|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Ladakh 2019 - หมู่บ้าน Rumbak ที่อ่านว่า รุมบัค
รถรับจ้างจากเลห์วิ่งตรงเข้ามายัง Spituk ข้ามผ่านแม่น้ำสินธุเพื่อตรงไปยังเส้นทางที่สร้าง ลัดเลียบเขาไปยัง Zinchen (ที่เรียกว่าถนน Spituk - Zinchen) ผ่าน Phey และที่ตั้งของ SECMOL CAMPUS ที่มองเห็นได้จากฟากตรงข้าม ซึ่งเมื่อหลุดไปจากนี้แล้ว รถก็จะหักเลี้ยว เพื่อเข้าโค้งวกไปวนมาบนไหล่ทางแคบ ๆ ก่อนที่จะพาไปส่งยังจุดที่รถสามารถวิ่งเข้าไปถึง ได้มากที่สุด : https://goo.gl/maps/dWWcypf3szqEt1UdA
เขาว่ากันว่า การเทรกในระยะสั้น ๆ จาก Zinchen ไปยังหมู่บ้าน Rumbuk ถูกหั่นย่นย่อให้สั้น ลงเยอะแล้วด้วยการปรับทางใหม่ให้รถรับจ้างวิ่งเข้าถึงได้มากกว่าเมื่อก่อน ช่วงสิบเอ็ดโมงเศษ ที่เริ่มลงเท้าเดินจ้ำเข้าพื้นที่เองในสภาพบรรยากาศใกล้เที่ยงวัน ความแห้งแล้งของภูมิประเทศ ที่แวดล้อมไปด้วยภูเขาทะเลทราย แม้ว่าฟากหนึ่งของเส้นทางจะมีลำธารสายเล็ก ๆ ไหลผ่านให้ พอแวะพักไปวักน้ำลูบหน้าให้หายเหนื่อยบ้าง แสงแดดที่แรงจัดช่วงนี้เหมือนพร้อมทำหน้าที่เผา มอดไหม้ผู้เดินทางให้เหือดระเหยจนใกล้เป็นสภาพเดียวกับผลไม้ตากแห้งที่พกติดมายังไงงั้น
เส้นทางระหว่างเดินที่จริงก็ไม่ได้ดูร้างจากผู้คนสักเท่าไหร่ เมื่อไปได้ครึ่งทาง จะมีจุดตั้งเต็นท์ ทรงกระโจมสูง 3-4 หลัง มีเขียนป้ายติดไว้ว่าเป็นร้านอาหาร น่าเสียดายที่เจ้าของกิจการดังกล่าว หายไปไหนก็ไม่รู้ เราเลยไม่ได้หนีร้อนเข้าไปหลบพักจิบชาตามอย่างที่คิดไว้ นอกเหนือไปจากนี้ ก็ยังมีเต็นท์ที่กางทิ้งไว้ตามจุดอื่นให้เห็นตามรายทาง มันไม่ใช่จุดตั้งแคมป์ของนักเดินทางแต่กลับ เป็นของคนงานที่มาทำพื้นที่ถนนหรือเคลียร์ไหล่ทางที่ดูระเกะระกะไปด้วยหิน โดยนำหินเหล่านั้น มาจัดระเบียงวางกองรวมเป็นเขตแนวยาว และมัดตรึงด้วยตะแกรงลวดเหล็กเพื่อป้องกันไม่ให้มัน ร่วงพังลงมา
สัตว์ประจำถิ่นเท่าที่เห็นผ่านตาแถวนี้ถ้าไม่นับ ลา ก็มี Himalayan Pika โผล่มาตัวนึง กับ Himalayan Snowcock ที่ยกโขยงลงมายังแหล่งน้ำกันเป็นฝูง ส่วนเรื่องร่มไม้เนี่ย แทบไม่ต้องพูดถึงโดยมากก็มีแค่ไม้พุ่มเตี้ยเท่านั้น แต่ยังดีที่ดอกของมันมีน้ำมันหอมระเหย ให้ได้ขยี้ดมแทนยาดม ของกินที่พอเด็ดกินได้ก็มีผลสีแดงจากต้นกุหลาบป่า สามารถกัดกิน แค่บริเวณผิวเปลือกนอกเท่านั้น ให้พอรู้รสฝาด ๆ คล้ายกับเปลือกฝรั่งที่ยังไม่สุกดี แล้วก็ยังมี ผลไม้รสเปรี้ยวอย่าง Seabuckthorn ที่ขึ้นเป็นดงตามทางอีก ใจจริงก็อยากเรียนรู้การเก็บหา ของกินตามป่าตามแหล่งธรรมชาติอย่างที่เขาเรียกว่า Foraging เป็นบ้าง คงสนุกดีถ้ารู้ว่าพืช ชนิดไหนกินได้หรือตัวไหนกินไม่ได้
เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกแบบนึงที่หา(กิน)ได้ระหว่างเดินทาง ในพื้นที่แห้งแล้งแบบนี้ ก็เหมือนกับเวลาที่เราไปอยู่ค่ายแล้วเห็นมี ฝักมะขาม ลูกมะม่วง ออกบนต้นแล้วนึกอยากไป สอยเพื่อเก็บกินกันขึ้นมา ทั้ง ๆ ในชีวิตปกติ ไม่เคยคิดจะซื้อมากินด้วยซ้ำ
เพื่อนร่วมทางอีกหนึ่งกลุ่มที่ต้องหนีไปให้ไวก็คือเหล่าฝูงลาที่ไล่เดินตามกันมาพร้อมคนคุม ทำหน้าที่แบกขนข้าวของเข้ามายังพื้นที่ด้านใน เนื่องจากไม่มีถนนเชื่อมต่อเข้ามาได้นั่นเอง เมื่อพวกมันเดินไล่ระยะประชิดมาเรื่อย ๆ ความคิดที่จะชะลอฝีเท้าเพื่อหลีกทางให้อาจเสีย เวลามาก เพราะหลังจากที่ฝูงลาเดินผ่านไปแล้วก็ต้องทิ้งช่วงให้ห่างไปพักใหญ่ หากไม่ อยากชิมฝุ่นที่ฟุ้งตลบไล่หลัง
ในเวลาบ่ายโมงกว่า ๆ ตัวหมู่บ้านที่เป็นจุดหมายปลายทางของเราก็ปรากฏให้เห็นเสียที มันมีขนาดเล็กมาก แม้จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่มันก็เป็นจุดแวะพักกลางทางสำหรับคนที่จะ เดินทางไกลไปยัง Stok (โดยผ่านช่องเขา Stok la) จึงไม่น่าแปลกใจ ที่คนหมู่บ้านนี้จะแบ่ง พื้นที่ห้องสำหรับรองรับผู้มาเยือนไว้ เราเข้าพักกับบ้านหลังหนึ่งที่คุณยายเจ้าบ้านมีพื้นเพเดิม เป็นคนจากหมู่บ้าน Sakti
ได้ยินแล้วก็แอบสงสัยว่า แกแต่งงานออกเรือนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน ถ้านึกถึงว่าคนสมัยก่อนเขาไปมาหาสู่ข้ามหมู่บ้านด้วยการเดินเท้าแบบนี้เนี่ย
⭗ หมู่บ้านกลางทางที่ชื่อว่า Rumbak
⭗ เจอเรเนียม ดอกสีแดงสดที่ชูกิ่งออกมารับแสงริมหน้าต่าง ไม้ประดับยอดนิยมของคนแถวนี้ ไปที่ไหน ๆ ก็เจอแทบทุกบ้าน
⭗ พื้นที่นาข้าวหลังช่วงเก็บเกี่ยว
⭗ ทางเดินเลียบเขาทิศนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง Stok ได้ ชาวบ้านบอกว่าใช้เวลาเดินราว 5 ชม. (อิงจากกำลังขาของคนท้องถิ่น)
⭗ กลุ่มเจดีย์เก่าที่สร้างอยู่ตรงกลางทางเดินบนเนินเขา
⭗ ลา สัตว์ที่ต้องเลี้ยงเพื่อเอาไว้ใช้งานแบกขน มันคือพาหนะขนส่งที่สำคัญของที่นี่
⭗ แนวกำแพงหิน ที่แบ่งเขตกั้นสำหรับเลี้ยงสัตว์
⭗ คุณยายกำลังรีดแผ่นแป้งเพื่อเตรียมทำอาหารมื้อค่ำ
ค่ำนี้อาหารที่ทางบ้านพักทำให้ก็คือเมนูท้องถิ่นที่ชื่อว่า Chu Tagi มันเป็นเมนูที่เรียบง่ายไม่ค่อยมีขั้นตอนอะไร มากมายนัก ยกเว้นแต่ตอนจับแผ่นแป้งให้เป็นรูปทรงก็เท่านั้น ผักสวนครัวที่ใช้ทำอาหารอย่าง ปวยเล้ง แครอท ถั่วลันเตาหวาน กระหล่ำดอก ก็จะถูกนำลงไปต้มใส่ในซุปด้วย เราได้โปรตีนจากชีสแห้งที่เรียกว่า Churpi แทน เนื้อสัตว์ โดยปกติแล้วก็ไม่ค่อยเห็นคนในหมู่บ้านนอกเมืองทำอาหารที่ใช้เนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบสักเท่าไหร่ เพราะหากต้องออกไปซื้อมากักตุน คงละเป็นเรื่องที่ดูลำบากพอสมควร จากที่สังเกตไม่มีบ้านไหนมีตู้เย็นไว้แช่ อาหาร พวกผักสด ๆ ที่ได้กินก็มาจากในสวนหน้าบ้านทั้งนั้นเป็นวิถี Self-sufficiency ที่ดูเป็นรูปธรรมชัดเจนมาก สำหรับการใช้ชีวิตในพื้นที่ห่างไกลเช่นหมู่บ้านกลางเขาแบบนี้
แต่ว่าหากพูดปัจจัยห้าอย่างเงิน พวกเขายังต้องการมันอยู่มั้ย แน่นอนว่าใช่ รายได้จากการทำโฮมสเตย์ก็นับว่าเป็นกำไรที่งดงามอยู่ไม่น้อย ข้าวของเครื่องใช้บางอย่างที่ทำขึ้นมาเองไม่ได้ การเดินทางเข้าเมือง ค่าเทอมลูก ค่าน้ำมัน เสื้อผ้า รองเท้า ค่ารักษาตัวยามเจ็บป่วย ฯลฯ มันก็ต้องใช้เงินแลกเปลี่ยนอยู่ดี
สมาชิกในบ้านหลังนี้ นอกเหนือไปจากคุณยายและสามี (ลูกชายแกไปทำงานในเลห์) ก็ยังมีลูกสะใภ้ กับหลานตัวเล็กวัยหัดพูดที่เพิ่งจะเข้ามาร่วมนั่งกินข้าวด้วยกัน พวกเขาปรับจูนช่องโทรทัศน์เพื่อดูข่าว หลังจบมื้อค่ำ เจ้าตัวเล็กก็เดินต๊อกแต๊กมาเล่นด้วยพร้อมกับลูกบอลเป่าลม โยนส่ง โยนรับ กับเรา หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างมีความสุข เราก็ไม่รู้ว่ามันสนุกตรงไหนนะ เด็กคงไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนมาก ได้ วิ่งเล่นได้มีเพื่อนใหม่ ได้หัวเราะ แค่นี้ก็ดูเหลือเฟือแล้วละมั้ง
แล้วอยู่ ๆ ก็มีสิ่งหนึ่งที่ขโมยบรรยากาศนี้ไปได้ มันเป็นเสียงเลียนแบบที่ดังมาจากโทรศัพท์ของแม่ที่ เปิดแอปหนึ่งขึ้นมา น้องวิ่งแจ้นไปดูหน้าจอที่มีรูปการ์ตูนแมวหน้ากวน ๆ มันคือแมวทอมใน Talking Tom Cat นั่นเอง จากนั้นความสนุกของเจ้าหนูก็หันเหไปอยู่กับโทรศัพท์มือถือ
ใช่...ในเช้าวันถัดมาน้องก็ลืมเราไปเลย เจ้าหนูกำลังสนุกกับเกมบนหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับเด็ก ๆ หลายคนบนโลกนี้
แม้แต่พื้นที่ชนบทห่างไกลเมืองและถนน พวกเขาก็ยังคงต้องการเทคโนโลยี เงินตรา สิ่งบันเทิง และความสะดวกสบาย เหมือนกับมนุษย์โลกพึงมีนั่นแหละ
ก็แล้วแต่ว่าพวกเขาจะอนุญาตให้มันเข้ามามีบทบาทและอิทธิพลในการกำหนด ชีวิตมากน้อยแค่ไหน ⭗ กิจวัตรยามเช้าของคุณยาย ตื่นมาก็ต้องตรงไปยังคอกสัตว์เพื่อรีดนมโซโม่ (Dzomo เป็นชื่อเรียกลูกผสมระหว่างวัวกับจามรี ที่เป็นตัวเมีย) น้ำนมที่ได้ก็จะถูกนำมาใช้บริโภคกันในครัวเรือนกันแบบวันต่อวัน ส่วนผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านนอกกำลังยืนรองน้ำ ที่ ไหลผ่านมาจากจุดปล่อยน้ำของหมู่บ้านชื่อแปลก ๆ ก่อนออกจากที่พักเพื่อเดินทางกลับเลห์ เจ้าบ้านได้ส่งแฟ้มหนาเล่มหนึ่งมาให้เขียน มันเป็นเอกสารสำหรับกรอกแบบสอบถามและข้อมูลนักท่องเที่ยวที่จะทำการรวบรวมส่ง ให้กับทางการภายหลัง
ด้วยความอยากรู้ เราพลิกเปิดหน้าอื่น ๆ ดูรายชื่อผู้เคยเข้าพักในนั้น เพื่อมองหาคนไทย ก็พบว่ามีอยู่จำนวน 3-4 รายชื่อที่มาด้วยกัน เมื่อหลายเดือนก่อน พอไล่อ่านไปจนถึงชื่อ ที่น่าจะอ่านว่า 'นำโชค' ก็ทำให้เกิดหัวข้อพูดคุยขึ้นมาซะงั้น "มีคนชื่อว่า นัม-ชก ด้วยเหรอ?"
ก็แปลกดีที่ชื่อคนไทยรายอื่นกลับไม่มีใครรู้สึกตื่นเต้นเท่าชื่อของคุณนำโชค เราแปลแบบคร่าว ๆ ถึงความหมายในภาษาไทยที่น่าจะตรงกับคำว่า Lucky
ก่อนได้คำเฉลยในภาษาลาดัก ที่ว่า Namchok แปลว่า หู
แม้การออกเสียงจะไม่ได้เหมือนจนชัดเจนนักระหว่าง นัมชก กับ นำโชค ชื่อภาษาไทยของคุณหู เอ๊ย คุณนำโชค คงเป็นที่จดจำง่ายดีสำหรับคนลาดัก
เช่นเดียวกัน ชื่อหมู่บ้าน 'รุมบัค' เราก็ไม่รู้ว่าเกณฑ์ในการตั้งชื่อนั้นมีที่มายังไง แต่ก็แอบนิสัยเสียไปเรียกเป็นภาษาไทยว่า ลำบาก (จากตอนแรกที่ดันเผลอไปอ่าน Rumbak เป็น รัม-บาก) และด้วยเหตุที่ว่ามันเดินเข้ามาถึงยากมากมายเสียเหลือเกินด้วย ก็เลยจำติดปากกับชื่อเรียกผิด ๆ แบบนี้โดยอัตโนมัติ และความหมายของมันคงเพี้ยนไป ไกลกว่าชื่อต้นฉบับ มั่นใจเลยว่าหากบอกไปพวกเขาคงไม่น่าจะปลื้มสักเท่าไหร่ ⭗ เดินย้อนกลับไปยังเส้นทางเก่าในเช้าวันถัดมา ขากลับเราย้อนมายังเส้นทางเดิมนั่นแหละ ดีตรงที่ตอนเช้าไม่ค่อยร้อนมากแถมภูเขาฝั่งตะวันออกช่วยบังแดดไว้ ทำให้เดินแล้วไม่ค่อยเหนื่อย หลังออกแรงย่ำเท้าไปไกลได้ไม่ถึงชั่วโมงก็ได้สวนทางกับรถรับจ้างที่วิ่งเข้ามาส่ง ผู้โดยสารพอดี อีกสักพักหนึ่งรถคันนั้นก็ต้องวิ่งย้อนกลับไปยังเลห์ และนี่คือสัญญาณที่บอกเราว่าการเทรกได้สิ้น สุดลงแล้วในครั้งนี้
Create Date : 11 ธันวาคม 2564 |
|
9 comments |
Last Update : 16 ธันวาคม 2564 11:18:12 น. |
Counter : 991 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สำรวจฟ้า IP: 1.46.159.10 12 ธันวาคม 2564 19:00:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 13 ธันวาคม 2564 4:04:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 13 ธันวาคม 2564 15:22:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 15 ธันวาคม 2564 0:25:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 ธันวาคม 2564 22:55:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 21 ธันวาคม 2564 13:30:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]
|
ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก เป็นมนุษย์จำพวก introvert
การเขียนบล็อก คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ ขอบคุณ Bloggang สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้
....
เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014
###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###
|
|
© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต
|
|
|
|
|
|
|