|
เช้าแรกในหลวงพระบาง
ผ่านการเดินทางอันสมบุกสมบันใน Part I และระทึกขวัญ ใน Part II เข้าสู่ที่พักในหลวงพระบาง
ที่พักของพวกเราไม่ได้อยู่ในโซนชุมนุมนักท่องเที่ยว ....หรือโรงแรมมีชื่อ เป็นวิลล่าขนาดกระทัดรัด ...ที่เราแจ้งกับบริษัททัวร์ว่า ขอให้มีน้ำอุ่นก็ OK
คุณบุญแจ้งนัดหมายเช้าแรกในเวลา 7 โมงเช้า เราต้องพร้อม เพื่อไปทานมื้อเช้ากันที่ร้านอาหาร หมายความว่า 6 โมงเช้าควรตื่นมาเตรียมตัวกันได้แล้ว เพื่อนเราตั้งปลุกตอนตี 5 ครึ่ง เพื่อเตือนให้รู้สึกตัว .... เราอาบน้ำเร็ว....ทีแรกว่าจะไม่อาบแล้วเชียวนะ ...ก็เพิ่งอาบไปเมื่อคืนเองอ่ะ แต่มันตะหงิดตะหงิดในใจยังไงไม่รู้ ....ก็เลยอาบซะหน่อย ทาโลชั่น ทาแป้ง แต่งตัว....เสื้อกันหนาวและผ้าพันคอ พร้อมแล้ว ก็ออกมาสำรวจพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนเวลานัดหมาย
โชคดี...ทันเห็นภาพชีวิตชาวหลวงพระบาง เช่นนี้
ชาวบ้านออกมารอใส่บาตรข้าวเหนียว... พระและเณร เมื่อรับบาตรหมดแล้ว ก็จะสวดให้พร และแม่เฒ่าก็ทำอะไรไม่รู้ล่ะ คล้ายๆ จะกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลด้วยเลย เราเก็บภาพได้แล้ว ก็นั่งลงรับพรอยู่ห่างๆ
ไกด์พร้อม ลูกทัวร์พร้อม คนขับรถพร้อม ....ก็ออกเดินทางไปร้านอาหารร้านเดิมเพื่อรับมื้อเช้ากันก่อน อ้อ...ต้องให้รถพร้อมด้วยนี่นะ ...แวะปั๊มเติมน้ำมันกันก่อน
อาหารเช้ามื้อแรก ข้าวต้มหมูหั่นชิ้นเล็กๆ มีปาท่องโก๋ที่ตัวโตกว่าบ้านเรา ให้จิ้มกับแยมและเนย (รึป่าว) แล้วก็เนสกาแฟ ที่น้ำไม่เดือดซะที ....
จุดหมายแรกวันนี้คือ หอพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบาง หรือ พระราชวังเดิม
พระราชวังแห่งนี้ ฝรั่งเศสสร้างถวายเป็นของขวัญให้เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ซึ่งประทับอยู่ทีนี่จนสิ้นพระชนม์ มีโรงละครและอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่านเด่นเป็นสง่าทางด้านซ้ายมือ
ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปีพ.ศ.2518 รัฐบาลลาวได้ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ และของโบราณที่ขุดพบจากที่ต่างๆ
ห้องหับต่างๆ จัดตามการใช้งานเดิม เช่น ห้องพิธีการ ห้องต้อนฮับ ห้องบรรทม ห้องทรงดนตรี ภายในไม่ให้ถ่ายภาพ...ให้จดจำไว้ได้เพียงในใจ เครื่องเงิน เครื่องทอง เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ที่ได้เห็นชัดใกล้ๆ (มองผ่านตู้กระจก) มีความสวยงามตามแบบศิลปะลาว...ลวดลายยังชัดเจน แต่ไม่อ่อนช้อยอย่างลายไทย
ด้านปีกขวาของอาคาร ประดิษฐาน "พระบาง" พระคู่บ้านคู่เมือง และมี "หอพระบาง" อยู่ด้านตรงข้ามกับโรงละคร
หอนี้สร้างขึ้นในสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา แต่เกิดเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงยังสร้างไม่เสร็จ
นอกจากนี้แล้ว พิพิธภัณฑ์ยังเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ด้วย ช่วงเวลาที่เราเข้าชมก็มีนิทรรศการ 2 ชุด เราอาศัยช่วงที่ไกด์ปล่อยให้ถ่ายรูป....เดินถ่ายรูปมุมต่างๆ เรื่อยไป จนไปถึงที่แสดงนิทรรศการภาพถ่ายขาว-ดำ ของช่างภาพชาวตะวันตก
เป็นภาพถ่ายที่นำเสนอให้เห็นว่า หลวงพระบางเป็นเมืองพุทธ ...เพราะเป็นภาพพระสงฆ์ ขณะปฏิบัติธรรม อยากซื้อหนังสือมา....แต่คำนวณจากค่าเงินดอลล์เป็นเงินบาทแล้วแพงมาก ก็เลยได้แต่หยิบที่คั่นหนังสือเป็นที่ระลึกกลับมาแทน
เดินต่อไปก็ไปพบกับนิทรรศการภาพเก่าของหลวงพระบาง
มีทั้งภาพถ่าย ภาพวาดลายเส้น และภาพลงสี เป็นภาพทำใหม่ และเป็นชุดที่ 2 แล้วล่ะ นำเสนอวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชิวิต สถาปัตยกรรม ของผู้คนและบ้านเมืองหลวงพระบางแห่งนี้ ผ่านภาพต่างๆ มีหนังสือเล่มเล็กๆ พิมพ์ภาพทั้งหมดไว้ด้วย เราก็ซื้อกลับมา 1 เล่มเป็นที่ระลึกให้กับตัวเอง
ได้เวลานัดหมายรวมพล....ก็รีบจ้ำออกจากพื้นที่แสดงนิทรรศการ... เหลียวกับมามองยอดมณฑปทองอีกครั้ง...อืมม์ คล้ายๆ กับพระที่นั่งจักรีนะเนี่ย
ออกมาพบพรรคพวกที่เพิงหลังพระราชวัง....รอการเดินทางช่วงต่อไป
Create Date : 17 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 18 ธันวาคม 2551 19:58:26 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1763 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:5:16:09 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:6:10:03 น. |
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:9:46:31 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
หวัดดีค่ะ คุณนัทธิ์
ภาพที่ 3-5 กระทบใจมากค่ะ
ไม่มีโอกาสได้ใส่บาตรเลย
ยิ่งเสียงดนตรี คิดถึงบ้านจังเลย