|
ลำปาง : พระแก้วดอนเต้ากับนางสุชาดา
อ่านความเดิมตอนที่แล้ว คลิก
จากสถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม 3 สาวก็ขึ้นรถม้า ล่วงหน้ามายัง วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
คนขับรถม้า จัดมุมจอดรถไว้ให้่ถ่ายรูปเสร็จสรรพ์ มุมสวยด้วยล่ะ
เราจัดการจ่ายค่าบริการไปซะก่อน แล้วบอกใ้ห้น้องเค้ารอ ก็ยังมีคนในทริปยังไม่ได้ถ่ายรูปกับม้า กับรถม้า และบนรถม้า น้องชายใจดี ไม่ว่าอะไร ...นั่งรอไปอย่างใจเย็น
เ่ดาผิดซะทีไหนกันเล่า...รถตู้ตามมาถึงสมาชิกส.ว.ก็ลงมาต่อคิว ผลัดกันถ่ายรูปหมู่รูปเดี่ยวกันอย่างสนุกสนาน ลืมกันไปแล้วว่า เราอยู่วัด...เย็นแล้วด้วย.. พี่ไกด์ปล่อยให้ถ่ายรูปกันก่อน แล้วค่อยเตือนว่า เดี๋ยววัดจะปิด บรรดาสาวๆ ก็เลยนึกได้ว่า ยังไม่ได้ไหว้พระและชมวัดกันเลย
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำวัง เป็นวัดศูนย์กลางของเมืองเขลางค์ยุคต้น เคยประดิษฐานพระแก้วมรกตอยู่ถึง 12 ปี
พวกเราเข้าไปกลับพระในพื้นที่เปิดกันก่อน ซึ่งก็คือ มณฑปแบบพม่า หลังคาลดชั้น 7 ชั้น เรียกว่าทรง "พญาธาตุ"
ภายในประดิษฐานพระบัวเข็ม เป็นพระพุทธรูปประธานแบบพม่า
พระวิหารหลวง (พระอุโบสถ) หันหน้าสู่แม่น้ำวัง การตกแต่งโก่งคิ้วและหน้าบันเป็นลายแกะไม้ ฝีมือช่างพื้นถิ่น
พวกเราไม่ได้เข้าพระอุโบสถหรือพระวิหารกันเลย เพราะเย็นมากแล้ว โบสถ์และิวิหารก็ปิด...ไม่อนุญาตให้เข้าชมแล้ว เณรเดินกันจีวรปลิวผ่านหน้าพวกเราไป .....กวาดลานวัด
เดินเลยมาชมทางด้านวัดสุชาดารามบ้าง
วัดสุชาดาราม สร้างขึ้นราวพ.ศ.2325 2352 เมื่อครั้งชาวเชียงแสนถูกกวาดต้อนมาตั้งชุมชนในเมืองเขลางค์ เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของนางสุชาดา หลังจากได้รับโทษประหารชีวิตด้วยความเข้าใจผิด และมาปรากฏความจริงในภายหลัง เชื่อกันว่าที่ตั้งของวัดแห่งนี้คือบ้านและไร่แตงโมของเจ้าแม่สุชาดาในอดีต ต่อมาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2527 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการรวมวัดสุชาดารามเข้ากับวัดพระแก้วดอนเต้า และเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดพระแก้วดอนเต้ามสุชาดาราม
อุโบสถวัดสุชาดารามเป็นสถาปัตยกรรมแบบพื้นเมือง ฝีมือช่างเชียงแสนมีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยภาพจิตรกรรมลายไทยลงรักปิดทองภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยบนฐานชุกชี
หน้าบันเป็นลายแกะไม้ ละเอียดงดงาม
ประตูปิดแล้วแล้วเช่นกัน แต่ยังอยากรู้อยากเห็น ก็เลยเอากล้องแนบรูเล็กบนปานประตู เก็บภาพพระประธาน มีตุงไม้แขวนคู่ เสาตกแต่งเสาด้วยลายคำ เชิงประดับกระจก
ส่วนทางด้านพระวิหาร ด้านข้างนั้น มีป้ายห้ามผู้หญิงขึ้นด้วยล่ะ
เราเห็นประตูสวยมาก...ก็เลยต้องซูมสุดกำลังกล้องเก็บภาพไว้
หลังพระอุโบสถก็มีพระเจดีย์ประธานเช่นเดียวกับวัดทางล้านนาที่ไปตระเวนชมมาทั้งวัน
ห้าโมงครึ่งแล้ว..สมควรแก่เวลาซะที ...จบทริปเที่ยววัดในหนึ่งวันภายในเมืองลำปาง เมืองที่ "ไม่เห็นมีอะไร" แต่เรายังไม่จุใจเลย...หลายวัดที่เพื่อนๆ ในห้อง BP แนะนำไว้และทีปรากฎในหนังสือ ก็ยังไม่ได้ไปชม ไปไหว้กันเลย ตั้งใจกันว่า...จะจัดทริปมาเที่ยวกันใหม่ในปีหน้า แต่ตอนนี้ ...กลับไปบ้านพักข้าราชการออป. ล้างหน้าล้างตา...เตรียมไปกินข้าวเย็นกันได้แล้ว
ปล. ...ยิ่งเห็นศิลปะพม่าในแผ่นดินไทย ยิ่งรู้สึกว่าก่อนนั้นอิทธิพลของพม่ากว้างไกลนัก ความอยากไปเยือนแผ่นดินเจดีย์ทองยิ่งคุกรุ่นขึ้นเรื่อย
Create Date : 10 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 21:02:03 น. |
|
9 comments
|
Counter : 2690 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: no filling วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:18:25:31 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:21:10:59 น. |
|
โดย: OFFBASS วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:21:30:43 น. |
|
โดย: http://twitter.com/wiina IP: 124.122.155.8 วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:22:51:06 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:23:21:48 น. |
|
โดย: Ja-Aey IP: 58.8.25.221 วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:18:02:45 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:21:42:19 น. |
|
โดย: mutcha_nu วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:23:05:55 น. |
|
โดย: อรรถ IP: 58.147.28.58 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:13:51:34 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|