Group Blog
 
All Blogs
 

5 ห้องชีวิตเนรมิตนิสัย (ตอน ห้องรับประทานอาหาร)

เรียบเรียงจากโอวาทพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตะชีโว)

ห้องอาหาร คือ ห้องมหาประมาณ Smiley SmileySmiley



คำนิยามที่แท้จริง : ห้องอาหาร คือ ห้องพัฒนานิสัยรู้ประมาณในการพูด และการใช้ทรัพย์

หลักธรรมประจำห้องอาหาร :สัมมาวาจา และสัมมากัมมันตะ

หน้าที่หลักของห้องอาหาร Smiley

1) เป็นที่ประชุมสมาชิกทุกคนในบ้านอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาทุกวัน
2) ใช้ปลูกฝังสัมมาวาจาและสัมมากัมมันตะให้แก่สมาชิกทุกคนในบ้าน

หากสมาชิกในครอบครัวรับ ประทานอาหารไม่พร้อมหน้าพร้อมตากัน จะเกิดปัญหา น้อยเนื้อต่ำใจและปัญหาความแตกแยก แต่หากสมาชิกขาดสัมมาวาจาจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งบานปลายใหญ่โต

ความรู้ที่ต้องมีเกี่ยวกับห้องอาหาร Smiley

1) ห้องอาหาร คือ ห้องที่สมาชิกทั้งบ้านใช้รับประทานอาหารร่วมกัน จึงต้องรักษาความสะอาดให้ดี ไม่ควรเก็บอาหารไว้ในห้องนี้

2) ห้องครัว คือ ห้องสำหรับปรุงอาหารและเก็บอาหารทุกประเภท ต้องรักษาความสะอาดและจัดให้เป็นระเบียบ มิฉะนั้นจะเป็นแหล่งชุมนุมของมด หนู และแมลงต่าง ๆ

3) ห้องรับแขก คือ ห้องที่ใช้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนหรือมีธุระสำคัญ จึงเสมือน เป็นหน้าตาของบ้าน ไม่ควรปล่อยให้รกรุงรัง ต้องจัดให้เป็นระเบียบและทำความสะอาดอยู่เสมอ

4) บ้านใดที่ใช้ห้องอาหารรวมกับห้องรับแขก ควรใช้เครื่องเรือนแบ่งเขต 2 ห้องให้ชัดเจน

5) ควรจัดชุดเก้าอี้รับแขกไว้ตรงประตูทางเข้า และจัดโต๊ะรับประทานอาหารไว้ใกล้ ห้องครัว อีกทั้งควรตกแต่งห้องให้มีบรรยากาศเย็นตา

6) ควรจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ของห้องครัว ห้องอาหาร ห้องรับแขก ให้พร้อมและสะอาด มีครบตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว

7) ควรจัดเตรียมวัตถุดิบและเครื่องปรุงให้ครบตามความจำเป็น และเพียงพอกับคนในบ้าน

8) ควรฝึกอบรมสมาชิกในบ้านให้รู้จักช่วยกันทำครัวตั้งแต่เยาว์วัยเพื่อฝึกความสามัคคี

9) ควรฝึกสมาชิกในบ้านให้รู้จักวิธีการถนอมอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ประโยชน์จากการใช้ห้องอาหารอย่างถูกต้อง

1) ทางใจ
1.1) รู้จักประมาณในการรับประทานอาหาร คือ ระลึกอยู่ว่าเรารับประทานอาหารเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ จะได้นำเรี่ยวแรงไปทำความดี
1.2) รู้จักประมาณในการใช้ทรัพย์ คือ รู้จักการกำหนดรายจ่ายให้น้อยกว่ารายได้ จะได้มีทรัพย์เหลือเก็บไว้ใช้ในคราวจำเป็น และใช้บริจาคสร้างบุญกุศลอันเป็นหนทางไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
1.3) รู้จักประมาณในวาจา คือ การใช้คำพูดที่นุ่มนวล มีเหตุผล มีประโยชน์ เหมาะแก่กาลเทศะในสถานการณ์ต่าง ๆ

2) ทางกาย
2.1) ใช้ห้องอาหารสำหรับประกอบอาหาร
2.2) ใช้เป็นที่ประชุมสมาชิกพร้อมหน้าพร้อมตา
2.3) ใช้ห้องอาหารเป็นที่รับประทานอาหาร
2.4) ใช้ห้องอาหารเป็นที่เก็บอาหาร
2.5) ใช้ห้องอาหารเป็นที่ต้อนรับแขก



ที่มา : //www.dmc.tv




 

Create Date : 12 มกราคม 2554    
Last Update : 12 มกราคม 2554 21:07:42 น.
Counter : 4698 Pageviews.  

นิสัยเกิดขึ้นได้อย่างไร

เรียบเรียงจากโอวาทพระภาวนาวิริยคุณ

ถาม.. คนเราย่อมมีนิสัยแตกต่างกันไป บางคนนิสัยดี บางคนนิสัยไม่ดี นิสัยของคนเราทั้งดีและไม่ดีนี้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร? Smiley Smiley


ตอบ .. นิสัยของคนเราไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี ก็ตาม ล้วนเกิดมาจากการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ของตัวเอง นิสัยของใครก็ขึ้นอยู่กับการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ของผู้นั้น

โดยมีหลักอยู่ว่า ผู้ที่มีทัศนคติ และวิธีการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ในทางที่ถูก ที่ควร ก็จะได้นิสัยดีๆ ส่วนผู้ที่มีทัศนคติ และวิธีการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ในเรื่องไม่ดี ในสิ่งที่ผิด ก็จะได้นิสัยไม่ดีติดตัวไป

สำหรับเรื่องที่มนุษย์ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ กันเป็นประจำ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายนั้น มีอยู่ ๔ เรื่องใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่

๑. ปัจจัย ๔ คือ เรื่องอาหาร เรื่องเสื้อผ้า เรื่องที่อยู่อาศัย และเรื่องการรักษาสุขภาพของตัวเอง ภาษาพระเรียกว่าปัจจัย ๔ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ กันตลอดชีวิตทีเดียว

๒. กิจวัตรประจำวัน เช่น การนอน การตื่น การอาบน้ำ การแปรงฟัน เป็นต้น

๓. อาชีพ ถ้าเป็นอาชีพการงานประเภทสัมมาทิฏฐิ คือ ทำมาหาเลี้ยงชีพในทางที่ชอบ นิสัยที่ดีก็จะเกิดขึ้นมา แต่ว่าถ้าหาเลี้ยงชีวิตในทางไม่ชอบ เช่น มีอาชีพขโมยเขากิน เราก็คงเดากันได้ว่านิสัยของผู้นั้นจะเป็นอย่างไร

๔. สิ่งแวดล้อม เรื่องที่มนุษย์ต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ เป็นประจำอีกอย่างหนึ่ง ทั้งที่อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็คือ สภาพสิ่งแวดล้อมของเขา ไม่ว่าสภาพแวดล้อมนั้นจะเป็นคน หรือว่าเป็นธรรมชาติก็ตาม เช่น รอบๆ บ้านเป็นสลัม เช้าขึ้นมาก็มีเสียง จ้อกแจ้ก จอแจ โหวกเหวก โครมคราม ดูช่างสับสนวุ่นวายไปหมด ผู้คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ ก็จะมีนิสัยไปอย่างหนึ่ง

ส่วนผู้ที่มีบ้านอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ชอบไปวัดปฏิบัติธรรม นิสัยก็จะเป็นไปอีกอย่างหนึ่ง

นิสัยเกิดจากอาหาร

นิสัยที่เกิดจากปัจจัย ๔ ในเรื่องของอาหารที่เรากินกัน แต่ละมื้อ แต่ละคำ ถ้าบ้านไหนแค่พ่อแม่มีทัศนคติว่า "คนเรากินเพื่ออยู่" ก็จะทำให้คนในบ้านนั้น มีนิสัยประหยัด มีนิสัยรักที่จะทำความดี แต่ถ้าบ้านไหนมีทัศนคติว่า "คนเราอยู่เพื่อกิน" อย่างนี้แสดงว่าคนในบ้านนั้นเตรียมกินบ้านกินเมือง เตรียมโกงกันเสียแล้ว

เพราะฉะนั้น ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องอาหาร สามารถทำให้เกิดเป็นนิสัยของคนขึ้นมาได้ วิธีกินอาหารก็เหมือนกัน บ้านไหนพ่อแม่ลูกกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา คนในบ้านนั้น จะมีนิสัยรักกัน เป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน ถ้าหากบ้านไหนถึงเวลากินข้าว ใครหิวก็กินก่อน ใครยังไม่หิวก็ตัวใครตัวมัน ลูก ๓ - ๔ คน ไม่เคยกินข้าวพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่เลย เด็กๆ เหล่านี้ พอโตขึ้นจะไม่รัก ไม่ห่วงใยกัน เพราะว่าได้ฝึกความเป็นตัวใครตัวมันมาตั้งแต่แรกเสียแล้ว

นิสัยเกิดจากเสื้อผ้า

เรื่องเสื้อผ้าก็เหมือนกัน บ้านไหนมีทัศนคติว่า เสื้อผ้ามีไว้เพื่อใช้กันแดด กันลม กันฝน กันร้อน กันหนาว กันอาย คนบ้านนั้น จะมีนิสัยไม่ชอบการฟุ้งเฟ้อ ติดตัวมาตั้งแต่เล็ก
แต่ถ้าบ้านไหนเวลาแต่งตัวแต่ละที นอกจากจะต้องเด่น ต้องดังแล้ว ยังต้องตามแฟชั่นให้ทันด้วย คนพวกนี้ก็จะได้นิสัยไปอีกอย่างหนึ่ง คือมีนิสัยชอบตามกระแสโลก ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง

นิสัยเกิดจากที่อยู่อาศัย

ที่อยู่อาศัยก็ทำให้กลายเป็นนิสัยได้ เช่น ลูกที่ตื่นนอนขึ้นมา พับผ้าห่ม เก็บที่นอน ปัดกวาดเช็ดถูห้องนอนเรียบร้อย แถมยังมาช่วยคุณแม่เก็บกวาดเสียรอบบ้าน ก็จะได้นิสัยมีความ รับผิดชอบมาตั้งแต่เล็กๆ ส่วนเด็กที่ตื่นนอนขึ้นมา ไม่เคยเก็บที่นอน ไม่เคยช่วยคุณแม่ทำความสะอาดบ้านเลย ก็จะได้นิสัยไม่มีความรับผิดชอบแม้กระทั่งตัวเอง

นิสัยเกิดจากการรักษาสุขภาพ

ถ้าคุณพ่อคุณแม่สอนให้ลูกๆ รู้จักรักษาสุขภาพตั้งแต่เล็ก แล้วลูกก็ปฏิบัติตามอย่างดี ตั้งแต่ สอนให้แปรงฟันอย่างถูกวิธี สอนวิธีอาบน้ำให้สะอาด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะถูก ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ แล้วกลายเป็นนิสัยได้อีกเหมือนกัน
ส่วนเรื่องของกิจวัตรประจำวัน อาชีพการงาน สภาพสิ่งแวดล้อม ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ทำให้ต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ จนกระทั่งกลายเป็นนิสัยของคนเราทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะให้ตัวเอง หรือลูกหลานวงศ์วานว่านเครือเนื้อหน่อในครอบครัว มีนิสัยดีอย่างไรก็เลือก ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ แต่สิ่งที่ดีๆ เหล่านั้นก็แล้วกัน

ที่มา : //www.kalyanamitra.org/daily/dhamma/index.php?option=com_content&task=view&id=768&Itemid=99999999





 

Create Date : 07 มกราคม 2554    
Last Update : 7 มกราคม 2554 22:39:05 น.
Counter : 1274 Pageviews.  

5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย (ตอน ห้องนอน)

เรียบเรียงจากโอวาท พระภาวนาวิริยคุณ

1. ห้องนอน คือ ห้องมหาสิริมงคล Smiley




ถ้าถามว่าห้องนอนคือห้องอะไรกันแน่ บางท่านอาจตอบว่า ในเมื่อตั้งชื่อว่าห้องนอน มันก็ต้องใช้นอนน่ะสิ ถ้าอย่างนั้นตอบดูเบาไป
ห้องนอน คือ ห้องสำหรับพัฒนานิสัยรักบุญกลัวบาป

หน้าที่หลักของห้องนอนมีอะไรบ้าง Smiley




1) ห้องนอนเป็นห้องสำหรับการปลูกฝังสัมมาทิฐิ

การสอนลูกหลานให้รู้จัก ดี ชั่ว บุญ บาป อย่างชนิดฝังใจ จะอยู่ที่ห้องนอนนี้ เพราะโดยทั่วไปช่วงก่อนนอนเป็นช่วงที่อารมณ์ดีที่สุด การสอนลูกหลานให้มีความเคารพในพระรัตนตรัย ต้องฝึกจากห้องนอน โดยทั้งพ่อทั้งแม่กราบพระพุทธรูปด้วยกัน รำลึกถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยกัน

การสอนลูกให้กราบเท้าพ่อแม่ก็ฝึกจากห้องนอน เพราะเมื่อลูกกราบ พ่อแม่ก็ให้พร ความอบอุ่นใจก็เกิดขึ้นก่อนนอน ทำให้ปลูกฝังความกตัญญูกตเวทีลงไปในใจได้โดยง่าย

2) ห้องนอนเป็นห้องสำหรับฝึกสัมมาสมาธิ(Meditation)ให้ใจตั้งมั่นอยู่ในศูนย์กลางกายเป็นปกติ

พ่อ แม่ ลูก จะนั่งสมาธิ ก็นั่งในห้องนอน กลั่นใจให้บริสุทธิ์ก่อนนอน ทำอย่างนี้ หยุดจึงเป็นตัวสำเร็จได้ เข้าถึงพระธรรมกายในตัวได้ง่าย ทำให้มีกำลังใจในการสร้างบารมีไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ตามที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำบอกเอาไว้

ศัตรูตัวฉกาจของห้องนอนคืออะไร

หลวงพ่อต้องถามก่อนว่า ใครมีทีวีอยู่ในห้องนอนบ้าง กลับไปบ้านวันนี้ ยกออกมาข้างนอกเสีย เพราะทีวีทำให้ไม่ได้นั่งสมาธิ เริ่มแรกว่าจะดูข่าว ต่อมาก็ดูละคร จบแล้วก็ดูหนังต่อ พอง่วงขึ้นมาก็เข้านอนโดยยังไม่ได้สวดมนต์เลย ละครน้ำเน่า ถ้าไม่มีเรื่องตบกันจนจอแตก ก็ต้องตีกันจนเลือดท่วมจอ นอนดูเพลินจนหลังขดหลังแข็ง บางทีนอนคอเคล็ดอีกต่างหาก ส่งผลให้เรื่องสุดท้ายที่ติดใจของเราไปตอนหลับ ก็คือ เรื่องที่ตบกันจอแตก หรือตีกันเลือดท่วมจอ ทำให้นึกถึงอู่ทะเลบุญไม่ออก จึงไม่ได้นอนในอู่ทะเลบุญ ตื่นเช้าขึ้นมาให้นึกถึงองค์พระก็นึกไม่ออก

ธรรมชาติของคนที่ตื่นขึ้นมาใหม่ จะนึกถึงเรื่องสุดท้ายก่อนเข้านอน ถ้าก่อนนอนดูละครน้ำเน่า ใจจะขุ่นมัวทั้งก่อนนอนและตื่นนอน

เพราะฉะนั้น ใครมีทีวีอยู่ในห้อง เดี๋ยวก็ไม่ได้สวดมนต์ ไม่ได้ไหว้พระ หลวงพ่อขอให้เอาออกไปนอกห้องนอนเสีย แล้วจะทำให้เราตรงต่อเวลา ทำให้มีเวลาพูดกับลูกหลาน ก่อนนอนจะฝึกให้เด็กกราบพ่อแม่ จะให้พรลูกหลาน ก็ทำได้ในเวลานั้น ก่อนนอนเด็กจะนึกถึงคำอวยพรของพ่อแม่ พอตื่นขึ้นมาคำอวยพรของพ่อแม่ก็ยังติดอยู่ในใจ ทำให้เด็กมีจิตใจดี ไม่ขาดความอบอุ่น

ดังนั้น ห้องนอน คือ ห้องมหาสิริมงคล มีไว้ใช้ปลูกฝังศีลธรรม ทบทวนบัญชีบุญ-บาป ให้พรลูกหลานก่อนนอน กราบพ่อกราบแม่ก่อนนอน นั่งสมาธิก่อนนอน ทำให้ชีวิตเกิดสิริมงคล




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 22:07:15 น.
Counter : 4242 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  

อุ่นอาวรณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.