<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
24 ธันวาคม 2551
 

กราบพระธาตุพูสี..ลาหลวงพระบาง...สู่วังเวียง



ออกจากวัดเชียงทอง ก็มุ่งหน้ามายัง "พระธาตุจอมพูสี หรือ พระธาตุพูสี"
พระธาตุที่เราเห็นแต่ไกลมาตั้งแต่ย่างเข้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
มีตำนานเล่าว่า อามะสะฤษีและโยทิกะฤษีสองพี่น้อง ได้เดินทางเสาะหาสถานที่สำหรับตั้งบ้านเมือง
เมื่อมาเห็นชัยภูมิที่นี่ดี เป็นที่ราบกว้างและมีเนินเขาอยู่กลาง จึงเลือกเนินเขานี้เป็น "ใจเมือง"
และกำหนดขอบเขตเมืองคือ

"...ทิดเหนือเอากกทอง-สบคานเป็นเขด
ทิดตาเว็ดออก เอาพูซ้างพูซวงเป็นเขด
ทิดใต้เอาน้ำดงเป็นเขด
และทิดตาเว็นตกเอาพูท้าวพูนางเป็นเขต..."


มีคำพูดติดปากชาวหลวงพระบางว่า
"ไปหลวงพระบาง ถ้าบ่ได้ขึ้นพูสี ก็เท่ากับบ่ได้ไปหลวงพระบาง"


เอาซิ...อีแบบนี้พวกเราจะท้อได้ไง บันไดแค่ 328 ขั้นเท่านั้นเอง
เดินลากขาขึ้นปรางค์นครวัดมาแล้ว...แค่นี้ จิ๊บจิ๊บ ค่ะ
ว่าแล้ว พวกเราก็ตระเตรียมน้ำคนละขวด แล้วก็ค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดไปทีละขั้น
ขาขึ้น...ถูกแรงโน้มถ่วงของโลกดึงไว้...เลยไม่ค่อยได้ยกกล้องเก็บภาพ
เพื่อนๆ กระจัดกระจายไต่ขึ้นมารายทาง
คุณไกด์ เดินขึ้นมาด้วยกัน เพราะต้องมาจัดการเรื่องค่าเข้าชม บนลานพักขา เมื่อพ้นบันไดขั้นที่ 138 มาแล้ว
อีก 190 ขั้น พวกเราก็ไต่ขึ้นมาต่อ ไกด์หายไปแล้ว....พี่ติ๊กยังไม่เคยมา..แต่ก็ไม่ยักตามขึ้นมาด้วยกัน


ทางขึ้นพระธาตุร่มรื่นด้วยต้นจำปาลาว ...ซึ่งจะออกดอกสะพรั่งในช่วงเดือนเมษายน
ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ....ดูกิ่งก้านไปพลางๆ ละกัน


เมื่อขึ้นมาถึงยอดพูสี...ก็จะพบกับพระธาตุพูสี ซึ่งสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2347 ในรัชสมัยเจ้าอนุรุทธราช
และบูรณะเมื่อปีพ.ศ.2457 โดยหุ้มองค์พระธาตุด้วยแผ่นทองเหลืองฉาบทองคำ
เป็นองค์พระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมประดับยอดด้วยเศวตรฉัตรสำริด 7 ชั้น
ถือเป็นพระธาตุสำคัญของเมืองหลวงพระบาง เป็นมิ่งขวัญของชาวหลวงพระบาง


เมื่อก่อนนั้น จะมีประเพณีการย่ำกลองบอกโมงยาม จากหอกลองบนยอดพูสี เพื่อบอกเวลาแก่ชาวเมืองทุกๆ 1 ชั่วยาม
หรือหากมีเหตุการณ์ร้ายแรงฉุกเฉินเกิดขึ้นในเมือง เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือมีข้าศึกบุกรุก
ก็จะตีกลองเพื่อเตือนประชาชน ...ปัจจุบันประเพณีย่ำกลองนี้ เลิกไปแล้ว

จากยอดพูสีมีทางเดินโดยรอบองค์พระธาตุ ซึ่งเราจะมองเห็นตัวเมืองหลวงพระบางได้ทั่วทั้งหมด
และทุกเย็นก็จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกดินบนยอดพูสีแห่งนี้
ซึ่งพวกเรา "อด" ....โทษคนขับรถ รึว่าโทษถนนอันคดเคี้ยวดีเนี่ย...


พวกเราพักเหนื่อยกันบนยอดพูสี...


ไหว้พระธาตุ ทำบุญ เสี่ยงเซียมซี ถ่ายรูปทิวทัศน์กันตามอัธยาศัย ..


ใกล้เวลานัดหมาย...ก็พากันค่อยๆ เดินลง...เบื้องหน้ามีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกคู่..เดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิง


ลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย...ยังเหลือเวลา เรากวาดตามองไปรอบๆ ก็ไปสะดุดเอาวัดเก่าๆ เชิงพูสี..
เห็นสีหน้า (หน้าบัน) เป็นไม้แกะสลักสวยงามมาก....


ไม่เห็นป้ายบอกชื่อวัด...เดินไปดูใกล้ๆ มีป้ายติดหน้าสิมว่า เข้าได้ไม่ต้องจ่ายปี้...
เราก็เลยเมียงมองเข้าไป....วัดนี้มีจิตรกรรมฝาผนังด้วยล่ะ...ดูมาหลายวัดเพิ่งเห็นที่วัดนี้แหละ


เวลาเหลือน้อย ก็เลยได้แต่..มองจากภายนอก ไหว้พระจากภายนอก..แล้วจากมา







กลับไปเก็บกระเป๋า...เช็คเอ้าท์...แล้วก็ไปกินข้าวกลางวัน
มื้อนี้...อิ่มอร่อยกันด้วยขนมจีนแกงเขียวหวาน เรียกเติมขนมจีนไป 4 จานถ้วนๆ
....รายการกับข้าวอื่นๆ เกือบเหลือ แปลว่ากินหมด นั่นแหละ
จากนั้นก็มุ่งหน้า ไต่ข้ามเขากันอีกรอบ ....
พวกเราก็อาศัย คอนเสิร์ตเป็นตัวช่วยอีกตามเคย...รถคันนี้มีแผ่นคอนเสิร์ตให้เลือกดูเยอะ
แต่เราเป็นกังวลเรื่องล้อรถมากกว่านะ...กลัวจะเดินทางไปไม่ถึงเชิงเขาอ่ะ
เพราะตอนนี้ พี่ติ๊กไม่เหลือล้อสำรองแล้วนะ

ระหว่างทางก็ยังคงมีวิวทิวทัศน์เทือกเขาสูง
สายน้ำกว้างสลับเนินทราย มีเทือกเขาหินปูนอันงดงามให้ทอดทัศนา
สมญานาม "กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว" เป็นนิกเนมของ "วังเวียง"

แวะเข้าห้องน้ำบนยอดเขาบริเวณ "กิ๋วกระจำ"...
หมอกเยอะ..อากาศเย็น... พวกฝรั่งก็ชอบนัก...ไต่กันขึ้นมาพักในเกสท์เฮ้าส์บนยอดเขา....


แล้วพวกเราก็ถูกล่อลวงด้วย พระอาทิตย์ตกบนยอดเขา...อีกแล้วครับท่าน
อ้อยอิ่งกันไม่ได้...เสร็จธุระในห้องน้ำ ก็รีบขึ้นรถ เดินทางต่อ


และตามเคย...ถนนหนทางไม่ได้ดีขึ้นในวันสองวัน...ซะหน่อย
ทางโค้งยังคงโค้งหักศอกแบบเดิม
เพราะฉะนั้น พี่ติ๊กเหยียบเต็มที่ก็ได้แค่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นเอง
พระอาทิตย์คล้อยต่ำให้เราเสียดายไปเรื่อยๆ .....


ผ่านไร่ส้มบนเขาเขตวังเวียงแล้ว...พระอาทิตย์ก็ลับเหลี่ยมเข้าไปเรียบร้อย
ไม่ทันแล้วนี่...งั้นแวะซื้อส้มกันดีกว่า
ส้มจากวังเวียง รสชาติที่สุดในส.ป.ป.ลาว....คุณบุณรีบบรรยายสรรพคุณ
ลองไปชิม...ก็เห็นด้วย..เพื่อนๆ ก็เลยซื้อกันคนละโล สองโลบ้าง ติดรถไว้รองท้องระหว่างเดินทาง


ค่อยๆ เดินทางมาตามถนนเรียบบ้าง เป็นคลื่นบ้าง จนลงเขามาได้โดยไม่มีคนเมารถเช่นเคย..เก่งกันจังเข้าที่พัก ล้างหน้าล้างตา....แล้วไปแอบดูการแสดงของเด็กชาวเขา ที่ร้านอาหารในโรงแรมจัดให้แขกอีกกลุ่ม
แล้วพวกเราก็นั่งรถออกมากินข้าวที่ร้านอาหารในตัวเมืองวังเวียง...
มีโฆษณาก่อนอาหารว่า "โรตีวังเวียง" ...อร่อย..
พวกเราก็เลยต้องกินแบบขยักท้องไว้หน่อยนึง...เผื่อๆ ไว้
มื้อนี้ ยังคงเป็นอาหารไทย....มีของหวานแถมมา คือ เค้กวันเกิดของกลุ่มคนไทยโต๊ะข้างๆ นั่นเอง

จากร้านอาหารเดินตรงไปตามถนน ก็ถึงที่พักแล้ว....ไม่มีทางหลง
ก็เลยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า...พวกเราจะท่องราตรีแล้วเดินกลับที่พักกันเอง

เมืองวังเวียง เป็นเมืองเล็กๆ ในเส้นทางเวียงจันทน์-หลวงพระบาง
นักท่องเที่ยวฝรั่งนิยมพักที่นี่กันมาก จนถนนกลางเมืองเส้นนี้มีสภาพคล้ายๆ ย่านถนนข้าวสาร
มีร้านอาหารแบบนอนกินด้วย...คือมีเบาะและผนังเอนๆ ให้พิงหลังลงนอนดูทีวีได้เลยอ่ะนะ
ไม่มีใครชี้พิกัด "ผับ" ....ก็เลยมาสนใจรถเข็นข้างทางแทน

รถเข็นกระจายตัวห่างๆ ตลอดแนวถนน...อาหารที่ขาย คือ โรตี แซนวิชหรือบาเก็ต ....สารพัดไส้
อารมณ์ประมาณเดียวกับ รถเข็นข้าวไข่เจียวที่ถนนข้าวสารเลยล่ะ
ไม่รู้ว่าเจ้าไหนอร่อย ...ก็เลยตกลงกันว่า ซื้อร้านละแผ่นละกัน

โรตีราคาแผ่นละ 10000 กีบ...จะเป็น กล้วย-ไข่-นม รึว่า ช็อคโกแลต-ถั่ว-นม
รึว่า น้ำผึ้ง-ช็อคโกแลต-นม หรืออื่นๆ อีกมากมาย เลือกได้...ที่แปลกว่าโรตีเมืองไทยคือ โรยกะทิผงด้วยล่ะ

แผ่นแรก จากรถเข็นแรกเมื่อข้ามถนนจากร้านอาหารออกมา
ขอธรรมดากันก่อน กล้วย-ไข่-นม
ราคานี้ตกราว 40 บาท...ตอนฟังก็ว่าแพง...แต่พอเห็นแม่ยิงหั่นกล้วยหอมขนาดย่อมๆ 2 ลูก
เราก็ว่า ...แบบนี้ไม่แพงหรอก
กรรมวิธีการทำไม่แตกต่างกับบ้านเราหรอกน่า....ไม่ต้องสงสัย
หั่นแล้วแบ่งกันจิ้มคนละชิ้นสองชิ้นก็หมด

เดินต่อมาอีกหน่อย....รถเข็นนี้มีบาเก็ตด้วย...
งั้นแผ่นที่สอง ก็ขอโรตีช็อคโกแลต-ถั่ว-นมละกัน....เพื่อนอีกคนลองสั่งบาเก็ตด้วย
โรตี 10000 กีบเท่ากัน บาเก็ต 15000 กีบ...ถ้าไส้มากก็ราคาสูงตามไปด้วย
แบ่งปันกันชิมแล้วเดินต่อมาอีก....

คราวนี้แวะรถเข็นคนขายผู้ชายบ้าง......แผ่นที่สาม เราสั่ง น้ำผึ้ง-กล้วย-นม
....คนขายทำไปก็ชวนคุยไป ซักประวัติกันไป
ทราบว่า เป็นคนจำปาสัก...มาทำงานเสิรฟที่วังเวียง...
ทำไปทำมาก็เรียนทำโรตีกับพวกแขก แล้วก็ลาออกมาขายโรตี....
ชวนไปเที่ยวลาวใต้ บอกน้ำตกสวยมาก มีวัดที่เป็นมรดกโลกด้วย >> ไม่ต้องชวนมากก็ได้ ยังไงก็อยู่ในแผนที่จะไปเที่ยวอยู่แล้ว

คุยพลางก็ ถามว่า ใส่นั่น เติมนี่ รึป่าว....เราก็เลยบอกว่า ถ้าราคาไม่เปลี่ยน ก็ใส่ๆ ไปเถอะ .
ก็เราเหลือแบงก์ 10000 กีบติดกระเป๋าใบสุดท้ายแล้ว
คนขายใจดี ใส่ให้หลายอย่าง แต่งให้สวยเชียว ...เราก็เลยได้
โรตีกล้วย ใส่ไข่ ใส้น้าผึ้งกับช็อคโกแลต โรยโอวัลตินและกะทิผง
สวยงามและอร่อยเป็นพิเศษ
ขอบใจหลายเด้อ

แต่ละแผ่นที่ชิมและกิน...แป้งบางๆ รสชาติไม่ต่างกันเล้ยยยยยยยย
อร่อยดี...อร่อยจน...ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย....
กินโรตีกันแล้ว กินบาเก็ตกันแล้ว บางคนก็โทรศัพท์กลับบ้านเรียบร้อยแล้ว
ก็พากันเดินกลับที่พัก ....ผ่านร้านตัดผม...เก๋เชียว


อีกกิจการ เราชอบจัง...เป็นร้านอาหารแบบนอนกินได้...และฉายหนัง (DVD แผ่น) เป็นรอบ คืนนึงมี 2 เรื่อง 2 รอบ
เหมือนเป็นโรงหนังประจำเมืองเลยล่ะ


เดินกอดอกชมเมือง เพราะอากาศเริ่มเย็นลงทุกขณะ ....จนถึงที่พัก
อาบน้ำ...เปิดทีวีทันดูหนังญี่ปุ่น (เรื่องอะไรไม่รู้) พากษ์ภาษาลาว
เสียงพระเอกหล่อเชียว....แต่ดูหน้าและฟังเสียง ทะแม่งๆ ชอบกล
ก็เลยปิดไฟ...นอนดีกว่า
พรุ่งนี้เดินทางต่อ...ใกล้จะได้กลับบ้านกันแล้ว



Create Date : 24 ธันวาคม 2551
Last Update : 25 ธันวาคม 2551 0:13:54 น. 9 comments
Counter : 2612 Pageviews.  
 
 
 
 
นิติ สว่างทรัพย์
 
 

โดย: นิติ สว่างทรัพย์ (mlmboy ) วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:1:39:47 น.  

 
 
 

ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
 
 

โดย: โสมรัศมี วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:10:19:27 น.  

 
 
 
Glitter Graphics

Christmas Glitter



MERRY CRISTMAS


ปีใหม่ เปลี่ยนปฏิทินใหม่ เปลี่ยน พ.ศ. ใหม่
ขอให้ สุขกาย สบายใจ ร่างกายแข็งแรง ก้าวหน้าปลอดภัยทั้งการงานการเงิน
เจริญยิ่งๆขึ้นทั้งวิถีโลกและวิถีธรรม
ประสงค์สิ่งใดในทางที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ขอให้สัมฤทธิผลจงทุกประการจ๊ะ

ดูแลสุขภาพนะจ๊ะ


 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:13:24:15 น.  

 
 
 
เข้ามาบล็อกนี้...
เสียงเพลงเพลงหนึ่งลอยเข้ามาในหัว(โดยไม่ได้เปิดลำโพง...)

"...โอ้เจ้าดวงจำปา...เวลาซมดอก...
คิดถึงบ้านซ่อง...มองเห็นหัวใจ
เฮานึกขึ้นได้....ในกลิ่นเจ้าหอม
..........
โอ้ดวงจำปา....บุปผาเมืองลาว
งามดั่งดวงดาว....ซาวลาวเพิ่งใจ
............
มาร้างห่างจริง มิ่งเมืองลาวเอย..."
เคยฟังบ๋อค่ะ...?
 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:13:40:16 น.  

 
 
 
บันไดสามร้อยกว่าขั้น...

แต่วิวก็สวยคุ้มค่าเหนื่อยจริงๆนะคะ เสียดายโหลดภาพดูได้ไม่หมด วันนี้อินเตอร์เน็ตช้า

รูปบาร์เบอร์ช้อปเหมือนโปสเตอร์หนังสยองขวัญเลย ฮือ...หรือว่าเราจะคิดมากไปเอง

merry x'mas!


 
 

โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:15:36:40 น.  

 
 
 
สุขสันต์วันคริสต์มาสเช่นกันค่ะ

อยากไปเที่ยวด้วยจัง
 
 

โดย: หมูย้อมสี วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:16:17:28 น.  

 
 
 
อยากไปเที่ยวหลวงพระบางบ้างจังเลยค่ะ
อากาศคงดีน่าดู อยากไปสัมผัสชีวิตชาวบ้านจัง

แวะมาเมอร์รี่คริสมาสด้วยค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
 
 

โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:16:52:15 น.  

 
 
 
เคยติดใจวังเวียงเหมือนกันครับ แต่หนทางไปเมื่อเจ็ดแปดปีก่อนนั้น ต้องกลั้นใจกันไปตลอดทางเลยครับ



สุขสันต์เทศกาลแห่งความสุข
แด่
คุณนัทธ์ครับ
 
 

โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:17:47:40 น.  

 
 
 
เป็นทิปลาวที่เล่าได้สนุกจัง
อย่างนี้ต้องไปเวียดนาม กัมโฟชะ
และพม่า จะได้ครบรสอุษาคเนย์
 
 

โดย: chanpanakrit IP: 115.67.121.191 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:14:20:49 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com