ว่าด้วยแสงและความสว่าง.. [อาภาวรรคที่๔]
[๑๔๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย แสงสว่าง ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ แสงสว่างแห่งพระจันทร์ ๑ แสงสว่างแห่งพระอาทิตย์ ๑ แสงสว่างแห่งไฟ ๑แสงสว่างแห่งปัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย แสงสว่าง ๔ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาแสงสว่าง ๔ ประการนี้ แสงสว่างแห่งปัญญาเป็นเลิศ ฯ
[๑๔๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย รัศมี ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ รัศมีแห่งพระจันทร์ ๑ รัศมีแห่งพระอาทิตย์ ๑ รัศมีแห่งไฟ ๑ รัศมี แห่งปัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รัศมี ๔ ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดารัศมี ๔ ประการนี้ รัศมีแห่งปัญญาเป็นเลิศ ฯ
[๑๔๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสว่าง ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ ความสว่างแห่งพระจันทร์ ๑ ความสว่างแห่งพระอาทิตย์ ๑ ความสว่าง แห่งไฟ ๑ ความสว่างแห่งปัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสว่าง ๔ ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาความสว่าง ๔ ประการนี้ ความสว่างแห่งปัญญาเป็นเลิศ ฯ
[๑๔๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โอภาส ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ โอภาสแห่งพระจันทร์ ๑ โอภาสแห่งพระอาทิตย์ ๑ โอภาสแห่งไฟ ๑ โอภาสแห่งปัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย โอภาส ๔ ประการนี้แล ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย บรรดาโอภาส ๔ ประการนี้ โอภาสแห่งปัญญาเป็นเลิศ ฯ
[๑๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความโพลง ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ ความโพลงแห่งพระจันทร์ ๑ ความโพลงแห่งพระอาทิตย์ ๑ ความโพลง แห่งไฟ ๑ ความโพลงแห่งปัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความโพลง ๔ ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาความโพลง ๔ ประการนี้ ความโพลงแห่งปัญญาเป็นเลิศ ฯ
[๑๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ กาล ๔ เป็นไฉน คือ การฟัง ธรรมตามกาล ๑ การสนทนาธรรมตามกาล ๑ การสงบตามกาล ๑ การพิจารณาตามกาล ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้แล ฯ
[๑๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔ เป็นไฉน คือ การฟังธรรมตามกาล ๑ การสนทนาตามกาล ๑ การสงบตามกาล ๑ การพิจารณาตามกาล ๑ กาล ๔ นี้แล อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อฝนเม็ดใหญ่ตกบนภูเขา น้ำไหลไปตามที่ลุ่ม ย่อมยังซอกเขา ลำธารและห้วยให้เต็มซอกเขา ลำธารและห้วยเต็มแล้ว ย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้วย่อมยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้ว ย่อมยังแม่น้ำน้อยให้เต็ม แม่น้ำน้อยเต็มแล้วย่อมยังแม่น้ำใหญ่ให้เต็ม แม่น้ำใหญ่เต็มแล้ว ย่อมยังสมุทรสาครให้เต็มแม้ฉันใด กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นเหมือนกันแล ฯ
[๑๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วจีทุจริต ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ พูดเท็จ ๑ พูดส่อเสียด ๑ พูดคำหยาบ ๑ พูดเพ้อเจ้อ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายวจีทุจริต ๔ ประการนี้แล ฯ
[๑๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วจีสุจริต ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ พูดจริง ๑ พูดไม่ส่อเสียด ๑ พูดอ่อนหวาน ๑ พูดด้วยปัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย วจีสุจริต ๔ ประการนี้แล ฯ
[๑๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สาระ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ สีลสาระ ๑ สมาธิสาระ ๑ ปัญญาสาระ ๑ วิมุตติสาระ ๑ ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย สาระ ๔ ประการนี้แล ฯ
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ บรรทัดที่ ๓๘๓๕ - ๓๘๘๓. หน้าที่ ๑๖๔ - ๑๖๖.
ขอบพระคุณภาพจาก @Single Mind for Peace
Create Date : 13 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 13 มิถุนายน 2556 12:03:01 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1373 Pageviews. |
|
|
|
| |