Bloggang.com : ชีริว : เที่ยวคันไซตามใจฉัน (5): อาสึกะและคาชิฮาระ

เที่ยวคันไซตามใจฉัน (5): อาสึกะและคาชิฮาระ

เช้าวันอังคารที่ 1 พ.ย. 2559 เป็นวันที่ 4 ของการเดินทางมาเที่ยวคันไซ เป้าหมายการท่องเที่ยววันนี้คืออาสึกะทางตอนใต้ของนารา เป็นจุดที่เคยเป็นศูนย์กลางของญี่ปุ่นในยุคสมัยของจักรพรรดิองค์แรกๆครับ

การเดินทางไปหมู่บ้านอาสึกะมันหลายซ้ำหลายซ้อน นักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยมี เมื่อวานคุณจุนเลยช่วยอธิบายเส้นทางอย่างละเอียดด้วยความเป็นห่วง วันนี้ก่อนออกจากที่พักคุณจุนก็เตือนให้พกร่มไปด้วย เพราะฝนจะตกปรอยๆช่วง 7.00 น. และจะหยุดตกตอน 7.40 น. หลังจากนั้นฟ้าจะใสถ่ายรูปสวยๆได้ทั้งวัน (อะไรมันจะละเอียดขนาดนั้นครับคุณ!)

ซึ่งฝนก็ตกลงมาปรอยๆจริงๆนั่นละ แต่ไม่นานก็หยุดตามคำทำนาย ไปที่สถานี Yamato-Saidaiji ขึ้นรถไฟสาย Kintetsu Kashihara Line จนถึงสถานี Kashiharajingu-mae จากนั้นต่อ Kintetsu Yoshino Line มาลงที่สถานี Asuka ใช้เวลารวมเกือบหนึ่งชั่วโมง นานกว่าจากเกียวโตมานาราอีกนะเนี่ย

วันนี้ฟ้าสวยใสเหมาะแก่การท่องเที่ยวถ่ายรูปมาก การท่องเที่ยวอาสึกะสมควรมาเริ่มต้นที่ Asuka Station ด้วยประการทั้งปวงครับ ข้างหน้ามีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอาสึกะ นอกจากจะมีแผนที่แจกฟรีแล้ว คุณป้าที่คอยให้บริการนักท่องเที่ยวยังตั้งใจให้คำแนะนำแบบสุดๆ วิ่งมาชี้รถเมล์ให้ถึงป้ายเลยทีเดียว

พวกเราเลือกวิธีเดินทางด้วยรถบัส Asuka Tour Bus ครับ ซื้อตั๋วเหมาวัน 650 เยน ซึ่งมันไม่ค่อยสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวในอาสึกะสักเท่าไหร่ ถึงที่นี่จะชื่อหมู่บ้านอาสึกะ (Asuka Village) แต่ขนาดมันคือเมืองๆนึงในจังหวัดนาราเชียวนะ ที่สำคัญรถเมล์มันไม่ได้เยอะแบบเมืองใหญ่ๆด้วย ครึ่งชั่วโมงมาคันเดียว พลาดตกรถขึ้นมาก็รอไปอีกครึ่งชั่วโมง เลยเก็บสถานที่ท่องเที่ยวได้ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ เพราะมันต้องเสียเวลารอรถเมล์นี่แหละ เอาจริงๆเมืองนี้ขี่จักรยานเที่ยวเวิร์คสุดนะ รถราก็ไม่เยอะด้วย ที่สถานีอาสึกะมีจักรยานให้เช่าวันละ 900 เยน (วันหยุด 1,000 เยน)

อาสึกะมีประชากรเบาบางเพียง 1,500 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา แต่บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งพระราชวังของจักพรรดิรุ่นแรกๆ และยังคงเหลือหลุมฝังศพ วัดเก่าแก่ ฐานพระราชวัง รวมทั้งโบราณวัตถุมากมายในพื้นที่

แผนที่แสกนจากโบรชัวร์แจกฟรีที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อันนี้ดีกว่าแผนที่ในเว็บทั้งหลายอีก
(Click ที่ภาพเพื่อชมภาพขยาย)

เอ็นทรี่ก่อนหน้านี้เราไปชมนารา (เฮโจเคียว) ที่เป็นเมืองหลวงถาวรแห่งแรกของญี่ปุ่นกันไปแล้ว ก่อนหน้านั้นเมืองจะย้ายตามพระราชวังของจักรพรรดิ (คล้ายๆคุ้มเจ้าเมืองตามหัวเมืองของไทยในสมัยก่อนนั่นแหละ) จะไม่ปักหลักอยู่ในเมืองเดิมที่จักรพรรดิสวรรคตไปเพราะถือว่าเมืองนั้นเปื้อนมลทินไปแล้ว

ประเทศญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน หากนับตั้งแต่จักรพรรดิองค์แรกคือจักพรรดิจิมมุแล้ว ญี่ปุ่นมีอายุถึง 2,677 ปี และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือตลอดประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นนั้นปกครองด้วยราชวงศ์เดียว เรียกว่าราชวงศ์ญี่ปุ่น จักรพรรดิทั้งหมดล้วนสืบเชื้อสายตามสายเลือดของจักรพรรดิจิมมุเรื่อยมา แม้จะมีบางช่วงที่ขุนนางหรือโชกุนขึ้นมามีอำนาจเหนือจักรพรรดิแต่เขาก็ไม่ล้มเจ้ากันนะครับ ยังคงรักษาสายเลือดของจักรพรรดิไว้ให้อยู่คู่ประเทศญี่ปุ่นตลอดไป (ประเทศอื่นคนล้มเจ้าเพื่อขึ้นมาเป็นเจ้าซะเองเป็นว่าเล่นจนกระทั่งระบอบกษัตริย์โดนโละไป) และจักรพรรดิอากิฮิโตะซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์ปัจจุบันคือองค์ที่ 125 ของราชวงศ์

พระราชวังของจักรพรรดิจิมมุอยู่ที่เมืองคาชิฮาระที่จะไปตอนเย็นๆวันนี้ครับ จากนั้นที่ตั้งพระราชวังก็ย้ายตามนโยบาย 1 จักรพรรดิ 1 พระราชวัง ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตจังหวัดนารานี่ละครับ ขอย้อนกลับไปดูไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นแป๊บ...

1. ยุคโจมอนและยาโยอิ (ก่อน 270 AD) ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงจักรพรรดิองค์ที่ 14
2. ยุคโคฟุน (270 - 539 AD) จักรพรรดิองค์ที่ 15-28
3. ยุคอาสึกะ (539 - 710 AD) จักรพรรดิองค์ที่ 29-43
4. ยุคนารา (710 - 794 AD) จักรพรรดิองค์ที่ 43-50 เมืองหลวงคือนารา
5. ยุคเฮฮัน (794 - 1185 AD) จักรพรรดิองค์ที่ 50-81 เมืองหลวงคือเกียวโต
6. ยุคคามาคุระ (1185 - 1333) จักรพรรดิองค์ที่ 82-96
7. ยุคมุโรมาจิ (1318 - 1573) จักรพรรดิองค์ที่ 96-107
8. ยุคเอโดะ (1603 - 1868) จักรพรรดิองค์ที่ 107-121 เมืองหลวงคือโตเกียว
9. ญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน (หลังการปฏิรูปเมจิปี 1868) จักรพรรดิองค์ที่ 122-125

หนนี้ขอแยกยุคอาสึกะและนาราออกจากกันเพื่อเอามาขยายความในบล็อกนี้นะครับ

ยุคอาสึกะ เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นรับพุทธศาสนาเข้ามาจากอาณาจักรแพ็คเจ (เกาหลี) และสร้างวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างจากยุคโคฟุนอย่างเห็นได้ชัด ปีศักราชต่างๆที่มีการบันทึกเริ่มมีความชัดเจน และเป็นยุคที่เปลี่ยนชื่อประเทศจาก "วะ" เป็น "นิฮอน" (ญี่ปุ่น) ด้วย ยุคสมัยที่สำคัญคือรัชสมัยของจักรพรรดินีซุยโกะ ครองราชย์ระหว่างปี 592-628 เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 33 และเป็นจักรพรรดิหญิงองค์แรกของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจากทั้งหมด 8 คน ขึ้นครองอำนาจด้วยการสนับสนุนของอูมาโกะแห่งตระกูลโซกะ (Soga no Umako) หัวหน้าตระกูลโซกะที่มีอิทธิพลมากในสมัยนั้น และมีเจ้าชายโชโตคุเป็นผู้สำเร็จราชการ เจ้าชายโชโตคุได้สร้างวัดในพุทธศาสนาไว้มากมาย

พระราชวังของจักรพรรดิในยุคนี้เกือบทั้งหมดอยู่ในเขตหมู่บ้านอาสึกะ แต่น่าเสียดายที่มันทำจากไม้เลยไม่รอดเงื้อมมือของกาลเวลา ปัจจุบันไม่เหลืออะไรให้ดูแล้วครับ ที่ยังคงเหลืออยู่ก็เป็นพวกหลุมฝังศพหรือวัดที่มีการใช้งานมาเรื่อยนี่แหละ

ที่แรกที่จะแวะเที่ยวคือ สุสานทาคามัตสึซูกะ (Takamatsuzuka Tomb) สร้างปลายศตวรรษที่ 7 ด้านบนเป็นเนินดินเหมือนฮวงซุ้ยธรรมดา แต่ข้างในเป็นสุสานหินมีภาพเขียนและข้าวของเครื่องใช้ครับ เพิ่งค้นพบในปี 1972 นี้เอง นักท่องเที่ยวเข้าไปข้างในไม่ได้นะ แล้วก็ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นสุสานของใคร

ใกล้ๆสุสานมีพิพิธภัณฑ์ที่จำลองภาพวาดที่พบในสุสานไว้ด้วย เป็นพิพิธภัณฑ์ห้องเดียวเล็กๆ จำลองสภาพในหลุมฝังศพไว้ ค่าเข้า 250 เยน ห้ามถ่ายรูปครับ

ตอนนี้สิบโมงแล้ว อากาศยังคงเย็นสบาย แถมฟ้าโปร่งถ่ายรูปแจ่ม ช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยว ชาวนาจะเอาฟางมามัดไว้เพื่อตากให้แห้ง ส่วนหน้าดินจะคลุมด้วยฟางหรือแกลบเพื่อรักษาความชื้นครับ

บริเวณนี้มีงานสลักหินโบราณกระจายอยู่ทั่วเมือง ชิ้นเด่นๆก็เช่นหินรูปเต่า หินรูปลิง หินรูปคนสองหน้า และหินรูปคนกอดกัน อันนี้คือหินรูปเต่า Kameshi อยู่ข้างถนนเลียบทุ่งนาครับ ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอะไร ต้องตั้งใจเดินมาเลย ตามตำนานเล่าว่าเต่าตัวนี้เคยหันไปทางทิศตะวันออก แต่โลกเกิดความสับสนวุ่นวายมันจึงหันหน้ามาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หากมันหันไปทางทิศตะวันตกโดยสมบูรณ์เมืองนี้จะล่มสลาย เป็นเต่าที่โหดจริงๆ

จากนั้นก็เดิน! ครับ เดิน! รถเมล์อย่าไปใช้บ่อยเลยมันรอนาน เดินจากหินเต่า ผ่านเรือกสวนไร่นามาจนถึงวัดทาจิบานะ 600 เมตรเอง วัดทาจิบานะเดระ (Tachibana-dera Temple) เชื่อว่าเดิมเป็นพระราชวังของจักรพรรดิคินเมและเป็นบ้านเกิดของเจ้าชายโชโตคุชื่อ Tachibana Palace (วังสวนส้ม) และได้เปลี่ยนให้เป็นวัดในพุทธศาสนาต่อมา แต่อาคารส่วนใหญ่สร้างใหม่ในสมัยเอโดะตอนปลายนะครับ ค่าเข้า 350 เยน

ในสวนของวัดนี้มีหินสลักรูปคนสองหน้า Nimenseki อยู่ หน้าหนึ่งยิ้ม อีกหน้าหนึ่งโกรธ ที่เข้าวัดนี้หลักๆก็เพื่อมาดูหินนี่แหละ

ระหว่างทางมีซาก วัดคาวาราเดระ (Kawaradera Temple) หรือวัดกาฟุคุจิ สร้างในยุคของจักรพรรดิเทนจิ (องค์ที่ 38) เคยเป็นวัดใหญ่โตของอาสึกะ แต่ตอนนี้เหลือแต่ฐานราก

เป้าหมายต่อไปคือหินที่เป็นตัวจุดประกายให้น้องผมพามาที่เมืองนี้ นั่นก็คือสุสานหินปริศนาที่พบกลางเมืองอาสึกะและ อ.เทะสึกะ โอซามุ นำไปเขียนเป็นเรื่องราวในการ์ตูนเรื่องฮิโนโทริ ตอนยามาโตะ

สุสานหินแห่งนี้เรียกว่า สุสานอิชิบุไต (Ishibutai Kofun - สุสานแผ่นหิน) เป็นแลนด์มาร์คที่โด่งดังที่สุดของหมู่บ้านอาสึกะ เดิมทีคิดว่าเป็นเวทีโบราณ แต่พอขุดสำรวจด้านล่างพบโลงศพหิน สร้างช่วงต้นศตวรรษที่ 7 สันนิษฐานว่าที่นี่เป็นสุสานของอูมาโกะแห่งตระกูลโซกะ (Soga no Umako) หัวหน้าตระกูลโซกะผู้ที่ถึงจะไม่ได้เป็นจักรพรรดิแต่มีอำนาจเหนือจักรพรรดิในยุคนั้นเสียอีก สุสานแห่งนี้สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ ถึงจะไม่อลังการเท่าปิระมิดและไม่แน่ใจว่าเป็นสุสานที่ทำเสร็จหรือยัง แต่ก็ถือว่าอลังการของญี่ปุ่นยุคนั้นแล้วหละ จากวัดทาจิบานะมาถึงสุสานหิน ไกล 1.2 กม. ใช้เดินเอานี่ละครับ ขี้เกียจรอรถเมล์ ค่าเข้าชม 250 เยน

ข้างๆสุสานมีบริการแว่นเวอร์ช่วลส่องดูรอบๆบริเวณนี้จะเห็นภาพการก่อสร้างสมัยก่อนด้วย ของที่ขุดพบด้านในเอาออกมาหมดแล้วนะครับ อันนี้คือโลงศพที่พบ แต่ร่างข้างในสลายเป็นผุยผงไปตามกาลเวลาแล้วครับ

ตอนนี้ 11 โมง มีเวลาเที่ยวอีกสักวัดนึงก่อนหาข้าวเที่ยงกิน Smiley

วัดโอคาเดระ (Oka-dera Temple) ไม่ไกลจากสุสานอิชิบุไตเท่าไหร่ แต่ทางไปวัดเป็นทางชันมาก กว่าจะขึ้นไปถึงเล่นเอาหอบ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 663 โดยพระกิเอ็น โซโจ ภายในโบสถ์ประดิษฐาน Nyoirin Kannon Bosatsu เป็นพระพุทธรูปดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สูง 4.85 เมตร ห้ามถ่ายรูปด้านใน แต่ถ่ายข้างนอกแล้วซูมเอาได้ (ทำอย่างกับวัดพระแก้ว)

ถึงจะเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุด แต่อาคารที่เห็นในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่บูรณะในยุคเอโดะนะครับ ชื่อเดิมของวัดคือริวไกจิ (Ryūgai-ji Temple) หรือวัดผนึกมังกร มาจากตำนานว่าวัดนี้เป็นที่ๆกิเอ็นผนึกมังกรไว้ในบ่อเพื่อไม่ให้ออกอาละวาด (บ่ออยู่ด้านหน้าหอพระดินเหนียว)

ประตู Niō-mon สร้างในปี 1612 มีเทพนิโอเฝ้าประตูสองข้าง

เจดีย์สามชั้น Sanjūhōtō นี้สร้างในปี 1472 หลังเจดีย์เก่าถูกใต้ฝุ่นทำลาย และบูรณะอีกทีในปี 1986

ลงจากวัดด้วยความเร็วสูงจนหัวแทบทิ่ม (ก็เพราะมันชันน่ะสิ) ได้เวลาหามื้อเที่ยงกินครับ ซึ่งเมืองนี้หาร้านอาหารยากเป็นอย่างยิ่ง ต่อไปจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อาสึกะ ก็เลยหากินเอาร้านหน้าพิพิธภัณฑ์นั่นแหละ ซึ่งร้าน Sato Kuzuka แห่งนี้มีเมนูไม่กี่อย่างเองนะครับ จุดขายคือแซนด์วิชหมูทอด 3 ชิ้น 600 เยน แบบไส้ชีส 700 เยน หากสั่งพร้อมซุปข้าวโพดและสลัด 1,080 เยน อีกสองอย่างที่สั่งก็ข้าวหน้าหมูทอด (972 เยน) กับแกงกะหรี่ผักล้วน (864 เยน) ดีกว่าร้านอื่นตรงที่คนไม่แน่น โต๊ะเก้าอี้กว้างนั่งสบาย คุณป้าพนักงานจิตใจให้บริการดี ห่วงว่านั่งข้างนอกลมจะแรงเลยย้ายมาข้างในให้ด้วย รวมมื้อนี้กิน 3 คน 2,536 เยน

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อาสึกะ (Asuka Historical Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่รวบรวมของที่ขุดพบในเมืองอาสึกะ ค่าเข้าชมเพียง 270 เยน ที่สำคัญ มันถ่ายรูปได้!!! ตั้งแต่มาที่ญี่ปุ่นเพิ่งจะมีพิพิธภัณฑ์นี้แหละที่ถ่ายรูปได้

ที่สวนด้านนอกอาคารมีหินสลักที่จำลองมาจากหินสลักโบราณที่พบในเมืองนี้ทั้งรูปเต่า รูปลิง ฯลฯ แต่ของจริงบางก้อนที่ย้ายมาจากที่เดิมจะอยู่ในอาคารครับ หินสลักก้อนที่ตั้งห้องแรกต้อนรับผู้เยี่ยมชมอยู่นี่คือ Sekijinzo เป็นหินรูปคนกอดกัน อายุราวศตวรรษที่ 7

นอกจากนั้นยังมีภาพเขียนตามผนังสุสาน พระพุทธรูป สถูป แบบจำลองเมือง ฯลฯ บางส่วนเช่นพระพิมพ์หรือสถูปห้ามถ่ายรูปนะครับ

ส่วนสีน้ำตาลเข้มคือไม้จากวัดยามาโตะเดระ (Yamato-dera Temple) ที่ขุดพบในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ จึงยกมาจัดแสดงให้ดูที่นี่เลย

ถ่ายรูปจนจุใจแล้วก็มาชมวิวหมู่บ้านอาสึกะกันครับ จากพิพิธภัณฑ์เดินมาทางตะวันตก 2 กม. ขึ้นมาบน เขาอามากาชิ (Amakashi-no-Oka) ที่นี่เป็นจุดชมวิวยอดนิยม เดินขึ้นเขาไปเพียง 430 เมตรก็ถึง ชมวิวอาสึกะได้รอบทิศ

ที่เที่ยวสุดท้ายก่อนออกจากหมู่บ้านอาสึกะคือวัดอาสึกะเดระ อยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวเลย ดูในแผนที่ก็ 1 กม. เอง แต่หลงครับ! น้องไปถามทางคุณป้าที่เก็บผักอยู่ก็โชคดีเจอคนใจดี ป้าแกบอกว่าจะไปทางวัดอาสึกะอยู่แล้ว เดี๋ยวจะนำทางไปให้ แล้วพวกเราก็เดินตามรอยเท้าคุณป้าไป

ป้าเอาผักไปไว้หลังรถกระบะแล้วก็เดินพาพวกเรามาต่ออีกหลายร้อยเมตร จนถึงจุดที่คาดว่าเราจะไม่หลงแล้วแน่ๆ จากนั้นคุณป้าก็เดินย้อนกลับทางเดิมไป *กราบน้ำใจคนอาสึกะงามๆ*

วัดอาสึกะ (Asuka-dera Temple) หรือวัดโฮโกจิ ก่อตั้งในปี 596 หลังญี่ปุ่นรับเอาพุทธศาสนาเข้ามา 60 ปี และเป็นหนึ่งในวัดพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เก่าแก่ขนาดไหน? ปี 596 คือ พ.ศ.1139 ก่อนพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ขึ้นครองราชย์ที่สุโขทัย 623 ปี ก่อนพระเจ้าอโนรธารวบรวมชาวพม่าสร้างอาณาจักรพุกามเป็นปึกแผ่น 448 ปี และก่อนพระเจ้าจิตรเสนสร้างอาณาจักรเจนละ 11 ปีครับ

ก่อนหน้านั้นมีพระจากกันดาระ (ปากีสถาน) เข้ามาเผยแพร่ศาสนาพุทธในดินแดนนี้ แต่เสียงตอบรับไม่ดีนัก จนกระทั่งอาณาจักรแพ็คเจ (เกาหลี) เป็นผู้นำศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่นในรัชสมัยของจักรพรรดิคินเมย์ (จักรพรรดิองค์ที่ 29) และตระกูลโซกะที่มีอิทธิพลในยุคนั้นก็ช่วยทำให้แพร่หลาย โดยกำจัดคนที่ต่อต้านศาสนาต่างถิ่นทิ้งซะ อูมาโกะแห่งตระกูลโซกะได้สร้างวัดอาสึกะโดยมีช่างฝีมือจากอาณาจักรแพ็คเจมาคุมงานด้วยนะ (สั่งซื้อศาสนาพุทธวันนี้ แถมวัดให้ด้วยนะเออ) แต่พระและพิธีกรรมต่างๆได้ถูกย้ายไปที่วัดกังโกจิช่วงที่ย้ายเมืองหลวงไปอยู่นารา แถมตัววัดอาสึกะก็ถูกไฟไหม้ ที่เห็นอยู่นี่สร้างขึ้นใหม่เกือบหมด แต่โบราณวัตถุสำคัญๆก็ยังมีจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์เล็กๆด้านหลังวัดนะ ค่าเข้าวัดนี้ 350 เยนครับ

ที่สำคัญที่สุดคือพระประธานของวัดอาสึกะเดระยังคงอยู่ที่นี่ครับ! พระไดบุทสึวัดอาสึกะ ทำจากสำริด เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างโดยโทริ บุชชิ ในปี 606 สูง 3 เมตร หนัก 15 ตัน ด้วยความงดงามขององค์พระนี้ทำให้จักรพรรดินีซุยโกะพึงพอใจจนยกที่ดินและศักดินาให้โทริมากมาย มีคุณลุงหน้าตาใจดีคอยบรรยายประวัติของพระองค์นี้ให้ฟังด้วย (เป็นภาษาญี่ปุ่น orz...) เด็กๆเข้ามาจดกันใหญ่เลย สงสัยคุณครูให้การบ้านมา อ้อ พระองค์นี้ถ่ายรูปได้ครับ!! ในเมื่อพระองค์สำคัญที่สุดของนาราอย่างพระไดบุทสึที่วัดโทไดจิและวัดอาสึกะถ่ายรูปได้แล้วผมไม่สนใจพระประธานวัดอื่นแล้วหละ

หมดแล้วครับ โบกมือบ๊ายบายหมู่บ้านอาสึกะกันหน่อยพวกเรา เย้~ Smiley

สถานที่น่ารักๆ บรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนมีน้ำใจ แต่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์แบบนี้เลิฟๆเลย ♥ ถ้ามาช่วงซากุระบาน หรือใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้วิวสวยไปอีกแบบด้วยนะ

....

แต่สถานที่เที่ยวถัดไปอยู่ไม่ไกลกันครับ นั่งรถบัสไปที่เมืองคาชิฮาระ จากที่เราเที่ยวนาราเมืองหลวงถาวรแห่งแรกของญี่ปุ่นก็แล้ว อาสึกะเมืองหลวงอันเป็นที่ตั้งพระราชวังของจักรพรรดิในยุคก่อนนาราก็แล้ว คราวนี้มาชมเมืองหลวงแห่งแรกจริงๆกันเลยดีกว่า นั่นคือคาชิฮาระครับ แต่เป็นเมืองหลวงแค่ในสมัยจักรพรรดิองค์แรกรัชกาลเดียวนะ แถมยังไม่มีบันทึกชัดเจนอีก ด้วยความที่มันเก่าแก่เกินไปเลยมาด้วยการสันนิษฐานเป็นส่วนใหญ่เลยครับ (จักรพรรดิ 9 องค์แรกมีเพียงตำนาน จนกระทั่งจักรพรรดิองค์ที่ 10 จักรพรรดิซูจิน จึงเริ่มมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันถึงการมีตัวตน)

จักรพรรดิจิมมุ (ครองราชย์ 660 - 585 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นเท่าที่ตำนานกล่าวถึง ว่ากันว่าจักรพรรดิจิมมุสืบเชื้อสายมาจากนินิกิ หลานชายของเทพอามาเทระสึ เทพีแห่งดวงอาทิตย์ และยึดครองแผ่นดินญี่ปุ่นได้ ในตำนานพระราชวังของจักรพรรดิจิมมุอยู่บริเวณร่องเขาอุเนบิ จึงมีการสร้างศาลเจ้าคาชิฮาระ (Kashihara Shrine) ขึ้นมาที่ตำแหน่งนี้ในปี 1889 เพื่อเทิดพระเกียรติจักรพรรดิจิมมุ

ตอนสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ จักพรรดิเมจิได้ยกอาคารสองหลังของพระราชวังเกียวโตให้ และหนึ่งในนั้นกลายเป็นหอพระของศาลเจ้าแห่งนี้ สามารถมองเห็นได้จากหอสวดมนต์ อ้อ ศาลเจ้านี้ไม่เสียค่าเข้านะจ๊ะ

เป้าหมายต่อไปคือสุสานของจักรพรรดิจิมมุครับ อยู่ทางเหนือของศาลเจ้าคาชิฮาระหน่อยเดียว จากศาลเจ้าคาชิฮาระ เดินขึ้นมาทางเหนือผ่านสนามกีฬาระหว่างทางจะมี พิพิธภัณฑ์สถาบันโบราณคดีคาชิฮาระ (The Museum, Achaeological Institute of Kashihara) อยู่ฝั่งขวา เดิมชื่อพิพิธภัณฑ์จังหวัดยามาโตะ (เป็นจังหวัดที่ถูกยกเลิก พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดนาราและโอซาก้าปัจจุบัน) เปิดในปี 1940 ฉลองการสร้างประเทศญี่ปุ่นครบรอบ 2,600 ปี ของที่จัดแสดงส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุที่ถูกขุดพบจากสุสานฟูจิโนกิ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นสุสานอาของเจ้าชายโชโตคุในศตวรรษที่ 7 ห้องต่างๆจะจัดแสดงแบ่งตามยุคสมัยดูง่ายดีครับ ตั้งแต่ยุคโจมอนและยาโยอิ ยุคโคฟุน และยุคอาสึกะจนถึงมุโรมาจิ คนต่างชาติแสดงพาสปอร์ตเข้าชมได้ฟรีเลยครับ แต่คนญี่ปุ่นเสีย 400 เยน (เพิ่งเคยพบเคยเห็น!) ห้ามถ่ายรูปนะ

เดินขึ้นมาต่ออีกหน่อยเดียวจะถึงสถานที่ๆคาดว่าเป็นที่ตั้งสุสานจักรพรรดิจิมมุครับ เดิน 5 นาทีจากประตูทางเข้าไปถึงตัวสุสาน เป็นเนินดินขนาดใหญ่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมล้อมด้วยน้ำ ในปี 2015 จักรพรรดิอากิฮิโตะ และราชวงศ์ได้เดินทางมาเคารพสุสานเนื่องในโอกาสครบรอบ 2,600 ปี การสวรรคตของจักพรรดิจิมมุด้วย (อาห์.... การสืบราชวงศ์ที่ยาวนานกว่า 2,600 ปี) Smiley

นั่งรถไฟกลับ กว่าจะถึงนาราก็ห้าโมงเย็น ไปนั่งกินซูชิแถวถนนคนเดินก็หมดวันพอดีครับ วันต่อมา (2 พ.ย.) ก็เที่ยวเล่นกวางแถวๆสวนสาธารณะนาราและแวะเที่ยววัดพันเสาและวัดโทไดจิตามที่เล่าไปในบล็อกก่อน หลังจากนั้นค่อยเดินทางต่อไปยังโอซาก้าครับ

หลังจากนี้คงต้องขอฝากบล็อกไว้พักนึงเลยนะครับ หยุดยาว 5 วันนี้เจ้าของบล็อกขอลาไปเที่ยวนครพนมจ้าาาา สงกรานต์นี้เดินทางปลอดภัยกันทุกคนเด้อ หรือใครจะอยู่บ้านก็ขอให้สนุกกับหนังโป๊ที่โหลดไว้นานแล้วเพิ่งจะมีโอกาสได้ดูช่วงหยุดยาวนะครับ

Smiley

Create Date : 11 เมษายน 2560

Last Update : 22 เมษายน 2560 9:02:29 น.

70 comments

Counter : 3260 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณtuk-tuk@korat, คุณอุ้มสี, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณกะว่าก๋า, คุณClose To Heaven, คุณhaiku, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณInsignia_Museum, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณtoor36, คุณlovereason, คุณเรียวรุ้ง, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสองแผ่นดิน, คุณmambymam, คุณcomicclubs, คุณTui Laksi, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณMax Bulliboo, คุณบ้านต้นคูน, คุณRinsa Yoyolive, คุณเนินน้ำ, คุณThe Kop Civil, คุณmariabamboo, คุณเริงฤดีนะ, คุณชมพร, คุณkae+aoe, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณลอยละล่อง บล็อกแกงค์

ชอบเที่ยวแบบนี้อ่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:20:50:49 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
VELEZ Photo Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Diarist ดู Blog
Maeboon Food Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
Close To Heaven Review Food Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

เมืองอาสึกะน่าสนใจมากจ๊ะ
ตามน้องมาเที่ยวจ้า
โหวต

โดย: อุ้มสี

วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:21:20:10 น.

แวะมาคุยก่อน ว่าจะรอเที่ยงคืนแต่ไม่ไหวครับ ควรไปนอนก่อน

ค่าตัวไม่บานปลายหรอกครับเพราะจ่ายค่าตัวครั้งเดียว ใช้งานตลอด (แรงงานทาสชัดๆ) ตัวใหม่ๆ มีเยอะครับ ดูจากฉากหลังคราวนี้ได้

อย่างที่เคยบอกไว้ว่าไม่มีเวลาแกะ นี่พึ่งหาเวลาแกะได้เอง ว่าจะแกะเพิ่มอีกซัก 5 ตัว (เรือ 3 ตัว //ริน (โวคารอย) //ชิโนโนโนะ IS) เดี๋ยวขอเวลาหน่อย

ตัวร้ายตัวเดียวมายืนแบบนี้ มันก็เหมือนแฟนลิเวอร์พูลเฮตอนทีมทำประตูทีมแมนยูได้ท่ามกลางแฟนแมนยูแหละครับ ที่ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่า กลางดงทีน ถือว่าอันตรายมาก

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องชกกันเสมอไปนะ อย่างน้อยๆ ก็มีคนที่เหมือนๆ กับโว๊ะอยู่เหมือนกัน พวกยืนได้ตัวตัวเองโดยไม่ต้องใช้ขาตั้ง หายากนะครับ

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:23:09:51 น.

ไปญี่ปุ่นมา3รอบยังไม่เคยไปเองเลยค่า ไปกะทัวร์ตลอด อยากไปเที่ยวเองบ้าง ได้เดินทางหลายรูปแบบดี รถเมล์ญี่ปุ่นก็อยากลองนั่งดูบ้างค่า

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน

วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:23:15:20 น.

ขนาดเที่ยวญี่ปุ่น
น้องชีริว
ยังเน้นเมืองประวัติศาสตร์เลย
สุดยอดครับ

น้ำใจเค้าน่ารักมากเลยนะครับ
เมืองเล็กๆ
มักมีเสน่ห์ตรงนี้เลย

โหวต Travel Blog ครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:23:39:26 น.

ชีริว Travel Blog ดู Blog

ไป ๆ ๆ ๆ ๆ เค้าไปด้วยจิ
จัดทริปเร้ววววว
ว่าแต่ตัวเองอัพบล๊อกเข้ากับสถานการณ์เลย
เห็นดราม่าลอยแพแล้วซิมิ
ไป route ใกล้เคียงกันเลย

จะว่าไปญี่ปุ่นมีอะไรให้ค้นหาเยอะมาก
อากาศก็ดี เราก็อยากไปอีก อิอิ

โดย: Close To Heaven

วันที่: 11 เมษายน 2560 เวลา:23:50:27 น.

ขอบคุณที่แบ่งปัน

โดย: Kavanich96

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:2:33:01 น.

ทัวร์กันเอง... ดีครับ ตื่นเต้น หลงทาง เหนือยสุด ๆ

เคยไปแบบนี้ที่เมียนม่า.. จะว่าเข็ดก็ไม่เชิง ได้รู้เห็นน้ำใจชาวบ้าน
กับภูมิประเทศ..

ดู ๆ แล้วเขาใช้ก้อนหินที่มีเยอะมา สลัก จะว่าเก็บไว้คงไม่ได้
เพราะหนักเคลื่อนย้ายไม่ค่อยได้ 555

ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ไปเที่ยว อิสาณให้สนุกนะครับ

โดย: ไวน์กับสายน้ำ

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:5:31:50 น.

อ่านสนุกครับ มียุคสมัย ที่มาที่ไป รวมทั้งการทบทวนประวัติศาสตร์เป็นระยะๆ
ผมจะนึกภาพของปี ค.ศ. ไม่ค่อยออก จึงต้องบวก 543 เข้าไป จึงนึกออกว่าใกล้เคียงของเรายุคไป พอเห็นประวัติของวัดอาสึกะ ที่คุณชีริวเทียบกับสมัยของเรา ทำให้ถูกใจ เหมือนได้สิ่งที่กำลังนึกไว้
วัตถุที่เหลือมาถึงยุคนี้ผ่านกาลเวลามานับพันปี เขาคงมีหัวใจการอนุรักษ์ต่อๆกันมาอย่างน่าอัศจรรย์ จึงรอดมาได้และสวยงามอย่างทุกวันนี้

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:6:14:53 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:6:21:39 น.

อยู่บ้านป่าเหมือนเคยค่ะเพราะสงกรานต์
คนสวนขอไปเยี่ยมลูกชาย

ส่งกำลังใจแล้วค่อยๆมาไล่อ่านตามเคยนะคะ
สุขสันต์สงกรานต์ด้วยค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
รัชต์สารินท์ Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ขอบคุณโหวตด้วยค่ะ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า

) วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:8:21:41 น.

เป็นเมืองที่ไม่เคยได้ยินชื่อเลยให้ตายเหอะ

เออ น่าปั่นจักรยานเที่ยวมากกว่ามารอรถบัสจริงๆ ด้วยแหละ

นี่ก็คิดว่าแก่ตัวไป ไปเปิดให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวที่บ้านเกิดตัวเองจะดีกว่ามั้ยเนี่ย ฮา

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:9:00:54 น.

เพิ่งเห็นที่ไปเมนท์เชียงใหม่

ไม่เคยกินไอติมหม้อไฟจริงง่ะ

พี่เคยรีวิวไว้แล้วนะ ลองหาอ่านดู

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:10:30:42 น.

อาสึกะนี่ใช่ อาสึกะ แลงเลย์รึเปล่าครับ (โดนชีริวถีบ)

เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงนิดๆ พอไหวอยู่นะครับ ไม่ได้นานอะไรมากเท่าไหร่ เรื่องรถเค้าน่าจะมีตารางกำหนดเวลาไว้นะครับ แต่ก็อย่างว่าแหละ พลาดนิดเดียวรอครึ่งชั่วโมงเลย

ตำนานก็คือตำนานล่ะนะ คงจะไม่มีมือดีแอบไปหมุนมันนะครับ 555

วัดทาจิบานะเดระ ผมเห็นคำว่า เดระ ตอนแรกมองผิดคิดว่า เดเระซะอีก ซากวัดของเขา กับของเราเหลือแต่ฐาน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่นะครับ

คุณชีริวศึกษาประวัติศาสตร์จริงจังดีครับ ตอนผมอยู่จีนพิพิธภัณฑ์ เดินแปบเดียวออก 555 ดูๆ อ่านๆ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมาก (แต่ที่ต้องดูคือ บุคคลสำคัญของไทยคนไหนได้มาเยือนแล้วบ้าง)

เวลาเราไปเที่ยวแล้วเจออะไรดีๆ แบบนี้มันรู้สึกดีจริงๆ ครับ เมื่อก่อนผมเจอบ่อยฝรั่งถามทางไปถนนข้าวสาร ผมวาดแผนที่ให้เค้าไปขึ้นรถเมล์ให้เค้าเลยว่าขึ้นป้านไหน แล้วเขียนภาษาไทยบอกกระเป๋ารถเมล์ให้เรียกเขาด้วย (ไม่รู้หลงไปกี่คนแล้วด้วยน้ำมือข้า)

รู้สึกวัฒนธรรม จีน - เกาหลี -ญี่ปุ่น จะมีการลื่นไหลไปมากันอยู่เหมือนกันนะครับ

กลับถึง 5 โมงยังไม่เย็นเท่าไหร่นะ แต่น่าจะเริ่มมืดแล้วล่ะ ตามสไตล์ญี่ปุ่น ไปกินที่ถนนคนเดินกินเสร็จก็เดินเล่นต่อแน่นอน~

เมืองนี้ผมไม่ได้ไปเลยซักที่ รอชมโอซาก้าครับ

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:11:29:35 น.

สวัสดีค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยคน

เที่ยวคนละสไตล์เลยอะ ถ้ารุ้งไปเองนี่วัดเลือกเฉพาะวัดดังๆที่คนอื่นรีวิวกันมา ส่วนพิพิธภัณฑ์เหลือเวลาจริงๆถึงจะเข้า ยกเว้นพิพิธภัณฑ์ลูฟท์นั่นให้เวลาเต็มวันแต่ก็เลือกเข้าวันที่ได้เข้าฟรีไม่ต้องจ่ายค่าผ่านประตูนะ

ขนาดคุณชีริวเทียบระยะเวลายุคสมัยของญี่ปุ่นมาเป็นช่วงเวลายุคสมัยของไทยเรารุ้งยังมึนตึ้บเลย นึกไม่ออกอะ

เกาะขอบกระทู้ตามดูได้อย่างเดียวเลย

ชีริว Travel Blog

************************

สงกรานต์เฝ้าบ้านจ้า ไม่ได้แพลนอะไรล่วงหน้าวันนี้ยังทำงานอยู่เลยอะ พรุ่งนี้ถึงหยุดยาวๆถึงวันจันทร์

ส่วนจี๊ดจ๊าดก็อยู่บ้านแต่เห็นมีจะไปปฏิบัติธรรมวันหรือสองวันนี่แหละ

โดย: เรียวรุ้ง

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:12:13:06 น.

เคยไปญี่ปุ่นแต่ไม่เคยไปเมืองนี้เลยค่ะ น่าตามไปเที่ยวมากค่ะ

โดย: Raizin Heart

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:16:02:56 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

งานตะวันออกกลาง
อ่านยากสำหรับพี่ก๋านะ
แต่ชอบครับ

นี่กำลังอ่านอีกเล่มนึงของท่านรูมี
อ่านยากกว่าเล่มแรกมาก

อ่านมา 20 หน้า
ยังไม่เข้าใจเลย 5555

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:20:03:01 น.

สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ป่านนี้ คงจะลัลล้าอยู่ที่นครพนมแล้วซินะ ครูไปชมพระธาตุพนมช่วงกลางคืน เขาเปิดไฟสวยมากเลย อย่าลืมไปเที่ยวช่วงเย็นบ้างนะ
ตามมาเที่ยว เมือง นารา ของเธอต่อ แค่ที่ อาสิกะ ก็บรรยายละเอียดยิบเลย ได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นหลายอย่าง เมืองนี้ น่าสนใจ นะ ประชากรน้อย ขี่จักรยานเที่ยวได้
ต้องชม วัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่ไม่เคยคิดล้มเจ้า เหมือนประเทศอื่น ๆ ถึงแม้บางช่วง จะมีขุนนางเป็นใหญ่ เขาก็ให้เกียรติกษัตริย์เนาะ
สุสานหินปริศนา เธอต้องจำได้ดี และชอบล่ะซี เพราะมีคนนำไปเขียนการ์ตูนที่เธอชอบนี่นา
แต่ที่น่ากลัว คือ เทพนิโอ ของเธอ ทำไมหน้าตา ไม่น่าเป็นเทพเล้ย น่าจะเป็นอสูร มากกว่า ห้าห้า
ส่วนพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ อาสิกะ เธอต้องชอบแน่นอน เพราะเขาอนุญาตให้ถ่ายรูปได้ไง
ที่โชคดี นอกจากได้ไปเที่ยวสถานที่ดี ๆ สงบ ๆ แล้วยังเจอชาวบ้านที่โอบอ้อมอารี ช่วยพาไปวัด อาสิกะ อีก
น่ารักมากเลยเนาะ

โหวดหมวด ท่องเที่ยวนะจ๊ะ

โดย: อาจารย์สุวิมล

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:20:09:52 น.

เที่ยวตามใจฉันนี่แหละ ดีงามสุดแระ
เอาไว้ไปกินกันมะ บุฟเฟ่ต์ที่ Copper เราว่าราคานี้โอเค ดีงาม เทียบกับของที่ได้ เริดมาก

โดย: Close To Heaven

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:20:35:10 น.

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ คุณชีริว
มาเที่ยวต่อครับ

โดย: สองแผ่นดิน

วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:23:19:11 น.

มาชมคร่าวๆทางมือถือก่อนจ้ะ
ไว้วันอังคารถึงบ้านแล้วจะมาชมแบบเต็มๆอักทีน้า

โดย: mambymam

วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:2:04:25 น.

หินรูปเต่า มีเรื่องเล่าที่น่ากลัวนะ นี่ลองแอบคิดว่าถ้ามันหันมาได้ และหันมาตอนกลางคืน ขอบอกเลยมีสยอง วิ่งป่าราบ

หินสลักรูปคนสองหน้า หน้าหนึ่งยิ้ม อีกหน้าหนึ่งโกรธ เหมือนให้เห็นอารมณ์ของตัวเอง มีสุข มีทุกข์ ถ้ามองในแง่นี้ เราทุกคนต่างก็เป็นคนสองหน้า

ในงานเขียน สุสานหินปริศนา ทำให้ได้ข้อคิดว่าบางทีบางครั้งชีวิต ประวัติศาสตร์ก็มีเรื่องราวที่มันเป็นปริศนา สิ่งที่ตีแผ่ออกมาเป็นจริงหรือไม่ ไม่มีใครทราบ เพราะเราไม่สามารถย้อนอดีตได้ ได้แต่อ่านตำรา ณ ปัจจุบัน คนที่รู้เรื่องราวทั้งหมดก็คือคนที่อยู่ในประวัติศาสตร์ ณ ขณะนั้น

แซนวิชหมูทอดน่ากิน อยากกิน

น้ำใจคนญี่ปุ่นงามมากๆ เลย เคยได้ดูจากรายการโทรทัศน์ คือ บางคนพาไปส่งถึงที่

พระไดบุทสึวัดอาสึกะ งดงามจริงๆ ค่ะ

พิพิธภัณฑ์สถาบันโบราณคดีคาชิฮาระ แปลกดีจริงๆ แปลกตรงที่คนญี่ปุ่นต้องเสียเงิน แต่เขาอาจจะมองว่าเป็นการช่วยกันดูแล ให้คนในประเทศช่วยกันดูแลก็เป็นได้นะคะ

ขำประโยคส่งท้าย >> ใครจะอยู่บ้านก็ขอให้สนุกกับหนังโป๊ที่โหลดไว้นานแล้วเพิ่งจะมีโอกาสได้ดูช่วงหยุดยาวนะครับ... อะ ขอบคุณที่ชี้แนะ (ไม่ใช่ละ)

จากบล็อกของพี่...

"เสียชีพอย่าเสียสัตย์ เสียเข็มขัดอย่าเสียกางเกง" จริงๆ อยากเติมต่อ แต่เดี๋ยวมันจะตึ่งโป๊ะฮาไป แต่เดี๋ยวครั้งหน้าจะลองเอามุกมาใส่มั่ง

(ตกลงแกจะเขียนข้อคิด หรือแกจะเขียนขำขัน)

ถ้ามาเยี่ยมบล็อกช้ายังไง ก็ขออภัยด้วยนะ บล็อกน้องชีริว คือ ยาวมาก พี่ต้องแบบค่อยๆ อ่าน

น้องรวมเป็นหนังสือนำเที่ยวได้เลยนะเนี่ย เยี่ยมยอด เป็นกำลังใจให้

โดย: comicclubs

วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:2:38:01 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:6:26:09 น.

จากบล้อก
คุณชีริวใช้แรงงานพวกคลาวด์ เซฟิรอธคลาวด์ เซฟิรอธ ไปแทนก่อนละกันครับ

วาดแผนที่ง่ายกว่าค่อยๆ อธิบายเยอะ ไม่ต้องใช้ศัพท์อะไรมากด้วย แค่ ตรงไป ข้ามถนน เลี้ยว ซ้าย ขวา อีกอันคือผมเจอถามทุกครั้งเลยว่าค่ารถเท่าไหร่ แล้วผมจะรู้มั้ย? มันเป็นรถปอ. เลยบอกเค้าไปว่า 12-22 ขึ้นอยู่กับระยะทาง จริงๆ รถมันไปไม่ถึงหรอกครับ ไปถึงแค่สนามหลวง แต่ถ้าไปถึงตรงนั้นได้ก็ใกล้แล้วล่ะ ที่เหลือเดินเองละกันนะฝรั่งชอบเดินอยู่แล้วด้วย (พี่แกเล่นกางแผนที่ถามผมตรงใกล้ๆ แอร์พอร์ตลิงค์เลย)

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:16:15:24 น.

สวัสดีค่า คุณชีริว ^^
กว่าจะได้มาอ่านตอนใหม่ข้ามวันไปอีก
เอาจริงๆแล้วถ้าให้อยู่ญี่ปุ่น เมืองนี้น่าอยู่กว่าเมืองใหญ่อีก
ดูสบายๆ ดี สงสัยเป็นเมืองเน้นกสิกรรมนะคะ
หรือไม่ก็เป็นเมืองที่ออกแนวประวัติศาสตร์เยอะ น่าเที่ยวดีเหมือนกัน
ไม่ชอบที่คนเยอะๆ
อ่านประวัติยุคสมัยแล้ว ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประวัติศาสตร์ยาวนานมากจริงๆ แถมไม่เปลี่ยนราชวงศ์เลยด้วย เยี่ยมเลยอะ
เอ แล้วสมัยในเรื่องจิน ที่มีเรียวมะ นี่ใช่ยุคเอโดะมั้ย
เริ่มลืมแล้วค่ะ ดูนานแล้ว คุ้นๆ ว่าสมัยเอโดะ แสดงว่าก็ไม่นานมากจากยุคปัจจุบันเนาะ เพราะหลังจากเอโดะก็มาปัจจุบันเลย
นาราก็สวย ฮาสึกะก็สวย คาชิฮาระก็คงคล้ายๆกันเนาะ
คุณชีริวมีไปตามรอยเรื่อง your name มั้ย เห็นค้นกันน่าดูว่าเมืองนี้มีจริงรึเปล่า 55
เจอข่าวทัวร์ญี่ปุ่นแล้วรู้สึกว่า ญี่ปุ่นค่าทัวร์แพงมาก ค่าครองชีพก็แพง
ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปมั่ง เก็บตังๆๆๆ อิอิ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า
สุขสันต์วันสงกรานต์ เดินทางท่องเที่ยวปลอดภัยค่า

โดย: lovereason

วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:18:09:28 น.

โห...ให้รายละเอียดสุดยอด เจาะลึกดีจัง
ได้สาระเพิ่มจากที่นี่เยอะเลยคร้า
ประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นก่อกำเนิดมานานกว่าเราชาวพุทธ
คือเกิดก่อนพระพุทธเจ้าของเราอีกนะ ...
ทริปครั้งนี้อัดแน่นไปด้วยการชมวัดและโบราณสถาน
ตามแนวที่ จขบ.ชอบเลยนะคะ ดีจังเราเลยได้ความรู้เพิ่ม
ขอบคุณคะ

ชีริว Travel Blog

ปล. รอบก่อนรองเลคแรก เราผิดหวังกับทีมที่แอบลุ้นๆอยู่
แพ้หมดเลยอ่ะ ... คอยตามลุ้นนัดต่อไปคร้า
ขอบคุณโหวตๆด้วยค้าบป๋ม

โดย: Tui Laksi

วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:21:32:03 น.

สุขสันต์วันสงกรานต์เช่นกันจ้ะน้องชีริว

ตามมาเที่ยวญี่ปุ่นต่อจ้ะ คุณจุนใจดีมากกกกกกกก
พยากรณ์อากาศยิ่งกว่ากรมอุตุฯ 555 ฟ้าใสตามคำทำนายจริงๆด้วย
น้องชีริวเที่ยวแบบเจาะลึกจริงๆ ไปเที่ยวที่ไม่มีใครเที่ยว
เลยได้ภาพวีถีชีวิตชาวบ้าน และธรรมชาติสวยงามมาฝาก
อ่านบล๊อกนี้รู้จักจักรพรรดิหลายองค์แล้ว ยิ่งกว่าดูซีรี่ย์ญี่ปุ่น อิอิ

เจ้าเต่าหินตัวนี้ไม่น่าเก็บเอาไว้เนาะ เสี่ยงต่อการล่มสลาย
มีวัดไหนบ้างเนี่ยไม่เสียตังค์เข้า เรากับน้องเดินพี่ว่าก็โอเคนะ
แต่คุณแม่เดินได้มากขนาดเนี่ย แข็งแรงมาก

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อาสึกะคุ้มจริงๆ จ่ายตังค์แล้วยังได้ถ่ายรูปอีกด้วย
ในที่สุดก็ได้ภาพพระไดบุทสึวัดอาสึกะ มาเป็นที่ระลึก

เที่ยวสงกรานต์ให้สนุกนะจ๊ะ

ชีริว Travel Blog

โดย: ข้ามขอบฟ้า

วันที่: 14 เมษายน 2560 เวลา:3:12:37 น.

สวัสดีปีใหม่ไทยจ้าาา
ไปเที่ยวไหนนนนน

โดย: Close To Heaven

วันที่: 14 เมษายน 2560 เวลา:10:53:32 น.

สวัสดีอีกรอบ

พี่น่ะหารูปตอนที่พี่ถ่ายทุ่งที่บานเต็มๆ ไม่เจออ้ะ อันนั้นอ้ะสวยมาก

มันสวยจริงๆ เลยแหละ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 14 เมษายน 2560 เวลา:21:07:05 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 15 เมษายน 2560 เวลา:6:41:04 น.

รีบวิ่งมาสวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ และอยากจะชวน "ลงน้ำกันๆๆๆ" ไปดำน้ำตื้นที่เกาะสุรินทร์ค่ะ หากมีโอกาสต้องหาทางไปให้ได้นะคะ เพราะอยากจะบอกว่า บรรยากาศที่อ่าวสัปปะรดนั้น..เหมือนมัลดีฟส์มากมายค่ะ เราว่าถ้าคุณไปนะ คุณคงนำเรื่องราวกลับมาเขียนบอกเล่าได้ดีกว่าเราแน่นอน

นี่เดี๊ยวเราจะต้องออกไปธุระก่อนนะ โหวตให้ก่อน แล้วเดี๊ยวจะกลับมาอ่านอย่างละเอียด!!!! เลิฟๆเลยเวลาคุณเขียนเรื่องเที่ยวนี่แบบ สุดยอดอ่ะ

โดย: Max Bulliboo

วันที่: 15 เมษายน 2560 เวลา:16:54:09 น.

มาชวนต่อไปกินฟองดูว์จ้า

โดย: Close To Heaven

วันที่: 15 เมษายน 2560 เวลา:22:42:23 น.

ไม่เคยไปเลยค่ะ่คุณชีริว เป็นหมู่บ้านที่น่ารักมากเลย
เราไม่ลืมแวะเข้าพิพิทธภัณฑ์กันเลย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน

) วันที่: 16 เมษายน 2560 เวลา:9:12:19 น.

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ ที่นี่ดูเงียบสงบดีและสะอาดด้วยนะคะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานอีกต่างหาก ผู้คนก็จิตใจดีที่อ่านเจอก็หลายคนอยู่นะ
ชอบประตูทางเข้าศาลเจ้า ต้นไม้ใหญ่เบ้อเริ่มเลย ดูอลังการดีค่ะ

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:7:40:42 น.

สุขสันต์วันสงกรานต์ด้วยครับ

โดย: The Kop Civil

วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:8:17:31 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ปลาแห้งนอกกรอบ Review Food Blog ดู Blog
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
เนินน้ำ Parenting Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ชอบการตากข้าวของเขาค่ะ ยังไง ๆ ก็อนุรักษ์แบบเดิม ๆ ไว้ ^^
อยากไปที่นี่บ้างค่ะ คราวหน้าคงได้ไปบ้างเนาะ

โดย: mariabamboo

วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:8:57:31 น.

มาอ่านและชมภาพถ่ายที่น่าสนใจอีกครั้งครับ หินแต่ละก้อนของเขามีความเป็นมา ถือเป็นงานศิลปะชิ้นใหญ่ อีกทั้งการไม่ขยับขับเคลื่อนไปอยู่ที่อื่น ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ แม้ว่าการเข้าถึงอาจต้องใช้ความมุ่งมั่นอยู่บ้างก็ตาม

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:21:02:47 น.

สวัสดีค่า คุณชีริว ^^
ในเรื่องจิน ตัวละครสำคัญที่สลับช่วงเวลากับจินคือซาคาโมโตะ เรียวมะค่ะ เห็นบางเรื่องเรียกเรียวมะดัน งง
หรือว่าเรียกได้หลายแบบนะคะ
ไข่ย้อยดากานดา ไม่ได้ไปเช็กก็อ่านได้ค่ะ เป็นฉากเปิดเรื่องและอยู่ช่วงต้นๆค่ะ
ถ้าดูเพื่อนสนิท อันนี้เป็นภาคสองแหละ ได้รู้ตอนจบสมบูรณ์ซะทีหลังจากหนังสือเล่มแรกผ่านไป10ปีได้ อิอิ
ภาษาเหนืออ่านออกหมดค่า เคยอยู่เชียงใหม่ตอนเด็กๆ ตั้งสิบปีแน่ะ 55
ขอบคุณมากๆสำหรับโหวตค่า
หมดเวลาหยุดยาวแล้วสงสัยนุ่นจะไม่ค่อยได้เข้าบล็อกอีกแล้วล่ะ คงยุ่งเหมือนเดิม นี่ก็ลั้นลาได้หลายบล็อกเลย

ขอบคุณมากๆ นะคะ
เอาไว้ค่อยมาตามเที่ยวญี่ปุ่นอีกค่า

เสียดาย your name เนอะ อิอิ

โดย: lovereason

วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:21:42:22 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

ตะวันออก ตะวันตก
ในความหมายของโอโช
คือปรัชญาและแนวคิดของโลกฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตกครับ
ฝั่งตะวันออก คือ อินเดีย จีน เปอร์เซีย
ส่วนตะวันตก น่าจะหมายถึงศาสนาคริสต์ครับ

ตัวโอโชเองเป็นคนอินเดีย
เลยเชื่อในแนวคิดฝั่งตะวันออกมากกว่าครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:21:55:58 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:6:22:36 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog
เนินน้ำ Parenting Blog ดู Blog
ควายเฒ่า Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ตามมาเที่ยวด้วยคน

โดย: ชมพร

วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:10:36:57 น.

มาชวนชีริวไปกินอาหารไทยจ้่าา

โดย: Close To Heaven

วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:10:57:22 น.

สวัสดีอีกรอบเน้อ

จริง เนื้อเกรดดีทำอะไรก็อร่อย อิอิ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:14:56:42 น.

นี่คุณพี่ไปกี่วันเนี่ย เก็บรายละเอียมาแน่นมาก

น้องไปนี่หลับตลอดอ่ะ เขามีทุ่งนานด้วยอ่ะ

อยากไปเอง อยากไปตรงไหนก็ได้ ไกะบริษัทมันไม่มีเวลาส่วนตัว

โดย: ลอยละล่อง บล็อกแกงค์

วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:15:00:27 น.

แหมมม ถึงกับคำนับความมีน้ำใจของคนอาสิกะด้วยนะ หรือว่าคนชนบทบ้านนอกค้าน้ำใจงามแบบนั้นก็เ็ป็นได้
คนไม่แออัดยัดเยียดไรด้วย แบบนี้เที่ยวดูทุ่งนาแบบชิลๆ ได้เลยไง อิอิ

แต่เห็นทุ่งนาก็ไม่่ต่างไรจากบ้านเรานะ
เมืองนี้ค่อนข้างเรียบง่ายพอสมควรแหละรินว่า

สลักรูปคนสองหน้า Nimenseki นี่ดูแทบไม่ออกด้านหน้าอยู่ตรงไหน ><

สุสานของจักรพรรดิจิมมุนี่สิทำเหมือนเกือบตามยุคสมัยไปซะแล้ว
ทำไมญี่ปุ่นหาซากอิฐที่ชีริวชอบไม่มีบ้างแว้
เดี๋ยวไปดูเผื่อที่เมืองลัคเนาว์อินเดีย อิอิ

โดย: Rinsa Yoyolive

วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:16:25:09 น.

แฟนคลับยาวเชียวนะเคอะ
เลื่อนลงมือเกือบหงิก
ตามเคย พี่รอไว้อ่านตอนรวมเล่มนะ

มาบอกด้วยตอนพิมพ์เสร็จแล้วนะเคอะ

สุขสันต์เทศกาลปีใหม่ไทยค่า

โดย: secreate

วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:17:48:36 น.

สงกรานต์นี่พี่ก็อยู่แต่บ้าน ก็ติดเหมือนกัน ติดละคร เพลิงพระนาง

ไปละ ฝันดีจ้า เดี๋ยวมาตามใหม่

โดย: comicclubs

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:0:29:58 น.

ชอบภาพหลายภาพเลย ฝีมือมุมกล้องเจ๋งเลยคร้า
ชอบท้องฟ้าแจ่มจริงๆ

⚽ เราตื่นมาทันลุ้นบอลทีมโปรดทั้งสองทีม
บาเยิร์น ก็มีนักเตะสเปนเยอะอยู่น๊า
แต่เกมสนุกมากคร้า กำลังลุ้นให้บาเยิร์นอยู่คร้า
ได้จุดโทษ ยิงนำไปแล้วในครึ่งหลัง...
พี่โด้ ยังไม่สามารถยิงประตูให้ทีมได้เลย แม้ได้โอกาส😀

โดย: Tui Laksi

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:3:03:25 น.

อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ

พี่ก๋าหยิบแล้ววางๆ
น้องคนขายเลยบอกว่า
เรื่องนี้หายากและสนุกมาก
พี่ก๋าเลยเชื่อเธอครับ 555

เปิดเล่มแรกอ่าน เกือบจะวาง
ไม่ชอบลายเส้นเลย มันไม่โหดพอ 555

ถ้าเปลี่ยนคนวาดเป็นอิเคงามิ เรียวอิจิ
หรือคนวาดริกิโอ หรือคนวาดหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ
พี่ก๋าว่ามันจะเข้มข้นขึ้นอีกเยอะเลย

ที่น่าเสียดายที่สุด คือ มันมีภาคสองด้วยนะ
แต่บ้านเราไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์มาแปลขายแล้ว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:5:53:41 น.

โคลงที่รุ้งแต่งตั้งใจออกทะเลจริงๆค่ะ แต่งเอาฮามากกว่า

แต่แต่ีงไปแต่งมาบางบทมันก็ฮาไม่ออกซะงั้น555555

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานรุ้งก็ชอบ ชอบสุดก็ช่อม่วงแหละ

ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุม
คิดสีสไบคลุม หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน

ที่ชอบมากก็ตรง "คิดสีสไบคลุม" นี่แหละ 555555

ขอบคุณนะคะ

โดย: เรียวรุ้ง

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:7:25:41 น.

ยิ่งเห็นบ้านเมืองและสถานที่ต่างๆของญี่ปึ่นยิ่งอยากไปเที่ยวชม
ชอบที่ดูสะอาดตาและอากาศท่าจะดีนะ
ว่าแต่จะมีโอกาสไปรึเปล่าเนี่ยสิ

กลับมาแล้วจ้ะ เมื่อวานตอนค่ำ
เมืองอิสลามพี่ไปปฏิบัติศาสนกิจและท่องเที่ยว สนุกสนานมากมาย
บ้านเค้าแดดร้อน แต่ไม่ระอุจนน่าโมโหเหมือนบ้านเราอ่ะ

โดย: mambymam

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:12:10:24 น.

จากบล็อก
ศาลาคนเศร้า คำนี้บอกอายุได้เลย

หมูผัดเส้นพริก ตัวภาษาจีนถ้าดูเฉพาะคำ มันจะแยกออกมาได้ 4 คำคือ ปลา หอม เนื้อ(หมู) เส้น ---> คนไม่รู้คิดว่าเป็นเมนูปลาไปเลย 555

รอชมโอซาก้าจ้า~

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:12:59:48 น.

ชีริว Travel Blog

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ

ท้องฟ้าสวยจังค่ะ ชอบที่เป็นเส้นๆ แฉกๆ ดูมีออร่า

ดีจังที่เจอคุณป้าใจดีนะคะ พาไม่หลง เนอะๆ

โดย: kae+aoe

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:16:58:43 น.

สวัสดีจ้ะ น้องชีริว

ขอบใจจ้ะ ที่แวะมาอ่าน โหวด และ เม้นท์ ที่บล็อกครู อย่างรวดเร็ว อิอิ จบทริป ซินเกียง เสียที

ทริปญี่ปุ่นเธอ ขาดอีกกี่ตอน จ้ะ ใกล้ปิดทริปหรือยัง ครูคงต้องขึ้นเรื่องลูกศิษย์ก่อน ไปทริปอิสาน จ้ะ อิสานค้างตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ห้าห้า

พวกครูก็ยอมเสียเงินแพงเหมือนกันอยากทดสองนั่งดู มันสบาย รวดเร็ว จริง ๆ จ้ะ ต้องชมจีนเขานะ เรื่องเทคโนโลยี
สำหรับสุสาน จิ๋นซีฮ่องแต่ เธอควรไปอย่างยิ่ง เพราะเธอชอบเรื่อง โบราณสถานที่ ไง ของเขาอลังการ จริง ๆ
ตลาดมุสลิม ครูว่า เหมาะสำหรับคนชอบทานอาหารปิ้งย่าง เนื้อวัว เนื้อแพะ อิอิ คงไม่เหมาะกับครู เพราะไม่กินพวกนี้เลย ห้าห้า

ต่างถิ่น ผู้หญิงตัวคนเดียว ให้อยู่ที่นั่นไม่ได้ดอก ไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยจ้ะ

โดย: อาจารย์สุวิมล

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:19:14:26 น.

ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยครับ (วันหยุดก็เหมือนไม่ได้หยุดอะ -_-)
เวลาน้อย ขอเม้นต์แบบน้อย ๆ แล้วกันนะครับ ^^"

งวดนี้มาเมือง "ซุปเปอร์เก่า" บรรยากาศดูเก่าและสงบมากครับ
ดูสถานที่แต่ละในรูปดูขลังจริง ๆ ขนาดหินยังดูขลังเลย
คือบรรยากาศมันดูคนละแบบกับพวกซากอิฐซากเจดีย์
ที่กระจัดกระจายตามที่ดินของชาวบ้าน/เอกชนบ้านเรานะ
ถ้าล้อมรั้วไว้แบบงี้บ้าง จัดระเบียบให้รอบ ๆ ดูสะอาดหน่อย
ช่วยเพิ่มความขลังได้มากโขเลย ^^

เจ้าชายโชโตคุ ถึงเป็นแค่เจ้าชายแต่มีชื่อเสียงมากเลยครับ
มากกว่าจักรพรรดิเกือบทุกพระองค์ซะอีก
เวลาอ่านหนังสือพวกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมักจะเจอเสมอ ๆ เลย
นอกจากเรื่องอุปถัมภ์พุทธศาสนาแล้วยังมีเรื่องรัฐศาสตร์อีก
ก็นะ...คนมีผลงานดี ๆ ก็สมควรค่าแก่การจารึกแล้วล่ะ ^^

พิพิธภัณฑ์สถาบันโบราณคดีคาชิฮาระ
คนต่างชาติเข้าฟรีแต่คนญี่ปุ่นแท้ ๆ ต้องเสียตังค์ แปลกดีแฮะ!
แล้วที่คุณชีริวไปวันนั้น มีชาวต่างชาติเข้าไปชมบ้างมั้ยครับ
เหมือนเค้าส่งเสริมเรื่องการเผยแพร่วัฒนธรรมเลย
อย่างงี้ ส่วนจัดแสดงก็คงมีบรรยายภาษาอังกฤษด้วยสินะครับ
อืม...เป็นโมเดลการจัดการพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจแฮะ ^^

(วันนี้ว่าจะเม้นต์น้อย ๆ เผลอเขียนยาวซะแล้ว ^^")

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก

วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:23:00:20 น.

ยังเรื่องเดิม ช้านะเรา พี่อัพบล๊อกใหม่แล้ว

พูดถึงหนุ่มเสกมีหลายคนจ้ะ
1. เสกสรร ชัยเจริญ
2. เสกสรร ทองวัฒนา คนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้
3. เสกโลโซ ยังดังอยู่เนาะ มีเรื่องออกสื่อบ่อย 555

"ได้ยินตอนเด็กมากๆเลยคิดถึงอดีตไปด้วยไม่รู้"

เขาว่าคนคิดถึงอดีตนี่แก่แล้วนะ อิอิ

โดย: ข้ามขอบฟ้า

วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:1:54:53 น.

สวัสดีคันไซ อยากไป 555+

โดย: ลอยละล่อง บล็อกแกงค์

วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:10:03:35 น.

ชีริว Travel Blog

โดย: ลอยละล่อง บล็อกแกงค์

วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:10:04:03 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยนะครับ

น้องเมย์ถ้าหายเจ็บกลับมาน่าจะผลงานดีกว่าเดิมครับ แต่ต้องฟิตอีกเป็นสองเท่าเลย เพราะต้องไปเจอมือวางตั้งแต่รอบแรก

โดย: The Kop Civil

วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:11:23:57 น.

ไปดูฐานพระราชวังเลยเหรอคะ เอาจริงเลยนะคะเนี่ย
อ้อๆ ไปดูหินสองหน้าต่างหาก 55 คือว่าไปดูเยอะจริงๆ
แต่พี่อ่านแล้วจำได้แค่นี้แหละน้อง ยาวมาก อ่านไป
ลืมไปอ่ะนะ เวลามาอ่านงานของคุณชีริว พี่ต้องอยู่ใน
บรรยากาศไม่ต้องรีบไปไหน แบบว่านั่งยาว อ่านไป
สบายใจเลยแหละ เพลินมาก

ขอบคุณนะคะ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า

) วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:20:23:14 น.

สวัสดีจ้า

ต้องร้องว่า อื้อหืออออออ ภาพสวยจริง ๆ ท้องฟ้าแจ่มมาก ๆ ผิดกับบ้านพี่ ท้องฟ้ามืดหม่นตลอดทริป

ทำไมคนอื่นอัพได้ทีละเยอะๆ ของเราทีละนิดละน้อย กว่าจะลงแต่ละรูปลำบากเกิ้นนนน

ไว้เดี๋ยวแวะมาอ่านตอนต่อไป

โดย: oa (rosebay

) วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:21:05:53 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

เล่มหน้า 2000 ปีเลยครับ 555
เล่มนี้ 800 ปีไปก่อน

พี่ก๋าก็เจอหลายเรื่องนะ
ตามซื้อตั้งหลายปี
อยู่ๆ ไม่พิมพ์ซะงั้น 555
หรือไม่นักเขียนก็หยุดเขียนเอาดื้อๆ เซ็งเบย

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:22:07:03 น.

มาเที่ยวด้วยคนค่ะ กว่าจะตั้งหลักเขียนบล็อกใหม่ต้องทำใจนานพอดู ลองไปอ่านกันค่ะ

โดย: sawkitty

วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:23:28:16 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 21 เมษายน 2560 เวลา:6:38:34 น.

สวัสดีอีกรอบค่ะพ่อคุณ

อิ่มสิฟระ พี่ไม่ใช่คนกินเยอะนะ แกนี่ บอกกี่ครั้งแล้วว่าพี่กินหลากหลาย แต่ไม่ใช่คนกินเยอะอ้ะ แค่นี้ก็อ้วนจะตายแหล่ววว

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 21 เมษายน 2560 เวลา:10:12:44 น.

ร้านเป็นลาว มีร้านเค้กด้วยนะเอย...บานอฟฟี่นี่คนขายแนะนำ 55555 แล้วทำไมไม่แนะนำขนมแบบไทยๆ เนอะ ก็เห็นมี อิอิ อ้อ มีร้านน้ำด้วยนะ ซีสั่งโกโก้ปั่น

ร้าน ที่พัก เขาใหญ่ ผุด เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

โดย: kae+aoe

วันที่: 21 เมษายน 2560 เวลา:11:08:48 น.

อยากกินเฟรนฟรายหรอ อุ๊ทำก็เป็นนะ ลองมะ 555

สวัสดียามบ่ายจ้า อากาศแบบนี้คิดถึงคันไซเนอะ

โดย: ลอยละล่อง บล็อกแกงค์

วันที่: 21 เมษายน 2560 เวลา:14:31:08 น.

แวะมาทักทายและขอบคุณสำหรับโหวตด้วยค่ะคุณชีริว

โดย: Raizin Heart

วันที่: 22 เมษายน 2560 เวลา:7:57:49 น.

ห้ามถ่ายรูป แต่ซูมจากข้างนอกได้ เหมือนวัดพระแก้วบ้านเรา ... ชอบเลยค่ะ คือยังดีกว่าถ่ายไม่ได้ไง

เนาะ ได้ถ่ายภาพพระประธาน 2 วัดนี้ ก็เกินคุ้มแล้ว

ดั้นด้นมา เพราะแรงบันดาลใจจากการ์ตูน โห

เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน โชว์พาสปอร์ต ชมฟรี คนญี่ปุ่นเสียตังค์

บ้านนี้เที่ยวเยอะมาก ทั้งในทั้งนอก น่าอิจฉายิ่งนัก

นครพนม พี่ก็อยากไปอีกรอบ คราวที่แล้ว ยังไม่ได้เดินดูอะไรเท่าไหร่เลยค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 25 เมษายน 2560 เวลา:19:14:33 น.

กรี๊ดกะเมืองนี้อ่ะ ชอบบบ
ผู้คนเขาก็ยังทำนา เก็บผักตามทางไปเรื่อย ต่างกับภาพในเมืองมาก
อาสึกะ ดูท่าทางจะเป็นเมืองเก่าอีกแห่งที่ควรตามรอยเนอะ
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนี่ดีจริง ชาวบ้านก็ดูมีน้ำใจดีด้วย

ส่วนคุณจุน ก็ช่างมีใจต่อบริการ
หรือแท้จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่กรมอุตุฯเก่า !

เห็นด้วยนะถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็น่าจะสวยมากเลย

พิพิธภัณฑ์สถาบันโบราณคดีคาชิฮาระ
ใช้นโยบายแปลกดีเป็นบ้านเราอาจจะมีสองราคา
(ราคาไทยจะเขียนเลขไทยซะด้วย 55)

การก่อตั้งราชวงศ์ยุคแรกๆ ก็ดูจะยังไม่มีสิ่งก่อสร้างปักหลักที่
ชัดเจน (ก็เล่นย้ายเมืองไปเรื่อยนี่นา) สถานที่ๆ ว่าเป็น
ของสุสานจักรพรรดิจิมมุ นี่ดูเรียบง่ายดีแต๊แต่มุมที่ถ่ายมาดูขึงขังดี
ยิ่งพอบอกว่าสืบราชสันติวงศ์มากว่า 2,600 ปี
(คือเขาไม่ได้มีการเปลี่ยน หรือปราบดาฯ อะไรขึ้นมาเลย?)

ส่วนที่สุสานอิชิบุไต ดูเก่ามหาศาล มองไม่ออกนะว่าข้างล่างมีอะไร
อยากเห็นความรู้สึกคนค้นพบ และเปิดโลง เป็นครั้งแรกๆ จัง ^^
เอ้อ กำลังตะหงิดใจกับชื่อ 'กันดาระ' ที่แท้ก็ Gandhara
พอเขียนลงตำราไทยก็คือ 'คันธารราฐ' / 'คันธาระ'

ฟ้าก็แปลกใจกับการเอาคำมาถอดเสียงลงในภาษาเราอยู่หลายหน บางทีก็ลงเขียนบล็อกแบบที่เขาสะกดตรงๆเลยเหมือนกันนะ

(อย่าง จันดิการ์ ก็ถอดตามภาษาถิ่น
สะกดตามภาษาอังกฤษว่า Chandigarh
แต่ในไทยเขียนว่า จัณฑีครห์ - ปวดหมองเนอะ)

อาาา สุดท้ายก็จบเมืองนี้ไปได้ด้วยดี
แม้จะตกรถราพลาดเที่ยวไปบ้าง

ว่าแล้วก็พักเหนื่อย
วันถัดมากินกวางผัดเผ็ดที่นาราต่ออย่างสำบายจัยยย

โดย: กาบริเอล

วันที่: 26 เมษายน 2560 เวลา:16:38:55 น.