<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 มกราคม 2553
 

ทอดน่องท่อง "มะละกา" Part X : ชมพิพิธภัณฑ์กันต่อ



ความเดิมตอนที่แล้ว



ย้อนกลับมายังจุดนัดหมาย เพื่อนคนนึงก็ลงนั่งเขียนโปสการ์ดรออยู่แล้ว
แต่ว่า ยังพอมีเวลากัน เราก็เลยเดินออกมาทางบริเวณหลังอาคาร Stadhuys
มองเห็นอนุสาวรีย์แม่ทัพเจิ้งเหอ สูง 5 เมตรตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่



อาคารด้านขวามือของรูปสลักนี้ จัดแสดงเป็นส่วนพิพิธภัณฑ์เจิ้งเหอ
ซึ่งแสดงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียกับจีนที่ยาวนานมากว่า 6 ศตวรรษ



มีประวัติของเจิ้งเหอ เส้นทางการเดินเรือของกองเรือมหาสมบัติจีนไปยังรัฐต่างๆ
แบบจำลองเรือสำเภา เครื่องถ้วยจีน เป็นต้น




เดินลึกไปทางซ้ายของรูปสลักหินนั้น ...ก็จะพบกับเรือนทรงท้องถิ่นทาสีเขียวอ่อนสวยงาม
ชวนให้อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาอีกแล้ว



เข้าไปใกล้ อ่านป้าย ...อ้อ พิพิธภัณฑ์วรรณกรรม (แปลชื่อเอง)
อาคารนี้จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับแวดวงวรรณกรรม ให้รายละเอียดเกี่ยวกับนักประพันธ์และบทประพันธ์
ตั้งแต่ครั้งอดีตที่เป็นวรรณกรรมเพื่อศาสนา จนกระทั่งประวัติและผลงานของนักประพันธ์ชาวมาเลย์อีกหลายท่าน
ซึ่งเราเองก็ไม่คุ้นเคย เพราะไม่เคยอ่านผลงานของนักเขียนชาวมาเลย์เลย
เดาๆ เอาว่านักเขียนและผลงานที่เอามาจัดแสดงอยู่นี้ น่าจะเป็นนักเขียนที่ได้รางวัลมาบ้าง เช่น รางวัลซีไรท์ เป็นต้น



สมควรแก่เวลาแล้ว ก็มารวมตัวกันที่จุดนัดหมาย
สาวโปสการ์ด 2 คนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว รอสองสาวตากล้องอยู่เลย
ที่ต่อไปของพวกเราก็คือ พิพิธภัณฑ์ที่เข้าชม "ฟรี"

พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมแห่งชาติมาเลเซีย (แปลเอาเองอีกแหละ)



จัดแสดงเรื่องเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ปรากฎในประเทศมาเลเซีย
ไม่ว่าจะเป็นมัสยิด โบสถ์คริสต์ หรือวัดไทย รวมทั้งวิวัฒนาการของอาคารบ้านเรือนด้วย



เข้าใจว่าบางห้องอาจยังจัดทำไม่เสร็จ ก็เลยเข้าชมฟรี และได้ยินเสียงตอกตะปูประกอบการชม
ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงจากรถสามล้อด้านนอกไปด้วย
การจัดแสดงด้วยป้ายพิมพ์ Inkjet สวยงาม เนื้อหาละเอียดมากกกกกก
และมีการจัดทำโมเดลเรือนหรืออาคารลักษณะต่างๆ ประกอบให้เห็นชัดเจน

อาคารแค่ 2 ชั้น เดินไม่นานก็ทั่วทุกห้อง
2 สาวนักเขียนโปสการ์ดเริ่มเมื่อย ขอนั่งพักขาก่อน
แต่อีก 2 สาวบ้ากล้อง กลัวว่าถ้าพักขา เดี่ยวจะเดินต่อไม่ไหว
ก็เลยขอเดินล่วงหน้าไปชมอาคารต่อไปก่อน

::ตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราช - Proclamation of Independence Memorial::


อาคารทาสีชมพูหวาน สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์วิกตอเรียนกับพื้นเมืองมลายู
มียอดโดมโดดคู่แบบอิสลามสีทองอร่าม
ยามต้องแสงแดดยามเช้า และยามเย็น



อาคารหลังนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1911 ในยุคที่อังกฤษปกครองเพื่อใช้เป็น "มะละกาคลับ"
สถานที่พบปะสังสรรค์ของชนชั้นสูงในมะละกา
และอาคารหลังนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองของมะละกาเป็นอย่างยิ่ง
เพราะได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ประกาศเอกราชของประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1957
จึงกลายเป็นตึกอนุสรณ์ประกาศเอกราชของประเทศในอีก 28 ปีต่อมา



ภายในอาคารจัดแสดงประวัติศาสตร์การประกาศเอกราชตั้งแต่ยุคสุลต่านจนถึงกำเนิดประเทศมาเลเซีย
นำเสนอตามลำดับเวลา แบ่งเป็น 14 เรื่อง เช่นเรื่องการเป็นเมืองท่านานาชาติของภูมิภาค
เรื่องการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจจากตะวันตก เรื่องการประกาศเอกราช เรื่องการรวมชาติมาเลเซีย
เรื่องการต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์ และประวัติของพระราชาธิปบดีและมเหสีแต่ละพระองค์ และผู้ปกครองรัฐแต่ละรัฐ เป็นต้น


การนำเสนอก็เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์อื่น คือ เป็นแผ่นภาพพิมพ์ Inkjet สวยงามแบบ "แห้ง"
มีสิ่งจัดแสดงจริงอยู่บ้าง เช่น ภาพวาด แผนที่ เอกสารสิ่งพิมพ์ สนธิสัญญา เครื่องแต่งกาย
และของที่ระลึกที่เกี่ยวกับการประกาศเอกราช

เดินอ่านข้อมูล กดฟังเสียงการประกาศเอกราช และถ่ายภาพเป็นระยะ
เวลา 5 โมงเย็นแบบนี้ มีเรากับเพื่อนเดินชมกันอยู่แค่ 2 คน
เริ่มรู้สึกเมื่อย แต่เดินในห้องแอร์เย็นๆ ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ
ออกมาจากตึก ก็เจอเพื่อนอีก 2 คนตามมาสบทบ ..

ได้เวลาขึ้นเนินเซนต์ปอลล์ไปชมพระอาทิตย์กันได้แล้วล่ะ


โปรดติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ


Create Date : 29 มกราคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2553 22:03:49 น. 7 comments
Counter : 1600 Pageviews.  
 
 
 
 
โฮะๆ ได้เจิมกับเขาบ้างละ

คุณนัทธ์ ขอแก้ข้อความจาก
สองสาวผู้บ้ากล้อง เป็นสาวหนึ่งผู้คลั่งไคล้การถ่ายภาพ
กับอีกสาวหนึ่งผู้รักการเป็นแบบให้ถ่ายภาพ

เนอะ
 
 

โดย: นู๋เมี่ยง IP: 203.144.144.164 วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:22:27:34 น.  

 
 
 
คุณนู๋เมี่ยง >> ได้เลย

เพื่อนๆ ที่ตามอ่านต่อจากนี้ กรุณาเลื่้อนขึ้นไปอ่านอีกรอบ ตามข้อความใหม่ที่คู่เมี่ยงบอกไว้

คนที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพ อ่ะ คือ เราเองแหละ
เพราะฉะนั้น ..ผู้รักการเป็นแบบ (แต่คนคลั่งไคล้ไม่ถ่ายภาพให้) ก็คือ นู่เมี่ยงนั่นเอง

ไปดูหลักฐานกันที่ได้ที่ blog ของคุณเธอนะจ๊ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beauty-angel&month=25-01-2010&group=1&gblog=46
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:22:31:55 น.  

 
 
 
อาคาร?จำลองที่เป็นชั้นๆ นี่สวยจัง
ตอนหน้าชมพระอาทิตย์ขึ้นเหรอคะต้องติดตามการอัพ
อย่างใกล้ชิดทาง FB อิอิ
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:22:59:56 น.  

 
 
 
ไม่รู้ว่าเพราะกระแสของหนังสือ 1429

ทำให้เจิ้นเหอกลายเป็นวีรบุรษแห่งเอเชีย

จนเส้นทางไหนที่แกเดินทางผ่าน ต้องจัดทำ

สถานที่ให้แลดูยิ่งใหญ่

แต่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติให้ชมฟรีๆอย่างนี้

เป้นผมก็อยากไป แต่รองจากตึกแฝดเปโตนาสนะครับ
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:20:50:52 น.  

 
 
 
คุณอ้อน >> เราชอบพิพิธภัณฑ์นี้ ตรงที่ทำโมเดลได้สวย และแสดงให้เห็นภายใน (บางส่วน)
ทำให้คนดูรู้ว่า ช่วงหลังคาเป็นยังไง

คุณชาญ >> ถึงไม่ฟรี ก็น่าชมค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:0:01:44 น.  

 
 
 


ขอให้คำอวยพรที่ส่งมาย้อนกลับไปหาคุณนัทธ์ด้วยนะคะ



มาถึงเรื่องพิพิธภัณฑ์นี้กันบ้าง นี่ขนาดยังตอกตะปูกันโป๊กๆๆๆ ยังมีรายละเอียดน่าชมเลยเนาะ เท่าที่ดูมาหลายตอนเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์นี่ เราว่าของเค้าทำดีกว่าของเรานะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:14:50:48 น.  

 
 
 
คุณส้ม >> แม้ว่าบ้างแห้งจะเป็นนิทรรศการแบบ "แห้ง" ที่เราไม่ค่อยชอบ
แต่ต้องยอมรับว่า ทำออกมาได้ดี น่าเรียนรู้มากเลยล่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:15:32:46 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com