<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
20 พฤษภาคม 2552
 

Mini Trip วันแรงงาน - Part II



ความเดิมตอนที่แล้ว

ช่วงเวลารอให้โบสถ์วัดราชประดิษฐ์ฯ เปิด พวกเราก็แวะไปเยี่ยมชมวัดราชบพิตรกันก่อน
ข้ามถนนมาก็สะดุดตากับ อนุสาวรีย์หมู กันก่อนเลย



กำลังมีคนมาไหว้ขอพรกันอยู่ (มั๊ง) เราก็เลยไปอ่านความเป็นมากันซะก่อน

อนุสาวรีย์หมู สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2456 ซึ่งเป็นปีที่ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ มีพระชนมายุ 60 พรรษา
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อนุสาวรีย์สหชาติ คำว่าสหชาติ หมายถึงผู้ทีเกิดปีเดียวกันคือ
สมเด็จเจ้าฟ้าพระยานริศนานุวัติวงศ์ พระยาพิพัฒนโกษา (เซเลสติโน ซาเวียยร์) และ พระยาราชสงคราม (กร หงสกุล)
ได้ร่วมกันจัดสร้างอนุสาวรีย์นี้ถวาย เพื่อน้อมระลำถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์
อนุสาวรีย์หล่อด้วยโลหะ ออกแบบเป็นรูปหมู มีความหมายถึงปีกุน ซึ่งตรงกับปีพระราชสมภพของพระองค์
รวมทั้งเป็นปีเกิดของผู้เสร้างถวายทั้งหมดด้วย โดยสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ เป็นผู้ออกแบบ


พนมมือเปล่าเปล่าไหว้ด้วย แล้วพากันข้าม สะพานปีกุน



สะพานนี้สร้างขึ้นเพื่อข้ามคลองคูเมืองเดิม
เป็นคลองที่ขุดมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีในปีพ.ศ.2314 เพื่อให้เป็นคูเมืองและเป็นแนวเขตของเมืองหลวงในสมัยนั้น
ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ในส่วนของฝั่งธนบุรีและพื้นที่ของเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน คลองคูเมืองเดิม ของทางฝั่งธนบุรีมีชื่อเรียก
แยกออกเป็น คลองวัดท้ายตลาด คลองบ้านหม้อ และคลองบ้านขมิ้น
ส่วนคลองคูเมืองเดิมของทางฝั่งพระนครมีชื่อเรียกคือ คลองโรงไหมวังหน้า คลองหลอด และคลองตลาด
ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2525 มีมติของคณะรัฐมนตรีให้ใช้ชื่อเรียกคลองที่ถูกต้อง เพื่อเป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตว่า คลองคูเมืองเดิม


ก็มาถึงวัดราชบพิตร ด้านที่เราเดินผานเข้ามานี้ ผ่านสุสานหลวงก่อน



เข้าสู่วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม



วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
ฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้นเป็นวัดแรกในรัชกาลเมื่อ พ.ศ.2412
หลังจากเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว 1 ปี
ด้วยพระราชประสงค์ให้เป็นวัดคติธรรมยุติกนิกายคู่กับวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม
ซึ่งสมเด็จพระราชบิดา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานไว้




การสร้างวัดนี้ทรงนำเอาหลักเดิมแต่โบราณมาใช้ ดังเช่นวัดราชประดิษฐ์ฯ
กล่าวคือ ทรงสถาปนาพระมหาเจดีย์เป็นหลัก ห้อมล้อมด้วยระเบียงวารทิศสองวิหารคือ ด้านเหนือและด้านใต้
สำหรับวิหารด้านเหนือนั้น ทรงสถาปนาเป็นพระอุโบสถ ภายในพระอุโบสถ และพระวิหารตกแต่งออกแบบตามอย่างตะวันตก
ส่วนภายนอกออกแบบเป็นศิลปะไทย
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามมีศิลปกรรมกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ที่งามวิจิตร
เป็นเอกลักษณ์พิเศษแห่งเดียวในประเทศไทย






พระเจดีย์ใหญ่ เป็นพระเจดีย์ทรงกลมตั้งอยู่บนประฐานทักษิณ สูงระดับแนวหลังคาพระระเบียง
ยอดพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ฐานประทักษิณนั้นเจาะเป็นซุ้มไว้
หลายซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปปั้นพระเถระสำคัญ ๆ



และก็ยังคงเป็นเช่นเดียวกับวัดราชประดิษฐ์ฯ คือเป็นวัดธรรมยุติ วันพระไม่ตรงตามปฏิทิน
วันนี้...เราก็เลยไม่มีวาสนาได้ชมภายในพระอุโบสถที่ว่ากันว่า งามนักงามหนา
อันที่จริง ตอนที่น้องชายเราบวชสามเณรหมู่...ก็เหมือนจะได้เข้าไปในโบสถ์นะ
แต่ลืมไปแล้วล่ะ มันนานเกิน




ประตูและหน้าต่างมีซุ้มยอดมณฑปครึ่งซีกติดลวดลายปูนปั้นปิดทอง
บานประตู 10 บาน บานหน้าต่าง 28 บาน ด้านในเป็นลายรดน้ำพุ่มข้าวบิณฑ์
ด้านนอกประดับด้วยมกเป็นลวดลายจำลองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เฉพาะตราชั้นหนึ่ง รวม 5 ดวง
นับแต่ดวงบนลงมาคือ
1.นพรัตน์ราชวราภรณ์
2.มหาจักรีบรมราชวงค์
3.ปฐมจุลจอมเกล้า
4.ประถมาภรณ์ช้างเผือก
5.ประถมมาภรณ์มงกูฏไทย

เฉพาะที่บานประตู เครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้ง 5 นี้ มีสายสะพายล้อมวงกลมและสร้อยทับอยู่บนสายสะพาย
กับมีโบร์ห้อยดวงตราลงมาตามลำดับดังนี้ ใต้ดวงที่ 1 เป็นภาพเทวดาพนมมือ ใต้ดวงที่ 2 เป็นภาพเทพธิดาฟ้อน
ใต้ดวงที่ 3 เป็นภาพกินนรรำ ใต้ดวงที่ 4 เป็นภาพหนุมานเหาะ ใต้ดวงที่ 5 เป็นภาพอินทรชิตเหาะ
ระหว่างภาพและตราเป็นลายกะหนกและประจำยามก้ามปู




อนึ่ง การประดับมุขชิ้นเล็ก ๆ ยังทำเป็นสร้อยทับลงบนแพรแถบ มีอักษร จปร ไขว้ และมีตราจักกรีคั่นไปเป็นระยะ
โดยมีสร้อยลูกโซ่ร้อยทั้งสองข้างชายแถบแพรผูกหูกระต่ายมีตราห้อยตรงกลางแบบของจริง
ยกย่องกันว่าลายประดับมุขที่บานประตูและหน้าต่างพระอุโบสถนี้ เป็นศิลปะชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ด้านข้างของซุ้มประตูแต่ละด้านเป็นรูปเซี่ยวกางถือง้าว ยืนอยู่บนหลังสิงห์
ส่วนด้านข้างของซุ้มหน้าต่างแต่ละด้านเป็นเทวดาถือพระขรรค์ยืนอยู่กลางลายกระหนก


เราสองคนก็เลยเดินเก็บภาพไปรอบๆ บริเวณภายนอก
ทึ่งในความงดงามอย่างไม่จบไม่สิ้น มองไปทางไหนก็น่าบันทึกภาพไปซะหมด



เดินวนมาถึงพระวิหาร ....



ประตูเปิดอยู่...มีพระสงฆ์นั่งคุยอยู่ภายใน
ขอยกความดีความชอบให้เพื่อนร่วมทาง ที่เข้าไปถามไถ่ และขออนุญาตเข้าชมภายใน




พระวิหาร อยู่ด้านใต้พระเจดีย์ ใหญ่ รูปทรงเป็นแบบเดียวกับพระอุโบสถทั้งภายนอกและภายใน



ต่างแต่ว่าบานประตูและบานหน้าต่างสลักด้วยไม้ เป็นลวดลายเครื่องราชอิสริยาภรณ์เท่านั้น
กล่าวกันว่า เดิมประตูและหน้าต่างของพระวิหารนี้เป็นของพระอุโบสถ
แต่เมื่อนำเอาบานมุกมาติดที่พระอุโบสถแล้ว จึงได้เอามาไว้ที่พระวิหาร




ข้อแตกต่างจากพระอุโบสถอีกอย่างหนึ่งภายในพระวิหารก็คือ
ลวดลายมีเฉพาะที่เพดาน บัวกั้นผนังชั้นล่างและชั้นบน และกรอบประตู น้าต่างเท่านั้น
นอกจากผนังเป็นสีขาว ไม่มีลวดลาย



ชื่นชมกันพอสมควร ก็เดินย้อนกลับมาวัดราชประดิษฐ์ฯ
บ่ายสามโมงกว่าๆ ช่องว่างของเวลาก่อนการแสดงที่นาฎยศาลาจะเริ่ม
เราก็เลยพากันเดินไปเรื่อยๆ
ผ่านอาคารสำนักงานคณะองคมนตรี



เข้าไปนั่งเล่นเย็นใจในสวนสราญรมย์



อ่านหนังสือรอเพื่อน ซึ่งไปเดินถ่ายรูปอีกหนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ก็พากันนั่งรถเมล์ ไปกินข้าวเย็นที่ตลาดบางรัก แล้วนั่งรถเมล์อีกต่อไปสวนลุมไนท์
จัดการรับตั๋วการแสดงหุ่นละครเล็กรอบพิเศษ (ราคาพิเศษเมื่อแสดงบัตรพนักงาน)
เตร็ดเตร่ ดูของที่ระลึกไปพลางๆ รอเวลาการแสดง



สองทุ่มได้เวลาการแสดงเริ่ม ....



เพลิดเพลินเจริญใจ ไปกับการแสดงการเชิดหุ่น บทร้อง บทพากษ์ บทเจรจา
ที่เราไม่เคยชมแบบเต็มทีในโรงละครมาก่อน ...
จบการแสดงก็แยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความอิ่มเอมใจ

เป็นการเดินเที่ยวอีกวันหนึ่ง ถึงแม้จะร้อนกาย แต่เย็นใจยิ่งนัก


หมายเหตุ : เนื้อหาเชิงประวัติเรียบเรียงจาก
//www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no06-15/wat/watrachabopid.html และ
//www.phuttha.com/temple/วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม.html และ
ป้ายสีน้ำตาลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย



Create Date : 20 พฤษภาคม 2552
Last Update : 17 สิงหาคม 2557 15:44:10 น. 7 comments
Counter : 2680 Pageviews.  
 
 
 
 
เข้ามาเก็บความรู้และดูรูปสวยๆ ค่ะ รูปสุดท้ายเป็นหุ่นขี้ผึ้งรึเปล่าคะ เหมือนมากเลยค่ะ

ปล.เพลงเพราะด้วย
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:34:18 น.  

 
 
 
มาเก็บเกี่ยวความรู้ค่ะคุณนัทธ์ วัดหลวงเนี่ยงดงามจังเคยแต่ผ่านยังไม่มีโอกาสเข้าไปเลย คุณสบายดีนะคะ

การแสดงชุดใหม่ จะเริ่มแล้วค่ะ จองที่นั่ง ไว้ให้แล้วค่ะ เกศสุริยง
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:02:00 น.  

 
 
 
คุณนัทธ์พาเที่ยวน่าอ่านน่าเพลินเสมอนะครับ

 
 

โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:29:50 น.  

 
 
 
เป็นการท่องเที่ยวแบบที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นดีจัง ^^
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:45:53 น.  

 
 
 
คุณส้ม >> เป็นุหุ่นขี้ผึ้งเท่าตัวจริงของครูโจหลุยส์ค่ะ

คุณเกศ >> สบายดีมากเลยด้วย มีแรงเที่ยวอีกหลายทริป

คุณหนูหล่อ >> ขอบคุณที่ตามมาเที่ยวด้วยกันเสมอเช่นกันค่ะ

คุณหมี >> อบอุ่น และร้อนด้วยล่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:57:38 น.  

 
 
 
ลวดลายบนเพดานพระวิหารสวยมากเลยค่ะ
 
 

โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:33:59 น.  

 
 
 
ความรู้กับภาพ
ไปแนวทางสัมพันทกันนะครับ

คือ อุดมทั้งคู่เลย
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:23:53 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com