Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
19 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 

ล้างใบหน้าให้สวยใส

ล้างใบหน้าให้สวยใส

รู้หรือไม่ว่าการล้างหน้าเป็นพื้นฐานการดูแลผิวหน้าที่สำคัญที่สุด
การกำจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออก คงไว้ซึ่งผิวที่สะอาดบริสุทธิ์ เป็นหนทางนำไปสู่การมีผิวสวย
มาเรียนรู้วิธีการล้างใบหน้าอย่างถูกขั้นตอน เพื่อให้ผิวสวยกำเนิดขึ้นบนใบหน้าคุณ

การล้างหน้า ซึ่งทำเป็นประจำทุกวันนั้นทำให้ลืมความสำคัญที่แท้จริงไป
สิ่งสกปรกที่ชะล้างออกไปไม่หมด เหลือตกค้างอยู่บนใบหน้า ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมาได้มากมาย

การล้างหน้าที่กระทำอย่างถูกวิธี
จะทำให้ระบบการผลัดเซลล์ผิวดำเนินได้อย่างราบรื่น ทำให้ผิวคงความเนียนสวยไว้ได้

ระบบการผลัดเซลล์ผิว หมายถึง
การที่เซลล์ผิวใหม่ๆกำเนิดขึ้นจากชั้นล่างสุด แล้วลอยตัวขึ้นมาเป็นชั้นๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ชั้นบนสุดของผิว
และจะหลุดลอกออกไปกลายเป็นขี้ไคลหรือเซลล์ผิวเก่าๆที่ตายแล้ว ผิวที่เกิดใหม่จะขึ้นมาแทนที่
วงจรที่ดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้จึงเป็นรากฐานของผิวสวย ทำให้ผิวแลดูชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง มีสุขภาพดีนั่นเอง

ในทางกลับกัน การล้างหน้าที่ไม่พิถีพิถันพอ
ทำให้สิ่งตกค้างสะสมบนใบหน้าหรืออุดตันแน่นตามรูขุมขน จึงเป็นอุปสรรคต่อการผลัดเซลล์ผิว
เกิดปัญหาผิวกระด้าง สิวอุดตัน สิวเสี้ยน หรือปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำได้ในที่สุด
นอกจากนี้เซลล์ผิวเก่าที่ตกค้างอยู่มักจะขาดความชุ่มชื่น ทำให้ใบหน้าแห้งและเป็นต้นเหตุของการเกิดริ้วรอยได้

การล้างหน้าในทุกๆ วัน จึงเป็นการจัดให้ระบบการผลัดเซลล์ผิวดำเนินไปอย่างปกติ
ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้ผิวสวยและแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวพร้อมรับสารบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้ดีขึ้นด้วย


สิ่งสกปรก ก็มีหลายแบบด้วยกัน

สิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้า เกิดได้จากหลายๆปัจจัย
ตามปกติผิวหน้าจะมีการขับน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกมา เคลือบผิวชั้นนอกเอาไว้ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นภายในผิว
แต่เมื่อน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวเหล่านี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงถูกออกซิไดซ์ไป จะก่อให้เกิดสารที่เป็นอันตรายต่อผิวได้

สิ่งสกปรกภายนอกไม่ว่าจะเป็นผุ่นละออง ควันท่อไอเสียหรือรอยเครื่องสำอางที่เช็ดทำความสะอาดออกไม่หมด
เมื่อสะสมบนใบหน้านานๆ เข้าก็ทำให้ระบบการทำงานของเซลล์ถูกระทบเช่นกัน

ข้อสำคัญคือ หมั่นล้างทำความสะอาดใบหน้าทั้งเช้าและเย็น
โดยเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว และใช้เพียงฟองครีมสัมผัสใบหน้าอย่างอ่อนโยน


ประเภทของสิ่งสกปรก มีทั้งจากจากภายในและภายนอก

ไขมัน มีหน้าที่ในการรักษาระดับความชุ่มชื่นและช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม
แต่ถ้าตกค้างอยู่บนใบหน้านานเกินไป จะเปลี่ยนสภาพและเป็นสาเหตุให้ผิวร่วงโรยเร็วขึ้น

เหงื่อ เป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว และป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
แต่ถ้ามีมากเกินไปจะทำให้เสียสมดุล pH ของผิวได้

เซลล์ผิวเก่า
ระบบผลัดเซลล์ผิวที่ดำเนินไปอย่างไม่ปกติ เป็นสาเหตุให้เกิดการตกค้างของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ทำให้ผิวแลดูหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื่นอันเป็นต้นเหตุของปัญหาสิวและริ้วรอย

แบคทีเรียบนผิว ช่วยป้องกันผิวจากเชื้อแบคทีเรียภายนอกต่างๆ
แต่ถ้าทำปฏิกิริยากับไขมันที่ตกค้างบนใบหน้า จะเป็นสาเหตุให้เกิดสิวอักเสบได้

ฝุ่นละออง ควัน ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว ทำให้เกิดการอักเสบหรือแพ้ต่างๆ

แบคทีเรีย เชื้อรา ต้นเหตุของโรคที่เกิดกับผิว
เครื่องสำอางตกค้างอยู่บนใบหน้า เนื่องจากการทำความสะอาดออกไม่หมดจะไปขัดขวางการทำงานของระบบ
ผลัดเซลล์ผิว สิ่งสกปรกต่างๆ เมื่อตกค้างอยู่บนผิวหน้า จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา
อันจะก่อให้เกิดปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำ หรือปัญหาริ้วรอย เป็นต้น
จึงควรทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดอยู่เสมอ

สิ่งสกปรกนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Water-base และ Oil-base
สิ่งสกปรกจำพวก Water-base สามารถทำความสะอาดออกได้ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
แต่สิ่งสกปรกพวก Oil-base เช่น เครื่องสำอางหรือครีมกันแดดจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ จำพวกคลีนซิ่ง
ทำความสะอาดใบหน้าเสียก่อน จึงเข้าสู่กระบวนการล้างหน้าในขั้นตอนต่อไป

เผยผิวสวยอย่างมั่นใจด้วยเทคนิคใหม่การล้างหน้าด้วย " ฟอง"
วิธีการล้างหน้าด้วยฟองสบู่นั้นเชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพมาก ล้างสิ่งสกปรกออกได้อย่างหมดจด
ยิ่งฟองครีมละเอียดเล็กเท่าไร พื้นที่ผิวในการดักจับสิ่งสกปรกก็จะเพิ่มมากขึ้น
ในทางตรงกันข้ามฟองสบู่ที่ใหญ่ จะมีพื้นผิวสัมผัสกับสิ่งสกปรกได้น้อยกว่า จึงอาจชะล้างออกไม่หมด
และฟองสบู่ใหญ่ๆ ยังมีข้อเสียคือ แตกง่ายอีกด้วย จึงควรถูให้เกิดฟองครีมเล็กละเอียดจนมีปริมาณมากพอ

ผิวหน้าเปราะบางและละเอียดอ่อนมาก อ่อนไหวได้ง่ายกับสิ่งกระตุ้นต่างๆ จึงควรใช้ฟองสัมผัสอย่างเบามือ
การขัดถูใบหน้าแรงๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจก่อให้เกิดรอยเล็กๆบนผิวหน้า ซึ่งอาจเป็นช่องเปิดให้ความชุ่มชื่นระเหยไป
ทำให้ใบหน้าแห้งได้ง่ายขึ้น ไวต่อการถูกกระตุ้นจากรังสียูวีมากขึ้น

ในกรณีที่ผิวหน้าถูกขัดถูเป็นประจำซ้ำไปซ้ำมา
จึงทำให้เกิดการสะสมตัวของเมลานินเป็นจุดด่างดำบนใบหน้าได้
วิธีที่ถูกต้องทำได้โดยไม่ต้องออกแรงขัดถู
เพียงใช้ฟองครีมอันละเอียดอ่อนเป็นเหมือนตัวกลาง ระหว่างมือกับผิวหน้าและถูให้ฟองสบู่กลิ้งไปมา
เพื่อเป็นตัวจับเอาสิ่งสกปรกออกมาแทนนั่นเอง


มอบความชุ่มชื่น หลังล้างหน้าทันที
ภายหลังการล้างหน้า สิ่งที่สำคัญคือควรเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหน้าทันที
เพราะสารเคลือบผิวตามธรรมชาติจะถูกชำระล้างออกไปด้วย ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ใบหน้าแห้งได้
ซึ่งกว่าสารเคลือบผิวนี้จะก่อตัวขึ้นใหม่ต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง
หลังการล้างหน้าจึงจำเป็นต้องเติมความชุ่มชื่นให้ผิว เพื่อใช้เป็นปราการป้องกันแทนสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ
โดยการเติมน้ำให้ผิวด้วยโลชั่น จากนั้นจึงบำรุงด้วยครีมน้ำนมในขั้นตอนต่อไป


ล้างใบหน้าให้สวยใส

How to ล้างหน้าด้วย " ฟอง "

การใช้ฟองอันละเอียดอ่อนสัมผัสกับใบหน้าแทนฝ่ามือ จะช่วยลดการเสียดสี ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองค่ะ

1. ล้างมือให้สะอาด
มือที่ไม่สะอาดอาจจะทำให้เกิดฟองได้ยากกว่า จึงควรล้างให้สะอาดเสียก่อนและล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก่อนด้วย

2. เทคนิคการปั่นฟอง
ใช้มือข้างหนึ่งรองผลิตภัณฑ์ล้างหน้าไว้ หยดน้ำลงไปทีละนิดแล้วเริ่มถูให้เกิดฟอง
โดยมือที่รองอยู่ด้านล่างให้ห่องุ้มเหมือนถ้วย ส่วนมือด้านบนให้กวนฟองเร็วๆ
โดยทำนิ้วให้บานออกเล็กน้อย เพื่อเปิดให้อากาศเข้ามาสัมผัสได้มากขึ้น

3. ใช้ครีมฟองนุ่มสัมผัสใบหน้า
ใช้ครีมฟองเป็นตัวกลางลดแรงเสียดทานระหว่างมือกับใบหน้า จากนั้นลูบไล้ฟองให้ทั่วใบหน้า

4. ล้างหน้าด้วยน้ำตามไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง
ล้างด้วยน้ำตามหลายๆ ครั้งจนสะอาด ตรวจดูกับกระจกให้แน่ใจว่าไม่มีคราบสบู่หลงเหลือ

5. ใช้ผ้าขนหนูค่อยๆซับน้ำออก
หลังจากล้างหน้าเสร็จให้ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดค่อยๆซับน้ำออกจนแห้ง ไม่ควรถูไปมาบนใบหน้า
จากนั้นควรบำรุงต่อโดยการเติมความชุ่มชื่นให้ผิวทันที


ที่มา : www.dhc.co.th


สารบัญ ความงาม




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552
1 comments
Last Update : 18 เมษายน 2553 18:30:34 น.
Counter : 720 Pageviews.

 

ความรู้นี้เหมาะกับคนรักสวยรักงามจริงๆค่ะ

 

โดย: coyotemomay 19 กุมภาพันธ์ 2552 17:05:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.