สงบสุขทุกข์ไม่เกิด
หน้าต่างศาสนา พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ
"ที่นา 6 ไร่ จ้างรถเกี่ยว ไร่ละ 900 บาท ได้ข้าว 8 กระสอบปุ๋ย ในขณะที่ราคาข้าวกิโลละ 5 บาท ค่าเกี่ยวยังค้างอยู่ และต้องไปยืมข้าวคนอื่นมากิน"
แม้ว่าจะทำนาได้ปีละ 2 ครั้งแต่ก็สู้หอยเชอรี่ มหันตภัยทำลายพืชไร่อันดับหนึ่ง ใส่ยาก็แพงและอันตราย ที่สำคัญคือไม่ได้ผล
และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย แต่ประเด็นสำคัญก็อยู่ที่เรื่องปากท้อง เงินทองและกองหนี้ ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีแต่กู้มาโปะ เอาของรัฐบาลมาโปะนอกระบบ เอาของเจ๊นี้ไปแปะเจ๊โน้น ไม่นานรัฐบาลออกกู้ผ่อนระยะยาว ก็วิ่งวุ่นทำเอกสารรวมกลุ่มกันกู้ เอาลูกหนี้ค้ำประกันลูกหนี้กันเอง มองดูแล้วก็คาดการณ์ได้ว่า "สูญตั้งแต่ยังไม่กู้"
พระสงฆ์จะช่วยด้วยการตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ก็ต้องพับโครงการเก็บใส่ย่าม เพราะไม่ทันท่วงที ที่ชาวบ้านต้องการคือเงินมาให้กู้เพิ่ม ออมเดือนละ 100 มันวิ่งไม่ทัน ดอกเบี้ยรายวันเป็น 100 ที่มากับมอเตอร์ไซค์ขู่ให้จ่ายทุกวัน นี่ยังไม่รวมแขกอินเดีย ที่เดินมาวันละหลายรอบเพื่อเก็บแค่ 20 บาทต่อวัน ขณะที่ลูกหนี้ได้แต่นั่งลุ้น กับหุ้นวันนี้ ที่ซื้อขายกลายเป็นหวย เจ้ามือรวยวันละ 4 รอบ
ฟังแล้วก็เห็นเค้าลาง การล่มสลายของวิถีชีวิตชุมชน ความเป็นอยู่ว่าแย่ยังถูกย่ำซ้ำเติมด้วยยาบ้าและอบายมุขที่บุกแทบทุกหลังคาเรือน ปัญหานั้นมองเห็นแต่ไร้ปัญญาจะหาทางออก
เมื่อจำแนกแจกแจงออกมา แค่สิ่งจำเป็นเพียงปัจจัย 4 คือ อาหาร บ้าน ยาและเสื้อผ้าก็วุ่นวายพอแล้ว ยังมาเจอกับความอยากได้ อยากมี อยากเป็น เลยต้องการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายใช้ไม่ทัน ความอยากมันเยอะกว่า จึงนำไปสู่ความหลงผิด (โมหะ) คิดว่าอบายมุขจะเป็นทางออก แต่มันกลับนำไปสู่ความเสื่อมยิ่งกว่าเก่า จิตใจเริ่มไม่ปรานี (โทสะ) มีช่องทางไหนจะเอาเปรียบหรือช่วงชิงลักขโมยได้ ก็คว้าเลย เกิดอาชญากรรมทำร้ายกัน ชุมชนไร้สันติสุข
ผ่านวันพ่อ (5 ธันวาคม) ไปไม่นาน ก็ควรน้อมนำเอาแนวคิดของพ่อตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ร่วมกับหลักหัวเศรษฐี(ทิฏฐธัมมิกัตถะ)ที่ปรับมาเป็น "หลักการหนีหนี้" ว่า ขยันหา (อุฏฐานสัมปทา) รักษาดี (อารักขสัมปทา) มีกัลยาณมิตร (กัลยาณมิตตตา) ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง (สมชีวิตา) หลีกเลี่ยงอบายมุข (ศีล 5) และต้องพยายามไม่กู้หนี้มาเพิ่ม
แม้ไม่ได้เพิ่มรายรับ แต่ก็ช่วยลดความทุกข์ลงได้บ้าง แต่ต้องหมั่นพูดคุยกันให้บ่อยขึ้นตามจำนวนความอยากที่ถาโถมเข้ามาไม่ขาดระยะ เพราะความจริงในแต่ละก้าวย่างบนถนนชีวิตของแต่ละคน เมื่อยามต้องสู้กับกิเลสตามลำพังจำต้องอดทนจนกว่าจะค้นพบแนวทางการชนะกิเลสของตนเองให้ได้ และพยายามที่จะทำมันให้สำเร็จ ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อแหล่ง ยั่วยุภายนอกมองให้เห็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า มากกว่าจะหลงเริงร่า กับความสุขฉาบฉวยที่ไม่ยั่งยืน หนี้สินก็จะค่อยๆ หมดไป ทรัพย์สินก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ชีวิตมั่นคง ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง
ที่ว่าทั้งหมดนั้นก็แค่วาดฝันให้เห็น อาจไม่ใช่ว่าสังคมจะสงบสุขทั้งหมด แต่พอสิ่งดีงามเกิดขึ้นในใจ ไม่ว่าสิ่งรอบข้างจะวุ่นวายแค่ไหน
เราก็แค่มองอย่างเข้าใจแล้วโลกที่สุดแสนจะวุ่นวายอย่างไรก็สงบใจไว้ไม่วุ่นตาม
หน้า 24
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ หน้าต่างศาสนา กราบนมัสการขอบพระคุณ พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 04 มกราคม 2558 |
Last Update : 4 มกราคม 2558 9:18:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 404 Pageviews. |
|
|