 |
|
|
 |
 |
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
| 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
| 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
| 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
| 29 | 30 | 31 | |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
เที่ยวเมืองพระนครแห่งอาณาจักรขอม : อลังการนครวัด
ผ่านไปแล้ว 2 ปราสาทหิน ปราสาทบันทายสรี และ ปราสาทตาพรม ....คณะของเราก็ตีรถกลับเข้าเมืองเพื่อเติมพลังมื้อกลางวัน
ถนนในเมืองเสียมเรียบนี้ ....ราดยางอย่างดี...ราบเรียบ...ไม่ใช่แบบเป็นหลุมเป็นบ่อแบบตอนเดินทางจากปอยเปตเลยล่ะ
จำได้ว่าอาหารที่ทางทัวร์จัดให้เรา จะเป็นอาหารไทย..ไม่มีอาหารพื้นเมืองให้ลองกันเลย
มื้อนี้ ไกด์เน้นให้กินเยอะๆ ....เพราะเราต้องใช้แรงงานเดินกันเยอะ
เพราะเหลือแต่ปราสาทใหญ่ๆ แล้ว
อิ่มหนำสำราญกันดีแล้ว....ก็ขึ้นรถ ...นั่งไปพอเคลิ้มๆ (เพราะอิ่มมาก)
ก็มาถึงไฮไลท์....ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัดเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่สร้างขึ้นในปีพ.ศ.1656 สมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
เพื่ออุทิศถวายพระวิษณุหรือพระนารายณ์ เทพเจ้าสูงสุดแห่งลัทธิไวษณพนิกาย
ชื่อปราสาทปรากฎตามจารึกว่า "พระพิษณุโลกหรือพระวิษณุโลก"
นครวัดเป็นปราสาทแห่งเดียวในเมืองพระนครที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก
โปรแกรมทัวร์ส่วนใหญ่ก็เลยกำหนดให้เที่ยวนครวัดในช่วงบ่าย เพื่อให้แสงตกกระทบตัวปราสาทเต็มที่
เหมาะแก่การถ่ายภาพให้ออกมาสวยๆ
อาณาบริเวณของปราสาทนครวัดนี้ กว้างมากๆ เลยล่ะ ประมาณ 1.9 ล้านตารางเมตร
มีบารายหรือคูน้ำล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน ทางทิศตะวันตกที่เป็นทางเข้ามีสะพานนาคทอดข้ามบารายตรงเข้าสู่ตัวปราสาท
ประตูทางเข้าปราสาทนั้น แยกตามฐานันดรศักดิ์ด้วย ประตูกลางสำหรับกษัตริย์ ด้านข้างสำหรับขุนนาง และริมสุดสำหรับประชาชน
เมื่อผ่านโคปุระชั้นแรกเข้าสู่ตัวปราสาทชั้นแรก เราก็มองหาอัปสราเผยยิ้มเห็นฟันก่อนเลย
และก็หาจนพบ...ไม่พบได้ไง...กลุ่มทัวร์อื่นๆ เค้ามุงกันอยู่ก่อนเรานี่นา
จากนางอัปสรายิ้มแย้ม ก็มาชมภาพสลักนูนต่ำที่ระเบียงคดกันต่อ
ภาพแกะสลักนูนต่ำระเบียงคดชั้นแรก เอเตียง อโมนิเยร์ นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส
ได้คำนวณพื้นที่ของระเบียงคดทั้ง 4 ด้านว่ามีพื้นที่มากกว่า 1 ตารางกิโลเมตร
ถือได้ว่าเป็นระเบียงคดภาพสลักนูนต่ำที่ยาวที่สุดในโลก แต่ละด้านก็นำเสนอเรื่องราวแตกต่างกันไป
ถ้าเดินดูให้รอบ...คงต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เลยล่ะ เพราะมีเรื่องเล่าประกอบอีกมากมาย
คณะทัวร์ทำเวลาของเรา ก็เลยใช้วิธี...กวาดตามอง...หูฟังเรื่องเล่าสำคัญๆ
และถามหาบางภาพที่ได้ข้อมูลจากการอ่าน....
แล้วก็เดินผ่านมุขกระสัน ที่เชื่อมไปยังระเบียงคดชั้นที่ 2
บริเวณนี้เรียกว่า ห้องพระพัน (เดิม) มีพระพุทธรูปและเทวรูปองใหญ่ๆ ตั้งเรียงราย
เป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านนำมาถวาย เมื่อนครวัดเปลี่ยนจากเทวสถานฮินดูมาเป็นพุทธสถาน
ปัจจบันนี้...สภาพพระพุทธรูปไม่ต่างไปจากพระพุทธรูปในโบราณสถานของบ้านเราหรอก
ต่อจากนั้น เราก็เดินมาถึงระเบียงคดชั้นที่ 2 ชั้นนี้จะมีรูปสลักนางอัปสรามากมาย
หลากหลายท่าทางและการแต่งกายเลยล่ะ
ถ้ามีเวลามากมาก คงสนุกกับการไล่ถ่ายรูปนางอัปสราทรงผมประหลาดๆ
มาถึงชั้นในสุดแล้วล่ะ ....เงยหน้ามองปรางค์แล้วแทบจะถอดใจ....
สูงและชันมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
เพื่อนร่วมทริปเรา แหงนมองกันจนเมื่อยคอ...แล้วก็มีคนเริ่มไต่บันได
ตั้งใจจะไต่ไปถ่ายรูปนิดนึง.....แต่ไต่กันขึ้นไปเรื่อย
...ในที่สุด เรากับเพื่อนอีกคนก็ขึ้นไปจนถึงชั้นบน มองลงมาแล้วใจหายอ่ะ
แต่ก็...ไหนๆ ก็มาแล้ว ขึ้นมากราบพระพุทธรูปในองค์ปรางค์...เป็นมงคลชีวิต
ตอนขึ้น...ไม่ใช่ปัญหา เพราะเรามองขึ้นสูงตลอด ...บันไดชันประมาณ 75 องศา ก็เหมือนเราคลานขึ้นที่สูงอ่ะนะ
แต่ตอนลงเนี่ยแหละ...ปัญหาใหญ่...แค่ชะโงกโบกมือให้เพื่อน ก็เสียววูบแล้ว แล้วจะลงยังไงกันดี
....หาเรื่องเดินวนๆ ดูนั่นดูนี่กันสองคน ทำใจก่อน
แล้วเราก็เหลือบไปเห็น ผู้อาวุโส ...ชาวญี่ปุ่น คุณย่ากับคุณยาย กำลังต่อแถว....ไต่ลงอ่ะ
เฮ้ย.... อายุขนาดนี้ยังขึ้นลงกันได้ ....แล้วพวกเราจะน้อยหน้าได้ไง
ทำใจได้..ก็มาต่อแถว เกาะราวบันได ....ถอยหลังลงกันจนถึงพื้นโดยสวัสดิ์ภาพ
โล่งอก.......
หลังจากทริปนี้แล้ว...พระปรางวัดอรุณ รึว่าที่สูงอื่นๆ ก็....สบายมาก
หลังจากพักหายใจกันแล้ว....ชมกันจนอิ่มเอิบใจเต็มที่แล้ว ...ก็เดินย้อนกลับ
บ่ายสามโมงแล้ว....ยังเหลืออีก 1 ปราสาท
พวกเราอำลา ปราสาทหินนครวัดอันแสนจะอลังการงานสร้าง...แห่งนี้
ในขณะที่นักท่องเที่ยวอีกมากมาย...กำลังเดินทางเข้ามาเยื่อนความยิ่งใหญ่นี้เช่นกัน
และเช่นเคย กวีประจำคณะของเราก็ร่ายคำประพันธ์สำหรับปราสาทแห่งนี้ว่า
อังกอร์วัดอลังการ
สืบตำนานขะแมร์แลตะลึง
ได้ยลเพียงครั้งยังตราตรึง
กำซาบซึ้งวิมานแมนแดนเทวา
| Create Date : 03 มีนาคม 2552 |
| Last Update : 3 มีนาคม 2552 22:42:37 น. |
|
11 comments
|
| Counter : 2616 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: พลังชีวิต  วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:22:45:11 น. |
|
| โดย: The Learner วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:22:49:57 น. |
|
| โดย: The Learner วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:22:50:55 น. |
|
| โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:22:58:14 น. |
|
| โดย: ST.Exsodus วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:11:28:43 น. |
|
| โดย: lalabel วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:16:08:54 น. |
|
| โดย: The Learner วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:17:14:20 น. |
|
| โดย: คนขับช้า (คนขับช้า ) วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:17:49:27 น. |
|
| โดย: นัทธ์ วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:19:12:49 น. |
|
| โดย: c (chaiwatmsu ) วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:1:45:48 น. |
|
|
|
|
| นัทธ์ |
 |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
| |
|
|
|
การ์ตูน 2หมิงกะนางฟ้าอินชอน คับ
ตอน ของเล่นของหมิงๆ (คลิกเยย)