Group Blog
 
All Blogs
 

วิธีที่เศรษฐีสรรหาลูกสะใภ้- มีปลาอยู่หนึ่งตัว ทำอย่างไรให้มีกินไปได้ตลอดปี ?

เศรษฐีผู้หนึ่งตั้งใจจะหาลูกสะใภ้ให้กับลูกชาย  เขาตั้งใจว่าหญิงที่จะมาเป็นลูกสะใภ้นั้นจะต้องเป็นหญิงที่มีความฉลาดในการครองเรือน มีคุณธรรมเพียงพอที่จะดูแลทรัพย์สมบัติร่วมกับลูกชายของตน

 ท่านจึงเรียกหญิงงามทั้งเมืองมาสัมภาษณ์ ว่า ถ้ามีปลาอยู่หนึ่งตัว ทำอย่างไรจึงจะใช้ปลาตัวนั้นเป็นอาหารของครอบครัวได้ตลอดปี” หญิงสาวทั้งหลายต่างพยายามหาคำตอบที่ถูกใจมาให้ท่านเศรษฐี เช่น....ต้องหาแพร่พันธุ์โดยให้ปลาวางไข่ออกมามากๆ หรือไม่ก็ต้องถนอมอาหารด้วยวิธีต่างๆ และอื่นๆ

 

 

 

 

 แต่คำตอบทั้งหลายก็ไม่เป็นที่พอใจของเศรษฐี!!!

  จนกระทั่งมีหญิงสาวคนหนึ่งตอบว่า “ให้นำปลาตัวนั้นแบ่งเป็นส่วน และแจกจ่ายออกไป ให้ญาติและเพื่อนบ้าน ท่อนที่เหลือเก็บไว้กินเอง ทำแบบนี้จึงจะมีกินได้ตลอดปี” เศรษฐียิ้มและ ให้หญิงสาวคนนั้นได้แต่งงานกับลูกชายตน เพราะเหตุผลที่ว่า

 

 

 

"คนโง่ไม่แบ่งปันเพราะกลัวหมด แต่คนฉลาดเท่านั้นจึงจะรู้ว่า การแป่งบันเท่านั้น ที่ทำให้เพิ่มพูน" คนเราควรสะสมทรัพย์แต่เพียงพอดี และเพราะตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ และควรแบ่งปันเอื้ออาทรต่อผู้อิ่น เป็นนิจ เพราะเมื่อตัวตายไปความดีก็ยังคงอยู่ และผลแห่งความดีก็จะย้อนสนองมาสู่ลูกหลานตน มั่นคงถาวรยิ่งกว่ามรดกใดๆในโลก"

 

 

 

 

 -ขอบคุณเรื่องจากจิตรา-

 




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2555 18:39:25 น.
Counter : 2112 Pageviews.  

ความนอบน้อมในพระรัตนตรัย ...............

จากคลังกระทู้เก่าพันทิพ

ว่าด้วย....วิธีปฏิบัติเพื่อแสดงความนอบน้อมในพระรัตนตรัย มีรายละเอียดมากกว่าที่คนทั่วๆเคยได้เรียนรู้และเคยเข้าใจ...เชิญมาศึกษาให้ถ่องแท้ยิ่งขึ้นค่ะ....





…อาตมาขอโอกาสแก่ท่านมหาชนทั้งหลาย ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตบรรดามีศาสนาเป็นภารกิจ หวังปฏิบัติให้ถูกสนิทตามศาสนาของตนๆ จึงได้อุตส่าห์พากันมาทรมานร่างกายในเวลาทำกิจทางศาสนา ทุกๆ ศาสนาล้วนแต่สอนให้ละความชั่วประพฤติดีสิ้นด้วยกันทุกชาติทุกภาษา

ส่วนในทางพระพุทธศาสนา เวลาเช้าเวลาเย็นไหว้พระบูชาพระและสวดสังเวคกถา ปสาทกถา ตามกาลเวลาเสร็จแล้ว ที่มีกิจเรียนคันถธุระก็เรียนไป ที่มีกิจเรียนวิปัสสนาธุระก็เรียนไป ฝ่ายพระเถรานุเถระก็เอาใจใส่ตักเตือนซึ่งกันและกันตามหน้าที่ เพื่อจะได้รักษาเนติแบบแผนอันดี ของสาธุชนในพุทธศาสนาไว้ให้เป็นตำรับตำราสืบสายพระศาสนาไป

บัดนี้ขอเชิญชวนท่านทั้งหลาย ฟังปณามคาถา ความนอบน้อมพระรัตนตรัย ในอดีต อนาคต ปัจจุบัน และถึงเป็นที่พึ่งโดยย่อ





ความนอบน้อมมาจาก นโม นโม แปลว่า นอบน้อม เป็นบุคลาธิษฐานคือ นอบน้อมด้วยกาย นอบน้อมด้วยวาจา นอบน้อมด้วยใจ

นอบน้อมในพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ คือ กราบพร้อมด้วยองค์ ๕ เข่าและศอกทั้ง ๒ ต่อกัน ฝ่ามือทั้ง ๒ หรือในระหว่างที่เฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่นั้น คอยฟังพระโอวาทานุสาสนีของพระองค์ ไม่ส่งใจไปที่อื่น ไม่เปล่งวาจาออกในระหว่างที่พระองค์ทรงรับสั่งอยู่ เป็นการรบกวนพระองค์ด้วยวาจาให้เป็นที่ระแคะระคายพระทัย


อนึ่ง เมื่อเข้าไปสู่ที่เฝ้า ไม่นั่งให้ไกลนัก จะเป็นการเบียดเบียนพระองค์ด้วยต้องออกพระกำลังเสียงในเวลารับสั่ง ไม่นั่งให้ใกล้นัก จะเป็นการเบียดเบียนพระองค์ด้วยกายอันเป็นปฏิกูล จะเป็นที่รำคาญพระนาสิก ในเวลากลิ่นกายฟุ้งไป ไม่นั่งในที่เหนือลม ด้วยเคารพพระองค์ กลัวจะลมพัดเอากลิ่นกายที่ฟุ้งออกไปมากระทบพระนาสิกของพระองค์ ไม่นั่งในที่ตรงพระพักตร์นัก กลัวจะเป็นที่รำคาญพระเนตรทั้งสองของพระองค์ ไม่นั่งในที่เบื้องหลังนัก เกรงว่าพระองค์จะหันพระพักตร์มากไปในเวลาจะรับสั่ง ต้องนั่งในที่สมควร นอกจากที่ๆ แสดงมาแล้ว ในเวลาอยู่ในที่เฝ้า ไม่ส่งใจไปที่อื่น ไม่เปล่งวาจาให้เป็นที่รำคาญพระทัยแด่พระองค์ ดังนี้แล นอบน้อมด้วยกายในพระองค์

ในเมื่อพระองค์ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ยังเหลือแต่เจดีย์ ๔ เหล่า คือ บริโภคเจดีย์ ธาตุเจดีย์ ธรรมเจดีย์ อุทเทสิกเจดีย์ พุทธศาสนิกชนไปถึงที่เช่นนั้นเข้าแล้ว ในเมื่อกั้นร่มควรลดร่มลง ห่มผ้าปิดสองบ่า ควรลดออกเสียบ่าหนึ่ง ในเมื่อสวมรองเท้าเข้าไป ควรถอดรองเท้าเสีย

และเข้าไปในที่นั้นไม่ควรแสดงอึงคะนึง และไม่เคารพอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องแสดงเคารพอย่างจริงใจ ไม่ทิ้งของที่สกปรกลงไว้ เช่น ก้นบุหรี่ หรือชายหมาก น้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ ปัสสาวะในที่บริเวณนั้น เมื่อเข้าไปในที่นั้น เห็นรกปัดกวาดเสีย ถากถางเสีย เห็นไม่สะอาดทำให้สะอาด เห็นผุพังควรแก้ไขซ่อมแซมปฏิสังขรณ์ได้ก็ยิ่งดี ดังนี้เป็นการนอบน้อมพระผู้มีพระภาคด้วยกายโดยบุคลาธิษฐาน

อนึ่ง นำเรื่องของพระรัตนตรัยไปสรรเสริญในที่นั้น แก่บุคคลนั้นอยู่เนืองๆ ดังนี้ ก็ชื่อว่านอบน้อมด้วยวาจา และคิดถึงพระรัตนตรัยอยู่เนืองๆ ไม่ยอมให้ใจไปจรดอยู่ที่อารมณ์สิ่งอื่นมากนัก คอยบังคับใจให้จรดอยู่กับพระรัตนตรัยเนืองๆ ดังนี้ ชื่อว่า นอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยใจ

ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมี แด่พระผู้มีพระภาคผู้เป็นองค์อรหันต์ ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ บรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ต้องว่าดังนี้ ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตทั้งหลาย ในเวลาที่ทำศาสนกิจทุกครั้ง เช่นพระเถรานุเถระกระทำสังฆกรรม และอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายจะสมาทานศีล ก็ต้องว่า “นโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ” ถึง ๓ หน

จะว่าแต่เพียงหนหนึ่งหรือสองไม่ได้ หรือได้เหมือนกันแต่ว่าไม่เต็มรัตนตรัยทั้ง ๓ กาล จะให้เต็มหรือถูกรัตนตรัยทั้ง ๓ กาลแล้ว ต้องว่าให้เต็ม ๓ หน หนที่หนึ่งนอบน้อมพระรัตนตรัยในอดีต หนที่ ๒ นอบน้อมพระรัตนตรัยในปัจจุบัน หนที่ ๓ นอบน้อมพระรัตนตรัยในอนาคต ทั้งหมดต้องว่า ๓ หน จึงครบถ้วนถูกพระรัตนตรัยทั้ง ๓ กาล …




พระธรรมเทศนาพระมงคลเทพมุนี (หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ)




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2555 12:51:10 น.
Counter : 1833 Pageviews.  

รอยเท้าสกุณา...........................[AGAIN]






จะหารอยร่องเท้า........... สกุณา

หาไม่พบบนเวหา………. แน่แท้

ธรรมพิสุทธิ์นอกกายา..................มีไม่

หยุดอยู่กลางตัวแล้....................... จึ่งค้นธรรมเจอ




-สุนทรพ่อ-




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2555 11:35:05 น.
Counter : 1525 Pageviews.  

วิธีสมหวังในชีวิต..........





เราต้องฝึกนะ... เราถึงจะสมหวังในชีวิต คือการได้ความเข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งมันมีเพียงประการเดียวคือ หยุดกับนิ่ง

นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ สุขอื่นที่นอกจากใจหยุดใจนิ่งไม่มี



ก็แปลว่าเราจะไปหาความสุขจากที่อื่น จากคนสัตว์สิ่งของมันไม่มี ที่ไม่เจอเพราะว่ามันไม่มี ซึ่งผู้ฉลาดมีปัญญาเขาจะไม่ไปเสียเวลาไปกับการหาสิ่งที่มันไม่มี เพราะสิ่งที่มีอยู่ที่เดียวคือหยุดกับนิ่งภายใน

เพราะฉะนั้นฝึกไปเรื่อยๆ เห็นไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ฝึกไปแต่ฝึกไปเรื่อยๆ ที่จะไม่เห็นเป็นอันไม่มี (เห็นธรรมกาย) ต่างแต่ว่าช้าหรือเร็วถ้าเรามีความเพียร ทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ถูกหลักวิชชา หรือวางใจพอดีๆ เดี๋ยวก็สมหวังกันทุกคน



พระธรรมเทศนาพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
จากหนังสือง่ายแต่ลึก





 

Create Date : 08 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 8 พฤษภาคม 2555 19:09:15 น.
Counter : 1464 Pageviews.  

เวลาแห่งความเป็นมงคล และ อัปมงคล (พระมงคลเทพมุนี)






หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญท่านกล่าวว่า

ใครทำหยุดได้เป็นตัวมงคล เป็นเนื้อหนังของมงคล ถ้าใครทำหยุดไม่ได้ก็เป็นอัปมงคล ท่านสอนลึกซื้งทีเดียวว่า “สิริมงคลทั้งหลายเริ่มขึ้นที่จิตใจก่อน” แล้วเกิดตอนที่ใจหยุด ถ้าเราควบคุมใจตนเองได้ รักษาใจให้สงบให้หยุดนิ่งได้ ไม่ว่าจะพบปัญหาหรืออุปสรรคใดๆก็ตาม จะไม่หวั่นไหวในทุกสิ่ง ทำใจหยุดได้เวลาใดเวลานั้นถือว่าเป็นมงคล เป็นเวลาฤกษ์งามยามดี มีมหาโชคมหาลาภ

แต่ถ้าเราหวั่นไหวต่อเรื่องราว ต่อเหตุการณ์หรือต่อบุคคล ใจไม่หยุดนิ่งฟุ้งซ่าน ไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อนั้นถือว่าไม่ใช่เวลาอันเป็นมงคล

ความเป็นสิริมงคลที่แท้จริงจะเกิดเมื่อใจหยุดนิ่ง ใจใสสะอาดบริสุทธิ์นั่นเอง เป็นมงคลอันสูงสุด....

..ถ้าปรารถนาอยากได้สมบัติไว้สร้างบารมี สมบัติจะไหลมาเทมา ถ้าทำใจหยุดใจใสๆ การเงินไม่เดือดร้อน

แต่ถ้าขุ่นมัวเมือไร เป็นต้องเดือดร้อนทุกที เพราะเวลาใจขุ่นมัว เวลานั้นไม่เป็นมงคล



จากหนังสือธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับมงคลชีวิตเล่มที่ ๖




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 17:59:07 น.
Counter : 1698 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  

อุ่นอาวรณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.