|
เที่ยวเมืองเวียงจันทน์ Part II - - กลับบ้านกันซะที
หลังจาก เที่ยวเมืองเวียงจันทน์ ช่วงแรกไปแล้ว หลังจากอิ่มหนำสำราญดี ก็ได้เวลา ช้อปปิ้ง...
ตลาดเช้า ที่คุณบุญพูดถึงแต่เช้า ก็คือชื่อห้างสรรพสินค้าแห่งเดียวในเมืองเวียงจันทน์นั่นเอง มิใช่ ตลาดสดยามเช้าอย่างที่เข้าใจมาตลอดเวลา ทุกคนถูกไซโคเรื่อง DVD ถูกมากๆ มาตลอดทาง...นัดหมายเวลากันแล้ว 3-4 คนก็เลยเดินตามคุณบุญไปร้าน DVD เจ้าประจำ ... ให้คุณบุญต่อราคานำไปก่อน แล้วพวกเราก็เลือกๆๆๆๆๆๆ เราเองก็เลือกด้วยล่ะ เลือกไปเลือกมา ชักเกินงบ ก็เลยคัดออก สุดท้าย ก็ได้หนังฝรั่งมา 1 แผ่น และซี่รีย์มา 3 ชุด.... จากนั้นก็ทิ้งคุณบุญไว้ที่ร้าน แล้วพวกเราก็มาหาเสื้อยืด "หลวงพระบาง" เพราะต่อราคาที่ตลาดมือไม่ได้ดั่งใจซะที ตอนเดินลงมานั่นเอง ถึงได้สังเกตรอบๆ ตัว....อืมม์ ...ห้างนี้สภาพเหมือนมาบุญครองตอนเปิดใหม่ๆ .... สินค้าหลากหลาย ทั้งร้านเพชร ทอง เครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า ของเล่น .... มีร้านกาแฟอยู่ 1 ร้าน...ที่เพื่อนเราปักหลักรออยู่ ....มีรถขายสินค้าตามทางเดินด้วย
ออกมาจากตึกติดแอร์ ก็มาโซนติดพัดลมข้างๆ กัน ...หน้าตาเหมือนเดินพาหุรัดเลยล่ะ มีผ้าม้วน ผ้าซิ่น ผ้าถุง หลายร้าน และมีร้านเสื้อยืดให้เราเลิอกลายและต่อราคา คราวนี้ได้ดั่งใจ...ตัวละ 50 บาท เลือกมาเป็นของที่ระลึกของตัวเอง 2 ตัว
ช้อปเสร็จก็เที่ยวต่อ คราวนี้มุ่งหน้าสู่ "ประตูชัย"
ประตูชัยนี้เป็นสิ่งก่อสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงผู้พลีชีพในการต่อสู้เรียกร้องอิสรภาพจากฝรั่งเศส สร้างเสร็จเมื่อปีพ.ศ.2512 ...ไม่เข้าใจเล้ยยยย ว่าทำไมต้องทำให้ออกมาเหมือประตูชัยเมืองปารีสด้วยเนี่ย รูปร่างเหมือนนะ ...แต่การตกแต่งประดับประดาด้วยปูนปั้นและภาพปูนปั้นนูนต่ำเป็นแบบลาว
จ่ายปี้ ...แล้วขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์เมืองเวียงจันทน์จากมุมสูงกันได้ ทดสอบกำลังขากันอีกแล้ว
ขึ้นมาจนถึงยอดสูงสุด เพื่อชมลายปูนปั้นใกล้ๆ ....แล้วก็เดินลง แวะถ่ายภาพเมืองจากมุมสูงไปทีละด้าน
จากมุมนี้มองตามถนนขึ้นไป...จะตรงเข้าสู่ทำเนียบ
อีกด้านตรงข้ามนั้นเป็น วงเวียนน้ำพุ ที่มีน้ำพุเต้นระบำ และมีช่างภาพเดินหาลูกค้าอยู่หลายคน ถ่ายภาพและรอพิมพ์ภาพได้เลย...
ถ่ายมุมสูงแล้ว ก็ขอเก็บภาพประตูชัยแบบเต็มไว้ด้วย
ครบถ้วนกันทุกกล้อง กดกันไปหลายชอตแล้วก็กลับมาที่รถ รถตู้ของเราจอดหน้า ป้ายจอดรถ รึว่าห้ามจอดกันแน่...ใครช่วยบอกทีเถอะ
ถัดจากประตูชัยไปไม่ไกลนัก เราก็ได้เข้ากราบสักการะ "พระธาตุหลวง" พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2109 โดยสร้างครอบองค์พระธาตุศรีธรรมาโศกเดิม ซึ่งเป็นพระธาตุเก่าแก่ตั้งแต่ยุคอาณาจักรโคตรบอง มีอายุร่วมสมัยกับพระธาตุพนม
ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทรงสร้างยอดพระธาตุให้สูงถึง 45 เมตร สูงเหนือยอดไม้ทุกต้น ทำให้เรามองเห็นองค์พระธาตุได้แต่ไกล และสร้างพระธาตุองค์เล็กล้อมรอบอีก 30 องค์
ขนาบซ้าย-ขวามีวัดพระธาตุเหนือและวัดพระธาตุใต้ ซึ่งพระจากทั้ง 2 วัดนี้จะสลับกันมาดูแลองค์พระธาตุ
ระเบียบรั้วรอบพระธาตุมีพระพุทธรูปเก่าและซากปรักหักพังจากโครงสร้างเดิม เรียงรายอยู่...
เบื้องหน้าพระธาตุ มีอนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มหาราชผู้ครองราชย์ร่วมสมัยเดียวกับพระเจ้าบุเรงนองและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์
ทรงครองบัลลังก์อาณาจักรล้านนาและล้านช้าง เป็นยุคที่ศิลปวัฒนธรรมระหว่างล้านนาและล้านช้างผสมผสานกันอย่างมาก และเป็นยุคที่ล้านช้างและกรุงศรีอยุธยาเป็นพันธมิตรแน่นแฟ้น มีการสร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้น ณ เขตแดนระหว่างสองอาณาจักร
บ่ายสี่โมงเย็นแล้ว ได้เวลาอำลาเมืองเวียงจันทน์กันซะที ...มุ่งหน้าสู่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวได้แล้ว พวกเราต้องแวะช้อปที่ดิวตี้ฟรีอีกด้วย....
คุณบุญให้นิยามนักท่องเที่ยวชาวไทยไว้ว่า "นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็น..... แยกเป็นหลง ลงเป็นช้อป" ไม่อยากจะเห็นด้วยนะ ....แต่ภาพที่ได้เห็นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย รวมถึงกลุ่มเรากันเองด้วย มันเป็นแบบนั้นแหละ แม้แต่เราเอง ...ครั้งนี้ยังจับจ่าย...มากกว่าเมื่อครั้งไปเที่ยวเขมรซะอีก
ระหว่างพวกเราลงช้อป..ไกด์และคนขับรถก็ไปจัดการเรื่องเอกสารผ่านด่านให้ อำลาคุณบุญพร้อมทิป...เหลือแต่พี่ติ๊กนั่นแหละ พาเราข้ามมาฝั่งหนองคาย แวะกินมื้อเย็น .... จากนั้นก็ ใครใคร่หลับก็หลับไป ส่วนที่ตื่นอยู่ก็ดู DVD ที่เพิ่งซื้อกันมานั่นแหละ
คราวนี้พี่ติ๊กเหยียบได้ดั่งใจซะที...พี่ทำเวลามากเลยนะ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออกจากหนองคายมานานโข เขตเมืองใหญ่ (จำไม่ได้ว่าจังหวัดไหน) จะเหลือเหรอ. ..ถูกเรียกที่ด่านอีกแล้ว...คราวนี้ไม่ใช่เรื่องความเร็วหรอก แต่เรียกตรวจของ...จุดประสงค์จริงๆ ก็ค่าน้ำร้อนน้ำชา นั่นแหละ พี่ติ๊กลงไปจัดการอยู่สักพัก พอกลับขึ้นมาก็บึ่งรถต่อ แวะพักปั้ม น้อยกว่าขามานะ .... แล้วเราก็ถึงกรุงเทพฯ จอดลงกันที่ตลาดอ.ต.ก. กันหมด ตอนตีสองครึ่ง เร็วกว่าที่โปรแกรมตั้ง 2 ชั่วโมง.....
การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้จบลงแล้ว ภาพที่บันทึกมาเกือบพันภาพก็คัดเลือกมาประกอบเรื่องเล่าหมดแล้ว ที่เหลืออยู่คือความประทับใจที่ไม่จางไป..และคงไม่จางไปง่ายๆ นักหรอก สำหรับเมืองสงบและรอยยิ้มจาก "หลวงพระบาง"
Create Date : 29 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 30 ธันวาคม 2551 22:36:31 น. |
|
2 comments
|
Counter : 4114 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: นู๋เมี่ยง IP: 58.9.84.42 วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:14:12:51 น. |
|
โดย: test IP: 58.8.90.19 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:14:10:15 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ แล้วเข้ามาอัพเรื่องสนุกๆ ให้ฟังเร็วๆ นะคะ