Group Blog
 
All Blogs
 

หลวงพ่อครับ ทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าพูดเป็นครับ?






คำตอบ:

คนพูดเป็น คือ คนที่คิดให้รอบคอบ มีสติก่อนที่จะพูด หรือกลั่นกรองคำพูดให้ละเอียดอ่อนเสียก่อน แล้วค่อยพูด เพราะคำพูดยิ่งละเอียดอ่อนลึกซึ้งเท่าไร ก็ยิ่งสามารถเจาะใจคนฟังได้ลึก และประทับใจได้นานเท่านั้น ตรงกันข้ามคำพูดยิ่งหยาบเท่าไร ก็ยิ่งระคายทั้งหู ระคายทั้งใจมากเท่านั้น


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้หลักในการพูดไว้ถึง 5 ประการด้วยกัน คือ

1) พูดด้วยจิตเมตตา ทุกครั้งที่จะพูดกับใครก็ตาม ให้ถามตัวเองเสียก่อนว่า ที่เราจะพูดต่อไปนี้มีความปรารถนาดีต่อเขาหรือเปล่า ถ้ามีความปรารถนาร้ายก็อย่าพูด หรือถ้าคิดว่าพูดแล้วจะระคายหู ระคายใจ ทั้งคนฟังคนพูด ก็อย่าพูด

2) พูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ถามตัวเองเสียก่อนว่า ถึงแม้เรามีความปรารถนาดี แต่พูดไปแล้วจะเป็นประโยชน์กับเขาบ้างหรือไม่ ถ้าไม่เป็นประโยชน์ สู้ไม่พูดดีกว่า เสียเวลาเปล่า ดีไม่ดีจะกลายเป็นพูดเพ้อเจ้อ

3) พูดถ้อยคำที่ไพเราะ อย่างน้อยที่สุดภาษาพูดต้องไม่ระคายหูใคร แม้จะพูดหลานๆ ไม่เป็นก็ตาม คำพูดที่เป็นประโยชน์แต่ระคายหูนั้นไม่มีใครอยากฟัง ไม่อยากทำตาม ดีไม่ดีอาจเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน เพราะไม่มีใครในโลกนี้ชอบให้ใครมาพูดข่มขู่ กระโชกโฮกฮาก คนพูดหยาบคาย ถึงแม้จะมีประโยชน์แต่ก็เหมือนกับเอาลวดหนามมาทะลวงหู มันยากที่ใครจะทนทานได้

4) พูดถ้อยคำที่เป็นจริง แม้คำพูดของเราจะไพเราะ มีประโยชน์ เต็มไปด้วยความปรารถนาดี แต่ถ้าไม่เป็นจริงแล้ว สู้ไม่พูดเสียดีกว่า เพราะเอาเองจะกลายเป็นคนโกหก เป็นคนขาดศีล ซึ่งไม่คุ้มกันเลย พูดให้คนอื่นได้ประโยชน์ไป แต่เราเสียประโยชน์ แบกนรกโดยใช่เหตุ หรืออย่างน้อยที่สุดก็เพราะนิสัยพูดไม่จริงขึ้นมา และเมื่อพูดไม่จริงจนเคยชินมากเข้า ก็จะกลายเป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นคนหลงๆ ลืมๆ กะป้ำกระเป๋อไปในที่สุด

5) พูดถูกกาลเทศะ คือ ก่อนพูดต้องดูกาลเทศะให้ดี คนที่พูดไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ อาจทำให้ตัวเองถึงตายได้ หรืออย่างน้อยก็เป็นที่เกลียดชัง เช่น เตือนผู้ใหญ่ต่อหน้าธารกำนัล แม้จะพูดไพเราะแค่ไหน ก็ถือว่าพูดผิดที่ แทนที่จะเป็นผลดีกลับกลายเป็นการฉีกหน้าหรือเตือนคนที่กำลังมีโทสะพลุ่งพล่าน มีอาวุธอยู่ในมือ เตือนคนผิดจังหวะอย่างนี้ จะกลายเป็นยื่นคอให้เขาเชือด

การพูดจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถ้าไม่รู้ว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด สู้นิ่งไว้ดีกว่า เหมือนโบราณว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทองนะ


พระธรรมเทศนาพระภาวนาวิริยคุณ




 

Create Date : 06 มีนาคม 2555    
Last Update : 6 มีนาคม 2555 18:07:14 น.
Counter : 1577 Pageviews.  

การไม่กินปลาและเนื้อ มนต์และการเซ่นสรวง.. ไม่สามารถทำให้คน"หมดจด" หรือ "พ้นทุกข์"ได้


เวียนเทียนกลางน้ำ วันมาฑบูชา วัดติโลกอาราม





การไม่กินปลาและเนื้อ ความประพฤติเป็นคนเปลือย ความเป็นคนโล้น
การเกล้าชฏา ความเป็นผู้หมักหมมด้วยธุลี การครองหนังเสือพร้อมเล็บ
การบำเรอไฟ หรือแม้ความเศร้าหมองในกายที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
การย่างกิเลศเป็นอันมากในโลก....


...มนต์และการเซ่นสรวง การบูชายัญและการซ่องเสพฤดู
ย่อมไม่ยังสัตว์ ผู้ไม่ข้ามพ้นความสงสัยได้ให้หมดจดได้


ผู้ใดคุ้มครองดีแล้ว ในอินทรีย์ทั้งหลาย
รู้แจ้งอินทรีย์แล้ว ตั้งอยู่ในธรรม
ยินดีในความเป็นคนตรง และอ่อนโยน
ย่อมล่วงธรรมเป็นเครื่องข้อง ละทุกข์ได้ทั้งหมด
ผู้นั้นเป็นนักปราชญ์ที่แท้จริง



***อินทรีย์คือความสำรวมตาหูจมูกลิ้นกายใจ ไม่ให้บาปเข้ามาในจิตใจ***



จาก : มอ.อามคันธสูตร เล่ม ๔๗ หน้า ๘๐




 

Create Date : 05 มีนาคม 2555    
Last Update : 5 มีนาคม 2555 18:00:16 น.
Counter : 1480 Pageviews.  

[AGAIN]...ปลุกเสก เป็นหมอผี ทายลักษณะศาตรา ดูฤกษ์หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ เป็น ติรัจฉานวิชา



"เผยแผ่ซ้ำ เพราะบทความนี้เป็นประโยชน์มากค่ะ..ชาวพุทธหลายคนยังไม่เข้าใจว่าสรณะที่แท้จริงคือสิ่งใด..ประกอบกับขาดที่พึ่งทางใจที่แท้จริง จึงไปนับถือสิ่งอื่นมาเป็นสรณะเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต จึงทำให้ชีวิตตำเนินไปในทางที่ผิดพลาดมากขึ้น เสียหายมากขึ้น"

เชิญท่านศึกษาค่ะ





จาก : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค



.....ปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษ เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทางเสียงกา เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์.

[๒๐] ๒. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้
Smiley


คือ ทายลักษณะแก้วมณี ทายลักษณะไม้พลอง ทายลักษณะผ้า ทายลักษณะศาตรา ทายลักษณะดาบ ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวุธทายลักษณะสตรี ทายลักษณะบุรุษ ทายลักษณะกุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาสทายลักษณะทาสี ทายลักษณะช้าง ทายลักษณะม้า ทายลักษณะกระบือ ทายลักษณะโคอุสภะ

๑. หมายเอาวิชาที่ขวางทางสวรรค์ทางนิพพาน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แก่ธรรมปฏิบัติ.
๒. คือสิ่งที่ตกจากเบื้องบน เช่นอสนีบาตเป็นต้น.


ทายลักษณะโค ทายลักษณะแพะ ทายลักษณะแกะ ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนกกระทาทายลักษณะ เหี ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า ทายลักษณะมฤค.
Smiley


[๒๑] ๓. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักยกออก พระราชาจักไม่ยกออก
พระราชาภายในจักยกเข้าประชิด พระราชาภายนอกจักถอย พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิดพระราชาภายในจักถอย พระราชาภายในจักมีชัย พระราชาภายนอกจักปราชัยพระราชาภายนอกจักมีชัย พระราชาภายในจักปราชัย พระราชาพระองค์นี้จักมีชัย พระราชาพระองค์นี้จักปราชัย
เพราะเหตุนี้ๆ.
Smiley


[๒๒] ๔. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ..

พยากรณ์ว่า จักมีจันทรคราส จักมีสุริยคราส จักมีนักษัตรคราส ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินถูกทาง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง ดาวนักษัตรจักเดินถูกทางดาวนักษัตรจักเดินผิดทาง จักมีอุกกาบาต จักมีดาวหาง จักมีแผ่นดินไหว จักมีฟ้าร้องดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักขึ้น ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักตก ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักมัวหมอง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรจักกระจ่าง

จันทร-*คราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ สุริยคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์

ดวงอาทิตย์เดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้

ดาวนักษัตรเดินถูกทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตรเดินผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้

มีอุกกาบาตจักมีผลเป็นอย่างนี้ มีดาวหางจักมีผลเป็นอย่างนี้ แผ่นดินไหวจักมีผลเป็นอย่างนี้

ฟ้าร้องจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรขึ้นจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์

และดาวนักษัตรตกจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมองจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้.
Smiley


[๒๓] ๕. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ พยากรณ์ว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีภิกษาหาได้ง่ายจักมีภิกษาหาได้ยาก จักมีความเกษม จักมีภัย จักเกิดโรค จักมีความสำราญหาโรคมิได้ หรือ
นับคะแนนคำนวณ นับประมวล แต่งกาพย์ โลกายตศาสตร์ ๑-
Smiley


[๒๔] ๖. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอนดูฤกษ์หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง ร่ายมนต์ให้มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียงเป็นหมอทรงกระจก เป็นหมอทรงหญิงสาว เป็นหมอทรงเจ้า บวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหม ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ.
Smiley


[๒๕] ๗. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัดถุ์ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัดรักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล
Smiley



ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ปุถุชนกล่าวชมตถาคต จะพึงกล่าวด้วยประการใด ซึ่งมีประมาณน้อย ยังต่ำนัก เป็นเพียงศีลนั้นเท่านี้แล.


จบมหาศีล.




 

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 13:10:16 น.
Counter : 1412 Pageviews.  

ภรรยาของนายพรานผู้ไม่มีส่วนแห่งบาป






ธิดาเศรษฐีได้บรรลุเป็นพระโสดาบันตั้งแต่ยังเด็ก พอโตเป็นสาว ก็หนีจากเรือนไปอยู่กับสามีซึ่งเป็นนายพราน นางถูกสามีสั่งให้ธนู นำลูกศร นำหอก นำหลาว นำบ่วงมา นางก็ทำตาม จากนั้นนายพรานก็นำเครื่องประหารเหล่านั้นไปล่าสัตว์

เหล่าภิกษุเห็นดังนั้นก็สงสัยว่า แม้พระโสดาบันยังทำปาณาติบาตอยู่หรือ
ขณะนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา พลางตรัสถามเรื่องที่พระภิกษุสนทนากัน

เมื่อภิกษุกราบทูลเรื่องทั้งหมด พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาพระโสดาบัน”ย่อมไม่ทำปาณาติบาต” แต่ที่ธิดาเศรษฐีทำอย่างนั้น เพราะคิดว่าจักทำตามหน้าที่ ทำตามคำของสามี แต่จิตของนางบริสุทธิ์ไม่ได้คิดจะให้สามีไปทำปาณาติบาต

"เหมือนฝ่ามือที่ไม่มีแผล ยาพิษก็ไม่อาจให้โทษแก่ผู้ถือยาพิษฉันใด บาปก็ย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำบาป เพราะไม่มีอกุศลเจตนาฉันนั้น"


หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน




 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2555 18:42:02 น.
Counter : 2575 Pageviews.  

จากไปอย่างผู้ชนะ.........................................





นักรบซ้อมร้อยวัน รบกันจริงแค่เพียงวันเดียว จะแพ้ชนะก็รู้กันวันนั้น เหมือนนักกีฬาที่ฟิตซ้อมกันมาหลายเดือน หรือบางทีเก็บตัวกันเป็นปีๆ แต่เมื่อถึงเวลาแข่งขันก็รู้แพ้รู้ชนะในวันเดียวนั่นเอง

สงครามแห่งชีวิตก็เช่นเดียวกัน จะแพ้ชนะอยู่ที่วินาทีสุดท้ายตอนใกล้จะละจากโลก แต่จะมีสักกี่คนที่ชนะสงครามของชีวิต คือ แม้ถึงคราวใกล้จะละโลก ก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส มีใจเบิกบานอยู่ในบุญ และภาคภูมิใจในผลงานการสร้างบารมีของตนว่า ตลอดชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ได้สั่งสมความดีไว้มากพอ แล้วจากไปอย่างผู้ชนะ

เราจะเป็นนักรบที่เข้มแข็ง เอาชนะสงครามในชีวิตได้ เมื่อฝึกฝนให้ใจคุ้นเคยกับความดี บุญหรือความดีที่ทำนั้นแหละ จะส่งเสริมสนับสนุนให้เราเอาชนะศึกในวันสุดท้ายของชีวิต


โอวาทพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2555 13:40:13 น.
Counter : 1400 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  

อุ่นอาวรณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.