Group Blog
 
<<
มีนาคม 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 มีนาคม 2559
 
All Blogs
 
ตุรกี (2/2): เอฟิซุส-อิสตันบูล



มาต่อท่องเที่ยวตุรกีตอนที่สองกันครับ ห่างหายจากตอนแรกไปถึงสองเดือนเต็ม นับว่าเป็นบล็อกภาคต่อที่ทิ้งช่วงนานที่สุดเท่าที่เขียนบล็อกท่องเที่ยวมาเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุก็มิใช่ใดอื่น แต่เป็นเพราะเจ้าของบล็อกขี้เกียจนั่นเอง

Smiley





เริ่มต้นวันที่ 4 ของการท่องเที่ยว ก็ขอตัดเข้าช่วงโฆษณา พามาร้านขายเสื้อครับ (อะไรแว๊ะ?! เริ่มบล็อกมาก็โฆษณาเลย!) ร้าน EMELDA ตัดเสื้อหนังคุณภาพดี ...ดีมั้ง ผมดูไม่เป็นหรอก ที่สำคัญคือมีการเดินแบบให้ดูด้วยนะ ราคาตัวนึงก็หลักหมื่นครับ ต่อราคาลดได้กระหน่ำ แต่ตัวถูกๆก็ยังตก 6-7 พันอยู่ดี แถมการใช้งานแจ็คเก็ตหนังโคตรไม่เหมาะกับวิถีชีวิตบ้านเราเลย ถ้าชาติหน้าเกิดมาเป็นสิงห์มอเตอร์ไซค์แถวๆเท็กซัสอาจจะซื้อดูสักตัวนะ



เมืองโบราณเอฟิซุสเป้าหมายหลักของวันนี้อยู่บนเทือกเขาคอเรสซอส การเยี่ยมชมตัวเมืองโบราณยุคโรมันที่ใหญ่โตที่สุดรองจากกรุงโรมนี้จะใช้เวลาครึ่งวันเต็ม ทัวร์ของเราเลยพาขึ้นไปชมบ้านของพระแม่มารีก่อนครับ



บ้านพระแม่มารี (The House of Virgin Mary) เป็นบ้านอิฐชั้นเดียวที่เชื่อกันว่าเป็นสถานที่อยู่แห่งสุดท้ายของพระแม่มารีซึ่งถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมัน ซึ่งได้นิมิตเห็นพระแม่มารีในบ้านหลังนี้และสามารถเขียนบรรยายเส้นทางการเดินทางและลักษณะอาคารได้อย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตา ซึ่งหลังจากนั้นร้อยปีพอคณะสำรวจตามร่องรอยจากบันทึกของแม่ชีไปก็พบตัวอาคารถูกทิ้งร้างอยู่บนภูเขาที่ไม่มีคนเข้าถึงมานับพันปีและมีลักษณะเหมือนกับที่แม่ชีบรรยายไว้ทุกประการ ปาฏิหาริย์โดยแท้



ภายในมีรูปปั้นพระแม่มารี ห้ามถ่ายรูปด้านในนะครับ ทางเดินลงจากบ้านมีน้ำพุ (เปิดก๊อกเอาได้) ที่เชื่อกันว่าช่วยเยียวยาโรคภัยไข้เจ็บได้ ถัดมามีกำแพงที่คนนิยมเขียนคำอธิษฐานลงกระดาษผูกไว้ด้วย


เอาล่ะ ได้เวลาเยือนเมืองเอฟิซุสกันเสียที ที่นี่เป็นเมืองโบราณยุคโรมันที่ใหญ่โตที่สุดในทวีปเอเชีย และใหญ่อันดับสองของโลกรองจากกรุงโรม เอฟิซุส (Ephesus) เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 พันปีก่อน ถูกบันทึกครั้งแรกเมื่อ 700 ปี ก่อนคริสตกาล และตกเป็นของเอเธนส์เมื่อ 454 ปีก่อนคริสตกาล จนมารุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ก่อนจะตกเป็นของอาณาจักรโรมัน นำคริสตศาสนาเข้ามาในพื้นที่ และในยุคกลางช่วงศตวรรษที่ 14 ท่าเรือของเอฟิซุสถูกดินตะกอนทับถมจนไม่สามารถใช้การได้ ทำให้สูญเสียสถานะของการเป็นเมืองท่า และเมืองก็ค่อยๆลดความสำคัญลงจนถูกทิ้งร้างไปในที่สุด



แต่ดูซากโบราณที่อยู่เบื้องหน้าสิครับ กาลเวลาพันปีไม่สามารถกลบเกลื่อนความยิ่งใหญ่ในอดีตของเมืองนี้ได้เลย สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเมืองหลวงของโรมันในดินแดนอนาโตเลีย ขอบรรยายแค่บางส่วนนะครับ ซากปรักหักพังที่นี่เยอะมากจริงๆ
  • The Odeum เป็นโรงละครขนาดเล็ก (2nd century) จุคนได้ 1,400 คน
  • Pyrtaneion (1st century) วิหารที่ออกุสตุสสร้างเพื่อบูชาเทพีอาร์เทมิส
  • The Mummius Monument (50-30 BC) อนุสาวรีย์ที่นายพลโรมันสร้างให้แก่หลานชายชื่อเมมมุส
  • Nike (1st century) รูปสลักไนกี้ เทพีแห่งชัยชนะ




ประตูเฮอร์คิวลิส (The Heracles Gate) ประตูปลายถนนคูเรเตสสร้างในศตวรรษที่ 4 สลักรูปปั้นเฮอร์คิสลิสทั้งสองข้าง



  • The Trajan Fountain (2nd century) น้ำพุที่สร้างถวายจักรพรรดิทราจัน
  • Public Latrine ส้วมสาธารณะ มีฝาปูนวางบนรางลำเลียงสิ่งปฏิกูล เวลาใช้ให้หย่อนก้นลงรูแล้วเบ่งอึ๊ด!


วิหารเฮเดรียน (Temple of Hadrian) สร้างในสมัยของจักรพรรดิเฮเดรียนในคริสศตวรรษที่ 2 อาร์คด้านหน้ามีรูปปั้นฟอร์จูน่า เทพีแห่งโชค (ตามตำนานเทพกรีกคือเทพีไทคี) ส่วนอาร์คด้านหลังเป็นรูปเมดูซ่า ตามขอบหลังคามีภาพสลักชีวิตประจำวันของผู้คนในเมืองเอฟิซุส งานละเอียดครับ





นี่หละฟอนท์ Times New Roman ของแท้ ส่วนแมวโรมันนี้พบได้ทั่วไปครับ เมืองนี้แมวเยอะมากๆ

และนี่คือไฮไลต์ของเมืองเอฟิซุส หอสมุดเซลซุส (Celsus Library) ที่จูเลียส อาพูอิล่า สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังศพของจูเลียส เซลซุส บิดาของเขาในปี 100-110 AD เก็บตำราไว้ 12,000 เล่ม และเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกยุคโบราณเป็นอันดับสาม รองจากหอสมุดอเล็กซานเดรียที่อียิปต์ และหอสมุดเปอกามัมที่เมืองเปอร์กามัมประเทศตุรกีนี่แหละ น่าเสียดายที่หอสมุดแห่งนี้ถูกพวกกอธบุกทำลายในปี 265 AD



ด้านหน้ามีรูปปั้นเทพีเรียงจากซ้ายไปขวาตามนี้ - โซเฟีย (ภูมิปัญญา), อเรเต้ (คุณธรรม), ยูโนเอีย (ความปรารถนาดี), เอพิสเทเม่ (ความรู้)



อันนี้ตลาดครับตลาด เรียกว่า Agora เป็นตลาดขนาดใหญ่มหึมาในยุคโรมันอยู่ติดกับโรงละคร ยังคงหลงเหลือเสาโรมันเรียงรายอยู่มากมาย



ก่อนจะถึงโรงละครด้านหน้ามีถนนหินอ่อนที่ปูยาวตลอดด้านหน้าโรงละคร ตรงนี้มีรอยเท้าที่ชี้ไปทางซ่องโบราณที่อยู่ตรงข้ามหอสมุดด้วย (ครบวงจรดีนะครับ อ่านหนังสือจบก็เข้าซ่องต่อได้เลย) ชิ้นนี้จะเรียกว่าเป็นโฆษณาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก็ว่าได้



และนี่คืออีกหนึ่งไฮไลต์ของเมืองเอฟิซุสครับ โรงละคร (Theatre) ถึงจะเห็นมาหลายอันแต่อันนี้ใหญ่สุดครับ จุคนได้ 25,000 คน สร้างขึ้นในยุคจักรพรรดิคลาวเดียส (41-54 AD) แล้วเสร็จในยุคจักรพรรดิทราจัน (98-117 AD) จากการออกแบบที่ดีทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงกลางสามารถพูดแล้วคนได้ยินกันทั้งโรง ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงไหน นักท่องเที่ยวไปลองกันแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ นอกจากใช้เป็นโรงละครแล้วที่นี่เคยใช้เป็นที่ประลองของเหล่ากลาดิเอเตอร์ด้วยนะ หน้าที่นั่งชมเลยมีกำแพงกั้นเพื่อป้องกันลูกหลงจากการดวล



ถนนฮาเบอร์ (Habour Street) เป็นที่สุดท้ายก่อนออกจากเมืองโบราณแห่งนี้แล้วครับ สมัยก่อนเป็นถนนที่เชื่อมจากท่าเรือ (แต่ตอนนี้เป็นแผ่นดินไปหมดแล้ว) จนถึงโรงละคร ยาว 530 เมตร



ตรงทางออกมีการจัดแสดงโลงศพและหลักกิโลที่รวบรวมมาจากในเมือง แล้วก็ร้านของที่ระลึก หลังชมเมืองโบราณกันอิ่มเอมแล้วพวกเราก็นั่งรถไปยังสนามบินกัน วันนี้เราจะบินในประเทศ เพื่อกลับไปยังอิสตันบูลครับ หลังจากนั่งรถบัสเที่ยวมาครึ่งประเทศที่เหลืออีกสองวันจะเป็นอิสตันบูลล้วนๆแล้วนะครับ นั่งรอเครื่องสองชั่วโมง บินสองชั่วโมง ซึ่งนานกว่าปกติ เห็นช่วงท้ายๆบินวนอยู่นานไม่ยอมลงจอดเสียที แถมหุบจอไม่ให้ดูว่าบินไปถึงไหนแล้วอีก กะว่าโดนจี้เครื่องบินเข้าแล้วสิตู (เบื่อเลย มาเที่ยวแต่ดันโดนไฮแจ็คเนี่ย ไปโวยในพันทิปได้มั้ยนะ?) แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น เครื่องแค่ลงไม่ได้เพราะการจราจรแน่นหนาเลยวนเล่น และแล้วเราก็มาถึงอิสตันบูลเวลาสองทุ่มจ้า





มื้อเย็นวันนี้กินอาหารไทยที่ร้าน Pera Thai Restaurant ซึ่งก็ไม่ได้มีความอร่อยแต่อย่างใด ต้มยำรสชาติเหมือนกับข้าวที่เพื่อนทำในชั่วโมง กพอ. ตอนอยู่ ป.4 จะว่าเครื่องเทศไทยหายากก็ไม่เชิง สมัยผมอยู่เมกายังทำอร่อยกว่านี้เลย ไกด์เล่าว่ามีอาหารไทยแค่สองร้านในเมืองอัสตันบูล แถมอีกร้านห่วยยิ่งกว่านี้ ซึ่งก็น่าแปลก ทั้งที่คนตุรกีก็นิยมอาหารไทยไม่น้อย เห็นช่องทางธุรกิจละ มาเปิดร้านอาหารไทยในอิสตันบูลกันเถอะครับ

สองคืนสุดท้ายพักที่โรงแรม Gonen หรูหราอยู่สบาย แต่คืนแรกไฟอะลาร์มดันดังด้วยอุบัติเหตุ ตาสว่างกันถ้วนหน้า









เอาละ วันนี้จะเที่ยวเมืองอิสตันบูลกันแล้วจ้าาาาา!!
Smiley

อิสตันบูลเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีผู้คนหนาแน่นที่สุดในตุรกี โดยมีประชากรถึง 14 ล้านคน และสร้าง GDP ให้ประเทศเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 27 เรียกว่าเป็นเมืองใหญ่มาตั้งแต่สมัยคอนสแตนติโนเปิลเมื่อ 500 ปีก่อนเลย ยุคนั้นเมืองนี้มีประชากร 4-5 แสนคน นับว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะครับ





เดิมทีเมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในชื่อไบแซนเทียมเมื่อ 660 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากโรมันเข้ามายึดครองดินแดนแถบนี้ได้เลือกเมืองไบแซนเทียมเป็นศูนย์กลางการปกครองและเผยแพร่ศาสนาคริสต์ เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองคอนสแตนติโนเปิลในปี 330 AD เกิดเป็นอาณาจักรไบแซนไทน์ เมืองนี้ถูกใช้เป็นเมืองหลวงอยู่ยาวนานถึง 16 ศตวรรษ (ศตวรรษที่ 4 - ศตวรรษที่ 20) หลังสิ้นสุดอาณาจักรไบแซนไทน์ ในยุคของออตโตมันพวกเซลจูคได้เปลี่ยนศาสนสถานในเมืองนี้จากคริสต์เป็นอิสลาม เปลี่ยนโบสถ์เป็นมัสยิด แต่อาณาจักรออตโตมันก็จบสิ้นลงหลังพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 และชาวตุรกีได้ปลดแอกประเทศจากการควบคุมของสัมพันธมิตร และย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่อังการา ในปี 1923 ส่วนคอนสแตนติโนเปิลก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นอิสตันบูล ทั้งหมดนี้เพราะผู้คนอยากลืมความเป็นอาณาจักรออตโตมัน ประเทศที่ปกครองด้วยอำนาจผูกขาดของสุลต่านที่ไม่ห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน จนนำมาซึ่งความเสียหายหลายแสนในช่วงท้าย และจบสิ้นลงในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตุรกีถือกำเนิดเป็นประเทศใหม่ที่นำโดยประชาชน มีผู้นำคือมุสตาฟา เคมาล ปาชา ผู้ได้ชื่อว่าอะตาเติร์ก หรือบิดาแห่งชนชาวเติร์ก ...ครับ รูทประวัติศาสตร์ของประเทศทั้งหลายสุดท้ายก็มาทางนี้กันเกือบทั้งนั้นละครับ...

ถึงจะย้ายเมืองหลวงไปแล้ว อิสตันบูลก็ยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่โตที่สุดของตุรกี นอกจากความมั่งคั่งและผู้คนพลุกพล่าน (แถมรถโคตรติด) แล้ว เมืองที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวสองทวีปนี้ยังมีสถานที่ประวัติศาสตร์มากมาย หลายแห่งก็สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโรมัน เพียงแต่ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นมัสยิดไปบ้างอะไรบ้าง นอกจากการนั่งเรือผ่านช่องแคบสองทวีปแล้ว นักท่องเที่ยวที่มายังอิสตันบูลยังนิยมท่องเที่ยวโบราณสถานที่มีความเป็นระดับโลกหลายแห่งและยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน



สถานที่ท่องเที่ยวของอิสตันบูลส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งยุโรปนะครับ และนี่นับเป็นหนแรกที่ผมได้ไปทวีปยุโรปด้วย (แค่นี้ก็นับเนอะ) - คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพขยาย

เนื่องจากเมืองอิสตันบูลมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเยอะมาก วันที่ 5 นี้เนื้อหาจะค่อนข้างอัดแน่นกว่าวันอื่นๆครับ ที่แรกที่คณะทัวร์นำพาพวกเราไปก็คือ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ถูกสร้างขึ้นในปี 1465 ในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ผู้พิชิตอาณาจักรไบแซนไทน์และยึดกรุงคอนสแตนติโนเปิล วังนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ประทับของสุลต่านในยุคออตโตมันมาเกือบ 400 ปี จนกระทั่งระบอบสุลต่านถูกล้มล้างไป



โบสถ์ไอรีนในเขตพระราชวัง สร้างในศตวรรษที่ 4 สมัยไบแซนไทน์ นับเป็นโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในอิสตันบูล ถ้าจะเข้าไปชมด้านในต้องเสียค่าเข้าต่างหากครับ ด้านในมีภาพเขียนสี แต่บูรณะอยู่น่ะนะ



ทางเดินเข้าชั้นในของพระราชวัง ผ่าน Gate of Salutation


ภายในเขตพระราชวัง


พวกเด็กๆชาวตุรกีที่มาทัศนศึกษา



ชื่อ "ทอปกาปึ" หมายถึงประตูปืนใหญ่ วังแห่งนี้มีพื้นที่ถึง 700,000 ตร.ม. เคยมีผู้อยู่อาศัยกว่า 4 พันคน ปัจจุบันถูกรักษาเป็นพิพิธภัณฑ์ และจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของสุลต่านด้วย ด้านในบางอาคารห้ามถ่ายภาพ แต่สามารถถ่ายด้านนอกได้ครับ ด้วยความที่พระราชวังถูกบูรณะเมื่อไม่นานมานี้เอง เลยไม่ค่อยมีความเป็นโบราณสถานให้เจ้าของบล็อกที่หลงใหลซากอิฐได้ซาบซึ้งเท่าไหร่ บ้านผมเลยแยกจากไกด์รีบไปถ่ายรูปให้ทั่ววังแล้วมุ่งไปจุดหมายหลักของเราที่ทัวร์ไม่ได้พาไปกันดีกว่า นั่นคือ "พิพิธภัณฑ์โบราณคดีอิสตันบูล" ...น้องผมปรินท์แผนที่มาเรียบร้อย อันนี้ต้องไปครับ!

พิพิธภัณฑ์โบราณคดีอิสตันบูล (Istanbul Archaeological Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโบราณวัตถุผ่านประวัติศาสตร์ยุคต่างๆของตุรกีไว้ทั้งหมด ตั้งแต่ยุคหิน เมโสโปเตเมีย อัสซีเรีย ฮิตไตต์ อียิปต์ โรมัน ออตโตมัน ฯลฯ ถ้าเทียบแล้วมันก็คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครของตุรกีนั่นแหละ ทางเข้าอยู่ในเขตพระราชวังทอปกาปึ ก่อนถึง Gate of Salutation น่ะ ค่าเข้า 15 TL. ครับ



พิพิธภัณฑ์นี้แบ่งออกเป็นสามอาคารคือ Archaeological Museum (อาคารหลัก เน้นศิลปะยุคเมโสโปเตเมีย-อียิปต์) Museum of the Ancient Orient (เน้นศิลปะยุคโรมัน-ไบแซนไทน์) และ Museum of Islamic Art (เก็บศิลปะอิสลาม) พวกเรามีเวลาไม่มาก เพราะต้องชมพิพิธภัณฑ์อันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ให้เสร็จก่อนคณะทัวร์คนอื่นๆจะชมวังทอปกาปึเสร็จ นั่นคือมีเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมง! กับการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ที่ติดอันดับ TOP10 พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ที่สำคัญ....มันถ่ายรูปได้ไม่อั้น!! นั่นทำให้เราต้องวิ่งกันอุตลุดยิ่งกว่าวิ่งเก็บ RC อีกครับ ดีว่าอากาศเย็นสบาย น่าวิ่ง

เราพุ่งตรงไปยังอาคาร Museum of the Ancient Orient เป็นที่แรก ที่นี่เก็บโบราณวัตถุไล่เรียงมาตั้งแต่ยุคเปอร์เซียปกครองดินแดนอนาโตเลีย (546-333 BC) ยุคกรีก (330-30 BC) ยุคโรมัน (100 ปีก่อนคริสตกาล - ศตวรรษที่ 4) และยุคไบแซนไทน์ (ศตวรรษที่ 4 - ศตวรรษที่ 13)

มาครับ ได้เวลาสาดรูป (คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพขยายได้นะ) ที่เลือกๆมานี่ประมาณ 1 ใน 10 ของที่เห็นในพิพิธภัณฑ์ได้

โซนแรกเป็นศิลปะเปอร์เซีย-กรีก-โรมัน







ชั้นบนมีการแสดงโบราณคดียุคหิน ซึ่งตุรกีเป็นพื้นที่แรกๆในยุโรปที่มีหลักฐานการตั้งรกรากของมนุษย์ตั้งแต่เมื่อ 4 แสนปีก่อน



ถัดมาเป็นโซนศิลาจารึก ป้ายสุสาน และโลงศพสมัยโรมัน





ห้องนี้แยกโบราณวัตถุตามแหล่งโบราณสถานที่ขุดพบ



โบราณวัตถุที่พบในประเทศอื่นๆแถบนี้ ทั้งไซปรัส ซีเรีย ปาเลสไตน์ ฯลฯ รักษาไว้ที่นี่ปลอดภัยจากพวกก่อการร้ายมากกว่าตั้งไว้ล่อเป้าไอซิสในพื้นที่เสี่ยงเนอะ



รีบวิ่งแทบแย่กว่าจะถ่ายได้ครบ เหลือเวลาประมาณ 5 นาที กะว่าเดินกลับไปสมทบคณะทัวร์ของเราได้พอดี เรานี่ทำเวลาได้สุดยอด!!! ...แต่ออกมาดันเจออาคารหลัก Archaeological Museum ฉิบหาย! ลืมสนิท!! ถึงจะไม่ใหญ่โตเท่าอาคารแรก จนทีแรกเราไม่ได้สังเกต แต่ของเด็ดๆมันอยู่ในเน้!! ต้องรีบวิ่งเก็บภาพอาคารหลักภายในห้านาทีครับ Smiley ที่นี่มีโบราณวัตถุจากอียิปต์ที่ถ่ายรูปได้ไม่อั้น!! ตอนไปพิพิธภัณฑ์ที่ไคโรอลังการจริงแต่มันถ่ายรูปไม่ได้ ไม่คาดฝันว่าจะได้ถ่ายรูปโลงศพฟาโรห์ครั้งแรกที่ตุรกี...





ศิลปะโซนเปอร์เซียยุคแรกๆก็มีให้ชมกันให้เพียบครับ อาณาจักรเก่าแก่ลำดับต้นๆของโลกที่เราเรียนกันมานอกจากอียิปต์แล้วก็มีพวกเมโสโปเตเมีย อัสซีเรีย บาบิโลน ซึ่งที่นี่มีศิลปะในยุคนี้ด้วยครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นโบราณวัตถุของเมโสโปเตเมียเลยนะเนี่ย (น้ำตาจะไหล ตูมีเวลาแค่ห้านาที... Smiley) ภาพนี้คือกระเบื้องสีประดับข้างถนนสู่ประตูอิชทาร์ของกรุงบาบิโลน สร้างสมัย 575 ปีก่อนคริสตกาล






โบราณวัตถุชิ้นหนึ่งที่อ่านเจอในหนังสือและสนใจจะมาดูคือสนธิสัญญาสงบศึกคาเดชที่ทำระหว่างราเมซิสที่สองแห่งอียิปต์กับฮัตตูสิลิที่สามแห่งฮิตไตเป็นสนธิสัญญาสลักบนแผ่นหิน และเป็นสนธิสัญญาสงบศึกชิ้นแรกของโลกด้วย ....ซึ่งผมหาไม่เจอครับ ไม่รู้เขายกไปจัดแสดงไว้ที่อื่นหรือเปล่า ส่วนอีกอาคารหนึ่งคือ Museum of Islamic Art ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ต่อให้เวลาเหลือก็คงใช้เวลาเที่ยวชมสองอาคารที่ผ่านมาให้นานขึ้นมากกว่า



พักเบรค กินมันเผา

โชคดีมาสบทบคณะทัวร์ได้ทันเวลาพอดี เราออกจากวังทอปกาปึไปยังสถานที่ต่อไปที่อยู่ติดกันเลยครับ นั่นคือ ฮายาโซเฟีย (Hagia Sophia) ถูกสร้างขึ้นในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งไบแซนไทน์ ให้เป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่โตที่สุดในยุคนั้น แต่หลังชาวเติร์กยึดครองไบแซนไทน์ได้ก็ได้เปลี่ยนวิหารแห่งนี้เป็นมัสยิด ปรับโครงสร้างภายนอก และปิดปูนขาวทับภาพโมเสคของศาสนาคริสต์ แต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง อะตาเติร์กได้เปลี่ยนมัสยิดแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์และล้างปูนขาวออกให้เห็นภาพโมเสกดั้งเดิม ทำให้เรายังคงเห็นภาพพระเยซู พระแม่มารี และสาวกอื่นๆ อยู่ในมัสยิดแห่งนี้อย่างอลังการ ภาพเหล่านี้ทั้งความเก่าแก่และความสวยงามควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างยิ่งครับ





ภาพพระแม่มารีอุ้มพระเยซู โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ยอดโดมด้านใน สร้างในศตวรรษที่ 6 และบูรณะในศตวรรษที่ 9





อันที่จริงสุเหร่าสีน้ำเงินจุดหมายต่อไปก็อยู่ติดกันเลย แต่มันเที่ยงได้เวลากินข้าวแล้วครับ ทัวร์พาออกไปหาข้าวมันไก่ย่างกิน (ทริปนี้เบื่อไก่ย่างปลาย่างโคตรๆ) แล้วกลับมาที่เดิม ที่เห็นวันนี้รูปดูมัวหมองเพราะฟ้าของอิสตันบูลมันครึ้มฟ้าครึ้มฝนปีละ 365 วันแบบนี้ละครับ และแล้วช่วงบ่ายฝนก็เทลงมา ผมจึงได้โอกาสทดสอบการกันน้ำของกล้องใหม่... ได้ซะที่ไหนล่ะเฮ้ย มันแพงนะ! พอออกจากตัวอาคารจะถ่ายรูปก็ต้องรีบกดรีบเก็บ ไม่ให้กล้องเปียกมาก เดี๋ยวมันจะมาเสียชีวิตที่ตุรกีทั้งที่เพิ่งซื้อมาไม่ถึงเดือน

ด้านข้างของสุเหร่าสีน้ำเงินมี ฮิปโปโดรม (Hippodrome) เป็นสนามแข่งม้าในยุคโรมัน ใครเคยดูเบนเฮอร์ก็นั่นละครับ น่าเสียดายที่แทบไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรนอกจากเสาที่ตั้งตระหง่านอยู่คือโอเบลิสก์ของอียิปต์ (เสายอดปิระมิดหน้าสุด) เสาคอนสแตนตินที่ 7 (เสายอดปิระมิดด้านหลัง) และเสางู (เสาเล็กๆพันเป็นเกลียวอยู่ใกล้เสาคอนสแตนติน) ซึ่งเสาทั้งสามมีอายุเก่าแก่ก่อนคริสกาลประมาณ 3-4 ร้อยปีทั้งนั้น



สุเหร่าสีน้ำเงิน หรือ บลูมอสก์ (Blue Mosque) สร้างโดยสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ให้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมมหาวิหารโซเฟีย สร้างเสร็จในปี 1620 และใช้เป็นมัสยิดหลักของออตโตมันแทนมหาวิหารโซเฟียไป ด้วยความที่มีเสาถึง 6 เสา เทียบเท่ามัสยิดในกรุงเมกกะ ทำให้หลายๆคนเรียกที่นี่ว่ามัสยิดหกเสาด้วย





เวลาเหลือไกด์เลยพามาดูห้องน้ำกันหน่อย และแล้วลูกทัวร์หล่อๆก็ถูกล่อลวงให้เข้าไปในห้องน้ำทีละคนๆ (อย่าลืมว่าไกด์ลูกหมูเป็นกะเทยค่ะ) ค่าเข้าห้องน้ำอันนี้ 20 TL ครับ เมื่อผ่านประตูลงมาใต้ดินจะพบกับ อ่างเก็บน้ำโรมัน (Basilica Cistern) สร้างในปี 532 เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินที่สามารถจุน้ำได้ถึง 8 หมื่น ลบ.ม. โดยที่นี่มีเสาค้ำยันถึง 336 ต้น โอ้วพระเจ้าลูเชียส! ตุรกีมันมีทุกอย่างจริงๆ!!





เสาต้นนี้รูปร่างต่างจากต้นอื่นๆ เป็นลวดลายลูกตา น้ำในนี้มีปลาว่ายอยู่ด้วยนะ


ที่ปลายสุดมีเสาสองต้นหัวเสาเป็นหัวเมดูซ่า


จากนั้นทัวร์ปล่อยลูกทัวร์ลงที่ แกรนด์บาร์ซ่า (Grand Bazaar) ได้เวลาช้อปหนักครับ ที่นี่เป็นตลาดเก่าแก่สร้างในปี 1455 ปัจจุบันมีร้านค้ามากกว่า 4,000 ร้าน มีตรอกซอกซอยให้เดินมากมาย แต่ก็เชื่อมต่อถึงกันหาทางกลับมาทางออกได้ไม่ยากครับ ใครอยากช้อปซื้อของที่ระลึกก็ซื้อไปเลยนะ ตลาดนี้ของดูดีและถูกที่สุดในทริปนี้แล้วครับ ที่นี่ซื้อของได้สบายหน่อยเพราะพ่อค้าตุรกีไม่ตื๊อแบบอินเดียหรืออียิปต์ และไม่ได้ดุร้ายแบบจีนหรือเวียดนาม นอกจากของที่ระลึกแล้วพวกขนมอย่าง Turkish Delight ก็น่าซื้อครับ (ส่วนถั่วไปซื้อตลาดเครื่องเทศวันพรุ่งนี้ถูกกว่า)



พอช้อปหนำใจก็ไปนั่งรอที่ร้านกาแฟ Kahve Dunyasi หน้าตลาดหนีหนาวกัน ช็อคโกแลตร้านนี้อร่อยมากๆ แต่กาแฟตุรกีรสชาติเหมือนรากหญ้าคา

เดินกลับรถบัส ตอนนี้ค่ำแล้วบ้านเมืองตุรกีเริ่มแปลกตาไป ไม่ใช่แค่มัสยิดต่างๆและน้ำพุกลางจตุรัสเปิดไฟสวยงามนะครับ แต่เริ่มเห็นผู้อพยพชาวซีเรียออกมานั่งขอทานตามริมทางเดิน ถึงอิสตันบูลจะอยู่ห่างจากชายแดนมากๆ แต่ผู้ลี้ภัยสงครามมาอยู่ใกล้ตัวแค่นี้เอง รู้สึกเหมือนอีกโลกที่แสนโกลาหลกำลังเอื้อมมือเข้าใกล้พวกเราในสังคมอันแสนอุดมอย่างช้าๆ หลังจากผมกลับจากตุรกีไม่นานก็เกิดเหตุระเบิดพลีชีพของกลุ่มไอเอสที่อิสตันบูล เร็วๆนี้ก็เพิ่งไปอาละวาดที่บรัสเซลอีก ไม่รู้อีกนานแค่ไหนถึงจะถอนรากถอนโคนไอเอสได้นะครับ



มื้อค่ำวันนี้ทานอาหารจีนกันที่ Ming Garden Restaurant เป็นมื้อหรูที่สุดในทริปเลยขอลงรูปไว้สักหน่อยครับ



วันนี้เที่ยวหลายที่มาก แต่ไหนๆก็เป็นคืนสุดท้ายในตุรกีขอเที่ยวให้หนำใจกว่านี้อีกสักหน่อย หลังเอาของไปเก็บที่โรงแรม Gonen แล้วเราก็ข้ามสะพานลอยไปเดินห้าง Starcity Outlet กันครับ ก็ประมาณโรบินสันบ้านเรานะ







วันสุดท้ายยังคงอยู่ในอิสตันบูล โปรแกรมหลักวันนี้คือการนั่งเรือลอดช่องแคบบอสฟอรัสที่กั้นระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป แต่ฝนฟ้าก็ยังไม่เป็นใจ วันนี้พรำทั้งวันครับ พวกเราคิดถึงฟ้าสวยๆที่ปามุคคาเล่มาก



ก่อนขึ้นเรือช่วงเช้ามาเที่ยวบนบกก่อน พระราชวังโดลมาบาชเช่ (Dolmabahce Palace) เป็นพระราชวังช่วงท้ายๆของจักรวรรดิออตโตมันที่สุลต่านอับดุลเมอซิทสร้างเสร็จในปี 1856 เป็นวังแบบบาร็อคที่ผสมผสานศิลปะแบบยุโรปและออตโตมันเข้าด้วยกัน และสร้างอย่างหรูหราทั้งที่มีวังหลักที่ทอปกาปึอยู่แล้ว อีกทั้งช่วงนั้นผู้คนยากจนข้นแค้น การสร้างวังสุดอลังเป็นการแสดงความมั่งคั่งว่าออตโตมันยังไหวยู้ววววว (ประชาชนตะโกนตอบมาว่า "แต่พวกกูไม่ไหวแย้ววววว') และนี่เป็นหนึ่งในเหตุจูงใจให้ระบอบสุลต่านถูกประชาชนโค่นล้มลงไปอย่างน่าอนาถ อ่อ ด้านในถ่ายรูปไม่ได้นะครับ มีเจ้าหน้าที่คุมเข้มทุกจุด ภายในมีทั้งโคมระย้าหนัก 4.5 ตัน นับว่าใหญ่โตที่สุดในโลก มีข้าวของเครื่องใช้ที่อาณาจักรต่างๆถวายให้ หนังหมี งาช้าง ฯลฯ มีการประดับอาคารด้วยทองคำด้วยนะ สิ้นเปลืองจริงๆ





รูปที่เห็นนี่ถ่ายด้านนอกล้วนๆครับ ข้างในถ่ายภาพไม่ได้

ช่วงเที่ยงแวะทานข้าวกันที่ตลาดปลา ไปกินซุปปลาที่ภัตตาคาร Kosem Restaurant ครับ ปีก่อนนั่งกินร้านริมทะเลที่อียิปต์มาแล้ว คราวนี้กินที่ตุรกีมั่ง เค็มบัดซบทั้งคู่ ต้องเป็นความผิดของทะเลเมดิเตอเรเนียนแน่ๆ แต่ซุปปลาเขาก็อร่อยดีนะ ที่น่าเบื่อที่สุดก็คือฝนที่ตกไม่ยอมหยุดเสียที วันนี้ตกทั้งวันยันกลับไทยจริงๆครับ รถก็ติด



ได้เวลาล่องเรือ! แต่บรรยากาศก็ไม่เหมือนนั่งเรือสำราญจิบไวน์สุดไฮโซที่เห็นกันในหนังหรอกครับ เพราะฝนตกแถมลมแรง ดาดฟ้าเรือนี่หนาวชิหัย! ต้องเข้าไปหลบในห้องชั้นล่างกัน แต่อยากได้รูปสวยๆอะ เลยทนหนาวอยู่บนดาดฟ้าจนกว่าจะทนไม่ไหวนั่นแหละ





เรือล่องผ่าน ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) ฝั่งหนึ่งเป็นทวีปเอเชีย ส่วนอีกฝั่งคือยุโรป (เป็นเมืองอิสตันบูลทั้งสองฝั่ง) มีสะพานแขวนเชื่อมสองทวีปทั้งสะพานแขวนบอสฟอรัสและสะพานแขวนสุลต่านเมเหม็ด ยาวเป็นกิโลเลยนะ! ริมทะเลอันเป็นทำเลทองขนาดนี้ย่อมมีสิ่งก่อสร้างเด่นๆสำคัญๆมากมายอยู่แล้ว อย่างภาพด้านล่างนี้นอกจากสะพานแขวนแล้วยังมี มัสยิดโอโตกอย (Otokoy Mosque) พระราชวังเบยเลอเบยึ (Beylerbeyi Palace) และหอคอยไมเดน (Maiden's Tower) นอกจากนี้ยังมีโรงแรมหรูคืนละแสน, สนามฟุตบอลกลางน้ำของทีมกาลาตาซาราย และอื่นๆ อีกมากมายที่ถ่ายไม่สวยจนไม่กล้าเอามาลง



ป้อมรูเมลึ (Rumeli Fortress) สร้างโดยสุลต่านเมเหม็ดในปี 1452 และสร้างเสร็จในเวลาแค่ 4 เดือน (สร้างเร็วเพราะสมัยนั้นไม่ต้องเปิดซองประมูล 555) และใช้เป็นฐานบุกคอนสแตนติโนเปิลจนกระทั่งได้รับชัยชนะและสร้างอาณาจักรออตโตมันขึ้น ป้อมนี้ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ปกป้องออตโตมันจากการโจมตีทางน้ำมานักต่อนัก



พอขึ้นบกก็ไปที่เที่ยวที่สุดท้ายในทริปนี้แล้วครับ นั่นคือ ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) มีอีกชื่อว่าตลาดอียิปต์ เพราะรัฐบาลอียิปต์ให้ทุนในการสร้างตลาดแห่งนี้ มีเครื่องเทศขายมากมาย ซึ่งก็ไม่รู้จะซื้อไปทำไม แต่สีมันสวยบาดใจจริงๆครับ นอกจากเครื่องเทศแล้วตลาดนี้ก็มีของทั่วๆไปขาย แต่เน้นของกินมากกว่าที่แกรนด์บาร์ซ่านะ หลายร้านขายถั่วกับผลไม้แห้ง ชั่งน้ำหนักขาย บอกเขาว่าเอาอะไรกี่กิโล เดี๋ยวเขาจัดให้ ครึ่งกิโลก็ขายนะ ชิมก่อนซื้อก็ได้ครับ หรือถ้าชอบกินหลากหลายก็ซื้อแบบที่รวมถั่วกับผลไม้หลายๆชนิดก็ได้ จะซื้อเป็นของฝากเพื่อนๆที่ทำงานก็เข้าท่าดี ส่วนขนมดังของตุรกีอย่าง Turkish Delight ถ้าไม่ใช่ร้านอร่อยมันแทบจะแด๊กไม่ลงเลยครับ แต่แบบดีๆหน่อยก็แพงเว่อร์ แนะนำให้ซื้อแบบดีๆไว้กินเองพอ













ช่วงเดินตลาดให้เวลาชั่วโมงครึ่ง นานม้ากกกก แถมมันไม่ใช่ตลาดในร่มแบบแกรนด์บาร์ซ่า ไม่มีร้านกาแฟให้หลบอีกต่างหาก เลยต้องเข้าไปอ้อนวอนต่อพระเจ้าในมัสยิดแถวนั้นไม่ให้แข็งตาย ซึ่งมัสยิดพระมารดาสุลต่าน (Mosque of the Valide Sultan) แห่งนี้ก็สวยงามใหญ่โตนะครับ ถึงจะมีแค่สองเสาแต่ก็ใหญ่โตพอๆกับมัสยิดสี่เสาเลยนะเออ เขาแบ่งเกรดมัสยิดตามจำนวนเสา บลูมอสก์ที่มีถึง 6 เสาจึงอลังการเกินใคร



ออกจากตลาดก็ปิดท้ายด้วยอาหารจีนครับ จากนั้นก็ได้เวลากลับประเทศไทยแล้วจ้าาา Smiley บ๊ายบายไกด์เพลินคนสวยผู้ให้ความรู้มากมาย Smiley บ๊ายบายไกด์ลูกหมูผู้คอยดูแลลูกทัวร์เป็นอย่างดีตลอดการเดินทาง Smiley บ๊ายบายลูกทัวร์เพื่อนร่วมทางผู้น่ารักจนไม่มีเรื่องให้บ้านผมเอามานินทาเลย (ทริปนี้ไม่มีดราม่ามันส์ๆเบย~) แต่บล็อกนี้ยังไม่จบครับ! หลังพาทัวร์จนหมดแล้วก็ขอเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของประเทศนั้นๆมาเล่าตามธรรมเนียม...



ตั๋วเข้าชมสถานที่ก็เป็นของที่ระลึกที่ผมชอบเก็บสะสมจากการท่องเที่ยวที่ต่างๆนะ อันนี้รูปตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของตุรกีครับ ส่วนใหญ่ค่าเข้าอยู่ที่ 10-20 TL แต่รวมในแพ็คเกจทัวร์เรียบร้อย ยกเว้นพิพิธภัณฑ์เฮราโพลิสและพิพิธภัณฑ์โบราณคดีอิสตันบูลที่อยากเข้าไปเอง



ตามแหล่งท่องเที่ยวจะมีไอศครีมตุรกีขาย ทำจากนมแพะเหนียวหนึบจนคนขายมักจะควักออกจากถังมาโชว์เป็นก้อนให้เห็นความหนึบของมัน (แต่ในรูปคีบโคนให้ดูเฉยๆนะ ถ่ายก้อนไอติมไม่เคยทันเลยครับ เขารีบเอาลงถังตลอด ต้องซื้อถึงจะให้ถ่ายรูป) ของขายตามแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆก็พวกหนังสือ โปสการ์ด แล้วก็น้ำกระป๋องเหมือนที่เที่ยวทั่วๆไป



ตุรกีใช้ค่าเงิน Turkish Lira (TL) 1 TL ประมาณ 13 บาท ข้าวของที่นั่นแพงกว่าบ้านเราพอสมควร ของฝาก ถ้าไม่อยากซื้อถั่วตามที่แนะนำก็มีของที่ระลึกสวยๆหลายแบบครับ ถึงจะไม่สวยเท่าของอียิปต์แต่ราคาก็ไม่ดุดันเกินไป พวกแม่เหล็กติดตู้เย็นราคาตกอันละ 2-5 TL ร้านที่ถูกที่สุดคือแผงหน้าสุสานเมฟลาน่าที่คอนย่าเลยครับ อันละ 1 TL เท่านั้นเอง แต่ไม่มีลายสวยๆเท่าไหร่นะ จะเอาสวยๆต้องลงทุนควักตังค์มากกว่าเน้



ของฝากยอดนิยมอีกอย่างคือ Evil Eye ซึ่งที่ตุรกีจะทำเป็นแก้วสีน้ำเงินวาดรูปลูกตาเรียกว่า nazars ซึ่งเชื่อว่าช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ที่คาปาโดเกียคนนิยมซื้อห้อยไว้บนต้นไม้ หรือจะซื้อไปเป็นของฝากก็ดี เป็นอีกหนึ่งของฝากที่คนรุมกันจับจองหมดก่อน ซื้อตามที่ท่องเที่ยวถูกกว่าไปซื้อเอาที่สนามบินเยอะครับ หรือถ้างกก็เด็ดเอาจากต้นนี้ก็ได้ เผื่อมีปีศาจตุรกีเกาะหลังกลับบ้านไปด้วย



นอกจากวิวงามๆกับฟ้าโปร่งๆแล้วพวกนกๆก็ช่วยให้ถ่ายรูปสวยขึ้นด้วยนะครับ โดยเฉพาะนกพิราบที่คาปาโดเกีย และนกนางนวลที่คุซาดาซึหรือช่องแคบบอสฟอรัส พวกมันจะบินวนทำมุมสวยงามเหนือจุดถ่ายภาพยอดนิยมตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเหมือนการท่องเที่ยวตุรกีจ้างมา อันนี้นกตั้งขบวนเป็นรูปตัววี เพื่อลดแรงต้านลม ใช้สำหรับเดินทางไกลครับ อ่านในหนังสือมานานเพิ่งจะเคยเห็นกับตาเนี่ย



สัตว์อีกอย่างนอกจากนกที่เหมาะจะเอามาประกอบภาพวิวก็มีแมวเนี่ยครับ อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆมากมาย โดยเฉพาะตามโบราณสถาน คาดว่าพวกมันน่าจะสนใจประวัติศาสตร์ไม่น้อย ประเทศอิสลามแมวก็เยอะเงี้ย แมวจรจัดประเทศนี้สะอาดทุกตัวเลยนะครับ เป็นเมืองหนาวขนของทุกตัวก็เลยฟูนุ่มน่าจับมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แถมเชื่องคนมากๆด้วย แต่ใช้ประกอบภาพได้ไม่ดีเท่านกหรอกครับ พวกมันขโมยซีนเกินไป



ตามข้างทางจะปลูกส้มไว้เยอะเหมือนกัน เขาเอาไว้ดูดสารพิษน่ะ แต่ผลส้มกินไอเสียพวกนี้จะไม่เอามากินนะครับ ส่งไปโรงงานทำแยมน่ะ ส่วนพวกส้มสำหรับคั้นน้ำจะเป็นอีกเกรดนึง ผลไม้อีกอย่างที่คนตุรกีนิยมเอามาคั้นน้ำขายก็มีทับทิม ตามแหล่งท่องเที่ยวน้ำทับทิมแก้วละ 9 TL แน่ะ แพงโคตรๆ แถมฝาดด้วยนะ เพราะเขาใส่ลงไปทั้งเปลือก กลับไปกินน้ำทับทิมเยาวราชเหอะ



ว่าแล้วก็ถึงคิวรีวิวอาหารเสียที พูดถึงอาหารตุรกีคนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงเคบับ แต่อาหารที่กินในทริปนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกไก่ย่าง ปลาย่าง กินกับแป้งทอดหรือข้าวมัน ทัวร์คงต้องจัดมื้อที่คนไทยกินได้แน่ๆ เลยไม่ได้กินของแปลกๆหลากหลายเท่าไหร่ พวกอาหารเช้าก็คล้ายๆอเมริกันเบรคฟาสต์ที่ไม่มีหมูและส่วนประกอบของหมูทุกชนิด อเมริกันเบรคฟาสต์ที่ไม่มีแฮมและเบคอนมันน่าเศร้า! ส่วนของหวานก็ว้านหวาน ชอบรังผึ้งที่นี่นะครับ กินได้ทั้งรังแบบไม่มีขี้ผึ้งคาปากให้คายทิ้งเลย



และนี่ละครับเคบับ (ภาษาเปอร์เซียแปลว่าย่าง) แบบที่เรียกว่า Döner คือเอาเนื้อ/ไก่/แกะ เสียบแท่งเหล็กแนวตั้งแล้วหมุนย่าง แต่ยังไม่เจอที่เอามาห่อแป้งแบบที่เห็นในบ้านเรานะ เขาตักลงจานให้เอาไปกินกับข้าวมันนั่นแหละ



ขนมชื่อดังของตุรกีมี Turkish Delight ของหวานเหนียวหนุบหนับใส่ถั่วประเภทต่างๆ มีขายตั้งแต่ถูกๆกล่องละ 5 TL ไปจนถึงหลายสิบ TL แต่ยิ่งถูกยิ่งห่วยนะครับ ซื้อฝากเพื่อนเพื่อนยังโกรธเลย ทางที่ดีไปหาร้านแพงๆอร่อยๆแล้วกินเองเถอะ ร้านที่อร่อยที่สุดเท่าที่ตระเวนชิมในทริปนี้ก็ต้องร้าน Hakki Zade หน้าตลาดแกรนด์บาร์ซ่าเลยครับ เป็นร้านเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1864 มีสาขาทั่วประเทศ นอกจากความหวานและความเหนียวจะพอดีๆแล้วร้านนี้ยังใช้น้ำทับทิมให้ความหวานแทนน้ำตาลด้วยนะ




ปีก่อนมีข่าวร้ายๆเกี่ยวกับตุรกีมาก ทั้งตกเป็นเป้าโจมตีของไอเอส ทั้งกำลังมีเรื่องกับรัสเซีย ที่สำคัญยังทะเลาะกับไทยเรื่องที่ไทยส่งตัวอุยกูร์กลับจีนด้วย เลยทำให้คนไทยหวาดๆที่จะไปเยือน แต่พอไปเข้าจริงๆเขาก็ยังต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็๋นอย่างดีนะ ยังไงก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีนี่นะ หรือพวกเราไม่เจอพวกคลั่งการเมืองก็ไม่รู้ การมาเที่ยวช่วงที่คนไม่กล้าเที่ยวก็ทำให้ทริปเราแทบจะเป็นทัวร์ VIP เลยครับ เมืองอื่นๆนอกจากอิสตันบูลดูไร้นักท่องเที่ยวเอามากๆ สามารถถ่ายภาพวิวได้แบบไม่ต้องไปตัดต่อเอาคนออก แถมสถานที่ท่องเที่ยวในตุรกีก็สวยเกินคาดจนน่าสงสัยว่าทำไมมันไม่ดังกว่านี้ ตั้งแต่เที่ยวมาประเทศนี้สวยอเมซิ่งที่สุดแล้วครับ มีธรรมชาติสุดวิจิตรไม่ว่าจะเป็นหุบเขาแปลกตาที่คาปาโดเกียหรือปราสาทปุยฝ้ายปามุคคาเล่ และด้วยความเป็นศูนย์กลางของแหล่งอารยธรรมที่ใหญ่โตที่สุดของโลกยุคโบราณ ทำให้ที่นี่มีประวัติศาสตร์โลกยุคโบราณทั้งเปอร์เซีย-กรีก-โรมัน-อียิปต์ รวมทั้งอารยธรรมเฉพาะของดินแดนอนาโตเลียอย่างฮิตไตหรือออตโตมันด้วย

หลังจากคณะผมกลับมาไม่นานก็มีเหตุระเบิดในอิสตันบูลตามที่เล่าไป พวกไอเอสเริ่มเข้าถึงใจกลางเมืองหลวง ไหนจะมีปัญหาผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ทำให้การท่องเที่ยวตุรกีดูจะย่ำแย่หนักเข้าไปอีก และอีกไม่นานตุรกีจะเข้าไปร่วมกลุ่มอียู ซึ่งก็จะทำให้เราต้องขอเชงเก้นวีซ่าหากจะไปเที่ยวตุรกีด้วย เรื่องนี้คนทำทัวร์ปวดหัวกันถ้วนหน้า ยังไงช่วงนี้ตุรกียังไม่ปลอดภัยก่อนไปเที่ยวก็ติดตามข่าวกันให้ดีก่อนแล้วกันครับ ถ้ายังไม่มีโอกาสเข้าไปก็เที่ยวจากในบล็อกกันไปพลางๆก่อนจ้าาาา

Smiley






Create Date : 25 มีนาคม 2559
Last Update : 5 มีนาคม 2560 18:57:47 น. 81 comments
Counter : 6021 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะคุณชีริว..

เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมจริงๆค่ะ..

เมืองเก่าๆ เก็บรักษาไว้ด้วยดีมากๆ

ธรรมชาติยังดูสวยงาม..

ในเมืองก็ดูสะอาดดีนะค่ะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 25 มีนาคม 2559 เวลา:22:37:30 น.  

 
เดี๋ยวๆ ลงชื่อให้ก่อนนะ
ค่อยมาเก็บรายละเอียด อีเหมียวน่ารักมากกก
กลมๆ ตามท้องรื่อง ไฟแฉกกล้องนี้โหดร้ายสุดๆ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
peeamp Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog






โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 25 มีนาคม 2559 เวลา:23:49:52 น.  

 
<*embed height=400 type=application/x-shockwave-flash width=560 src='//www.sayhi.co.kr/sayhi/swf/music/MUZU10004.swf'wmode="transparent"allowscriptaccess="never"><*/embed>


โดย: ชมพร วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:0:18:16 น.  

 
เป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากค่ะแต่ยังเที่ยวไม่หมดแปะใว้ก่อน โหวตให้ค่ะ


โดย: zungzaa วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:0:40:37 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

เช้านี้ใช้เวลาที่บล็อกน้องชีริวนานเลยครับ
นั่งอ่าน นั่งดูรูปเพลินตามากๆ
น้องชีริวทำการบ้านได้ดีมากก่อนไปเที่ยว
เขียนบรรยายอย่างละเอียดเลย

บ้านเมืองเค้าสวยมาก
ปัญหาเดียวในตอนนี้คือถูกวางระเบิดบ่อยเลยนะครับ
แล้วใครจะกล้าไปเนี่ย

เสียดายจริงๆ
เพราะพี่ก๋าอยากไปมากๆเลยครับ
อยากไปถ่ายภาพที่นี่

ปิดท้ายบล็อก
กะว่าต้องมีภาพสาวตรุกีมาให้ชมบ้าง
กลายเป็นแมวซะงั้นครับ 555




โหวต travel blog ครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:6:35:29 น.  

 
ชอบประเทศนี้จังมีสิ่งสวยงามมากมายจริงๆ
อีกทั้งมีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ไม้แพ้ประเทศทางแถบยุโรปเลย
เอฟิซุส (Ephesus) คล้ายอิตาลีเนอะ ในอดีตคงยิ่งใหญ่เอาเรื่องเลย
พระราชวัง สุเหร่าก็ส๊วยสวย
เห็นเมนูรังผึ้งแล้วนึกถึงสเปน ในตลาดใหญ่ๆจะมีเจ้ารังผึ้งเยิ้มด้วยน้ำเชื่อมแบบนี้ล่ะ
พี่ว่าแปลกดีนะ ท่าทางจะอร่อย
ร้านรวงสิค้ามากมายน่าเดินดีเนอะ
เห็นแบบนี้แล้วอยากไปเที่ยวอ่ะ
จริงๆแล้วประเทศตุรกีก็น่าสงสารนะ มีอยู่พักนึงมีแต่ข่าวระเบิด
เวลาลูกสาวบินไป พี่ล่ะเป็นห่วงน่าดู
แต่พักนี้ข่าวแบบนี้เงียบๆไปหน่อย


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Travel Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


เทียนหยดญี่ปุ่น ไม่มีข้อมูลว่าจากญี่ปุ่นหรือเปล่า
ก็ยัง งงๆ กับชื่ออยู๋จ้ะ
ขอบคุณที่แวะชมจ้า



โดย: mambymam วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:7:23:56 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

เป็นหนึ่งประเทศที่อยากไปมาก ๆ ๆ
Theatre เค้าใหญ่มากกกก จุได้ 25,000 คนกันเลย
บ้านเมือง ตึกรามบ้านช่องเค้าก็น่าสนใจเนอะ
แต่มีคนบอกว่าอาหารตุรกีแห้ง ไม่อร่อยง่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:12:03:25 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านนะ ลงชื่อใช้สิทธิ์ก่อน
ไปไหว้เช็งเม้งก่อนจ้า
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Photo Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
mcayenne94 Home & Garden Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
ชมพร Cartoon Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:12:12:03 น.  

 
Hey guy! At this place, I think you should replace the muff'in with Turkish delight instead...
(You know what I mean ^^")


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:12:15:24 น.  

 
เห็น Evil eye แล้วนึกได้ว่าลูกซื้อมาฝาก
ห้อยไว้หน้าบ้าน โดนฝุ่นทุกวันจนเก่าไปหมดละ




ของจริงสวยดีเนอะ
พอมาเห็นขนมที่ผสมถั่ว ดูน่าอร่อยจัง
นึกโมโหลูกสาวไม่ยักซื้อมาฝากมั่ง
สงสัยกลัวแม่อ้วน คริๆ

ยุให้ไปอิตลีเลยจ้ะ เป็นประเทศที่พี่ชอบมากทั้งภูมิประเทศ
และวัฒนธรรมเค้า





โดย: mambymam วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:14:41:53 น.  

 
สวัสดี น้องชีริว
ดีใจนะ ที่ไปอ่าน ทวาทศมาส ได่ 5 เดือนแล้ว อิอิ ขอบใจนะที่สนใจ หนังสือที่ครูเขียน มี 2 เล่มเอง เขียนเพื่อเก็บความทรงจำตั้งแต่เกิดจนถึงเกษียณ เป็นประสบการณ์ชีวิตที่คิดอย่างฝากไว้ในบรรณพิภพ อิอิ จะปล่อยประสบการณ์เหล่านั้นตายไปพร้อมเรา ก็น่าเสียดาย อุตส่าห์บันทึกตั้งแต่เด็ก ห้าห้า เลยลงทุนจัดพิมพ์ หมดไปหลายแสน แต่ก็พอใจนะ เพราะใช้เงินที่ได้หลังจากเกษียณ กบข.ไปจัดทำ ไม่กระเทือนเงินบำนาญ อิอิ เหลือเยอะจ้ะ ไม่เป็นไร เป็นความฝันที่ครูอยากทำ ก่อนจากโลกนี้ไป อีกเล่มหนึ่ง เป็นการเขียนตามคำขอของลูกศิษย์ที่สอนติวพวกที่ชอบมีอาชีพในเครื่องแบบ แต่ต้องสอบวิชาภาษาไทย และเป็นวิชาที่สอบตกกันมากที่สุด เขามาขอร้องไปช่วยสอนให้ ปรากฏว่า ปีนั้น คนที่มาติวเขาสอบติดตำรวจเยอะ เลยขอให้ช่วยเขียนหลักสูตร ตามที่ข้อสอบชอบออก (เขาให้แนวข้อสอบมา) เลยเขียนให้ 1 เล่ม เขาไปจัดพิมพ์เอง เขาจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ในการขาย ป่านนี้ ยังไม่ได้สักบาทเดียว ห้าห้า ไม่เป็นไร ไม่ได้ลงทุน ไม่เข้าเนื้อ เป็นวิทยาทานไป เนอะ
วันนี้ ตามมาอ่าน เที่ยวตุรกี ตอนที่ 2 จำได้ว่าอ่านตอนหนึ่งจบไปนานพอควร มาอ่านตอน 2 เลยจำตอน 1 ไม่ได้เสียแล้ว ไว้ถ้าได้ไปเที่ยว ตุรกี ต้องมาอ่านหาความรู้ก่อนไป ใช้เวลาอ่านนานทีเดียว เมื่อยลูกตา ไปนอนพัก สักชั่วโมง มาอ่านต่อ จนจบแล้วจ้ะ เธอนี่ ยอดเยี่ยมในการเก็บรายละเอียดของสถานที่ เรื่องการถ่ายภาพประกอบ สวย ๆ ท้้งนั้นเลย แต่น่าเสียดาย เทพี ทั้ง 4 นะ ดูเหมือนจากในภาพ เทพี 2 องค์ท้าย ศีรษะไม่มี ใช่ไหม ครูว่า ดูไม่ผิดนะ พยายามเพ่งแล้ว ก็ไม่เห็น เสียดายเนอะ มุสลิม เขาชอบเลี้ยงแมวจ้ะ แต่แมวพวกนี้ เป็นแมวที่เขาเอาปล่อยเหมือนคนไทยที่ชอบนำมาปล่อยตามวัด ตามที่ต่าง ๆ หรือเปล่านะ เหอะ เหอะ น่าสงสารมันเนอะ แต่ละตัว ก็อ้วนดี น่าจะมีคนให้อาหารมันมากพอนะ
เวลาไปเที่ยวที่ไหน สิ่งที่น่าเบื่อมาก คือ เรื่องฝนเนอะ เจอแดดจัด ๆ ยังดีกว่าเจอฝน เรื่องโลงศพ มัมมี่ ครูก็เคยไปเห็นมาเหมือนกันนะ แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน อิอิ
โหวต บล็อกท่องเที่ยวต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว อ้อ ! จะบอกว่า ทวาทศมาส ตอนสอง เหลือ สองเดือนสุดท้าย ครูออนไลน์ไปก่อนตอนหนึ่งแล้ว ชีริวไม่เห็นหรือ ถึงได้ถามครู อิอิ ช่วยบอกครูด้วย จ้ะ (ปาฏิหาริย์ , นิมิต )


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:15:46:50 น.  

 
น้ำตาจิไหล (กว่า) ได้เที่ยวแบบฟรี ๆ แถมนอกโปรแกรมทัวร์ ภาพสวยมากมาย แต่ยังอุตส่าห์มีภาพเล็กภาพน้อย ให้คลิกชมภาพใหญ่เอง แถมบางภาพ คลิกไม่ได้อีก แมว ๆ น่ารัก ๆ ทั้งนั้น

กล้องตัวใหม่ ทำงานได้ดีเลยค่ะ ขอบคุณภาพสวย ๆ ที่แยกย้ายกันเก็บภาพในพิพิธภัณฑ์ฯ ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ตื่นตาตื่นใจมาก

ขอบคุณเรื่องราวประวัติศาสตร์ และคำบรรยาย ที่คุณชีริว ตั้งใจเล่าให้ฟัง ปริ่มมาก...

ชอบภาพสถาปัตยกรรมโบราณซากปรักหักพัง (ยังคงดูอะไรไม่เป็น รู้แค่ว่าสวยงาม...เช่นเคย)


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
สวนดอกไม้ในความเดียวดายของเธอ Pet Blog ดู Blog
Max Bulliboo Diarist ดู Blog
อุ้มสี Fanclub Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Health Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
Tui Laksi Photo Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:16:52:11 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

จริงด้วยนะครับ
ไปเมืองเขา
บางทีต้องระวังเรื่องการถ่ายภาพจริงๆด้วยครับ

ฝรั่งเองก็ไม่ชอบถูกแคนดิดครับ

ถ่ายนกบินยากนะ
ภาพเสียพี่ก๋าถึงเยอะขนาดนี้เลยไง 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:19:24:31 น.  

 
และแล้ว วันที่ อ.เต๊ะ กลัวจับใจ ก็มาถึง คุณซีริว อัพบล็อกอะ แง๊ๆๆๆๆ 555

จริงๆ ดูผ่านๆไปรอบนึงแล้ว แต่ทำใจไม่ได้เลย
กองอิฐ หักๆ เสาแหว่งๆทั้งนั้นเล้ยยย

ไอ้ที่ของเราชอบ นางแบบแคทวอร์ค ถ่ายซะกระจึ๋งนึง
กองอิฐ กลับซูมซะเบ้อเร่อเท่อ แง๊ๆๆๆ 555

แล้วก็คุณซีริว นี่ คงได้รับเคล็ดวิชา มาจาก อ.สุ แหงๆเลย
อัพบล็อกยาวเป็นรถไฟ ไม่แพ้กันเล้ย อิอิ

คุณซีริว กับ อ.สุ จับมือกันบอก
ข้าคิดว่า แค่คนเดียว 2เท้า คงจะเอาเอ็งไม่อยู่
ขอแท็กทีม กระโดดถีบเอ็ง ให้จั่งหนับ ซักทีเถอะ หมั่นไส้มานานแล้ว เอ้าซีริว ช่วยกันเร้วว 555

งั้นอ.เต๊ะ ต้องเล่นท่าไม้ตายแล้ว ขอยืมกลยุทธ ของใครก้ไม่รู้ ขอเม้นท์ ผ่อนส่งเป็นรายเดือนดีฝ่า 555

วันนี้เอาดอกเบี้ยไปก่อนนะครับ

เม้นท์ตอนที่ 1 อิอิ
เอาตั้งแต่ กองอิฐแสนรัก ไปเลย 555

พวก กองอิฐและเสาเว้าแหว่งๆนี่
ถ้าเราย้อนเวลากลับไปสมัยนั้นได้ น่าจะรับรู้ได้ถึงอดีต อันยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ของสถานที่แต่ละแห่ง
ดุแล้วแต่ละที่นี่ เป็นสุดยอดงานสถาปัตยกรรมกันทีเดียว

มาที่นี่ ต้องเรียกว่า ครบเครื่องทั้งศาสตร์และศิลป

อย่างวิหาร วิหารเฮเดรียน นี่ ทั้ง Arch and Vault น่ามหัศจรรย์มาก ในเรื่องการรับแรง ก้อนหินแต่ละก้อน น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆเอามาก่อเป้นโค้งได้ และแถม งามสุดๆทั้งงานปูนปั้น และแกะสลัก

ยิ่งพวกหัวเสาโรมัน นี่ สมัยตอน อ.เต๊ะ เป็น นศ. เรียนประวัติศาสตร์ศิลป นั่งสเกตส์ กันมือหงิกมาแล้ว
ทั้ง เสาแบบดอริก เสาแบบไอออนิก เสาแบบคอรินเทียน ที่นี่งามมากจริงๆ

ส่วนโรงละคร (Theatre)นี่ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ
สมัยปัจจุบันนี่ เวลาจะออกแบบโรงหนังโรงละคร auditorium ใหญ่ๆนี่ ต้องให้โปรแกรม คำนวณ วิเคราะห์สภาพเสียง ว่าตรงไหนก้อง ตรงไหนดูดซับเสียง กว่าจะได้ระบบเสียงที่สมบูรณ์

แต่ยุคนั้น เครื่องไม้เครื่องมืออะไรก้ไม่มี ไม่รู้ทำได้ไง น่าพิศวงมากจริงๆเลยนะครับนี่

เม้นท์ตอนที่2 ซีริวหาข้าวกิน อิอิ

จดไว้ก่อนกันลืม เดี๋ยวมาใหม่อีกนะครับ

เดี๋ยวโหวตมัดจำเป็นประกันไว้ก่อนเลย เผื่อหนีประกัน 555









บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ชีริว Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: multiple วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:19:34:17 น.  

 
แปะก่อนค่า
ขอไปอ่านตอนหนึ่งแป๊บๆๆๆ
ดึกๆ มาใหม่ค่า



โดย: lovereason วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:21:41:24 น.  

 
ห๊ะ... !!! ในร้านขายเสื้อผ้า มี Catwalk ให้ชมด้วย เรียกลูกค้าได้เจ๋งมากคร้า
นั่นจิ จำได้ว่าเคยอ่าน ภาค 1 นานม๊าก จนคิดว่าไม่มีตอนต่อไป คริ คริ...ล้อเล่น ...!

นี่น๊ะ...บล๊อกคนขี้เกียจ เขียนบล๊อกได้ยาววววววมากกกกก
แถมบอกเล่ารายละเอียดได้สุดยอด เหมือนไปเปิดสมุดภาพทัวร์เมืองตุรกี
เราชอบโรงละครแห่งนี้มากๆเคยเห็นปรากฎในหนังบ่อยๆ คนยุคนั้นเก่งน๊อ
ภาพสถานที่สวยเกือบทุกภาพทั้งกลางวัน-กลางคืน ชอบจัง
เห็นแล้วอยากจะตั้งความหวังขอไปบ้างสักครั้งจิ
โห...เก็บภาพฝูงนกบินทำมุมนี้ได้ สุดยอด อัศจรรย์จริงๆด้วย
และมีถ่ายภาพนกนางนวลแข่งกับคุณก๋าที่บางปูไว้ด้วยละ
สวยเลยจ้า มี point interested เป็นหญิงสาวกางร่ม ได้ฟิลมาก
น่าจะลงภาพใหญ่ๆด้วยน๊านั่น....แมวก็หน้าตาลวดลายสวยเลย
โอ๊ะ...เห็นแท่งเนื้อเคบัป คุ้นตาในไทยเราชอบมากเลย ซื้อในห้างติดมือกลับบ้านบ่อยๆ 5 5 5

ขอบคุณคร้า สรุปพอก่อนล๊ะ ดึกแร๊ะ อิ อิ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:22:44:37 น.  

 
วันนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรเลย

หอสมุดเซลซุส ถ้าเป็นยุคที่ยังรุ่งเรืองน่าจะอลังการนะครับ ดูจากสถานที่สมัยก่อนต้องรุ่งเรืองมากแน่ๆ

ดีแล้วครับที่เครื่องแค่ลงไม่ได้เพราะการจราจรแน่นหนา ถ้าโดนไฮแจ็คทีนี่ขำไม่ออกเลยนะ แต่อาจจะได้เอาเรื่องมาเขียนประสบการณ์ครั้งแรกของการโดนไฮแจ็คก็ได้

บางทีมันก็ต้องดัดแปลงเพราะหาวัตถุดิบไม่ได้ แต่ดัดมากไปรสชาติก็เพี้ยนครับ ต่างประเทศผมว่าอาหารไทยรสชาติเพี้ยนเยอะ ยิ่งถ้าหลุดออกจากเอเชียยิ่งเพี้ยนมาก

เมืองอิสตันบูล ตึกในภาพที่ถ่ายมาใหญ่ดีครับ ใหญ่มากเลย ดูแล้วลักษณะเหมือนเมืองเก่าผสมใหม่เลย

ภายในพิพิธภัณฑ์ดูแล้วมีอะไรให้ดูเยอะดีครับ เห็นพูดถึงไอซิส ผมกลัวว่าพวกมันจะขยายวงนี่สิ

บางทีก็ต้องทำเวลานะ ไปกับทัวร์มันแย่ตรงนี้นี่แหละ

โบสถ์ภายในจะอลังการไปถึงไหนเนี่ยะ คนตัวเล็กนิดเดียวเอง สุเหร่าด้วย อ่างเก็บน้ำโรมันผมก็นึกถึง ลูเชียส นะ 555

ห้าง Starcity Outlet พอบอกประมาณโรบินสันนี่เห็นภาพลยครับ

หลายๆ ที่ก็ห้ามถ่ายรูปนะ ไทยก็มี มีเจอเจ้าถิ่นด้วย ของไทยก็มีทั้งหมา ทั้งแมวเลย

ขนมนี่ก็ผกผันราคากับตุณภาพนะ ไม่เหมือนของญี่ปุ่นที่ถูกๆ ก็ยังพอกินได้

ชีริว Travel Blog
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:23:00:15 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
mariabamboo Travel Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ดีใจที่ดูได้แล้ว


โดย: ป้าเก๋า (ชมพร ) วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:23:16:07 น.  

 
แวะมาเที่ยวตุรกีด้วยคนค่ะ
เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แบบนี้ชอบมาก
คุณชีริวเป็นไกด์ชั้นเยี่ยม พาทัวร์แล้วให้ข้อมูลและความรู้แบบจัดเต็มเลย
แอบอิจฉาที่ไปตอนที่คนน้อย เก็บภาพได้สบายเลย
ชอบฟอนท์ Times New Roman จัง
ปกติเวลาเขียนบล็อกที่ต้องใช้ภาษาปะกิตก็จะใช้ฟอนท์นี้แหลค่ะ
เพิ่งรู้ว่าคนตุรกีก็ชอบอาหารไทยไม่น้อย
ที่ร้านอาหารไทยที่โน่นทำกับข้าวไม่อร่อย
อาจเป็นเพราะเจ้าของหรือ chef ไม่ใช่คนไทยละมั้งคะ
ชอบใจที่พิพิธภัณฑ์อนุญาตให้ถ่ายภาพได้
เป็นเรา ไหน ๆ ไปเที่ยวชมสถานที่แบบนี้ทั้งทีก็อยากเก็บภาพไว้
กดไลค์กับโหวตให้เลยค่า

ขอบคุณมาก ๆ ที่แวะไปฟังเพลงและโหวตให้นะคะ
เราว่าผู้จัดละครคงคิดไว้แล้วว่าคงมีคนดูที่อ่านคำว่า "ปดิวรัดา" ไม่ค่อยจะถูก
ตอนไตเติ้ลละครถึงคำบรรยายที่เอ่ยชื่อละครและบอกความหมายด้วย
คิดว่าคงมีละครไม่กี่เรื่องที่ใช้คติธรรมและความดีงามเป็นแก่นของเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับข้าราชการด้วยแล้ว เขียนบทยากนะคะ
แต่บทก็ทำออกมาได้อย่างสนุกและกลมกลืนไปทั้งเรื่อง
แถมแฟนละครก็ยังนำบทพูดดี ๆ มาโพสคุยกันตลอดเวลาที่ละครออกอากาศ
เราอยากได้บทพูดมาอัพบล็อกก็เลยสอบอมอ
แฮ้บรูปมาลงบล็อกได้สบายเลย
ดีนะคะที่ไม่เจอรูปตอนนางเอกทำกับข้าว
อาหารและภาพงามได้ใจกว่าตอนทำของหวานอีกค่ะ

เรื่องโหวต ดีใจที่ได้โหวตเพิ่มอีกเท่านึง แถมโหวตหมวดเดียวกันได้อีก
แต่แย่หน่อยที่บางวันโหวตไม่ครบสิบ เพราะเวลาเล่นบล็อกน้อยลง
บางทีกว่าจะเข้าบล็อกได้ก็เกือบหมดวันแล้ว
เป็นปลื้มอย่างแรงที่บล็อกเพลงละครเรื่องนี้ได้คะแนนโหวตจากคุณชีริว
ที่จริงบล็อกเพลงที่เคยอัพ โดยเฉพาะเพลงเก่าจะ copy ข้อความมาจากเวบอื่น
เพราะตัวเองไม่มีความรู้มากพอจะเขียนได้
แต่อ่านแล้วชอบก็เลยอยากเอามาลงบล็อกเก็บไว้
จะเหนื่อยหน่อยก็ตอนหารูปนี่แหละค่ะ
เม้าธ์ซะยาวเลย ขอตัวไปใช้สิทธิ์โหวตให้ครบก่อนค่า


โดย: haiku วันที่: 26 มีนาคม 2559 เวลา:23:22:06 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:2:35:21 น.  

 
อ่านวันที่4หมดแล้ว ไว้มาต่อวันที่ห้าใหม่55 เกินเจ็ดบรรทัดแล้วนี่นา
ถ้าอ่านมากกว่านี้ จะง่วงนอนอย่างหาเหตุผลไม่ได้ 555
มีแมวโรมันมาเห็นให้พอได้ยิ้มกริ่ม คริๆ

ซากปรักหักพังนี่ ถ้าสมบูรณ์คงจะสวยงามอลังกาลสุดๆ
(เห็นซากอิฐละนึกถึงอยุธยาบ้านเราเนอะ ^^)
ซากพังๆนี่ดูกว้างกินพื้นที่พอควรเลย
โรงละครใหญ่โตมาก ยังกับสนามกีฬาเลย
กว้างขนาดนี้แต่ออกแบบให้คนเข้าชมได้ยินทุกมุม นับว่าสุดยอดเลย

อาหารไทยในต่างประเทศเราคิดว่า น้อยที่จะถูกปากคนไทยนะ
ไม่ใช่ไร เคยดูรายการอาหารที่เชฟฝรั่งทำอาหารไทย
แกงเขียวหวานใส่ผักชีและอะไรแปลกๆอีกที่ไม่คิดว่าจะเป็นแกงเขียวหวานได้55

ไปล่ะไว้มาดูแมวโรมันใหม่นะ






โดย: NENE77 วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:7:37:34 น.  

 
บล็อคคุณภาพ รีวิวละเอียดสุด ๆ เช่นเคย ...อย่างน้อยไม่เคยไปตุรกี ก็ได้ความรู้ติดตัวเยอะเลยค่ะ ตุรกีเป็นอีกประเทศที่พี่ก็ฝันอยากไป ..(หรือคงได้แต่ฝัน อิอิ)

เหมือนติดตามรอยความรุ่งเรืองของโรมันเลยนะคะ เทพเจ้าเยอะมั่กมาก ๆ :D ... ถึงสถานที่จะผุพังไปตามกาลเวลา แต่ยังทิ้งร่องรอยความรุ่งเรือนสวยงามให้เห็นชัดเลยเนาะ ... เรื่องบ้านพักสุดท้ายของพระแม่มารี พี่ก็เพิ่งเคยเคยได้อ่านที่คุณชีริวเล่า ... โบสถ์ สเหร่า สวยมาก ๆ เลยนะคะ

ภาพสวยมากค่ะ พี่ชอบภาพท่องเที่ยวแบบเห็นผู้คนบางส่วนด้วยแบบนี้ แมวเยอะจริง ๆ ด้วย เดาว่าคงถ่ายรูปเพลินเหมือนกันเนาะ :) ถูกใจคนชอบแมว ได้ชมภาพไปด้วย 55 (ชอบภาพสาวกางร่มชมนกนางนวลเป็นพิเศษค่ะ สวยดี)

55 ... ไหง กาแฟตุรกี รสเหมือนรากหญ้าล่ะ ... พี่คิดว่ากาแฟคงอร่อยซะงั้น


ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: Tristy วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:10:37:20 น.  

 
คุณชีริวเคยทานรากหญ้าคาหรอคะ
555 แซวเล่นค่ะ ^^

ตุรกีที่สองคุ้นๆ ก็อิสตันบลูนี่แหละค่ะ อาศัยว่าดูสารคดีในทีวีเอา (^^!!) แหะๆ
ขอบคุณ คุณชีริวที่มาแบ่งปันทั้งภาพและเรื่องราว
อ่านแล้วยังนึกๆ เลยว่าไปเองอาจจะไม่สนุกและได้เห็นภาพสวยๆ ได้อย่างนี้ ^^
สองว่าอิสตันบลูนี่มีเสน่ห์นะคะ สิ่งก่อสร้าง บ้านเรือนดูโรแมนติกเหลือเกิน
nazars เขาก็ช่างทำนะคะ น่ารักน่าเอ็นดูมาก มุ้งมิ้งดี (>///<)

ภาพท้องฟ้าสีฟ้าที่มีนกบิน เห็นแล้วนึกถึง friday ชอบภาพนี้มากค่ะ


โดย: อาร์ลาฟองค์ วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:19:41:17 น.  

 
อยากถ่ายรูป เค้าเดินแฟชั่นแบบนี้บ้าง

พี่อัพบล็อกเกือบทุกวันล่ะ แต่มาไม่เป็นเวลา ไม่ได้ตั้งเป็นหน้าหลักน่ะ ช่วงนี้เมฆปิดเทอมด้วย เดิม ๆ พี่ยุ่งอยู่แล้ว ยิ่งยุ่งไปหมด แต่มีเวลาไปเที่ยวนะเออ

ไงก็เข้ามาใช้สิทธิ์โหวตค่ะ ชอบ 10 โหวตต่อวัน สนุกสนานดี


*** เนาะ เจดีย์วัดโพธิ์ เพราะคุณชีริวตั้งข้อสังเกตนี่แหละ พี่เลยว่า น่าสนใจแฮะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:20:18:47 น.  

 
เรื่องภาษาต้องไปลุ้นเอาครับ จริงๆ ถ้าทำการบ้านดีๆ น่าจะพอไหวนะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:21:05:13 น.  

 
อิสตันบูล อยากไปมากครับ
ที่เที่ยวแต่ละวันที่คุณชีริวไปเทีี่ยวอลังการมากครับ
ชมภาพเพลินเลยครับ
จากบล็อกเป็นพวงครามออสเตรเลียครับ

ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:22:27:37 น.  

 
สวัสดี น้องชีริว

แวะมาทักทาย ขอบใจที่ไปอ่านสองเดือนสุดท้ายก่อน อิอิ ถามว่า วันที่ 31 ธันวาคม ไปไหน ไม่เห็นมีการเขียนถึงเลย ห้า ห้า 31 เหงาหงอยอยู่กับบ้าน จ้ะ ไม่มีใครมาหาเลย สงสัยลูกศิษย์อยู่กับครอบครัว รวมทั้งวันที่ 1 ด้วย อิอิ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:22:54:22 น.  

 
ต้องขออภัยที่ยัดเยียดให้ดูภาพเฟชร

คุณเก็บภาพได้ดีทุกเม็ด สวยงามชัดเจน
แต่ช่วงนี้ไม่น่าไปเที่ยว อยู่บ้านเราดีกว่า


โดย: ป้้าเก๋า (ชมพร ) วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:23:13:01 น.  

 
555 โจทก์ อ.เต๊ะ คุณซีริว ผนึกกำลังกัน กับ อ.สุ

บุกถึงบ้าน อ.เต๊ะ ทั้งคู่โดยไม่ได้นัดหมายเลยนะครับวันนี้ 555

จริงๆอะ เขียนแยะนะดี เม้นท์ง่าย แถมช่องโหว่แยะด้วย ถ้า อ.เต๊ะ หาเจอละก็ ไม่เหลือ ไม่เอาไว้นะครับ บอกไว้เลย 555

คุณซีริว เขียนแนวนี้นะ อเต๊ะ ชอบ มันมีอะไรให้เม้นทืได้แยะ เม้นท์ง่ายดี

เรื่องยาวๆนี่ บางคนอาจจะขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจเม้นท์

แต่ไม่ใช่ อ.เต๊ะ นะครับ นี่แค่มาคุยเฉยๆ ยังยาวกว่าบางเม้นท์อีกนะนี่ เป็นเล่นไป อิอิ

คุณซีริวบอก เออ ก็ปากเอ็งอย่างนี้ไง เรียกแขก เรียกอุ้งตีนประจำ555

เอ็งอยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ ถือเสียว่าข้าไม่เคยคุยกับเอ็งก็แล้วกัน 555



โดย: multiple วันที่: 27 มีนาคม 2559 เวลา:23:13:23 น.  

 
ตั้งแต่ลูกให้มาก็แขวนไว้ตลอดจ้ะ
จนฝุ่นเกาะเต็มไปหมด
เรื่องล้วงเป๋าที่ตางประเทศนี่ รู้สึกว่าจะโดนกันหลายประเทศนะ
เค้าว่าที่ฝรั่งเศสก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน







โดย: mambymam วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:7:15:02 น.  

 

ชีริว Travel Blog

คุณซีริวโหวตให้เลยค่ะ มี้คงไม่มีโอกาสได้ไปตุรกีขอตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

ชอบเวลาไปที่เก่าๆ นะคะ นึกไปถึงว่าสมัยนั้นผู้คนจะเป็นยังไง จะเหมือนหนังที่เราด็กันไหม

ปล. พยายามมาองหารูปคุณซีริว เจอแต่นิ้วค่ะ 55555


โดย: kae+aoe วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:11:44:13 น.  

 
ยาวมาก เดี๋ยวกลับไปอ่นที่อ่านละกัน

เรื่องการขุดเจดีย์คงไม่สามารถทำได้
แต่ที่ทำได้คือการสแกนด้วยเครื่องตรวจโลหะ
สมัยนี้ทันสมัยจะตาย คงไม่ใช่เรื่องยาก


โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:13:03:57 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ประเทศตุรกีนี่เคยจะไปทีนึงแต่ตอนนั้นเกิดสงครามกลางเมืองเลยต้องยกเลิกทริป เสียดายเลยค่ะ

ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: Raizin Heart วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:13:15:41 น.  

 
เอา โหวต travel ไปเถอะ 55

พักชมสิ่งที่น่าสนใไปกับแฟชั่นโชว์
ที่เอามาใส่เล่นสงกรานต์ในไทยคนคงได้มองว่า บ้า แน่ๆ

บ้านพระแม่มารี นี่ไม่น่าเชื่อเนอะว่าจะมาจากนิมิตของแม่ชีตาบอด
เป็นหนึ่งในที่ๆอยากไปแหละ ^^

เสียดายห้องสมุด ในยุคนั้น
ที่สูสีกันก็อเล็กซานเดรียในอียิปต์เนอะ
นั่นก็โดนเผาไปอีก
เฮ้อ ...บันทึกสำคัญๆยุคก่อนนี่หายไปเยอะเหมือนกัน แฮะ

ละเอียดดีแต๊ นี่เที่ยวเฉพาะตุรกี
ก็สัมผัสถึงกลิ่นอายสมัยโรมันลอยมาพร้อมๆกับเคบับ 55

โรงอาบน้ำ จำไม่ได้ในตอนก่อนมีป่าวหว่า
เห็นว่าที่นี่ดังด้วย ทั้งฟาดตัว ทั้งตบกันเผลี้ยะๆ อิอิ

เก็บรวบรวมโบราณวัตถุไว้แบบนี้ภาวนาว่า อย่าให้ISISมาโผล่
แถวนี้เล้ยยย
/เอ็งจะสร้างโลกใหม่อะไรของเอ็งก็อย่ามารุกล้ำสิฟะ!!



แต่กว่าจะละเมียดเสพได้ก็ต้องทำเวลา ... น้ำตาจะไหล
อาหารไทย ไม่ว่าจะที่ไหนๆ
ก็รสชาติประหลาดล้ำเสมอยามอยู่ต่างแดน
(ผัดไทยใส่กวางตุ้งก็ยังเคยเจอเลยนะเอ้าาา)

อาหารทะเลที่ว่าเค็ม ที่จริงอย่าไปโทษเมดิเตอเรเนียนเลย
มันคงอิมพอร์ตมาจาก เดดซี น่ะ

ตบท้ายด้วยแมวนี่สิ ถูกต้อง
มองไม่ชัดนะ ว่าจมูกมันโด่งป่าว



ว่าจะลองเขียนเรื่องเดินทางรวบเดียวงี้มั่ง


โดย: กาบริเอล วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:14:18:56 น.  

 
วัดอาฮงสะดุดตาเพราะชื่อจริง ๆ ค่ะ แต่ละทริปจะว่าทำการบ้านหาข้อมูลก็มีทำนะ แต่ที่ไม่ทำก็เยอะ ด้วยความที่เป็นทัวร์หวานเย็น พี่จะมีเมน ๆ ไว้ ไม่กี่ที่ ที่อยากไป ที่เหลือ ถ้าคนขับรถ เค้าสามารถจัดให้ได้ ก็แวะไปแบบไม่ฉีกเส้นทางมาก ไม่เสียเวลามาก ไปตัดสินใจเอาเฉพาะหน้าเลย

เนาะ พี่เห็นแก่งหินนี่ คุ้มซะยิ่งกว่า ภาพตรงหน้าสวยกว่าภาพถ่ายเยอะเลยค่ะ ตอนหาข้อมูลจะทำบล็อก ไปเห็นภาพโพล้เพล้ ตะวันตกดินจากเน็ต โห อย่างสวย อีกกี่ปีไม่รู้จะได้กลับไปอีกเนี่ย


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:14:28:56 น.  

 
ตุรกีเป็นประเทศในฝันเลยคราบบบบ สถานที่ก็สวย อาหารก็อร่อย


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:18:23:48 น.  

 
มาต่อวันที่ห้าและหกยาวเลย พอบอกวันที่หกวันสุดท้ายยัยNENEนี่ยิ้มกริ่มเล้ย
ในหัวบอกอ่านจบแล้ว เย้ๆ อ่านเก่งได้อีก(ชมตัวเอง)แต่ๆๆยังจะมีส่งท้ายอีกนะ
ดีนะที่ส่งท้ายด้วยแมวหลายภาพ เกือบจะเคืองแล้วนะ มีบอกว่าให้มาดูแมวโรมัน
ไอ้เราก็อ่านๆวันที่ห้าที่แสนยาวเหยียดจนจบวัน ก็ยังไม่เห็นหน้าแมวซักตัวเชอะๆๆ
เริ่มมีเคืองเล็กๆ เอาน่าวันที่หกต้องมีแมวบ้างแหละ แต่ๆๆๆ แมวไปไหนหมดอ่ะ

ไปดีกว่า อ่านจบแล้วนี่ แมวก็มีให้ดูตอนท้ายๆ นกก็มีนิดหน่อย หลอกให้อ่านหนังสือเกินเจ็ดบรรทัดนี่นาเชอะๆๆ



แต่ไหนๆก็อ่านจนตาลายแล้ว พูดถึงหน่อยก็ได้ เชอะ
เมืองอิสตันบูล จากประวัติชอบชื่อ คอนสแตนติโนเปิล มากกว่า (คิดเองว่าเท่ดี55)
เมืองใหญ่รถติดก้ดูเป็นเรื่องธรรมดา อย่างน้อยก็ทำให้นึกถึงกรุงเทพไม่ใช่รึ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครของตุรกี นี่เป็นอะไรที่ดีงามตามตุรกีจริงๆ
ขนาดต้องทำเวลาเพื่อถ่ายภาพนี่ ออกแนวชะเง้อชะแง้ทัวร์ป่าวคุณ55
แต่ก็ถ่ายภาพได้มาเยอะนะ แสดงว่าชีริวต้องวิ่งรอกบ่อยแน่ๆ อิอิ
โบราณวัตถุต่างๆส่วนใหญ่ดูสมบูรณ์ดีมากๆด้วยนะนี่ ดีงามอีกแล้ว
มัสยิดสวยงามอลังกาลมากๆ ชื่นชมคนสร้างเลยนะนี่
เมืองอิสตันบูลมีสิ่งปลูกสร้าง สวยงามละลานตาเต็มไปหมด เสียแต่ฝนตกเยอะไปหน่อย
น่าจะแบ่งมาตกที่ไทยบ้าง ในส่วนของตลาดนะ เราเคยดูในสารคดีทำอาหารมาบ้างแล้ว
มีพาชมตลาดแบบหลายวอกหลายมุม จากในสารคดีนะ ดูเป็นตลาดที่มีชีวิตชีวาสุดๆข้าวของหลากหลาย คนเยอะได้อีก ไม่แปลกที่ตาชีริวจะเดินตลาดเป็นชั่วโมงๆ
ว่าแต่กาแฟรสชาติเหมือนรากหญ้าคาเนี่ยขนาดนั้นเลยเหรอ
แล้วรากหญ้าคารสชาติเป็นไงหว่า(ห้ามบอกให้ไปหาชิมเองนะ บอกมาเลยอย่าลีลา55)
เคบับน่าอร่อยนะ เมนูอาหารก็ดูดีนะ แต่รสชาติอันนี้แล้วแต่แหละเนอะ
เห็นทับทิม แล้วนึกถึงที่ดูสารคดี ไม่แน่ใจใช่ที่อิสตันบูลรึเปล่านะ
จะมีวิธีทำน้ำทับทิมแบบคนพื้นเมืองไรงี้มั้งคือจะให้ผู้หญิงแกะเม้ดทับทิมพอได้เยอะก้็ใส่ในถุงผ้า แล้วให้ผู้ชายขึ้นเหยียบถุงให้น้ำไหลออกมา เป็นน้ำทับทิมแสนอร่อย พิธีกรเขาว่างั้นนะ55

ชอบแมวตัวที่โพสท่าหลายท่า ชอบท่าผึ่งพุง 55

สรุปตุรกีเป็นเมืองน่าเที่ยวในแง่ที่มีสถานที่ต่างๆให้ชมความงามที่อลังกาลงานสร้าง
แต่ก็ไม่ดีที่ไม่ค่อยปลอดภัย ได้แต่หวังว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วเนอะ




โดย: NENE77 วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:22:17:02 น.  

 
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ข้อมูลแน่นมากชีริว เห็นถึงความตั้งใจทุ่มเทพยายาม
แต่พูดก็พูดเถอะนอกจากความแปลกตาแล้ว ไม่ค่อยน่าเที่ยวเท่าไหร่นะ
ตุรกีเที่ยวฝ่านบล็อกของชีริวพอ ไม่เสียตังค์ไปเองแน่ๆ 555




โดย: หอมกร วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:7:37:32 น.  

 
คงไม่มีโอกาสได้ไปจริงๆ ตามชีริวมาเที่ยวดีก่า
วัตถุโบราญเยอะดีนะ สวยๆงามๆทั้งนั้น ตอนไปถ่ายโรงศพดีนะฟาโรไม่โผล่มา55
ชอบแมวจังอ้วนๆทั้งนั้นเลย น่าปล้ำทุกตัว แมวจรบ้านเราทำไมผอมๆ

อาหารการกินก็เยอะดี..แต่เป็นพี่ไปคงพกน้ำพริกซองๆไปด้วย กลัวกินอาหารเขาไม่ได้
โหวต ท่องเที่ยวให้นะจ๊ะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:17:25:53 น.  

 
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



อ๊าก! คุณน้องซีริวขาาา ..มันช่างอลังกาลดาวล้านดวงมากๆๆ
พี่ไม่ได้มาเสียนาน
ตกลง ตอนต้นปีพี่ดูตอน 1 กลับมาทันตอน สองพอดี อิอิ
ดีมากที่บอกตรงๆ เลยว่าขี้เกียจ กล้ายอมรับไม่เหมือนพี่ อ้อมไปบอกว่าไม่ว่าง(เพื่อดุดี กี้กิ)
[
คุณค่าที่คู่ควร เขาช่างเหมาะกะการค้นหาซากปรักหัพัง เป้นอมตะจิงๆๆ เป็นเมืองแห่งอารยธรรม ที่สุดยอดมาก เป็นวาสนาจิงๆที่ได้ดู
อายุ 3000ปี ดู สภาพ ยังคงเดิมๆ ทึ่งมาก..
แต่อันหลัง ที่มีเวลาห้านาทีนี่เสียดาย ชมเพลินๆ พี่ยังไม่จบยะ ถึงวันที่ ห้า เด๋วมาดูต่อมันยาวแหะๆ หิวข้าว
วันนึงท่องได้ไม่กี่บล็อก เปิดมาของ บ้านนี้ เนื้อหาแน่นข้อมูลเพียบ น่าไปทำสารคดีได้เลยนะเนีย คุณครู เอ้ย.งไม่ใช่ อิอิ

เด๋วมาชมต่อีก คาดว่า ยังรอเราอยู่อิอิ..




โดย: tifun วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:19:29:54 น.  

 
ตั้งแต่งานมีตติ้ง เพิ่งตามทักทายน้องๆ
ได้ไม่กี่คนเลย บางคนก็ไปทักไม่ได้ หึหึ
ก็ไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไรอยู่ที่ไหนน่ะสิ ดีนะ เห็น
คุณน้องคนนี้ที่บ้านน้องต่อบ่อย

วันนี้มาแล้วก็เจอว่า คงต้องมาอ่านต่ออีกสัก
ห้าครั้ง หูตาไม่อำนวยให้อ่านได้ทีละเยอะๆ
แล้วค่ะ แต่จะกลับมาอ่านจบก่อนเปลี่ยนหน้า
หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ต้องซูมอ่านด้วย
เอ่อ... ก็อปทั้งหน้าไปก่อนดีป่าว 555



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:20:54:12 น.  

 
อะไรกัน ลืมแล้วนะว่าอัพค้างไว้ สองเดือนเลยเหรอ เนี่ยรินก็ลืมเลยนึกว่า จบไปแล้ว บอกว่าขี้เกียจๆ หารู้ไหมว่า ฮอลแลนด์รินปีก่อนๆ ค้างอีกหลายเมือง ยังไ่ได้อัพเลย

ยังไม่พอนะ ยังมีมาเก๊าอีกไง เหอะ ๆ อีกตอน 2 ก็ยังไ่ม่ได้อัพ ยังไม่รวมทริปที่ไหยนะ มันมีทริปด่วน หรือสดๆ มากกว่า เลยทำให้ขี้เกียจอัพที่ผ่านมาไปเลยอ่ะ ทำไงดี





มาต่อๆ คั่นโฆษณากันเลยพาไปเดินดูเสื้อขายหนัง เอัยเสื้อหนังมีเดินแบบให้ด้วยจากตัวละหมื่นฟ่า เหลือหกเจ็ดพันเหรอ ก็ยังแพงอย่ดี
เคยไปเดินร้านพี่ก๋า เชียงใหม่ ตัวเป็นหมื่น หรือหลายหมื่นเหมือนกันเหอะๆ สำหรับคนขี่บิ๊กไบด์หน่อยก็เท่ดี
ถอดออกมาอย่างกะอบผิวได้ด้วยอีกต่างหากนะ แต่กลิ่นก็ใช่ยอย น้องๆ พี่แขกเลยมั้ง





บ้านพระแม่มารี ดูไม่ค่อยออกอ่ะเห็นเก่าๆ ก็นะ ยังไม่มีไรโดดเด่น เท่าวิหารเฮเดรียน และหอสมุดเซลซุส นี่สุดยอดเลยที่ยังหลงเหลือเค้าอยู่บ้าง ให้เห้นความอลังการจริงๆ


แต่พอถ่ายภาพมุมกว้างๆ มาแล้วไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปนับพันปี ยังมีให้เห็นขนาดนี้ เห็นความอลังการยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก
ทำใหัหลับตาและนึกภาพตามด้วย เหมือนในหนังอาณาจักรโรมันยุครุ่งเรืองไปโน่นเลย

ไมรู้ดิ มีเพื่อนบล็อกคนหนึ่งไปแต่งงานกะหนุ่มตุรกีด้วย ตอนแรกก็หวานชื่น อัพรูปลงเฟสตลอด พอมาอีกปีคือปีนี้ก็เห็นยังอยุ่ที่นั่นนะ่ แต่ไม่เคยเห็นภาพคู่กะสามีเขาเลย รวมทั้งสงสัยอย่างยิ่งเลยไปดูาภาพเก่าๆ ก็ถกลบไปแล้ว
ไม่รู้วัฒนธรรมไรเขามากมาย แต่ถือว่า เป็นเมืองลึกลับพอๆ กะคนแหละ

ไทยเรานี่แหละน่าอยู่สุดแล้วได้กินส้มตำด้วย บ้านเขาไปแล้วยังได้กินอาหารจีนอีกด้วย เหอะๆ




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:22:47:11 น.  

 
สวยงาม น่าเที่ยวมาก ๆ

ต้องโหวต ^^


โดย: แม่โอ๋เรนเจอร์ วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:23:08:00 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ALDI Food Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
ชมพร Cartoon Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:1:35:59 น.  

 
โอ้วว ละเอียดมาก

เป็นประเทศหนึ่งที่อยากไปแหละ ไม่รู้ว่าจะได้ไปเมื่อไหร่ แหะๆ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
สมาชิกหมายเลข 2230794 Travel Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
Raizin Heart Literature Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:15:01:52 น.  

 
โห~~~ ดองบล็อกตั้ง 2 เดือน สมควรจะโดนโห่เจง ๆ (เอ๊ะ! เข้าตัวนี่นา o_O)


ส่วนเม้นต์อันแรกก็เข้าใจตามนั้นนั่นแหละครับ
ยังดีที่เป็นบล็อกคุณชีริว ที่ล็อกอินเข้ามาบ่อย
ถ้าเป็นบล็อกผม มันคงค้างเติ่งอยู่หลายวันเลย ^^"

.....
.....
.....

ทริปเมืองโบราณ Ephesus ช่างเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดจริง ๆ
แบบว่าบรรยากาศมาเต็มมาก ขนาดผ่านมาเป็นพัน ๆ ปี
ยังจินตนาการความยิ่งใหญ่ได้เลย
ปกติซากเมืองโบราณทั่วไปที่ถูกทิ้งร้างเป็นพันปี
มักจะเหลือแต่พวกวิหาร-ปราสาทหรือสถานที่สำคัญให้เราได้ดู
แต่ที่นี่มีมากกว่านั้นเยอะเลย สุดยอดมาก (ทำตาลุกวาวววว @_@)

ส่วน Constantinople นี่ก็สุดยอดเมืองเหมือนกัน
การที่มีประชากรถึง 5 แสนนี่ต้องยิ่งใหญ่มากนะ
เคยเล่นเกม Civilization กว่าจะมีพลเมืองถึงแสนนี่นานมากเลย ^^

...

ดู Istanbul Museum แล้ว (โคตร) น่าตื่นเต้นเลย
นี่แหละผู้ปกครองที่มีวิสัยทัศน์ รักษาของให้ชาวโลกได้ชมกัน
นึก ๆ ไปก็แล้วก็เสียดาย museum ที่อิรักเหมือนกันนะ
โดนพวก ISIS เข้าไปทำลายของซะเยอะเลย
ไหนจะโบราณสถาน-วัตถุ ที่อัฟกานิสถานอีก
(เฮ้อ~~ คนพวกนี้คงอยู่ร่วมสังคมกับใครไม่ได้มั้ง -_-)

...

ระหว่าง Hagia Sophia และ Blue Mosque
จากที่คุณชีริวไปชมทั้งสองที่เปรียบเทียบกันแล้วเป็นไงบ้างครับ
อันไหนดูสวยกว่ากัน หรือว่ากินกันไม่ลง
เพราะเป็นอาคารทรงคุณค่าของโลกทั้งสองแห่งเลย ^^

ผมชอบพวกสถานที่ที่เค้าสร้างเพื่อใช้งาน(จริง) นะครับ
ถ้าสถานที่นั้น ๆ มีคุณค่าเดี๋ยวก็จะมีผลเรื่องการท่องเที่ยวตามมาเอง
ไม่เหมือนกันกับ...
พวกสถานที่ที่สร้างสำหรับการท่องเที่ยว (ดูดเงิน) โดยเฉพาะ
พอหมดประโยชน์ (ทางธุรกิจ) ก็ไม่มีคุณค่าเท่าไหร่อะ

บ้านเราไม่ควรจะเดินทางนี้อะ
น่าจะเหลียวแลโบราณสถานที่มีอยู่แล้วให้ดีกว่านี้หน่อย
(พูดได้แค่นี้แหละ เดี๋ยวโดนจับ -x-)

.....
.....
.....

***สรุป***

ทริปตุรกีของคุณชีริวสุดยอด คุ้มค่ามาก ๆ ให้ไก่ย่าง (5 ดาว) โลด



โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:20:53:01 น.  

 
อะไรทำให้คุณชีริวคิดว่าผมกำลังทดลองอะไรบางอย่างเหรอครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:22:06:44 น.  

 
เรื่องวรรณะของชาวอินเดียนี่น่าปวดหัวเนอะ
แบ่งชั้นกันหลายชั้นทีเดียว


นี่จ้ะดอกมลุลี คล้ายดอกมะลินั่นแหละ
ต่างกันตรงที่มะลุลี กลีบดอกจะยาวกว่าจ้ะ

ที่บ้านไม่ได้ปลูก นี่ขโมยรูปเค้ามา คริๆ




ขอบคุณที่แวะฟังเพลงด้วยกันจ้ะ



โดย: mambymam วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:23:03:40 น.  

 
คงเห็นว่าเร็วเด็กจะตามไม่ทันมังค๊ะ

ขอบตุณกำลังใจค่ะ


โดย: ชมพร วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:23:21:06 น.  

 
กว่าจะได้มาตอบ ... พี่หายเฮดไปหลายวันเลยค่ะ ... ติดทำนั่นนี่ พี่เลยพักบล็อกซะหน่อย ตอนนี้ก็ยังดองบล็อก แหะแหะ

พี่อยู่รัฐอินเดียน่า ค่ะ ... ใช่ ๆ ใกล้กว่าจากเมืองไทยแน่นอน ปัญหาของพี่ คือคนที่บ้านพี่เธอไม่ชอบไปไหนมาไหนเล้ย .. ตั้งใจจะไปยุโรปที่ไหนซักแห่ง ก็ยังไม่ถึงกันซักทีเลยค่ะ :D



โดย: Tristy วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:4:47:17 น.  

 
นกกับแมว ขโมยซีนดีนะคะ น่ารัก

มีภาพโลงศพฟาโรห์มาฝากซะด้วย


ภาพสวยเลยนะคะ รอชมตอนต่อๆ กดดันๆ 5555



โดย: kae+aoe วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:8:27:01 น.  

 
ขอบใจสำหรับโหวตจ้า
ก็คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจให้คำแนะนำ
มันก็ต้องนำมาใช้ประโยชน์หน่อยน๊า



โดย: หอมกร วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:9:14:05 น.  

 
แหมๆๆๆ ว่าจะหนีประกันไม่มาแล้วเชียว

ยังไปตามลากเค้ามาอีกแน่ะ 555

จริงๆอ.เต๊ะ กลับมาอ่านไปรอบ2 แล้วนะครับ แต่ก็ยังทำใจไม่ได้เหมือนเดิม แฮ่ๆ

แล้วก็อุตส่าหืไปเที่ยวตั้งไกล แต่ละอย่างแต่ละสิ่งที่ถ่ายรุปมานี่ แหมๆ อุตส่าห์จ้างมอไซค์ซิ่ง
ถ่ายรูป 3ที่ ในเวลาครึ่งชั่วโมง ได้มาแต่รูปปั้นผู้ชายล่ำบึ๊ก นุ่งน้อยห่มน้อย ของชอบตัวเองคนเดียวเลยน้า

ไอ้ประเภท นางแบบ เนื้อนม ไข่ เคบับ แน่นๆ ไม่ยอมถ่ายมาให้ อ.เต๊ะ ดูเล้ยยย ดูซี้ใจคอ คนเรา 555

ที่ อ.เต๊ะ ชอบมากคือ ฮายาโซเฟีย กับ สุเหร่าสีน้ำเงิน สถาปัตยกรรมภายในนี่ สวยงามมากมาย เกินบรรยาย

เออ อย่างนี้ค่อยน่าชมหน่อย ดีกว่า รูปปั้นผู้ชายล่ำบึ๊ก นุ่งน้อยห่มน้อย ตั้งแยะ อิอิ

คุณซีริวบอก อ้าว ก็ข้าชอบของข้า ก็นึกว่าเอ็งจะคอเดียวกันซะอีก ตะเองละก็555

แล้วก็เรื่องที่ เจ๊ซีริวกะไกด์ลูกหมู แท็กทีมกันหลอก ลูกทัวร์หล่อๆให้เข้าไปในห้องน้ำทีละคนๆนี่

อ.เต๊ะ บอกได้คำเดียวว่า ช่างเป็นคู่แท็คทีม ที่เข้าขากันซะนี่กระไร อ.เต๊ะ ไม่ขอพุดอะไรมาก เดียวเข้าตัว555

วันนี้เม้นท์ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ โน็ตไว้ก่อนกันลืมว่า

คุณ ซีริวไม่น่ารีบกลับ ก่อนพวกไอเอส จะมาเล้ยย เย้ย 555 จะได้อยู่ช่วยเค้า เจรจาสงบศึกซะหน่อย อิอิ

ปล. ถ้าดองบล้อกต่อ เดี๋ยวอ.เต๊ะมาใหม่นะคร้าบ







โดย: multiple วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:10:44:15 น.  

 
อ่านจบถึง Ephesus แค่นั้นก็ฟินแล้ว เพิ่งได้รับเป็นมรดกไปเมื่อปีก่อน

สิงโตห์โมเสคในพิพิธภัณฑ์นั่นคุ้นมากเลย คงเคยออกมาหลายรายการล่ะ

ถ่ายชัดทุกรูปเลยนะครับ ความสว่างที่ไม่ ทำให้เคร่งขลึมดี


โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:13:27:51 น.  

 
กราบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ...
เป็นบล็อกที่ทรงคุณค่า มีสาระ ครบถ้วนที่บล็อกนี้บล็อกเดียว
นานแล้วที่ไม่ได้อ่านบล็อกดีๆแบบนี้
นับตั้งแต่คุณ NET-MANIA หายไปจากบล็อก
อ่านแล้วเต็มอิ่มจุใจ เหมือนได้ไปเที่ยวด้วย
ตอนแรกจะทำงานบ้าน พอมาอ่านบล็อกนี้ ไม่ทงไม่ทำมันแล้ว 55555
ขอบคุณรีวิวดีๆแบบนี้ค่ะ โหวตให้ไม่ถูกเลยว่าจะ travel หรือ photo
เอา travel ไปเลยแล้วกัน



โดย: สวนดอกไม้ในความเดียวดายของเธอ วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:15:27:30 น.  

 
สวัสดี น้องชีริว
หายไปหลายวัน เลยเม้นท์ไม่ทัน อิอิ ไม่เป็นไร ต่อจากตอน 2 ของเรือสำราญ คงเวันไปอีกหลายวัน ห้าห้า ต้องไปหาวัตถุดิบก่อน จ้ะ ทริป เรือสำราญ เป็นทริป ที่จองน่าจะตั้งแต่ ตุลา ปี 58 นะ ยาวนานมาก แล้วก็ดองบล็อกเล่าเรื่องนานเช่นกัน ทริปนี้ คิดถึงคำแนะนำของพวกพี่ ๆ น้อง ๆ เลยซอยย่อย ไม่ให้ยาว คนอ่านเบื่อเสียก่อน อิอิ
ไปหลีเป๊ะ หรือ ครูไปมาแล้ว น่าจะ 10-11 วัน เขียนบล็อกไว้ ไม่น่าต่ำกว่า สองบล็อก ลองไปหาข้อมูลดูก็ได้ เผื่อจะได้ประโยชน์ ครูไปเที่ยวกันเอง ไม่ได้ซื้อทัวร์หรอก ลุยกันหลายจังหวัด สนุกมาก



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:16:56:16 น.  

 
บ้านเมืองเขาแปลกหูแปลกหน้าดีเนาะ
อยากไปมั่งจัง
คงได้เรื่องมาเล่าสามวันแปดวันกับอีกหนึ่งคืน


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:17:07:03 น.  

 
เป็นเมืองที่ดูน่าทึ่งมาก แถมประวัติน่าสนใจมาก ดูเพลินทั้งสถานที่ อาหาร และน้องแมวที่ชอบประวัติศาสตร์ น่ารักมากๆ ค่ะ

ปล.ไว้รอบหน้าจะย่อรูปให้เล็กลงค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:19:06:29 น.  

 
เฮ้อ ดูแล้วดูอีก อยากไปเหมือนกัน พอลูกโตแล้ว ตัวเบา ๆ แล้ว หรือลูกไม่เที่ยวกับเราแล้ว พี่จะยังอยากไปหรือเปล่าไม่รู้นะ

แหลมพรหมเทพ ... ใช่เลย อีกวันถัดมา พี่มาจับจองที่ตั้งแต่ 4-5 โมงเย็นเลย รอจริง ๆ นะ แต่อนิจจา กรรมมาบัง ไม่ใช่หรอก หมอกควันอินโดสิ ฟ้าขมุกขมัวมาก ภาพพระอาทิตย์ค่อย ๆ ตกน้ำ ที่อยากเห็น หมดกัน ไว้ไปซ่อมใหม่ แต่เมื่อไหร่ไม่รู้


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:19:51:34 น.  

 
ตามมาเที่ยวตุรกีอีกทีคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:20:10:17 น.  

 
มาคุยก่อนแปบนึง เดี๋ยวมาใหม่อีกที

ผมอยากจะถามแรงๆ เหมือนกันว่า "ตกลงเราจะสร้างวัฒนธรรม ให้คนที่ตั้งใจเขียน ต้องยอมให้คนที่อัพรัวๆ ใช่ไหม เราจะเอาอย่างนั้นมั้ยล่ะ"

ผมขอดูสถานการณ์ก่อนอีกพักนึงครับ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมว่าสายสะพายคงกระจุกอยู่ที่พวกขาใหญ่แน่นอน พวกรายย่อยอย่างเราๆ หมดสิทธิ์ครับ

ผมเคยคิดจะทำอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องบล็อกเหมือนกัน เดี๋ยวขอดูอีกทีก่อนว่าจะเอาไงดี


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:23:52:05 น.  

 
ผมพึ่งเปลี่ยนใจตะกี้เอง วันนี้ยังไม่ถกประเด็นที่พูดตะกี้ดีกว่า


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:0:17:18 น.  

 
ที่บ้านมีมะลิต้นนึง ต้นใหญ่พอสมควร
เป็นมะลิที่ลูกสาวซื้อให้วันแม่มื่อหลายปีมาแล้ว
ขยันออกดอกเป็นที่หนึ่ง พี่ชอบกลิ่นมะลิเหมือนกัน
หอมชื่นใจบอกไม่ถูกเนอะ
ชอบเก็บไปไว้ในห้องนอน ได้กลิ่นแล้วดันนึกอยากกินขาวเหนียวมูลสะงั้น 55
สมัยก่อนข้าวเหนียวพอมูลเสร็จ เค้าจะโรยด้วยดอกมะลิ
หอมชวนกินสุดๆ



โดย: mambymam วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:7:43:51 น.  

 
เมนูใหม่เป็นเค้กวันเกิดของเด็กที่บ้านค่ะ ไว้คุณชีริวว่าง ไปชิมกับน้องเน้อ :D


โดย: Tristy วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:8:19:55 น.  

 
สวัสดีอีกรอบค่ะซีริว

พี่เองก็เพิ่งรู้ตอนทำบล็อกนี้ว่าเนื้อวัวญี่ปุ่นมีไขมันดีหละ

ก่อนหน้านี้ก็กลัวเรื่องอ้วนกับไขมันเลวเหมือนกัน

ตอนนี้โอเคแระ ถ้าได้เนื้อดีๆ แบบนี้ กินได้ แฮ่..


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:8:37:15 น.  

 
รออาทิตย์หน้านะชีริว



โดย: หอมกร วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:9:23:14 น.  

 
ปล. รอชมตอนต่อๆ ของบล็อกใหม่นะค่ะ ตุรกีนี่คุณซีริวรอดจากระเบิดมาได้ หุหุ โชคดีนะคะ ^^

คุณซีริวมักจะมีสถานที่มาแนะนำเสมอ เนื้อหาแน่น เล่าแบบเป็นกันเอง สนุกดีค่ะ ไม่นับบล็อกการ์ตูนที่อยู่ในโหมวด ขำขันนะคะ เอ๊ะ ยังไง ฮ่า ฮ่า


โดย: kae+aoe วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:9:38:09 น.  

 
ศิลปะวัฒนธรรม น่าสนใจมากครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:12:16:04 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog

มาหลายรอบแล้วค่ะอ่านไม่จบซะที
ชอบที่คุณชีริวเล่าได้ละเอียดดี เวลาไปเที่ยวเมืองแบบนี้
จะตั้งใจฟังไกด์เล่ามากเลยได้ความรู้เยอะดีค่ะ ล้วนเป็นสิ่งน่า
อัศจรรย์ทั้งนั้น อย่างบ้านพระแม่มารีที่พบก็ปาฏิหารย์จริง ๆ
ที่กำแพงตอนแรกมองไม่ออกเลยว่าเป็นกระดาษ แล้วคุณชีริว
ได้เขียนคำอธิษฐานด้วยหรือเปล่า กาลเวลาไม่สามารถกลบเกลื่อน
ซากโบราณได้เลย หอสมุดก็น่าเสียดาย พิพิธภัณฑ์ก็ล้วนมีศิลปะ
อันล้ำค่า บ้านเมืองเขามีเครื่องเทศเยอะมากมายเลย เห็นโรงละคร
แล้วนึกถึงหนังที่ดูเลย ได้ลองไปยืนพูดตรงกลางด้วยหรือเปล่าคะ
ดีใจที่ได้มาร่วมามเที่ยวด้วย ชอบมากค่ะ


โดย: AppleWi วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:12:58:20 น.  

 
บ้านเมืองเค้าสวยงามจังเลยนะครับ มีศิลปะต่างๆ สวยงามมาก ขอบคุณครับที่พาไปเปิดหูเปิดตา

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Travel Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Music Blog ดู Blog
แมวเซาผู้น่าสงสาร Travel Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog


โดย: NaiKonDin วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:13:37:44 น.  

 
มาอ่านต่อค่ะ พออ่านมาถึงอีสตันบูลก็นึกได้
เคยเฉีนดไปตรงนี้เมื่อ 58 ปีก่อน ไปพักเคร่ือง
ระหว่างทางไปอังกฤษค่ะ ตอนนั้นนึกว่า สักวัน
จะกลับไปเที่ยว แต่จนบัดนี้ก็เพิ่งได้มาเที่ยวกับ
บล็อกนี้แหละ 55

ไม่ได้ตั้งใจจะแต่งบล็อกเลยค่ะ วันหนึ่งอ่าน
แม็กกาซีนแล้วนึกว่า วิธีวางภาพและคำของเค้า
น่าจะเอามาใส่ในบล็อกได้ ก็ลองไปถาม google
เค้าให้บล็อกต่างประเทศมาเยอะ ไม่รู้ศัพท์เทคนิค
ทางคอมพิวเต้อร์ แต่ลองเอามาวางในบล็อกแล้ว
ก็ค่อยๆแก้ไข มันก็เป็นไปได้ เลยสนุก หมอสมอง
ก็บอกว่า ทำแบบนี้ก็ดี ช่วยพัฒนาสมองในด้าน
ความจำได้ ก็เลยทำมาเรื่อยๆอ่ะค่ะ

ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ

เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:16:58:05 น.  

 
อ.เต๊ะ มาอ่านต่อนะครับ

อ่านไปอ่านมา นี่หงุดหงิด ยังไงก้ไม่รู้

ไอ้ที่อยากดู ดันไม่มีรูป ไอ้ที่ไม่อยากดู รูปเพียบเล้ยย555

อย่าง พระราชวังโดลมาบาชเช่ นี่จะดูสถาปัตยกรรมภายใน ซะหน่อยดันไม่ให้ถ่ายรูปซะงั้น ป้าดโธ่

พออยากจะดูวิวสวยๆฟ้าใสๆ ตอนล่องเรือ ก็มีแต่เมฆแต่หมอก ขัดใจซะจริงๆ555

แล้วก็ อ.เต๊ะ ละงงกับการจัดสรรเวลาของทริปนี้ซะจริงๆ

อย่างเวลาไปดู พิพิธภัณฑ์ นี่ คุณซีริว ต้องแอบหนี วิ่งตาเหลือกไปดู ภายในเวลาครึ่ง ชั่วโมง ที ตลาดเครื่องเทศ ให้ดูเป็น ชั่วโมงๆ กลุ้มจริงๆเลย555

แต่ถ้าดูภาพรวมแล้ว คนชอบประวัติศาสตร์ ชอบงานสถาปัตยกรรม แบบยิ่งใหญ่อลังการ เกรียงไกรในอดีต นี่ พลาดไม่ได้

เสียอย่างเดียว เอ๊ะ น่าจะหลายอย่างเลย ตั้งแต่
สภาพอากาศ ไม่เป็นใจ ฝนตก370วัน ใน 1ปี555

อาหารไม่อร่อย หรือตาซีริวเรื่องมากก้ไม่รู้ เย้ย 555
แต่ดูจากอาหารและขนมแล้ว อ.เต๊ะว่า ประเทศนี้ คนพุงป่องแยะมาก แถมน่าจะเป็นเบาหวานอย่างน้อยๆ ก้ครึ่งประเทศ แหงๆเลย 555

อีกเรื่องที่เสี่ยงมากๆก็คือ เราเดินๆถ่ายรูปอย่างเมามันอยู่ อาจจะโดน ไอเอส อุ้มไปตัดหัว เย้ย เสี่ยงจะโดนแยกอวัยวะ ด้วยระเบิดอย่างไม่รู้ตัว แล้วละก็

ประเทศนี้ ก็ยังน่าสนใจอยู่มากเลยนะครับ

ปล. บล้อกหน้า ขอความกรุณาคุณซีริว อัพบล็อกไม่เกิน 7 บรรทัดนะครับ

เพราะบล็อกเกอร์ในบล้อกแก๊งเรา อ่านได้เต็มที่ไม่เกินนี้นะครับ นี่ถ้าไม่รักกันชอบกัน อ.เต๊ะ ไม่บอกนะครับนี่ แฮ่ๆ 555



โดย: multiple วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:19:46:17 น.  

 
สวัสดี น้อวชีริว

อิอิ คอมเม้นท์ไม่ทันเหรอ อย่ากังวลไปเลย มีเวลา ก็อ่าน ก็เม้นท์กันไป จ้ะ ครูรออ่านเรื่องเที่ยวของเธออยู่นะ ห้าห้า
ขอบใจที่ไปโหวดให้ จ้ะ วันนี้ ไปงานบวชพระ บวชเณร ที่ครูเป็นเจ้าภาพด้วย พระลูกศิษย์ ได้เชิญไปถวายผ้าไตรด้วย รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ อิ่มท้องด้วย เพราะหลังงานบวช ลูกศิษย์ที่มารับไปงานบวช พาไปทานอาหารที่ร้านสโมสร ราชนาวี ด้วย อิอิ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:20:08:24 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
อุ้มสี Parenting Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
ALDI Food Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog


ตุรกีนี่เป็นประเทศหนึ่งที่อยากไปมาก แต่ก็ยังไม่ได้
ไปซักที ตอนนี้ก็เลยได้แต่ชมภาพของน้องซีริว
เพลินไปเลย หลายภาพแสดงถึงความเป็นเมืองเก่าที่
มีงานศิลป์สมัยก่อนให้ได้ชม ชอบมากค่ะ



โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:20:14:42 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

ถ้ามีโอกาสลองนัดโต้งไปเดินถ่ายภาพด้วยกันดูสิครับ
โต้งเป็นคนเก่งในเรื่องเทคนิคกล้อง เลนส์กล้อง
และการเลือกมุมกล้องนะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 เมษายน 2559 เวลา:7:21:54 น.  

 
รูปแรกในบล็อกที่ทำให้ต๊กกะใจ...ผมจงใจเลยนะนั่น ฮุฮุ
(แต่เม้นต์ again. and again. and again นี่โคตรหลอนเลยอะ =_=)

คือรูปทุกรูป...ทั้งขนาดและการจัดวางในบล็อก
ผมตั้งใจออกแบบมาให้คนดูรู้สึกแบบนั้นนั่นแหละครับ
เพราะอย่างงี้แล้ว ผมก็เลยค่อนข้างซีเรียสนิดนึง...
เวลามาใครมาทำอะไรให้บล็อกที่ตัวเองคิดไว้แปลกไป
อย่างเช่นเรื่อง "นายขนม" ที่คุณชีริวเจอนั่นแหละครับ ^^"

.....

ก็จริงครับ Hagia Sophia นี่จัดเป็นสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ของโลกเลย
เอาอะไรมาเทียบคงลำบาก แม้แต่อาคารที่สร้างในยุคหลัง ๆ ก็ตาม ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 2 เมษายน 2559 เวลา:12:50:39 น.  

 
หลังจากตามอ่านตุรกีตอนแรกเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
เพิ่งได้มาตามอ่านตอนสองวันนี้ค่ะ
เอิ่ม!! เหมือนจขบ.เลย เว้นบล็อกเที่ยวไปสองเดือน แหะๆ

ตุรกีเห็นในภาพข่าวที่โดนโจมตี เศร้าแทน
เสียดายเนาะ เมืองเค้าสสวยมากๆ
ที่คุณชีริวไป สวยทุกที่เลยค่ะ
อิสตันบลู สวยทันสมัย มีทุกอย่างสมเป็นเมืองใหญ่ สวยงาม อลังการ มีหลากหลายให้ดู

แต่นุ่นชอบที่เมืองโบราณ เอฟิซุส ขนาดตอนนี้ยังดูขลังขนาดนี้
สมัยก่อนจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน
เสียดายเนาะ เหลือเป็นซากปรักหักพัง แต่ก็อยากไปเห็นกับตาเหมือนกันค่ะ
ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปบ้าง ชักจะกลัวละ
ตกเป็นเป้าโจมตีด้วยอะ


ไปทัวร์แบบนี้ คงไม่แคล้วพาไปช็อป ชม แบบละลายทรัพย์ในร้านหรูๆ เหมือนกันนะคะ
แต่อีกแล้ว ชอบดูตลาดบ้านเค้ามากกว่า
ตลาดเครื่องเทศ โหย เยอะมากเลยอะ น่าดู


ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า
เอ สงสัยทำไมเมืองเค้าถึงทึมๆ หรือว่าไปช่วงหนาวจัดๆ หรือว่าฤดูอะไรคะเนี่ย
ฟ้าไม่ใสเลยเนาะ แต่ก็สวยดี อิอิ

ชอบอีกอย่าง กำแพงอธิษฐานเห็นมีแต่ที่ปราก ที่นี่ก็มีด้วยเนาะ บ้านพระแม่มารีดูสวย น่าเป็นสถานที่ที่คนไปเยอะอีกแห่ง
เพิ่งเคยเห็นค่ะ

ขอบคุณมากๆ ค่า



โดย: lovereason วันที่: 3 เมษายน 2559 เวลา:12:57:16 น.  

 
คุณทุเรียนให้ ไก่ย่าง 5 ดาว ไปแล้ว
พี่อ้อก็ยกไก่ KFC ก็แล้วกัน
น่าไปเที่ยวมาก
น้องผู้หญิงที่ที่ทำงานก็เพิ่ง Backpack ไปมา กัน 2 สาว
ก่อนที่มันจะบึ้ม งวดในเมืองหนแรก

IS นี่มันทำโลกป่วนไปหมดจริงๆ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 เมษายน 2559 เวลา:18:47:03 น.  

 
เรื่องนี้ยาว เดี๋ยวผมไปคุยวันนี้เลย อย่างที่บอกทีมงานทุ่มเททางนี้ก็ทุ่มเท ไม่งั้นจะพิมพ์ปัญหาที่เจอไปทำไมให้เสียเวลา

เราจะไม่ถกประเด็นว่าใครทำงานหนัก ทุกคนทำงานหนักทั้งนั้น เราอยู่ในจุดยืนเดียวกันที่ว่า ต้องการให้บล็อกแก๊งดีขึ้น เชื่อว่าทีมงานน่าจะรับฟัง เดี๋ยวค่อยๆ เคลียร์ทีละประเด็นกะทีมงาน คุณชีริวจะร่วมวงด้วยมั้ย ถ้าร่วมวงเดี๋ยวแอดชื่อเข้าไปในหลังไมค์ที่คุยกะทีมงาน (จะได้โดนแบนไปด้วยเลย อิอิ)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 เมษายน 2559 เวลา:20:37:46 น.  

 
14ล้านนี่ น่าจะพอๆกับกรุงเทพเนอะ คึกคักน่าดู


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 3 เมษายน 2559 เวลา:23:46:42 น.  

 
ตะ้เอ๋ กลับมาอีกทีปิดบล็อกหนีซะแร้ววว

ไม่ได้หรอกเราต้องกลับมาเที่ยว ตุรกีให้ไดด้ และก็ไม่ผิดหวังเลย สวยงาม เกินคาด มาเที่ยว วันที่5 ต่อๆ
บรรยาย ได้ละเอียดไม่ต้องถาม อ่านไปเพลินๆๆ ยังกะดูสารคดี
ไม่น่าเชื่อช่วง 5 นาที มันรวดเร็วถ่ายได้ เยอะมากคุ้ม แหะๆ
โลงศพ ฟาร์โรได้เห็นของจิง วันนี้เอง ขุ่นพระ..

แมวจรจัดบ้านเขาดีนะอ้วนท้วน สะอาด ผิดกะบ้านเรา 555

มีที่สวยๆมากมาย แต่เสียดายนะ คนกลับไม่กล้าเข้า ละเพราะมีแต่ข่าว ทางลบ .
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากมายเลยนะทริปนี้



โดย: tifun วันที่: 9 เมษายน 2559 เวลา:17:32:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.