|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
นครพันปี เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
บล็อกบังคับอ่านประวัติศาสตร์มาอีกแล้วเจ้าครับ :D หลังจากพาไปทัวร์กำแพงเพชร-สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์อันเป็นมรดกโลกไปแล้ว คราวนี้เรามาชมอุทยานประวัติศาสตรที่ไม่ได้เป็นมรดกโลก และไม่ค่อยมีใครพูดถึงอย่างศรีเทพกันบ้าง
เมืองศรีเทพเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 12 ช่วงที่อารยธรรมทวาราวดีเฟื่องฟูในพื้นที่ แต่ก็ล่มสลายไปตั้งแต่ยุคต้นกรุงสุโขทัย ดังนั้นระดับความเป็นเมืองโบราณของเมืองศรีเทพย่อมสูงกว่าเมืองโบราณอื่นๆที่เคยออนแอร์ในบล็อกนี้ไปแล้วอย่างไม่อาจเทียบกันได้ แต่เพราะเก่าขนาดนี้ด้วยแหละ เลยทำให้แทบไม่มีหลักฐานเรื่องราวคำบอกเล่าอะไรเกี่ยวกับเมืองนี้เท่าไหร่เลย
สิ่งที่เรารู้ก็คือศรีเทพเป็นเมืองของขอมและมอญ ไม่ใช่เมืองโบราณของคนเชื้อชาติไทย อย่างเมืองเชียงใหม่ เชียงราย เชียงแสน สุโขทัย กำแพงเพชร ศรีสัชนาลัย อยุธยา ฯลฯ นะครับ จึงอาจถูกละเลยในมุมมองของประวัติศาสตร์แบบชาตินิยมสักนิด เมืองนี้มีร่องรอยคนอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ช่วงปลายๆ จากนั้นก็เริ่มมีการติดต่อกับสังคมภายนอก และพัฒนาเป็นชุมชนเมืองขึ้น เมืองศรีเทพรับวัฒนธรรมทวาราวดีเข้ามาในยุคพุทธศตวรรษที่ 11 - 12 จากนั้นช่วงปลายมีวัฒนธรรมขอมเข้ามาในช่วงศตวรรษที่ 16 - 17 เพราะงั้นเราจะเห็นสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่มีลักษณะศิลปะเป็นแบบทวาราวดีปนกับขอมครับ ช่วงหลังเมืองได้ขยายตัวจากเมืองเดิมไปทางตะวันออก เป็นเมืองซ้อนเมือง เรียกส่วนเดิมว่าเมืองใน และส่วนที่ขยายออกไปว่าเมืองนอก แต่โบราณสถานสำคัญๆก็อยู่ในเมืองในทั้งนั้นแหละ ลักษณะการวางผังเมืองนี้จะแตกต่างกับพวกเมืองอยุธยาหรือสุโขทัย แต่จะคล้ายเมืองในรุ่นเดียวกันอย่างเมืองลพบุรีหรือราชบุรีครับ
เมืองศรีเทพล่มสลายในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ไม่มีใครทราบต้นเหตุของการล่มสลาย แต่คาดว่าน่าจะเป็นโรคระบาดหรือไม่ก็สงคราม หลังจากนั้นศรีเทพถูกทิ้งเป็นเมืองร้างมาหลายร้อยปี พระธุดงค์ได้ค้นพบและเรียกเมืองนี้ว่า "เมืองอภัยสาลี" ซึ่งก็เรียกติดปากสำหรับชาวบ้านในพื้นที่กันมานาน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2447 กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ได้ออกตามหาเมืองศรีเทพซึ่งพบชื่อจารึกอยู่ในบันทึกต่างๆ ว่าเป็นหนึ่งในชื่อหัวเมืองเก่า จนกระทั่งมาเจอเอาเมืองอภัยสาลีนี่แหละที่น่าจะเป็นเมืองศรีเทพตามที่ปรากฏในหลักฐานทางโบราณคดีต่างๆ ~อภัยสาลีอะไรกันเล่า! นี่แหละเมืองศรีเทพที่ถูกกล่าวถึงในตำนาน! ตอนที่ฝรั่งค้นพบเมืองทรอยคงให้อารมณ์แบบนี้เหมือนกัน
เมืองศรีเทพอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯครับ แม้จะอยู่ถึงเพชรบูรณ์แต่ก็อยู่ล่างสุดของจังหวัด ขับรถจากกรุงเทพฯไปแค่ 3 ชม.ก็ถึง ก่อนเข้าชมอุทานประวัติศาสตร์ศรีเทพลองมาชมโบราณสถานรอบๆกันก่อนครับ โชคดีที่โบราณสถานแต่ละแห่งอยู่ใกล้ๆกัน
แผนที่ อ.ศรีเทพ - อ.วิเชียรบุรี (คลิ๊กเพื่อชมภาพใหญ่) ขอบคุณภาพจากหนังสือท่องเที่ยวเพชรบูรณ์ ชุด"นายรอบรู้" ซึ่งเป็นหนังสือติดตัวผมสำหรับเที่ยวจังหวัดต่างๆ คู่กับหนังสือแผนที่ของ NOSTRA ครับ
เดินทางง่ายมากครับ จากกรุงเทพเราเข้าสาย 21 มาจนพบสี่แยกที่ตัดกับสาย 2211 ก็เลี้ยวขวา ก็จะเจอป้ายบอกทางไปโบราณสถานต่างๆให้เลือกชมกันได้ง่ายดาย ด้านเหนือของอุทยานมีเขาคลังนอก ซึ่งเป็นโบราณสถานที่ผมอยากมาที่สุดในทริปนี้ เพราะเห็นข้อมูลจากในเว็บเป็บโบราณสถานขนาดใหญ่โตเป็นภูเขาแล้วก็ตื่นตาตื่นใจ ที่สำคัญมันเก่าแก่กว่าโบราณสถานที่เคยไปเห็นมาจากสุโขทัยอะไรพวกนั้นเสียอีก เพราะสร้างในพุทธศตวรรษที่ 12-13 แต่ถนนเส้นเข้าไปค่อนข้างขรุขระนะครับ แต่ผมไม่ห่วง เพราะน้องเป็นคนขับรถ (อ้าวเลว)
เขาคลังนอก
สิ่งแรกเมื่อได้มาเห็นโบราณสถานแห่งนี้ก็คือ โอ้วววววว สีแสบตาชิหัย -*- บูรณะได้สด๊อกก๊อกธมมากๆครับ อย่างน้อยก็ทำให้อิฐมันสีเหมือนกันหน่อยเซ้ คนบูรณะ: อ่อ ปล่อยทิ้งไว้สักพันปีก็เหมือนกันแล้วครับ
แต่ความใหญ่โตของโบราณสถานนี้เป็นของจริง ไม่เชื่อดูเทียบขนาดกับนางแบบจำเป็นคนนี้ได้ (ใครก็ไม่รู้ ไปแอบถ่ายเขามา)
เขาคลังนอก ถูกฝังอยู่ใต้ดินมานานนับพันปี ก่อนบูรณะที่นี่เป็นเนินมีต้นไม้ขึ้นปกคลุม เศษอิฐ เศษศิลาแลงกระจายอยู่ทั่ว และคนที่เข้าถึงก่อนกรมศิลป์จะมาบูรณะก็ไม่ใช่ใครอื่น... โจรใจทรามเจ้าเก่าครับ มาขุดเอาของข้างในไปขายทอดตลาดแทบเกลี้ยง เช่นเดียวกับที่เจดีย์และสถูปโบราณหลายๆแห่งโดน ส่วนพวกพระพุทธรูป, ธรรมจักร ฯลฯ ที่หลงเหลืออยู่ก็ถูกย้ายไปไว้ในห้องจัดแสดงหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ตัวก้อนอิฐเปล่าๆ อันที่จริงในเมืองศรีเทพนี้มีโบราณวัตถุกระจายอยู่ทั่ว ทั้งลูกปัด, ธรรมจักร, พระพุทธรูป, ฯลฯ แต่ถูกขุดขายให้นักค้าโบราณวัตถุเกือบหมดแล้ว
ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพมีโบราณสถานลักษณะเป็นภูเขาคล้ายๆกัน เดิมทีชาวบ้านเรียกโบราณสถานสองแห่งนี้ว่า เขานอก-เขาใน แต่ข้าราชการเชื่อกันว่าใช้สำหรับเก็บสมบัติจึงเรียกว่าเขาคลังนอก-เขาคลังใน ครับ ถ้าต้องการดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่ของเขาคลังนอกมากกว่านี้ แนะนำบล็อกนี้ครับ //www.oknation.net/blog/voranai/2009/09/25/entry-1 มีภาพตั้งแต่สมัยขุดบูรณะกันเลยทีเดียว
ขับกลับออกมาทางเดิมแล้วมาทางตะวันออกอีกนิดจะพบวัดป่าสระแก้ว เป็นวัดป่าที่ร่มรื่นต้นไม้เยอะดีครับ แต่ผมสนใจโบราณสถานที่อยู่ในวัดนี้มากกว่า นั่นคือ แต๊น!... หอเอนเมืองศรีเทพ เอ้ย! ปรางค์ฤาษี
ปรางค์ฤาษี
ตัวปรางค์ดูใหม่เอี่ยมแถมเล็กจิ๊ด แต่การจัดวางสิ่งปลูกสร้างต่างๆแบบขอมก็ทำให้โบราณสถานแห่งนี้น่าสนใจครับ ปรางค์ฤาษีสร้างในพุทธศตวรรษที่ 16
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
ค่าเข้าชมเช่นเดียวกับอุทยานประวัติศาสตร์อื่นๆครับ แต่ที่นี่ถ้าอายุเกิน 60 เข้าชมฟรี ที่นี่คนเข้าชมน้อยมาก จ่ายค่าเข้าให้เขาเอาเงินไปบำรุงเถ้อ... ส่วนใครไม่อยากเสียเงิน รออีกสัก 20-30 ปี พออายุเกิน 60 แล้วค่อยมาครับ
เช่นเดียวกับเมืองโบราณอื่นๆ เมืองนี้มีคูน้ำคันดินเป็นกำแพงเมืองครับ
ที่นี่พื้นที่กว้างขวาง และมีโบราณสถานเล็กๆกระจายอยู่ทั่ว แต่เป็นแค่กองศิลาแลงจริงๆครับ โบราณสถานสำคัญทั้งสามแห่งคือปรางค์ศรีเทพ ปรางค์สองพี่น้อง และเขาคลังใน กระจุกกันอยู่กลางอุทยาน จอดรถแล้วเดินทีเดียวได้เลย
แต่ก่อนอื่นขอแวะอาคารหลุมขุดค้นก่อน ที่นี่มีกระดูกคนและกระดูกช้าง ถูกฝังต่างช่วงเวลากันครับ กระดูกคนเก่าแก่กว่าจะอยู่ลึกกว่า เป็นคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในพื้นที่นี้ อายุ 2,000 ปี (โห แก่กว่าอีแก่ข้างบ้านผมอีก!) ส่วนกระดูกช้างถูกฝังไว้ตื้นกว่าครับ ไม่ทราบว่าตายขณะใช้สร้างเมืองนี้ หรือฆ่าเพื่อประกอบพิธีกรรม หรืออาจเป็นตัวที่จาพนมตามหาอยู่ก็ได้ (รู้ว่าแป้ก แต่ก็เล่น)
อันที่จริงมีศูนย์ข้อมูลด้วย แต่ผมไม่ได้แวะเข้าไปดู ด้านในมีโบราณวัตถุและโครงกระดูกที่ขุดพบจัดแสดงอยู่ ที่สำคัญคือถ่ายรูปได้ด้วยนะ
ปรางค์สองพี่น้อง
เป็บศาสนสถานของฮินดูเช่นเดียวกับปรางค์ฤาษีครับ สร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 ก่อนเปลี่ยนเป็นศาสนสถานของพุทธมหายานในพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งก็ไม่รู้จะเปลี่ยนไปทำไม เพราะอีกไม่กี่ปีเมืองก็ล่มสลายแล้ว ที่เรียกปรางค์สองพี่น้องเพราะเป็นปรางค์สององค์ อันนึงพังมาก อีกอันนึงพังน้อย
จุดขายคือปรางค์น้องที่มีหน้าบันแกะสลักสวยงาม อันที่จริงมันตกอยู่ข้างๆปรางค์สองพี่น้อง เคยมีคนเอาไปไว่ในพิพิธภัณฑ์ที่ลพบุรี แต่ในปี พ.ศ. 2541 ก็เอากลับมาติดบนนี้ครับ
ปรางค์ศรีเทพ
ปรางค์ที่เชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางของเมืองครับ หน้าตาธรรมดาสุดฤทธิ์ แต่พบสิ่งปลูกสร้าง และโบราณวัตถุรอบๆมากมาย ที่นี่ถูกสร้างเป็นศาสนสถานของฮินดูและถูกเปลี่ยนเป็นพุทธเช่นเดียวกับปรางค์สองพี่น้อง และปรางค์ฤาษี และมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันด้วย
สิ่งปลูกสร้างรอบๆมีทั้งซากอาคาร, บรรณาลัย, ลาน, ทางเดิน, มณฑป, ฯลฯ ส่วนนี่คือบ่อน้ำโบราณครับ
ข้างๆปรางค์มีโบราณวัตถุที่พบในพื้นที่นี้จัดแสดงไว้ด้วย บางชิ้นมีรายละเอียดสวยงามระดับเข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ได้เลย
เขาคลังใน
และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของอุทยานแห่งนี้ครับ "เขาคลังใน" แต่ก่อนเข้าไปดูเขาคลัง มาแวะถ่ายรูปธรรมจักรด้านหน้ากันเสียก่อน ธรรมจักรเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทวาราวดี และพบในเมืองทวาราวดีอื่นๆ เช่น นครปฐมและราชบุรีด้วย ธรรมจักรอันนี้พบที่เขาคลังนอก แต่ย้ายมาไว้หน้าเขาคลังในครับ
ที่นี่สร้างขึ้นมาหลังเขาคลังนอกเล็กน้อย สิ่งที่ทำให้เขาคลังในน่าสนใจยิ่งกว่าเขาคลังนอกก็คือลายปูนปั้นที่ฐานค่อนข้างสมบูรณ์และมีให้ชมเกือบรอบ (ด้านที่เขาสร้างหลังคามาคลุมไว้นั่นแหละ) นี่คือผลงานของช่างสมัยทวาราวดีที่ติดทนมากว่าพันปีเชียวนะ!
ก่อนออกแวะมาศาลเจ้าพ่อศรีเทพครับ เป็บโบราณวัตถุที่พบในพื้นที่นี้ และชาวอำเภอศรีเทพนับถือกราบไหว้กันมาก ถึงจะเรียกว่าเจ้าพ่อ แต่จริงๆเป็นรูปปั้นผู้หญิงน่ะ
ขับรถออกจากอุทยาน มาทางตะวันตกจะพบภูเขาถมอรัตน์ครับ ที่นี่เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเมืองศรีเทพ ซึ่งปรางค์ของศรีเทพทั้งหมดจะหันหน้ามาที่ภูเขาแห่งนี้ มีภาพสลักพระพุทธรูปและเทวรูปบนผนังถ้ำมากมาย แต่ก็ถูกโจรใจทรามเจ้าเก่ากระเทาะหน้าพระออกไปเกือบหมดครับ ตอนนี้ตามคืนมาได้และเก็บแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ส่วนตัวถ้ำจริงๆ ถ้าไม่มีแรงปีนเขาแบบพี่หยีหรือคุณอุ๊ก็ไม่ต้องขึ้นไปนะครับ ยังไม่ใช่ที่เที่ยวชื่อดังที่ทางการจะทำทางอำนวยความสะดวกให้ ส่วนผมอ่ะ ไม่ได้ขึ้นไป
ไหนๆก็มาถึงเพชรบูรณ์แล้ว ขึ้นไปอีกสัก 30 กม. กินไก่ย่างวิเชียรบุรีดูหน่อยดิ๊ เห็นขายไปทั่วประเทศ (แต่รสชาติไม่เหมือนกันสักเจ้า) เลยอยากลองดูว่าไก่วิเชียรบุรีของแท้มันเป็นยังไง
พอไปถึงวิเชียรบุรีก็เจอดงขายไก่ย่างมีเป็นสิบร้านครับ แต่แม่บอกว่าร้านที่มีชื่อเสียงคือตาแป๊ะและบัวตอง พวกผมนั่งกินกันที่ร้านบัวตอง อร่อยครับ แม้จะเป็นไก่ย่างแบบอีสานไม่ได้มันชุ่มฉ่ำแบบไก่ริมทะเลที่ผมชอบ แต่ก็อร่อยเข้าเนื้อดี
ขากลับแวะซื้อไก่ตาแป๊ะกลับไปตัวนึง อืม นี่แหละไก่ย่างอีสานของแท้เลย แห้งเชียว แต่คอไก่ย่างสูตรดั้งเดิมคงชอบ
ใครมีโอกาสมาเพชรบูรณ์ก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมเยียนเมืองเก่าศรีเทพกันบ้างนะครับ ตอนผมไปคนน้อยจนน่าสงสาร เขาค้อกะภูทับเบิกคนไปเยอะละ มาชมเมืองโบราณและกินไก่ย่างกันแถวนี้ดีกว่า
Create Date : 11 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2560 18:00:26 น. |
|
49 comments
|
Counter : 25226 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:23:53:35 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:0:57:17 น. |
|
|
|
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:1:07:23 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:5:20:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:5:42:37 น. |
|
|
|
โดย: oa (rosebay ) วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:11:22:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:11:27:24 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:14:04:52 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 12 ตุลาคม 2555 เวลา:16:05:12 น. |
|
|
|
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:0:56:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:6:23:18 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:8:16:00 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:9:05:26 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:11:25:04 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:15:15:32 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:15:56:55 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 ตุลาคม 2555 เวลา:13:45:41 น. |
|
|
|
โดย: NET-MANIA วันที่: 14 ตุลาคม 2555 เวลา:21:01:08 น. |
|
|
|
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 15 ตุลาคม 2555 เวลา:12:52:25 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 15 ตุลาคม 2555 เวลา:16:21:27 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:16:15:49 น. |
|
|
|
โดย: mastana วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:23:20:59 น. |
|
|
|
โดย: mastana วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:23:31:24 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:0:13:15 น. |
|
|
|
โดย: คมไผ่ วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:13:43:57 น. |
|
|
|
โดย: surya21 (surya21 ) วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:14:14:23 น. |
|
|
|
โดย: อัสติสะ วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:14:46:40 น. |
|
|
|
โดย: buraneemeo วันที่: 18 ตุลาคม 2555 เวลา:20:44:17 น. |
|
|
|
โดย: นางแบบจำเป็น ที่อยู่ในรูปค่ะ IP: 171.4.152.246 วันที่: 28 ตุลาคม 2555 เวลา:21:49:46 น. |
|
|
|
โดย: Kanlaya IP: 124.122.59.235 วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:17:02:36 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 6 พฤศจิกายน 2556 เวลา:9:02:28 น. |
|
|
|
โดย: คนเพชรบูรณ์ IP: 58.11.206.28 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:22:17 น. |
|
|
|
โดย: hon. IP: 106.0.210.110 วันที่: 28 สิงหาคม 2557 เวลา:13:38:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
หินสีใกล้เคียงกัน น่าจะหายากครับ
ถ้าไม่บูรณะ ก็พังร่วงลงมาหมดเป็นแค่กองหิน
แล้วจะตามรอยไปเที่ยวสุโขทัย ศรีสัช กำแพงเพชร ศรีเทพครับ