|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวปากช่องกันต่อ ...
คณะบ้านอ่างศิลา เดินทางจากโคราช มารวมตัวกันที่บ้านปากช่อง ตอนเย็นย่ำค่ำมืด....พร้อมด้วยขนมจีน-แกงไก่ แต่พวกเราก็ยังออกไปเดินเที่ยวตลาดไนท์ในเมืองปากช่อง....เพื่อหาสำรับมื้อเย็น แล้วก็พากันหิ้วสรรพอาหารนานาน่ากิน ติดมือกันมาอีกคนละถุงสองถุง ...
อิ่มมื้อเย็น ก็ประชุมสรุปเส้นทางท่องเที่ยวกัน ได้ความว่า จะมีเพื่อนของอาไปด้วย และเป็นคนนำเที่ยว มีรถ 2 คัน ....ค่อยยังชั่วหน่อย ข้อบังคับของอา คือ ไม่พาไปน้ำตกเด็ดขาด ไม่ขึ้นไปเดินป่าเขาใหญ่ด้วย เพราะสภาพดินฟ้าอากาศไม่น่าไว้วางใจนัก งั้นก็คงต้องเที่ยวไร่แล้วล่ะ ...มีไร่องุ่นอยู่ในโปรแกรม นอกนั้นก็แล้วแต่คนนำทาง
ได้นอนกันเต็มอิ่ม เพราะฝนตกทั้งคืน นอนหลับสบายแทบไม่อยากลุกจากเตียง แล้วก็พบว่า ...เมื่อคืนน้ำหลาก ทำให้การประปาปากช่องต้องปิดบริการ เรามีงบประมาณใช้น้ำกันได้ คนละ 2 ขัน...และไม่รู้ว่าน้ำจะไหล เมื่อไหร่ซะด้วย เอาล่ะ ...มีเท่าไหร่ก็ใช้กันเท่านั้น ....เที่ยวไปเหงื่อออก ...ก็คิดซะว่าล้างตัวไปละกัน จัดการกับตัวเองตามงบประมาณน้ำที่มี ...แล้วก็ไปลองเล็งกล้องถ่ายรูปกันในบ้านก่อน รอเวลา
มดแดงพวกนี้เป็นเพื่อนบ้านกันค่ะ ....มีรังอยู่มากมายที่ต้นมะม่วงหน้าบ้าน
หลังจากทุกคนพร้อม ...ก็ออกเดินทางไปยังจุดนัดหมาย ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงชิงชัย กองทัพต้องเดินด้วยท้องอ่ะนะ .....ถึงร้านปุ๊บ คนนึงก็สั่งทันที 2 ชา อีกคนก็ 2 ชาม แต่พอรถอีกคันตามมา พร้อมด้วยข้าวเหนียวไก่ย่างน้ำจิ้มแจ่ว ...ก๋วยเตี๋ยวถูกผลักออกแทบจะทันที อิ่มหนำมื้อเช้ากันทั่วหน้าดีแล้ว ....ก็เดินทางไปยังจุดแรก .....ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน
....วัดนี้ (จำชื่อไม่ได้อ่ะ) อยู่บนเขาในเมืองปากช่องนั่นแหละ ....มีศาลาสร้างด้วยหินทราย ที่มองดูเผินๆ เหมือนไม้มากๆ เลย พระประธาน และพระพุทธรูปบูชา รวมถึงภาพประดับ ก็เป็นหินทรายแกะสลัก
จากวัดมองไปทางเขื่อนลำตะคอง จะเห็นน้ำปริ่มเขี่อนเลยล่ะ
ออกจากวัดแล้วก็ไปแวะหาเสบียงติดรถจาก 7/11 เติมเสบียงอีกครั้งที่ไร่สุวรรณ ซึ่งเป็นไร่ข้าวโพดของศูนย์ทดลอง ข้าวโพดต้มที่นี่หวานอร่อย ไอติมข้าวโพด ยิ่งอร่อย
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม
วัดนี้เราเห็นมานานแสนนานแล้ว เวลานั่งรถผ่านไปโคราช มองแล้วก็คิดว่า ใครหนอช่างพยายาม สร้างพระองค์ใหญ่บนกลางเขาเช่นนี้ รถเล่นตรงเข้าไปตามเส้นทาง ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ องค์พระก็ยิ่งเห็นเด่นชัด และดูใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นก็พากันค่อยๆ ก้าวย่างอย่างสงบ ขึ้นบันไดไปทีละขั้น
สงบแต่ผู้สูงอายุนั่นแหล่ะ เด็กๆ วิ่งไล่กันนำหน้าไปก่อน แบบกำลังไม่ตกเลยจริงๆ
500 กว่าขั้นขาขึ้นมีศาลาแวะพักขาเป็นระยะ .... ยิ่งสูง ยิ่งเห็นพื้นที่อำเภอปากช่องกว้างขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นไปถึงด้านบน แดดเที่ยงกำลังแรงเลยล่ะ ก็เลยหลบแดดกันก่อน พร้อมกับแจกจ่าย ข้าวโพดต้ม เสบียงที่หิ้วติดมือกันมา จัดการไปคนฝัก ...ครึ่งฝัก และบางคนก็สองฝัก พอพระอาทิตย์หลบหลังเมฆทีนึง ก็ออกมากดชัตเตอร์กันหน่อย
เวลาเข้าวัด เรามักจะเก็บภาพพระอุโบสถไว้ด้วย
วัดนี้มีไก่เยอะมากเลยล่ะ ....ช่างภาพก็เลยสนุกสนานกับการไล่ต้อน ถ่ายภาพไก่
วัดนี้เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่มีอุบาสกอุบาสิกาแวะเวียนมาปฏิบัติธรรมกันพอสมควร เพราะสงบ ร่มรื่น บรรยากาศชวนให้นั่งวิปัสสนามากเลย และองค์พระประดิษฐานอยู่บนเขาสูง ก็เลยเป็นจุดท่องเที่ยว ทดสอบกำลังขาไปในตัว
ตกบ่ายกว่าๆ แล้ว ได้เวลามื้อเที่ยงกันซะที .....ทีแรกช่าวคณะก็บอกว่า ยังอิ่มอยู่เลย ไม่รู้จะกินอะไรนี้ ....จนคนนำเที่ยวเสนอมาว่า กินส้มตำ รึป่าว เท่านั้นแหละ ....ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียว ....อิ่มนะ...แต่อยากกินส้มตำอร่อยๆ ก็ขับรถตามกันไปจนเข้าเขตมวกเหล็ก....แวะร้านส้มตำเพิงข้างทาง ไอ้นั่นก็อยากกิน ไอ้นี่ก็น่าอร่อยเนอะ ที่ว่าอิ่มๆ ก็ผลัดกันสั่งจนอาหารเต็มโต๊ะ ตำส้ม ตำถั่ว น้ำตก ตับหวาน ต้มแซ่บ คอหมูย่าง หมูแดดเดียว และผัดหมี่โคราช สงสัยว่า ...เดินขึ้นเขากินแรงไปเยอะ....สุดท้ายทั้งหมดที่สั่งมา ก็เกลี้ยง พร้อมลุยกันต่อ
จุดต่อมาที่อยากเที่ยวคือ "ไร่องุ่น" แต่เนื่องจากน้ำหลากจากคืนวันศุกร์ หลายไร่ปิด ไม่ให้เข้าชม ...ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา พวกเราก็ขับรถแวะเวียนถามไปเรื่อยๆ จนมาถึง "ไร่องุ่นคุณมาลี" ตอนบ่ายสามโมงกว่าแล้ว ฟ้าครึ้มมาเชียว รืบลงไปชม รีบถ่ายรูป รึบซื้อของฝากกัน
พอขึ้นรถได้....ฝนก็ลงเม็ด และเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ....รถคันที่เรานั่ง ก็เกิดเรื่องระทึกใจขึ้นท่ามกลางสายฝน
"เฮ้ย.... น้ำมันหมด" เอาแล้วไง ....ฝนหนักขนาดนี้ พี่ท่าน...จะให้น้องๆ ลงไปเข็นรึป่าว....สงสารเด็กๆ หน่อยเถอะพี่ "โทรบอกคันหน้า ขอปั้มด่วนเลย น่าจะไปได้อีก 10 กิโลนะ" เราหยิบมือถือ กดหาอาที่คันหน้า แจ้งเรื่องด่วน....แล้วก็ถอนใจด้วยความโล่งอกกันได้ ....ปากทางลงเขา ประมาณ 9 กิโล มีปั้มน้ำมัน
เป็นอันว่า เดินทางกลับถึงบ้านอาเราอย่างสวัสดิภาพ ไม่ต้องลงไปเข็นรถกัน... และน่าดีใจกว่านั้นคือ ...น้ำไหลแล้ว มีน้ำอาบซะที
มื้อค่ำวันนั้นก็อัด ผู้ใหญ่ 10 เด็ก 3 เข้ารถเก๋ง 1 คนและมอเตอร์ไซค์ ไปอิ่มกันที่ร้านหมูกะทะใกล้ๆ บ้าน
Create Date : 23 กันยายน 2551 |
Last Update : 23 กันยายน 2551 21:37:22 น. |
|
19 comments
|
Counter : 2925 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Jevanni วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:23:12:00 น. |
|
โดย: ST.Exsodus วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:12:53:00 น. |
|
โดย: BeCoffee วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:21:00:35 น. |
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:13:53:39 น. |
|
โดย: beer87 วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:8:16:59 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:21:15:44 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:5:44:57 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:9:05:02 น. |
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:9:25:42 น. |
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:14:50:35 น. |
|
โดย: sysee วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:21:52:25 น. |
|
โดย: โมกสีเงิน วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:11:34:14 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:12:53:54 น. |
|
โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:20:54:14 น. |
|
โดย: Guga วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:15:51:12 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
เราก็เคยน้ำมันขีดแดงระหว่างทางกลับจากขอนแก่นเข้าสระบุรี
ลุ้นกันสองคนกับน้องชายว่าปั๊มอยู่ไหน สองข้างทางมีแต่ความมืด หลอนซะ