<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
23 ธันวาคม 2551
 

วัดวิชุนราช-วัดอาฮาม-วัดเชียงทอง



อิ่มบุญอิ่มอาหารเช้า ก็เริ่มเที่ยวกันต่อได้แล้ว
มาหลวงพระบางทั้งที จะไม่เที่ยววัดได้ไงกัน...
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในตัวเมืองหลวงพระบางก็คือ วัด
ผ่านเส้นทางไหน ก็จะเห็นวัดแทรกตัวอยู่ทุกครั้งทื่เลี้ยวรถ
เหมือนกับกรุงเทพมหานครบ้านเรานั่นแหละ...
เพียงวัดที่นี่ ไม่มีตึกระฟ้าบดบังความงามของยอดช่อฟ้า
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะกฎ เพื่อรักษาสถานภาพ "เมืองมรดกโลก"
การปรับปรุงสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งการสร้างขึ้นใหม่ ต้องได้รับอนุญาตจากทางการซะก่อน
และมีการกำหนดรูปแบบ และความสูงด้วย
คือ ถ้าสร้างแบบหลวงพระบาง หรือแบบลาว ...ก็ผ่านง่ายหน่อย
แต่ถ้าจะสร้างตึกแบบฝรั่ง....ก็ต้องพิจารณากันนาน
และเพราะความเข้มงวดแบบนี้....เราจึงได้เห็น "เมืองมรดกโลก" ที่ยังรักษาสภาพความเป็นอยู่จริงเหมือนครั้งที่เคยเป็นมาในอดีต
ต่างการเมืองศรีสัชณาลัย เมืองสุโขทัย ของบ้านเรา ที่เหลือแต่ซากปรักหักพังไว้ให้เราจินตนาการถึงความรุ่งเรืองที่เคยเป็นมา

วัดแรกที่เข้าชม คือ วัดวิชุนราช
พระเจ้าวิชุนราช ทรงสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2046 เพื่อประดิษฐานพระบางที่อัญเชิญมาจากเมืองเวียงคำ
ในสมัยฮ่อบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง วัดวิชุนราชถูกเผาทำลาย
จนถึงรัชสมัยพระเจ้าสักกะรินจึงได้บูรณะวัดนี้ขึ้นใหม่อีกครั้งในปีพ.ศ. 2457 โดยมี อองรี มาร์แชล นายช่างฝรั่งเศสผู้เคยบูรณะนครวัดเป็นแม่งาน

ตัวสิมหรือพระอุโบสถเป็นงานแบบสกุลช่างไทยลื้อ หลังคาลาดคลุมทั้งสี่ด้าน
ระเบียงด้านหน้ามีชายคาใหญ่ยื่นลงมาคลุม ทำให้สิมลักษณะนี้ไม่มีหน้าบัน


ช่อฟ้าเยอะๆ แบบนี้แสดงว่าเป็นวัดกษัตริย์สร้าง


ตอนที่พวกเราเดินทางไปถึง เป็นช่วงเวลาที่มีพิธีกรรมสงฆ์ในพระอุโบสถค่ะ
ก็เลยเข้าไปกราบพระประธานไม่ได้
แต่ขอแอบดูหน่อยเถอะนะ ....ก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ปีนเก้าอี้ส่องกล่องอยู่ก่อนเรานี่นา


ภายในบริเวณวัดวิชุนราช มีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจอยู่ด้านหน้าวัด นั่นคือ
พระธาตุหมากโม ....เป็นเจดีย์ปทุม หรือ พระธาตุดอกบัว แต่ที่เรียกว่า หมากโม
ก็เพราะเห็นว่ามีรูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่งหรือทรงโอคว่ำ
พระนางพันตีนเซียง พระมเหสีพระเจ้าวิรุนราชซึ่งเป็นชาวพวน เมืองเชียงขวาง โปรดให้สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2057

รูปทรงจริงๆ ขององค์ธาตุที่ตั้งใจจะสร้างนั้น ก็จะคล้ายกับลักษณะของพระธาตุพนม...
มีแบบจำลองพระธาตุออกนี้ (หากสร้างเสร็จ) จัดแสดงให้ดูที่หอพิพิธภัณฑ์
ที่สร้างไม่เสร็จก็เพราะมีศึกประชิดเมืองนั่นแหละ

ช่วงปล่อยเดินเที่ยวถ่ายรูป เราก็เดินวนไปรอบสิม แล้วก็เดินผ่าน "ซุ้มประโขง" ตรงรอยต่อของเขตพัทธสีมาเข้าสู่เขตของ "วัดอาฮาม"

ซุ้มประตูโขงวัดวิชุนราชนี้ เป็นซุ้มประตูที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาซุ้มประตูที่เหลืออยู่ในหลวงพระบาง
และเป็นลักษณะของวัดแบบล้านนาและล้านช้างในอดีต

"วัดอาฮาม" เป็นวัดเล็กๆ เป็นสถานที่เก็บ "ปู่เยอ-ย่าเยอ" สร้างโดยพระเจ้ามันราชเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2361
ตรงบริเวณที่เจ้าฟ้างุ้มตั้งหอเสื้อเมืองเมื่อครั้งสถาปนา นครศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาวจุดที่ตั้งวัดจึงถือว่าเป็นสะดือเมืองของหลวงพระบาง


นี่ก็วัดกษัตริย์สร้างนะ แต่ไหงช่อฟ้าเล็กนักก็ไม่รู้...



หมดเวลาแล้ว ก็มารอที่จุดนัดหมายหน้าวัด เพื่อเดินทางต่อ


สถานที่ต่อไป คือ วัดเชียงทอง พลาดไม่ได้เชียวล่ะ
วัดเชียงทองสร้างขึ้นระหว่างปีพ.ศ.2102 - 2103 ในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทร์
เป็นวัดที่มีความโดดเด่นที่สุดบนแผ่นดินลาว
และถือเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์ของศิลปะสกุลช่างล้านช้าง
และวัดนี้เป็นเพียงวัดเดียวในเมืองหลวงพระบาง ที่ไม่ถูกพวกฮ่อเผาในการศึกเมือปีพ.ศ.2428



นักท่องเที่ยวเยอะมาก จนเราไม่สามารถจะหามุมถ่าย "สิม" ที่เหมาะใจเราได้
ก็เลยได้แต่ถ่ายเจาะ เป็นมุมๆ ไป


สิมเป็นสถาปัตยกรรมล้านช้างที่สมบูรณ์แบบ หลังคาซ้อนสามชั้น เรียกว่าหลังคาปีกนก
ป้านลมอ่อนช้อยโค้งยาวเกือบจรดฐาน เป็นศิลปะแบบหลวงพระบางแท้ๆ
ทั้งภายนอกและภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังลายรดน้ำ
ใช้เทคนิคลงรักปิดทอง ที่ชาวลาวเรียกว่า "พอกทอง"








ด้านหลังสิมมีลายประดับกระจกสีเป็นรูปต้นไม้ใหญ่ หมายถึงต้นทองหรือต้นงิ้วเนื่องจากบริเวณนี้เป็นป่าต้นทองมาก่อน ชื่อเมืองเชียงทองและชื่อวัดเชียงทองก็มาจากป่าต้นทองนี้
เล่ากันว่า เมือร้อยกว่าปีก่อนมีต้นทองขนาดสามสีคนโอบขึ้นอยู่ในบริเวณวัด
เมือพระเจ้าศรีสว่างวัฒนาได้ปฏิสังขรณ์วัด
จึงให้ช่างประดับดอกดวงติดแก้วสีไว้หลังสิม เพื่อเป็นที่ระลึก


เยื้องกับด้านหน้าของสิมเป็น "โรงเมี้ยนโกศ" เป็นที่เก็บพระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และราชรถ
สร้างเมือปีพ.ศ.2504 สมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ออกแบบโดยเจ้ามณีวงศ์
ด้านหน้าเป็นงานแกะสลักไม้เรื่องรามเกียรติ์ ที่งามมากกกกกกกกก ฝีมือแกะสลักเป็นฝีมือเพี้ยตัน


ด้านหลังสิมมีวิหารน้อยที่สำคัญสองหลัง
หนึ่งในนั้น "หอพระม่าน" พระพุทธรูปสำคัญอีกองค์หนึ่งของชาวหลวงพระบาง
หอนี้จะเปิดเพื่ออัญเชิญพระม่านออกมาให้ประชาชนสรงน้ำกันเฉพาะในช่วงสงกรานต์เท่านั้น
และจะต้องกระทำการสรงน้ำพระม่านเป็นองค์สุดท้าย
เพราะหากอัญเชิญออกมาไม่ถูกเวลา จะทำให้อากาศแปรปรวน
และออกอัญเชิญออกมาในขณะที่วัดอื่นๆ ยังสรงน้ำพระพุทธรูปประจำวัดนั้น
รัศมีของพระม่านจะทำให้รัศมีพระพุทธรูปองค์อื่นๆ หมองไป

ตัวหอนี้ ตกแต่งด้วยกระจกสีเป็นเรื่องราวนิทานพื้นบ้าน และวิถีชีวิตชาวหลวงพระบาง
ลักษณะการประดับนี้ ชาวลาวเรียกว่า "ประดับดอกดวง"
สร้างขึ้นเมื่อครั้งบูรณะวัดเชียงทองครั้งใหญ่เมื่อปีพ.ศ.2471





เราชอบศิลปะการประดับดอกดวงของช่างลาวนะ
เป็นเรื่องเป็นราว ต่างจากการประดับกระจกในงานสถาปัตยกรรมของไทย


แต่ความแวววาว สะท้อนแสงแดดเนี่ย สู่งานช่างบ้านเราไม่ได้จริงๆ
เราดูภาพถ่ายฝีมือตัวเอง เทียบกับภาพที่เห็นในนิตยสารที่ผ่านก่อนเดินทาง
ช่างต่างกันอะไรอย่างนี้ ....


แต่นี่คือ สภาพจริงๆ ของวัดเชียงทอง สีสันไม่ฉูดฉาดบาดตาอย่างที่เคยเห็น
นี่ถ้าแต่งภาพเป็นนะ ...รับรอง...จะงามเนี๊ยบยิ่งกว่านี้
ถึงจะไม่สดใสแบบวัดในกรุงเทพฯ
แต่ลักษณะศิลปะอย่างนี้ ก็ไม่มีให้เห็นตามวัดในกรุงเทพฯ อีกเช่นกัน


ใช้เวลาที่วัดเชียงทองนานกว่าที่อื่นๆ เพราะสถาปัตยกรรมงามๆ มีให้ชมเยอะ
เรื่องเล่าก็แยะ...คุณบุญเล่าแล้ว...ก็ไปฟังไกด์กลุ่มอื่นๆ เล่าบ้าง
ไหว้พระประธาน ขอพรและอำลา จากวัดเชียงทองไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายตามโปรแกรมต่อไป





ปล. เรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ คัดย่อจาก "คู่มือท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบาง โดย นายรอบรู้"




Create Date : 23 ธันวาคม 2551
Last Update : 24 ธันวาคม 2551 9:15:42 น. 6 comments
Counter : 4323 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อกค่ะ

สุขสันต์ในเทศการสิ้นปี คริสต์มาส กะ ปีใหม่นะคะ
 
 

โดย: BeachBum วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:8:49:31 น.  

 
 
 
เป็นวัดที่สวยนะคะ ^_^ แวะมาขอบคุณสำหรับคำอวยพรเนื่องในวันเกิดด้วยคะ ขอให้คุณนัทธ์มีความสุขมๆช่นกันนะคะ
 
 

โดย: sawkitty วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:15:47:50 น.  

 
 
 
โอ้ๆๆได้เที่ยววัด หลวงพระบางสมใจเมื่อมาบ้านนี้
อยากไปมากๆค่ะ ตั้งใจว่าชีวิตนี้ต้องไป
องค์ธาตุหมากโมงามมาก
วัดเชียงทองๆๆจำไว้ค่ะ จะได้มุ่งไปบ้าง
ขอบคุณมากๆที่เอามาฝาก รูปถ่ายได้ขนาดนี้ก็แจ่มแล้วค่ะ
 
 

โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน IP: 124.121.52.5 วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:19:48:09 น.  

 
 
 
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:20:28:48 น.  

 
 
 
คุณนัทธ์อัพบลอกทุกวันเลย

วัดลาวก็สวยดีนะคะ เอากระจกมาตกแต่งเป็นรูปภาพเป็นเรื่องเป็นราวได้เลย (แต่วัดไทยส่วนใหญ่จะวาดเอา คนละแบบกัน)

สงสัยอีกแล้วค่ะ เงินลาวนี่มีแต่แบงค์อย่างเดียว ไม่มีเหรียญใช่มั้ยคะ
 
 

โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:20:58:44 น.  

 
 
 
ขอบคุณจริงๆ ครับ ที่แวะไปอวยพรวันเกิดผม
ขอให้มีความสุขในทุกๆ วันเช่นกันนะครับ

และก็ Merry X'mas & Happy New Year 2009 นะครับ

ผมทำ Postcard สคส. มาฝากด้วยครับ


 
 

โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:23:26:05 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com