน (Nrostahpan_My ) วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:11:27:35 น. |
|
โดย: ทราย (mancyber ) วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:0:11:43 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|