 |
|
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 | 3 |
| 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
| 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
| 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
| 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
ทริปหนอนทรหด "ถ้ำพระยานคร" : Part II (จบ)
หลังจากระหกระเหินเดินดงจาก Part I
ค่อยๆ กระดึึบขึ้นเขาระยะทาง 430 เมตรมาได้เกือบชั่วโมง
ก็บรรลุถึง "ถ้ำพระยานคร" กันซะที
ที่ได้ชื่อเช่นนี้ ก็เพราะผู้ค้นพบคือ "พระยานครศรีธรรมราช" เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช
แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า เป็นเจ้าเมืองในสมัยรัชกาลที่ 1 หรือรัชกาลที่ 5
อ่ะ ยังไม่ได้เข้าไปทันที ผ่านหินย้อยสวยงามเป็น "น้ำตกแห้ง"
ก็ต้องแวะเก็บภาพกันซะหน่อย ...แต่ปรากฎว่า มุมกล้อง ไม่งามอย่างที่ใจอยากได้
งั้นก็ ตัดใจซะเถอะ ..กดชัตเตอร์มากไป เดี๋ยวแบตหมดซะก่อน
ถ้ำพระยานคร เป็นถ้ำาขนาดใหญ่ ภายในมีหินงอกหินย้อยไม่มากนัก แต่มีลักษณะพิเศษคือ
ผนังถ้ำด้านบน เป็นปล่องขนาดใหญ่ ทำให้มีลำแสงส่องผ่านเข้ามาได้
และมีพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ประดิษฐานอยู่
นี่แหละ ...จุดหมายปลายทางที่แท้จริงของชาวคณะ
การถ่ายภาพพระที่นั่ง ในขณะที่มีำลำแสงอาทิตย์ส่องผ่านลงมาตกกระทบในมุมที่งาม
ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เงยหน้าขึ้นไปก่อน ...
ทางเดินที่ทอดถึงกัน และว่ากันว่ามีสัตว์ป่าใช้สัญจรและตกลงมาตายมานักต่อนักแล้ว
จึงได้ชื่อเรียกว่า "สะพานมรณะ"
ผ่านสะพานมรณะ ก็ค่อยๆ เดินไปตามทางมึดๆ ในถ้ำ ..
เส้นทางตะปุ่มตะป่ำนี้ เรามาอ่านป้ายทีหลัง เรียกว่า "ทางเดินสันจระเข้"
เข้าใจตั้งชื่อนะ ...มันเหมือนกัน ..เดินไปแล้วนึกถึงชื่อไปด้วย ก็เสียวสันหลัง
สุดทางเดิน เราก็เห็นเพื่อนๆ ร่วมคณะ กระจายตัวปักหลัก ยึดพื้นที่เต็มถ้ำ
เพื่อหามุมกล้องของตัวเอง เก็บภาพ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์
compact น้อยๆ ก็ไม่ยอมถอยให้ DSLR เช่นกัน
เราไต่ไปปักหลักกะเค้าด้วย ...เสียงน้าจุกบอกวิธีการปรับกล้องให้กับเพื่อนๆ ที่ใช้ DSLR
เรา็ก็ลองปรับตามไปด้วย เท่าที่ฟังก์ชั่นของกล้องตัวนี้จะอนุญาตให้เราปรับได้
แล้วก็ลองกดชัตเตอร์ไปหลายภาพ ...สักพักก็หยุด ...สงวนแบต
พวกเรากำลังรอเวลาที่แสง ส่องยอดหลังคา..ให้ได้เงาตกกระทบที่สวยงาม
ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เวลาเหมาะๆ จะอยู่ราวสิบโมงกว่าๆ ...
ระหว่างรอ ก็สอดส่ายสายตาไปเห็นตัวอักษร "จปร" ที่สลักไว้ที่ฝาด้านหนึ่ง
จากมุมที่นั่งอยู่ ซูมเก็บภาพมาได้
ที่จริงใกล้ๆ กันมีตัวอักษร "ปปร" ของรัชกาลที่ 7 สลักไว้ด้วย
และพระที่นั่งคูหาคฤหาส์นนี้ก็เป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ด้วย
พระที่นั่งองค์นี้ รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น และได้มาประทับด้วย
รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 ก็เคยเสด็จมา
เรามานึกดููแล้ว ...การเดินทางขึ้นเขาช่วงเวลาในอดีตนั้น
น่าจะยากเย็นกว่าที่พวกเราเดินมากันอีกนะ ...
ทางที่เราเดินมานี้ เป็นทางที่ "ทำ" ให้เดิน ไม่ไช้ทางเดินธรรมชาติที่ต้องถากถางทาง
ทำไม แต่ละพระองค์ทรงเก่งกล้าสามารถกันเช่นนี้ 
ได้เวลาที่รอคอย..แสงอาทิตย์เป็นลำเริ่มพาดผ่านองค์พระที่นั่งเข้ามาเรื่อยๆ
เสียงกดชัตเตอร์ แชะ แชะ แชะ ได้ยินชัดเจนก้องไปทั้งถ้ำ
นึกเห็นภาพโปสการ์ดที่วางขายไว้ที่ร้านค้าด้านล่าง ..เป็นภาพขาวดำ
เราก็เลยปรับมาใช้ mode B/W ดูบ้าง
ได้ภาพคล้ายๆ โปสการ์ดที่เห็นเหมือนกันนะเนี่ย
ได้ภาพที่พอใจจากมุมสูงแล้ว ก็โยกย้ายขยับมาเก็บภาพจากพื้นราบดูบ้าง
เก็บภาพจนพอใจ..แบตก็หมดพอดี ...
เลยเดินชมถ้ำไปเรื่อยๆ มีหินงอกที่เรียก "หินเจดีย์" อยู่มุมนึง
มีคนตั้งกระถางธูป ผูกผ้าสี คล้องพวงมาลัย กราบไหว้กันไป
เดินวนเวียนไปจนรู้สึกเมื่อยขา ...ก็เลยออกมานั่งพักขารอเพื่อนๆ อยู่ใต้สะพานมรณะ
เงยหน้าขึ้นไปดูด้านบนก็ได้เห็น "สะพานมรณะ" อีกมุมนึง
เลยต้องควักเข้ามือถือ MOTO Z3 มาเก็บภาพนี้ไว้แทน
ใกล้จะเที่ยงแล้ว เพื่อนๆ ทะยอยกันเดินกลับ
เราก็ค่อยๆ เดินไต่เขาลงมา
กินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารของอุทยาน มีอยู่ร้านเดียวนั่นแหละ
แล้วก็นั่งๆ นอนๆ รอเวลาเดินทางกลับ
โชคดีมากเลยที่ลงมาถึงพื้นราบกันแล้ว ฝนถึงได้เทลงมาอย่างหนัก ประมาณครึ่งชั่วโมงฝนก็หยุด
เพื่อนๆ ก็เริ่มออกไปถ่ายภาพกันอีก ...เราก็ตามไปเดินเล่นริมหาด
ลองเปิดกล้องอีกครั้ง แบตขึ้น ก็เลยเก็บภาพจากหาดแหลมศาลามาได้อีกนิด
พื้นที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
มีบ้านพัก มีที่กางเต้นท์ สามารถมานอนกินลมชมวิวกันได้ ถ้าชอบบรรยากาศสงบๆ อ่ะนะ
เพราะหาดนี้ ไม่มีบานาน่าโบท สปีดโบท หรือเจ็ทสกี
ได้เวลาตามกำหนดนัดหมาย ก็เรียกเรือมารับ ย้อนกลับไปยังหาดบางปู
ล้างหน้าล้างตา หรือล้างตัวตามอัธยาศัย แล้วขึ้นรถ
เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
แม้ว่าจะถ่ายภาพได้เพียงครึ่งวัน แต่ก็ได้เที่ยวและได้ภาพใหม่มาบ้าง
ถ้าหากทริปหนอนปีถัดไป เดินทางมาที่นี่อีกครั้ง
ถ้าหากสังขารยังไหว ..เราก็คงจะร่วมเดินทางด้วยอีกแน่ๆ
มีอีกหลายมุมที่มองเห็น เหมือนแบตหมด จะได้มาถ่ายภาพแก้ตัวอีกที
พบกันใหม่ในทริปต่อไป
| Create Date : 17 ตุลาคม 2552 |
| Last Update : 18 ตุลาคม 2552 8:59:34 น. |
|
11 comments
|
| Counter : 1500 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: wujirab  วันที่: 17 ตุลาคม 2552 เวลา:23:13:28 น. |
|
| โดย: jinnyjew วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:0:05:22 น. |
|
| โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:9:43:08 น. |
|
| โดย: แม่ไก่ IP: 118.174.13.143 วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:10:26:17 น. |
|
| โดย: ST.Exsodus วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:18:42:11 น. |
|
| โดย: เกศสุริยง วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:20:42:22 น. |
|
| โดย: นู๋เมี่ยง IP: 58.9.83.229 วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:21:49:20 น. |
|
| โดย: ภาวันต์ วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:0:01:27 น. |
|
| โดย: นัทธ์ วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:6:36:52 น. |
|
|
|
|
| นัทธ์ |
 |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
| |
|
|
|
สบายดีค่ะ..
แบบนี้คงไปทำเป็นโปสการ์ดได้เลย :)
ภาพสวยค่ะ