|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ล่องเรือ ไหว้พระ ดินเนอร์ กับเรือคุณแม่ : Part II
ความเดิมตอนที่แล้ว
เรือคุณแม่ เป็นเรือลำใหญ่ ที่เรียกกันว่า rice barge คือเป็นเรือขนข้าวสาร แล้วนำมาตกแต่งดัดแปลงให้สวยงาม เพื่อใช้บริการนักท่องเที่ยวในการล่องชมวิถึชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อย ส่วนใหญ่แล้ว ชาวต่างชาติจะได้ใช้บริการล่องเรือรับประทานอาหารช่วงบ่าย ส่วนคนไทยนะเหรอ ...ไม่ค่อยได้คิดถึงการท่องเที่ยวแบบนี้กันมากนัก ... คงเป็นเพราะเราอยู่ใกล้แม่น้ำกัน จนไม่รู้ึสึกว่า มันน่าสนุก น่าตื่นเต้น แต่สำหรับเราแล้ว เห็นว่า ชีวิตริมแม่น้ำลำคลอง คือชีวิตของคนไทยแท้ๆ เลยล่ะ ลองไปอ่านหนังสือประวัติศาสตร์หรือวรรณคดี โดยเฉพาะประเภทนิราศ จะเห็นว่า เดินทางทางน้ำเป็นหลักกันเลยล่ะ
การท่องเที่ยวลักษณะนี้ จึิงเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สมบูรณ์แบบอย่างนึงเลยล่ะ ทั้งวิถีชีิวิต ทั้งศิลปะ ทั้งสถาปัตยกรรม ได้เห็นจนครบถ้วน
อ่ะ ....พล่ามมากไป มาเที่ยวกันต่อ เรือล่องมาจนถึงท่าเรือวัดอรุณราชวราราม ...วัดนี้ก็มาเที่ยวบ่อยแล้ว บ่อยมากๆ เลยก็ว่าได้ .... ตอนนี้ทางวัดมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดระเบียบร้านค้า (ซึ่งจริงๆ แล้วเราว่าไม่น่าจะมีเลยด้วยซ้ำ) มีร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน ที่เรามองหาคือ ร้านไหนขายถ่านอัลคาไลน์บ้าง...ฉันจะซื้อ สายตาไปปะทะกับร้านนึง ถ่านแบบใช้ได้นานกว่าอัลคาไลน์ปกติ ที่เคยซื้อใน 7/11 คือแพค 2 ก้อนประมาณ 70 กว่าบาท.. แต่เราต้องจ่ายเงินซื้อ 150 บาท....โอ้ววววววววว ช่างขูดเลือดขูดเนื้ออะไรเช่นนี้ "ค่าที่แพงค่ะ" หูย...คำพูดนี้ ฟังคุ้นๆ เป็นบ้า ...ของแพงเพราะค่าที่แพง เอาว่ะ ถือว่าช่วยอุดหนุนให้มีเงินหมุนเวียนในการอุตสาหรรมการท่องเที่ยว ...เป็นการช่วยชาติทางนึง เราก็ควักกระเป๋าจ่ายเงินไป .....จัดแจงเปลี่ยนถ่าน...สบายใจ ถ่ายรูปต่อไปได้แล้ว
วัดอรุณราชวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมเป็นวัดโบราณสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เรียกว่า วัดมะกอก และถูกเปลี่ยนเป็น วัดมะกอกนอก เนื่องจากมีวัดใหม่อยู่ละแวกเดียวกันอีกวัดหนึ่ง คือ วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้กรีฑาพลเสด็จทางชลมารคจากกรุงศรีอยุธยามารุ่งเช้าที่หน้าวัด จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดแจ้ง และต่อมาเมื่อได้ตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานีในปีพ.ศ.2311 ได้ทรงสร้างพระราชวังใหม่ โดยขยายเขตพระราชฐาน ทำให้วัดแจ้งตกเป็นวัดที่อยู่กลางพระราชวัง แต่ไม่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของกรุงธนบุรี เคยเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต และพระบาง ที่ได้อัญเชิญมาจากเมืองเวียงจันทน์มาก่อน ต่อมาหลังจากรัชกาลที่ 1 โปรดเกล่วฯ ให้ย้ายพระราชวังไปอยู่ฝั่งพระนคร ได้มีการรื้อกำแพงพระราชวังธนบุรี ทำให้วัดแจ้งไม่ได้เป็นวัดอยู่เขตพระราชวัง จึงมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ในวัดได้ วัดได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่เรื่อยไป จนถึงสมัยรัชกาลที่ 2 พระองค์ได้พระราชทานนามว่า วัดอรุณราชธาราม แต่ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 มีการปฏิสังขรณ์เพิ่มเติม และพระราชทานนามใหม่เป็น วัดอรุณราชวราราม
พวกเรา (3 คน) ไม่ปีนพระปรางค์กันแล้ว ...ได้แต่แวะเข้าไปกราบพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสิน และพระประธานในพระวิหารหน้าพระปรางค์
จากนั้นก็เดินไปทางพระอุโบสถ คิดว่าวันพระใหญ่อย่างนี้ น่าจะเปิด แต่ก็คิดผิดอีก พระอุโบสถวัดนี้เปิดให้เข้าเฉพาะวันปีใหม่และวันสงกรานต์เท่านั้นเอง อีกอย่างคือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธากำลังประดับผ้าตกแต่ง เตรียมรับเสด็จในวันถัดไป
หันมาทางท่าน้ำ มองฟ้าแล้วให้หวาดหวั่น...นี่เราจะเจอฝนกันรึป่าวเนี่ย
เดินชมบริเวณภายนอกพื้นที่พระปรางค์ กำลังมีงานหล่อเทียนเข้าพรรษาด้วย ก็เลยทำบุญกันหน่อย แล้วก็กลับมาเรือที่จุดนัดหมายตามเวลา
แน่นอน ผ้าเย็น น้ำ และเฉาก๊วย ทยอยมาเสริฟถึงมืออีกแล้ว แก้กระหายคลายร้อนแต่ผู้ขึ้นไปปีนพระปรางค์กันได้ชะงัดนักแล
เรือแล่นไปยังจุดหมายต่อไป ...ฟ้าครึ้มเริ่มมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เมืื่อเทียบท่าวัดระฆัง เจ้าหน้าที่เรือจึงแจกร่มให้ถึงติดมือกันลงมาด้วย
เดินผ่านผู้คนมากมายเข้าไปภายในวัด ...ปรากฏว่าได้เวลาพระสงฆ์ลงโบสถ์ สวดปาติโมกข์ ในวันอาสาฬห์พอดี ก็เลยไม่ได้เข้าไปกราบพระประธาน "ยิ้มรับฟ้า" ด้านใน ฝนลงเม็ดปรอยๆ แต่ก็มีผู้คนเดินเวียนเทียนรอบพระอุโบสถกันแล้ว 30 นาทีผ่านไป เราก็กลับมารอเรือที่ท่า เพื่อออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าสู่ วัดสุวรรณาราม ....ไฮไลท์ (ของเรา)
นี่คือส่วนหนึ่งของ "ของว่าง" ที่เสริฟถึงมือทุกครั้งที่กลับขึ้นเรือ
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 17 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 18:01:33 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1232 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: c (chaiwatmsu ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:38:29 น. |
|
โดย: no filling วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:45:41 น. |
|
โดย: fondakelly วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:57:15 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:22:57 น. |
|
โดย: mutcha_nu วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:44:02 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:5:54:16 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:41:23 น. |
|
โดย: วนาลี IP: 124.122.222.98 วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:49:13 น. |
|
โดย: c (chaiwatmsu ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:57:25 น. |
|
โดย: http://twitter.com/wiina IP: 124.122.188.53 วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:09:08 น. |
|
โดย: http://twitter.com/wiina IP: 124.122.188.53 วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:11:26 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|