Group Blog
All Blog
### ความหมายของสังฆทาน ###









"ความหมายของสังฆทาน"

ถาม : การบูชาชุดสังฆทาน

ผ้าไตรจีวรจากวัดด้วยเงินสด

 แล้วนำมาถวายซ้ำได้หรือไม่ครับ

สมควรหรือไม่ครับ

พระอาจารย์ : อันนี้มันก็แล้วแต่

จะว่ากัน (หัวเราะ)

 คือยุคนี้บางคนก็ขี้เกียจ ก็เลยเอาง่ายๆ

 อยากถวายสังฆทาน

และก็เข้าใจคำว่าสังฆทานผิดไป

คิดว่าคำว่าสังฆทานมันคือ

ของที่ใส่กระแป๋งเหลืองๆ อย่างนี้

แล้วก็ถวายพระก็เรียกว่าเป็นสังฆทาน

 อันนี้ก็ไม่ใช่แล้ว

ความหมายของสังฆทานก็คือ

 ถวายของให้กับส่วนกลางส่วนรวม

 ไม่ได้ถวายให้กับบุคคลหนึ่งบุคคลใด

 ของที่จะถวายเป็นสังฆทานนี้

เทียนเล่มหนึ่งก็ถวายได้

ผ้าจีวรผืนหนึ่งก็ถวายได้

หรือเงินทองก็ถวายได้เลย

ไม่ต้องไปซื้อกระแป๋งมาเวียนกัน

ให้มันเป็นเหมือนกับการเล่นลิเกไป

ถวายเงินให้เป็นส่วนกลางของวัด

ไปเพื่อปฏิสังขรณ์ เพื่อจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

หรืออะไรต่างๆ นาๆ

 ก็เรียกว่าเป็นสังฆทานแล้ว

คือเป็นการให้แก่ส่วนรวม

ถ้าให้แก่บุคคลนี้ เรียกว่าบุคลิกทาน

 ที่พระพุทธเจ้าท่านเน้นว่า

การถวายสังฆทานมีประโยชน์กว่า

การถวายแก่บุคคล

เพราะบุคคลนี้มีอายุสั้น

ไม่เกิน ๘๐~๙๐ ปีก็ตาย

แต่ส่วนรวมนี้มันจะมีตัวตายตัวแทนกัน

 มีพระมาบวชกันอยู่เรื่อยๆ

พระแก่ตายไป

พระหนุ่มก็มีบวชเข้ามาใหม่

 ก็ยังจะมีวัดมีสงฆ์อยู่เรื่อยๆ

ให้มาทำหน้าที่ เป็นที่พึ่ง

ของศรัทธาญาติโยมทั้งหลาย

 ถ้าเราไปพึ่งหลวงพ่อหลวงตาองค์เดียว

 เดี๋ยวท่านตายไปเราก็ไม่มีที่พึ่ง

อย่างพระพุทธเจ้า นี้

แม่ของพระพุทธเจ้า

ก็อยากถวายจีวรให้กับพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าก็บอกไปถวายเป็นสังฆทาน

อย่ามาถวายเราพยายามสามครั้ง

พระพุทธเจ้าก็บอกสามครั้ง

แล้วก็บอกเหตุผลว่า

ถวายให้เป็นสังฆทาน

จะทำให้ศาสนาอยู่ได้ถึงห้าพันปี

 ถ้าถวายให้เราคนเดียวนี้

 อยู่ได้ ๘๐ ปีก็หมด

เพราะถ้าเราตายศาสนาก็หมด

 เพราะถ้าถวายให้เราคนเดียว

พระรูปอื่นไม่มีอะไรถวาย

เขาก็ไม่มาบวชกัน

บวชแล้วมันไม่มีจีวรใส่

ไม่มีอาหารกินก็อยู่ไม่ได้

ฉะนั้น เราต้องทำนุบำรุงส่วนรวม

 อย่าไปเจาะจงแต่เฉพาะบุคคล

เพราะว่าบุคคลพออายุหมดเขาก็หมดไป

 ถ้าเราทำนุบำรุงส่วนรวม

นี้ก็จะมีตัวตายตัวแทน

มาเติมมาเพิ่มอยู่เรื่อยๆ

 สงฆ์ก็จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ

มีการบวชพระอยู่เรื่อยๆ

พระเก่าพระแก่ก็ตายไป

พระบวชใหม่ก็เจริญเติบโตขึ้นมา

เป็นพระเก่าพระแก่ต่อไป

มันก็มีการสืบทอดกันไปเรื่อยๆ

 ฉะนั้น การถวายของให้แก่ส่วนรวม

ที่เรียกว่าสังฆทาน อันนี้จึงเป็นประโยชน์

มากกว่าการถวายให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง

ดังนั้น การถวายสังฆทานอันนี้

ไม่ได้อยู่ที่ของที่อยู่ในกระแป๋งสีเหลือง

 ของอะไรก็ได้ที่เป็นของสมควร

แก่สมณะบริโภคนี้

ถวายได้เป็นสังฆทานได้หมด

 เช่นศาลาหลังนี้ก็สร้างเสร็จ

 ก็ถวายให้เป็นของสังฆทานไป

ไม่ได้เป็นของพระรูปใดรูปหนึ่ง

มีไว้สำหรับทุกคนที่อยู่ในวัดนี้

มาใช้ทำกิจกรรมร่วมกันได้

 โบสถ์ เจดีย์ กุฎินี้ก็เป็นสังฆทานทั้งนั้น

 ฉะนั้น ของที่เราอยากจะถวายสังฆทาน

เราก็แจ้งไปกับทางวัดว่า

ขอถวายเป็นส่วนกลางไป ส่วนรวมไป

 ไม่ได้ถวายให้กับรูปใดรูปหนึ่ง

อันนี้ก็จะไปเป็นของส่วนกลางไป

ถ้าถวายให้เป็นของรูปใดรูปหนึ่ง

ท่านก็จะเอาไปใช้ตามอัธยาศัยของท่านได้

อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธา

 จะถวายเป็นสองรูปแบบก็ได้

ส่วนหนึ่งก็ให้กับบุคคล

 อีกส่วนหนึ่งก็ให้กับส่วนรวมก็ได้

นี่คือความหมายของสังฆทาน

 จึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปเอาเงิน

ซื้อสังฆทานจากวัดแล้ว

ก็เอามาถวายวัดอีกที

 มันก็อัฐยาย ซื้อขนมยาย

 ขายขนมยาย นี่แหละ

 มันก็วนไปเล่นยี่เกกันไปอย่างเดียว

ก็เอาเงินใส่ซองไปแล้วเขียนว่า

ขอถวายเป็นสังฆทานก็จบ

 แล้วมันก็ได้เหมือนกัน

แต่สังฆทานที่ส่วนใหญ่เราถวายกับพระนี้

มันไม่ได้เป็นสังฆทานหรอก

 เพราะว่าพระรูปไหนมารับ

ก็เป็นของพระรูปนั้นไป

เห็นไหม มันก็ไม่ได้เป็นสังฆทาน

 ถึงแม้มันจะเป็นกระแป๋งสีเหลืองๆ

ที่เราเรียกว่ากระแป๋งสังฆทาน

แต่ถวายจริงๆ มันก็เป็นของพระรูปนั้นไป

 แต่ถ้าตอนเช้าที่เรามาศาลาวัดญาณฯ

 แล้วเราเอากับข้าวกับปลาอาหารมาถวายนี้

 มันเป็นสังฆทาน

เพราะพระจะเก็บไว้กินคนเดียวไม่ได้

 รับแล้วก็ตักแบ่งกัน

องค์แรกตักหน่อยแล้วก็ส่งให้องค์ที่สอง

 องค์ที่สองก็ตักหน่อยแล้วก็เลื่อนไปเรื่อยๆ

 อย่างนี้แหละเรียกว่าสังฆทาน 

สังฆทานนี้จะเป็นอาหารสดอาหารแห้งก็ได้

 ส่วนใหญ่ควรจะเป็นอาหารสดจะดีกว่า

เพราะอาหารแห้งพระก็จะฉันไม่ได้

 ก็ต้องไปจ้างให้เขามาทำอีก

 รอให้ญาติโยมมาทำให้

ถ้าจะถวายอาหารให้ถวายอาหารสด

 อย่าไปเอามาม่าปลากระป๋องเลย

 เต็มไปหมดในวัดมีแต่มาม่า

 ปลากระป๋อง (หัวเราะ)

ผ้าก็ผืนนิดเดียวจะนุ่งจะห่มก็ไม่ได้

 เพราะถ้าผืนใหญ่มันแพง

จะประหยัดจะถวายให้ครบชุด

มีทั้งผ้า มีทั้งอาหาร มีปัจจัยสี่ครบหมด

 ก็เลยอย่างละนิดอย่างละหน่อย

 ใช้อะไรก็ไม่ได้สักอย่างเลย

ซื้อเอาอย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่า

 ถ้าอยากจะถวายผ้า

ก็ซื้อผ้าไตรไปชุดหนึ่งเลย

อย่างอื่นไว้วันหลังก็ได้ เอาทีละอย่าง

 ถ้ามีทรัพย์น้อย วิธีที่จะมีทรัพย์มาก

ก็หัดทำบุญทุกวัน วิธีทำบุญทุกวันก็คือ

เอาเงินใส่กระปุกเงินทำบุญ

วันที่เราไม่ได้มาวัด

 เราก็เอาเงินใส่กระปุกเงิน

 ที่เราจะใส่บาตรแต่ไม่มีพระมาบิณฑบาตนี้

เราก็ใส่กระปุกไว้ แล้วพอถึงเวลาจะมาวัด

 โห!! มีเงินมาทำบุญเยอะ

จะซื้ออะไรก็ได้เยอะแยะเลย

แต่ถ้าไม่เก็บไว้เลยไม่ใส่กระปุกเลย

เอาไปเที่ยวหมดเอาไปกินหมด

พอถึงเวลาจะมาทำบุญก็ทำได้นิดเดียว.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

........................

ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๐





ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 22 มกราคม 2560
Last Update : 22 มกราคม 2560 14:13:12 น.
Counter : 751 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนาคสีส้ม

  
สาธุธรรมค่ะ _/\\_

เพิ่งรู้ว่าการถวายสังฆทานทำแบบนี้นี่เอง
เพราะปกติทุกที ส้มก็ไปแนวสังฆทานเวียนตลอด
เพราะคิดว่า ซื้อมาจัดเองน่าจะงบบานปลาย
พออ่านบทความนี้จบ จะได้ซื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง
นำไปถวายได้เลย

ขอบคุณสำหรับธรรมะดีๆนะคะ
โดย: นาคสีส้ม วันที่: 22 มกราคม 2560 เวลา:21:59:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ