|
ทริปครอบครัว-จบ : " อ่างศิลา" ตลาดเก่า - ทะเล -พระตำหนัก
อ่านความเดิม ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 และ ตอนที่ 4
หลังจากที่อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลที่ร้านลุงชมในเมืองอ่างศิลา ก็แยกเป็น 2 คณะ บ้านอ่างศิลา...ก็พาเด็กๆ กับอาเรากลับในพักรอที่บ้าน ส่วนคนกรุงเทพก็มาเที่ยว"ตลาดเก่า 133 ปีอ่างศิลา" กันต่อ
"อ่างศิลา" เดิมนั้นคนพื้นที่เรียกกันว่า "อ่างหิน" ในสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวตะวันตกและคนบางกอกมาพักตากอากาศกันมาก ชื่ออ่างหินก็เริ่มเปลี่ยนแปลงให้ดูเป็นสากลมากขึ้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาส จังหวัดชลบุรี ได้ประทับแรมที่อ่างศิลา โดยมีพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณา "อ่างศิลา" ตอนหนึ่งว่า
"...เีรียกชื่อว่าอ่างศิลานั้น เพราะมีแผ่นดินสูงเป็นลูกเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ๆ เป็นหินดาด และเป็นสระยาวรีอยู่ 2 แห่ง แห่งหนึ่งลึก 7 ศอก กว้าง 7 ศอก ยาว 10 วา แห่งหนึ่งลึก 6 ศอก กว้าง 1 วา 2 ศอก ยาว 7 วา เป็นที่ขังน้ำฝน น้ำฝนไม่รั่วซึมไปได้ ท่านเจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบดี เห็นว่าเป็นประโยชน์กับคนทั้งปวง จึงให้หลวงฤทธิ์ศักดิ์ชลเขตร ปลัดเมืองชลบุรี เป็นนายงานก่อสร้างปากบ่อกั้นน้ำ มิให้น้ำที่โสโครกไหลกลับลงไปในบ่อได้ ราษฎร ชาวบ้านและชาวเรือไปมาได้อาศัยน้ำฝนในอ่างศิลานั้น บางปีถ้าฝนตกมาก ถ้าใช้น้ำแต่ลำพังชาวบ้านก็ได้ใช้น้ำทั้งสองแห่งและบ่ออื่นๆ บ้างพอตลอดปีไปได้ บางปีฝนน้อย ราษฎร์ได้อาศัยใช้แต่เพียง 5 เดือน 6 เดือน ก็พอหมดน้ำในอ่างศิลา แต่น้ำในบ่อแห่งอื่นๆ ที่ราษฎร์ขุดขังน้ำฝนไว้ใช้นั้น มีอยู่หลายแห่งหลายตำบล ถึงน้ำในอ่างศิลา สองตำบลนี้แห่งไปหมดแล้ว ราษฎรก็ใช้น้ำบ่อแห่งอื่นๆ ได้ จึงได้เรียกว่า "บ้านอ่างศิลา" มาจนถึงทุกวันนี้"
ตลาดอ่างศิลา เดิมนั้นมีการคมนาคมภายในหมู่บ้าน มีถนนสายหลักสายเดียว สร้างเมื่อสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อพ.ศ. 2501 โดยร่วมกับชาวอ่างศิลา ซึ่งต่อมามีการสร้างถนนสายลงทะเลขึ้นอีกสายหนึ่ง ปัจจุบันมีจำนวนประชากร 1,500 คน อาคารบ้านเรือนทั้งสองฝั่งถนน จำนวนประมาณ 180 หลัง
ถนนสายนี้ มีลักษณะอาคารเป็นเรือนแถว คล้ายๆ กับตลาดสามชุกอ่ะนะ ทางเทศบาลตำบลอ่างศิลาก็เลยปิ๊งไอเดีย สร้างจุดท่องเที่ยวให้กับพื้นที่ เปิดตลาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมซะเลย
สินค้าที่ขาย ก็มีทั้งของทะเลทั้งสด ทั้งแห้ง ขนม อาหารว่าง ที่ทำออกมาหน้าตาน่ากิน น่าซื้อ
ของที่ระลึกจำพวกโปสการ์ด เสื้อยืด ก็มีหลายเจ้า
โดยลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาในเขตอ่างศิลานี้ ประกอบด้วยหินแกรนิตหินที่ตำบลอ่างศิลานี้จะมีสีขาวนวลและสีเหลืองอ่อน มีความแกร่งมาก ก็เลยเป็นอาชีพทำ "ครกหิน" และแน่นอน สินค้าขึ้นชื่อแบบนี้ ก็ต้องมีอยู่แล้ว ทั้งขนาดใช้งานจริง และของจิ๋ว
เดินดู ย้ำ "ดู" มาจนสุดถนน ก็เจอทะเล
แล้วก็มาถึงอาคารสถาปัตยกรรมเก่า 2 หลัง คือ พระตำหนักมหาราช และพระตำหนักราชินี
เป็นอาคารสถาปัตยกรรมรูปทรงที่เรียกกันว่า "อิทธิพลทางตะวันตกแบบเมืองขึ้น" ตึกทั้งสองหลังนี้สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฎิสังขรณ์ ในระหว่างที่ทรงสำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งเสด็จประพาสยุโรป พระราชทานนามตึกหลังใหญ่ว่า "ตึกมหาราช" ตึกหลังเล็กว่า "ตึกราชินี" ให้เป็น อโรคยาสถานสืบมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จเยือนตำบลอ่างศิลา เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2497
กรมศิลปากรได้ประกาศให้ตึกมหาราชและตึกราชินีขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2539
ภายในอาคาร 2 หลังนี้จัดแสดงภาพถ่ายเก่าเกี่ยวกับชีวิตชาวอ่างศิลาในอดีต และมีนักเรียนเป็นมัคคุเทศน์น้อยคอยให้ข้อมูลด้วย
เรามีเวลาที่นี่แค่ 1 ชม. ก็เลยได้เดินดูแค่ตลาดกับตึกเก่า ที่จริงแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย คือ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ วัดอ่างศิลา ฟาร์มหอยนางรม ฟาร์มหอยแมลงภู่ สะพานปลาอ่างศิลา และป่าโกงกางที่เป็นจุดชมค้างคาว
เอาไว้มาเยี่ยมครอบครัวอ่างศิลาคราวหน้า ...ค่อยเที่ยวอ่างศิลาให้ทะลุปรุโปร่งกว่านี้ การที่มีคณะกรรมชุมชนและคนในชุมชนลุกขี้นมาปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดสรรพื้นที่่ ทำการประชาสัมพันธ์ เชื่อว่าต่อไป เมืองอ่างศิลาก็คงเป็นเมืองท่องเที่ยว มีคนหยุดเที่ยวมากขึ้น แทนที่จะเป็นเมืองผ่านอย่างแต่ก่อนมา
อ้อ...แม้ว้าอากาศจะร้อน ก็เป็นเรื่องของสภาพอากาศค่ะ หวังว่าทางตลาดจะไม่ทำหลังคากันร้อนเิ่พิ่มขึ้นมานะ (แว่วๆ จากเสียงตามสาย) ถ้าเป็นแบบนั้น เราว่ามันจะหมดอารมณ์การเดินตลาดอ่ะนะ
เป็นอันว่าทริปครอบครัวของเราจบกันที่ตลาดนี้แหละ กินข้าวเย็นที่บ้านพี่สาว แล้วคนกรุงเทพก็มุ่งหน้ากลับบ้านกันได้
ปล. ข้อมูลเชิงประวัติจากเอกสารแผ่นพับที่รับแจกมาจากประชาคมชาวอ่างศิลา
Create Date : 29 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 21:27:01 น. |
|
12 comments
|
Counter : 2337 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: no filling วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:32:45 น. |
|
โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:46:04 น. |
|
โดย: ภาวันต์ วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:36:52 น. |
|
โดย: ชรันจ์ วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:04:58 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:46:08 น. |
|
โดย: nulaw.m วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:36:36 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:25:22 น. |
|
โดย: บุยบุย วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:53:32 น. |
|
โดย: Lookjeab (นัทธ์ ) วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:21:32:23 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:22:44:15 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|