Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
15 กันยายน 2557
 
All Blogs
 

เหตุเกิดที่สถานีรถไฟฯ (2) จบ






" ตกรถไฟแล้วโว้ย ! "

ฉันอยากตะโกนประโยคนี้เป็นภาษาไทย
ให้ใครสักคนรับรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้เสียจริง
และยิ่งถ้าหากมีสัญญาณเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยละก็
คงเป็นที่แน่นอนเลยว่า มันคงจะได้ถูกโพสต์ระบายลงในเฟซบุค
เพื่อประกาศให้ใครต่อใครได้รับรู้ ไปพร้อม ๆ กับอาการสติแตก 

แต่ ณ ขณะนั้นไม่ได้มีการเผยแพร่เหตุการณ์ที่ว่าผ่านช่องทางใด 
และบริเวณพื้นที่โดยรอบก็มีแต่คนอินเดีย


หลังรู้คำตอบเรื่องขบวนรถไฟ
เจ้าหน้าที่ได้บอกให้รีบไปติดต่อแผนกสอบถามโดยไว
ฉันเดินหอบกระเป๋ากลับไปยังอาคารผู้โดยสาร
มุ่งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้อยู่ประจำจุด
เดียวกับที่ฉันเห็นผู้คน
พากันมายืนมะรุมมะตุ้มกันเยอะ ๆ เมื่อคืนนี้นั่นแหละ


ฉันต่อแถวอย่างไม่เป็นสุขเพราะมีคนเข้ามาเบียดเยอะไปหมด
แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ยอมให้ฉันลัดคิวไปถามเรื่องตั๋วที่กำลังมีปัญหา


"รถไฟ ขบวน 12311 วันนี้มาตรงเวลา" 

เจ้าหน้าที่หยิบตั๋วไปตรวจสอบเที่ยวรถฯ พร้อมบอกถึงเรื่องที่ฉันพลาดไปแล้ว 
และต้องทำการซื้อตั๋วใหม่สถานเดียว เพราะกรณีนี้จะเปลี่ยนตั๋วหรือคืนเงินไม่ได้


ฉันหยิบแบบฟอร์มสำหรับเอาไว้เขียนกรอกซื้อตั๋วมาหนึ่งใบ
ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายผสมกับอาการใจเสีย
ที่ผ่านมาก็ล้วนแต่ให้ทางนายหน้าเดินเรื่องให้...และสถานีรถไฟแห่งนี้
ไม่มีแผนกบริการสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียด้วยสิ



ตัวแบบฟอร์มที่ว่านี้มีสองภาษาให้เลือกเขียน 
ระหว่างที่ลงข้อมูลก็ต้องมาชะงักกับหมายเลขขบวนรถที่จะไป
ฉันไม่รู้ว่ายังมีขบวนไหนของวันนี้ที่จะวิ่งไปจันดิการ์อีก
มากสุดก็มีเพียงชื่อและหมายเลขของขบวนต่าง ๆ ที่จะวิ่งผ่าน
มายัง Mughal Sarai เขียนติดบอกเอาไว้ที่ป้ายกระดานหน้าสถานี

แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสำหรับตัวเอง 

ฉันมองดูกระดานฯ อยู่พักหนึ่งและถามคนแถวนั้นถึงหมายเลขไหนจะวิ่ง
ไปทางเหนือบ้างในวันนี้?  
มีคนมาช่วยชี้บอกชื่อขบวน ๆ หนึ่งให้ซึ่งฉันก็รีบ
ทำการกรอกตามไปโดยไม่ทันคิดให้ดี 

พร้อมระบุเขียน ต้นทาง-ปลายทาง ว่า
จะขึ้นจาก Mughal Sarai และลงที่ Chandigarh กำกับไว้

เมื่อทุกอย่างถูกเขียนลงไปในกระดาษแผ่นนั้นจนครบถ้วนแล้ว ฉันต้องยื่นส่ง
ให้เจ้าหน้าที่
ทำการพิมพ์ตัวเลขลงไปที่หัวกระดาษและรอการเรียกตามลำดับ
ที่จะปรากฏบอกบนป้ายไฟ
ให้เห็นตรงด้านหน้าช่องจำหน่ายตั๋วให้รู้

พนักงานหญิงคนหนึ่งได้รับเรื่องการออกตั๋วของฉัน ทำการป้อนข้อมูลตามแบบ
ฟอร์มลงไปในคอมพิวเตอร์
และไม่ได้พูดอะไรมากมายเท่าไหร่นอกจากจะถามว่า
ต้องการจองชั้นโดยสารประเภทไหน?


ตั๋วเดินทางสำหรับรอบเย็นวันนี้ถูกพิมพ์ออกมาจากเครื่องฯ หลังจากที่จ่ายเงินไป
แล้ว  
ตัวเองก็ได้แต่รอให้ถึงเวลาที่จะได้ออกไปให้พ้น ๆ จากที่นี่เสียที ฉันเดินกลับ
ไปที่ชานชาลาบริเวณที่มีร้านอาหาร เพื่อกินมื้อกลางวัน
และหาที่นั่งพักสำหรับ
ผู้โดยสารหญิง โชคดีที่พื้นที่นั้นมีแอร์เย็น ๆ เปิดด้วย คง
เหลือเวลาอีกมากทีเดียว
ในวันนี้...


นอกจากเรื่องแย่ ๆ ในเดลี ที่ได้เจอวันแรก
ที่ซวยรองลงมาก็คือเรื่องตกรถไฟนี่แหละ 





.....



หลังจากเวลาได้ผ่านไประยะหนึ่ง ฉันหยิบเอาตั๋วโดยสาร
มาไล่ดู 'เวลา - วันที่- สถานี' อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ 

Mughal Sarai - Guhawati เที่ยวขบวนนี้จะมาถึงยังสถานี
ตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง...เอ๊ะ! ทำไมชื่อปลายทางมันดูแปลก ๆ
หรือว่าจันดิการ์ มีสถานีรถไฟอีกแห่งที่ชื่อว่า Guhawati? 

ฉันลองเปิดแผนที่จากไกด์บุคที่พกติดมาตรวจสอบรายชื่อสถานีที่ว่า
จะอยู่จุดไหนของเมืองจันดิการ์... 
ปรากฏว่าหาไม่เจอ 

แต่เมื่อค้นชื่อผ่าน Glossary ที่ท้ายเล่ม
ใจของฉันแทบร่วงอีกหนเมื่อพบคำตอบว่า

Guhawati มันเป็นชื่อของเมืองใหญ่ที่อยู่ในรัฐอัสสัม !

รัฐอัสสัม ที่ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย 
และอยู่คนละทิศทางกับจันดิการ์ ในรัฐปัญจาบ ที่ฉันจะไปเลยนะ

เฮ้ย! ยัยนั่น ออกตั๋วให้ฉันแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย ??????



เรื่องแบบนี้ยังไงก็ผิดคนละครึ่งทาง! ฉันระบุลงในแบบฟอร์มอย่างชัดเจน
ว่าจะไปลงยังจันดิการ์ 
อย่างน้อย ถ้าขบวนที่ว่ามันได้ไปยังทิศทางนั้น
พนักงานออกตั๋วก็ต้องมีเอ่ยถาม
หรือพูดแย้งบ้างสิ ไม่ใช่มาลงปลายทาง
แบบสุ่มเดาเอามั่ว ๆ อย่างนี้

กว่าจะมารู้ตัวในเวลานั้น ก็ปาไปบ่ายสองโมงกว่า
ฉันกลับมาวิ่งวนเหมือนหนูติดจั่นอีกหนหลังจากเผลอชะล่าใจซะนาน
ซึ่งในตอนนี้ก็ต้องวกกลับไปต่อแถวที่แผนกสอบถามอีกแล้ว



....


"พนักงานกรอกข้อมูลปลายทางให้ฉันผิดค่ะ"

ฉันโผล่หน้ามายังช่องติดต่อเดิมและพยายามอธิบายเรื่องที่พลาด
และเนื่องจากยังมีคิวที่รอถัดไปจากฉันอีกมาก เจ้าหน้าที่จึงบอกให้ฉันเข้ามา
พูดคุยกับ
เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลฯ ที่ห้องด้านในแทนเพราะคงต้องใช้เวลานานแน่

แม้ว่าจะเป็นห้องด้านในนั้นจะมีเครื่องปรับอากาศเปิดให้รู้สึกเย็นสบายก็ตาม
แต่สีหน้าของฉันกลับซีดและเต็มไปด้วยเหงื่อ 

"เราต้องการหลักฐาน ... เอาใบสำเนาที่คุณกรอกมาให้ดูหน่อย"

เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่ง แลดูเกรี้ยวกราดเล็กน้อย
กำลังแสดงทีท่าเหมือนสอบสวนผู้ต้องหา

ฉันโต้แย้งว่าไม่มีสำเนาที่ว่าถามถึง...จำได้แค่เพียงหลังยื่นส่งเอกสารให้พนักงาน
ออกตั๋วไปก็ได้รับบัตรโดยสารใบนี้กลับมา 
และที่สำคัญฉันไม่เห็นเธอคนนั้น นั่ง
ประจำการอยู่ตรงที่เดิมแล้วด้วยสิ  


"ฉันรู้ว่าตัวเองผิดตรงที่กรอกหมายเลขขบวนฯ ไม่ถูกต้อง..."

เอาวะ เรื่องไหนที่เราพลาดก็ต้องยอมรับไปตรง ๆ  

"ฉันเขียนระบุปลายทางเอาไว้ชัดเจนว่าจะไปลงที่ไหน จะมีรถไฟขบวนอะไร
วิ่งไปที่จันดิการ์บ้างก็ไม่รู้ ฉันเพิ่งมากรอกข้อมูลเพื่อซื้อตั๋วเอากระทันหันหลัง
ตกรถไฟเมื่อช่วงสาย...ฉันเป็นคนต่างชาติและไม่รู้เลยว่า Guwahati มันอยู่ส่วน
ไหนของประเทศนี้ ทำให้ไม่เอะใจแต่แรก 
ส่วนเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ไม่แย้งอะไร
สักอย่าง กระทั่งชื่อปลายทางที่เขียนไว้
แต่กลับพูดถามเพียงแค่ว่า ต้องการชั้น
โดยสารประเภทไหน"

มีเจ้าหน้าที่สามคนที่ยืนรับฟังฉันในตอนนั้นพอได้รู้ความ
และเข้าใจปัญหาที่เกิดแล้ว 
พวกเขาก็ตกลงที่จะยอมเปลี่ยนตั๋วให้

"นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย?" เจ้าหน้าที่ชายได้หันไปถามเวลากับอีกคน

"บ่ายสามสิบห้า" หลังมีเสียงตอบกลับมา
กลุ่มคนเหล่านี้ต่างก็วิ่งไปที่จุดรับผิดชอบของตัวเองในการเดินเรื่อง 

"เร็วเข้า เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา ต้องรีบทำให้ทันก่อนบ่ายสี่ ! "  

เจ้าหน้าที่หญิง ทำการเคลียร์บัญชีใหม่
ที่ต้องหักเงินค่าส่วนต่างของตั๋วเดิมออกมาคืนให้ 


"ส่วนเธอ เดี๋ยวรบกวนออกไปถ่ายเอกสารหน้าพาสปอร์ต
ไว้เป็นหลักฐานให้หน่อยนะ "  

พวกเขาต้องการสำเนายืนยันตัวตนที่จะนำมาแนบประกอบ

ฉันเลยลองหยิบซองใส่เอกสารสำคัญที่พกมาดูเผื่อจะยังมีเอกสารเก่า ๆ
ที่ถ่ายสำเนาเก็บไว้บ้าง 
แต่ก็ดันมีแค่สำเนาบัตรประชาชนรุ่นก่อน
พอเจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นจึงบอกว่า งั้นเอาอันนี้มาใช้แทนก็ได้  

เอ่อ ...พอบทมันจะง่ายก็ง่ายเนอะ  


พวกเขาส่งแบบฟอร์มสองใบให้กับฉันเพื่อยื่นคำร้องขอยกเลิกตั๋วใบเดิมหนึ่งใบ
และสำหรับกรอกซื้อตั๋วใบใหม่อีกหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยชี้บอกว่าต้องเขียน
อะไรลงไปบ้าง 

"มันมีแค่ Kalka mail ที่จะวิ่งไปจันดิการ์" 

เจ้าหน้าที่บอกข่าวร้ายกับฉันว่าจะต้องเดินทางไปในวันพรุ่งนี้เช้า
กับเจ้าขบวนรถไฟเที่ยวเก่า ที่พลาดไปนั่นแหละ หลังจากที่ระบุเที่ยวโดยสาร
ขบวนเดิมลงไป เราก็ต้องมาลุ้นกับหมายเลขที่นั่ง
อีกหน 

"ยังมี AC เหลือไหมคะ" 

ฉันถามถึงชั้นโดยสารที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับการจองครั้งนี้

"โอเค เดี๋ยวจะตรวจดูให้" แต่ชั้นโดยสารปรับอากาศ ก็เต็มหมดแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงเคาะไปยัง Sleeper class 
ที่เป็นตัวเลือกสุดท้ายแทน

"โชคดีนะ ยังเหลืออีกสามที่...เอาหมายเลขที่เป็นเตียงบนสุดละกัน"

เหลือเชื่อเลยฉันจะได้กลับไปนั่งขบวนเดิม แถมยังเป็นเลขที่เดิมซะด้วย!


ฉันรับเงินทอนที่หักคืนจากค่าตั๋วใบเก่าจากเจ้าหน้าที่หญิงเป็นที่เรียบร้อย 
แถมได้รับแบบฟอร์มเปล่าสำหรับใช้กรอกซื้อตั๋วรถไฟอีกสิบใบเป็นของแถม
พวกเขาบอกว่าเอาเก็บไว้เขียนล่วงหน้า เวลาจะซื้อตั๋วครั้งใหม่จะได้ไม่ต้อง
มาเหนื่อยแบบนี้อีก 
และทั้งนี้ฉันคงต้องขอขอบคุณกับการช่วยเหลือแบบเฉพาะ
กิจเฉพาะกาล
จากเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วย แม้ในครั้งแรกจะดูเหมือนทำหน้ายักษ์ใส่
เพื่อเค้นหาความพลาด
ของฉันแทบตาย แต่สุดท้ายก็ช่วยกันวิ่งวุ่นเพื่อเร่งให้ทุก
อย่างทันเวลา


ไม่รู้ว่าพนักงานออกตั๋วคนนั้น จะโดนสอบความผิดอะไรไหม?

"รถออกรอบหกโมงเช้า ให้มารอที่นี่ก่อนครึ่งชั่วโมง 
แล้วก็อย่าพลาดอีก พยายามถามคนที่จะไปเที่ยวขบวนเดียวกับเราไว้"

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้คำแนะนำกับฉันเอาไว้ ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องนี้





.....



และแล้วก็ถึงเช้าวันถัดมา

เมื่อคืนนี้ฉันนอนพักที่โฮสเทลแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลไปจากสถานีรถไฟ 
แม้ว่าสภาพมันจะย่ำแย่เสียจนไม่น่าพักเท่าไหร่และราคาสูง แต่ก็คงไม่ไหว
ถ้าจะต้องมาหลับที่สถานีรถไฟหนที่สอง 

ช่วงเวลาตีห้าครึ่ง ฉันกลับมานั่งรอที่อาคารผู้โดยสารอีกครั้ง 
เจ้ารถไฟสาย 12311 ก็แสดงสถานะปรากฏบนหน้าจออีกหน
ครั้งนี้แจ้งว่ามันดีเลย์ไปครึ่งชั่วโมง
และให้ไปรอที่ชานชาลาหมายเลข 2

ฉันออกไปรอที่เดิม เวลาเดิม โดยยังคิดไม่ออกเลยว่า 

เมื่อวาน พลาดตรงไหน?


รถไฟแต่ละขบวนที่เข้าจอดที่สถานีนี้ ต่างก็ต้องต่อท่อส่งน้ำสำรองเก็บไว้ใช้
ระหว่างทางและพักทำความสะอาด จากกลุ่มเด็กที่ใส่เสื้อเชิร์ตสีขาวมอ ที่ขึ้น
ไปกวาดพื้นบนรถไฟเหมือนกับที่เห็นเมื่อครั้งแรก ดู ๆ แล้วการในจอดก็น่าจะต้อง
ใช้เวลาจอดขั้นต่ำราวๆ 15 นาที ได้ นั่นก็เท่ากับว่าแทบจะไม่มีรถไฟขบวนไหน
จะวิ่งมารับผู้โดยสารแบบ มาไว ไปไว แน่นอน

ระหว่างนั้นก็เห็นผู้คนที่อยู่บนรถไฟที่จอดพัก คาดว่าโดยสารกันข้ามคืน 
ไปยืนออกันหน้าประตูทางขึ้นรถไฟ หรือไม่ก็โผล่มาที่หน้าต่างเพื่อแปรงฟัน
ล้างหน้า
บางคนก็พ่นน้ำหมากสีแดงเหมือนเลือดพ่นปรี๊ดลงมาที่รางด้านล่าง

สินค้าที่ขายดิบขายดีในยามเช้า
คงหนีไม่พ้นกิ่งสะเดาข้อใหญ่ประมาณนิ้วโป้ง 
มีแม่ค้าเดินหอบมาขายมัดโต เพื่อเอาไว้ใช้สีฟัน
เห็นพี่ที่นั่งรอรถไฟอุดหนุนมาสองก้าน

ลุงคนเข็นรถขายหนังสือ ได้หันมายิ้มทักทายเล็ก ๆ ก็เพราะเขาเอง
คงจำฉันได้ดีจากที่เมื่อวานมานั่งรอรถไฟอยู่ตั้งนานสองนาน...


มีกลุ่มเด็กน้อยเดินลงไปเก็บขยะกลางรางด้านล่าง ในช่วงที่ยังไม่มีรถไฟวิ่งผ่าน
ฉันคิดว่ามันเป็นพื้นที่สกปรกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา พวกน้องกลุ่มนี้พากันคุ้ยหา
ขวดพลาสติก 
เพื่อจะเอาไปขายพร้อมเดินข้ามมายังชานชาลาฝั่งฉัน ...
เศษองุ่นเขียวที่พ่อค้าทำตกร่วงหล่นเรี่ยราดไปตามพื้นขณะที่เอากระจาดเทิน
ขึ้นบนหัว
เวลาที่จะย้ายพื้นที่ไปขายยังจุดอื่น พวกเด็กเหล่านี้ต่างหยิบเก็บขึ้นมา
กินกันโดยไม่เช็ดไม่ล้าง 


เรื่องบางอย่างเราก็พูดไม่ออก 

การเดินทางครั้งนี้ มันได้เห็นอะไรแทบทุกอย่างจริง ๆ
โดยเฉพาะความแตกต่างทั้งหลายที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้









"Kalka Mail จะดีเลย์ไปอีกครึ่งชั่วโมง"

มีผู้ชายคนหนึ่งถือตั๋วรถไฟขบวนเดียวกันกับฉัน 
บอกข่าวให้รู้จากเสียงประกาศ
ที่ฟังยังไง ฟังเท่าไหร่ ก็ไม่กระดิกเข้าหูสักรอบ...ว่ามันจะมาสายในวันนี้ 

สักพักใหญ่พี่เขาก็หายตัวไป... 

ฉันออกเดินตามหาจนเจอพบว่าแกออกมาที่แผงหนังสือ
เพื่อหาอะไรอ่านฆ่าเวลาเลยต้องเข้าไปบอกตามตรง  
ว่าเมื่อวานตกรถไฟมาหนนึงแล้ว ยังไงก็ขอตามติดไปด้วยคน

เขาจึงพยักหน้ารับทราบ 

จากนั้นฉันก็ตามประกบซะเป็นเหาฉลามเพราะกลัวพลาดท่าอีก 

หลังจากนั้นเป็นเวลา 7.20 น. ใกล้เวลาที่รถไฟกำลังจะเข้าสถานี 
เสียงประกาศ
แจ้งขึ้นมารัว ๆ บอกถึงอะไรบางอย่าง คล้ายเหตุการณ์เมื่อวันก่อนไม่มีผิด...
พี่คนนั้นสะกิดบอกฉันให้ย้ายมารออีกจุดที่ชานชาลาด้านหลัง (หมายเลข 4)

พอนึกไปถึงเรื่องคนเมื่อวานที่บอกเราว่า "เจ็ด" แล้วเดินหายออกไป


ตาสว่างขึ้นมาทันที

รถไฟ เปลี่ยนชานชาลาเข้าจอด

แถมแจ้งกะทันหันก่อนแค่ ห้านาที !  



7.30 น. ฉันได้ขึ้นมาอยู่บนรถไฟเป็นที่เรียบร้อย พร้อมที่จะไปได้ต่อ 
โดยไม่ต้องพะวงห่วงกังวลอะไรอีก เหลือเพียงแค่เวลาเดินทางที่พรุ่งนี้
ฉันจะไปถึงที่หมายยังจันดิการ์เพื่อมุ่งสู่มะนาลีตามที่ตั้งใจไว้เสียที...








 

Create Date : 15 กันยายน 2557
31 comments
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2561 21:55:10 น.
Counter : 2051 Pageviews.

 

คนแรก เย้ๆ

 

โดย: secreate 15 กันยายน 2557 16:13:39 น.  

 

อ่านไปลุ้นไป ว่าจะได้นอนรอรถไฟอีกซักรอบไหมหนอ สาวคนนี้
ยังดีที่ได้ที่นั่งเรียบร้อยแถมด้วยคนให้ตามติด ไปไหนไปด้วย กันหลง

อ่านตอนที่เขียนถึงเด็ก ๆ ยากจนที่อยู่ตามชานชาลารถไฟ แล้วรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ..

มีความแตกต่างมากมายมหาศาลในโลกใบนี้เยอะเกินไปนะ

 

โดย: secreate 15 กันยายน 2557 16:15:46 น.  

 

โล่งใจเสียที

 

โดย: tuk-tuk@korat 15 กันยายน 2557 16:19:17 น.  

 

โหวต Travel Blog

อ่านจบ
วันนั้นเป็นวันทดสอบการแก้ปัญหาของน้องฟ้าเลยนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 15 กันยายน 2557 21:26:53 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mastana Literature Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Music Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ใจหายใจคว้ำไปหมด เก่งจริงๆ

 

โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 15 กันยายน 2557 21:29:12 น.  

 

อ่านแล้วเหนื่อยแทนจริงๆ ค่ะ แต่เก่งนะคะ ชื่นชมทุกคนๆ ที่ไปเที่ยวอินเดียเลยค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาที่บล๊อกนะคะ บล๊อกนี้ เปิดไว้นานๆ เลยค่ะ เพลงเพราะดี

 

โดย: Sai Eeuu 16 กันยายน 2557 3:25:38 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า

 

โดย: กะว่าก๋า 16 กันยายน 2557 6:03:03 น.  

 

ตกรถไฟอย่างเป้นทางการ ตกใจหมดนึกว่าตกจากรถไฟ 555 แวซๆ สดใสวันอังคารนะคะ

 

โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) 16 กันยายน 2557 8:27:19 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog

 

โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) 16 กันยายน 2557 8:28:28 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับน้องฟ้า

เวลาไปเที่ยวแล้วเกิดปัญหา
การได้แก้ปัญหา
ก็เป็นการฝึกฝนตนที่ดีมากๆเลยนะครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 16 กันยายน 2557 10:02:40 น.  

 

ลุ้นอยู่เช่นกัน ตกรถไฟในต่างแดนคนเดียวยังแก้ปัญหาได้เอง...เยี่ยม
อ่านแล้วได้รู้จักอินเดียในอีกมุมมอง ... ขอบคุณค่ะคุณฟ้า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
anigia Food Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog

 

โดย: Tui Laksi 16 กันยายน 2557 11:20:23 น.  

 

โหยยยยยยยยยย เปลี่ยนชานชาลาได้ด้วย บร้าไปแล้ว สุดยอดอ้ะฟ้า

เดี๋ยวประกาศผลที่ไปร่วมสนุกอีกทีนะจ๊ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 กันยายน 2557 16:52:15 น.  

 

โอ้โห คุณฟ้า ^^
ยังกับหนังเลยค่ะ
เปลี่ยนไปมา เหมือนผจญภัยในต่างแดน
น่าเขียนเป็นหนังสือฮาวทูจริงๆนะ
ต้องมีประโยชน์กับคนที่อยากไปแต่ไม่เคยไปแน่
เคยอ่าน
ประมาณเคล็ดลับการเที่ยวอินเดียอะไรอย่างนี้อะ
คุณฟ้าลุยมาก สุดยอดเลยค่ะ

สนุกอะ มาช้าไปหน่อยแต่จะตามติดเลยค่า

ขอบคุณมากๆนะคะ

 

โดย: lovereason 16 กันยายน 2557 21:01:52 น.  

 

มาขอบคุณที่อ่าน อินเดีย..ไม่ใช่แค่ทัชมาฮาล จนจบค่ะ แม่บุญพึ่งคุยกับสามีเมื่อวานว่า เรา..คิดถึงอินเดียมาก เมื่อไหร่? จะกลับไปอีก ?

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวสนุก ๆ มีเนื้อหาสาระในแง่มุมต่างๆ ให้ได้อ่านกัน นับเป็นการเดินทางที่แตกต่างจากนิตยสาร พ็อคเก็ตบุคตามท้องตลาดที่เขียนแต่เรื่องสถานที่เดิมๆ นี่แหละ ถึงบอกว่า อินเดีย..ไม่ใช่แค่ทัชมาฮาล

 

โดย: Maeboon 16 กันยายน 2557 23:06:56 น.  

 

เป็นการผจญภัยอย่างแท้จริง
แค่การเดินทางก็มันส์แล้วนะคะ
แต่การเที่ยวมีเรื่องแบบนี้มันสนุกขึ้นเยอะ
มีเรื่องราวกลับมาเมาท์ให้เพื่อนๆฟังได้อีก
หนึ่งมีเรื่องราวเอ๋อๆเรื่องการเดินทางเยอะค่ะ
แบบว่านั่งรถผิดสายก็เคย แต่โชคไม่ดีเหมือนคุณฟ้าเพราะขึ้นรถไปแล้ว อิ้ววว

สงสัยจะพลาดเอ็นทรีก่อนหน้านี้ เดี๋ยวหาเวลากลับไปอ่านนะคะ ช่วงนี้แอบยุ่งนิดนุง

เย้ย

เกือบกดโหวตบล็อกอาหาร


กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

 

โดย: AdrenalineRush 16 กันยายน 2557 23:12:59 น.  

 

เฮ่อ ! พลอยโล่งอกไปด้วยเลยค่ะ
อ่านไป ลุ้นไปแทบแย่แน่ะ
ตอนเช้าตกรถไฟแล้วยังโดนเจ้าหน้าที่ออกตั๋วให้ผิดอีก
ดีนะคะที่ไหวตัวทันแล้วเปลี่ยนตั๋วใหม่ได้
ถึงจะเสียเวลาไปอีกหนึ่งคืนก็ยังดีกว่าขึ้นรถไปผิดขบวน

ขอชื่นชมว่าน้องฟ้าใจสู้และกล้าหาญจริงๆค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

 

โดย: ฝากเธอ 16 กันยายน 2557 23:38:35 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

คือถ้าใครจะไปอินเดีย ต้องมาบล๊อกนี้นะคะ
ข้อมูลแน่นปึ๊ก สุดยอดจริง ๆ ค่ะคุณฟ้า

 

โดย: Close To Heaven 16 กันยายน 2557 23:47:54 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 17 กันยายน 2557 3:25:28 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า

 

โดย: กะว่าก๋า 17 กันยายน 2557 6:12:39 น.  

 


ตื่นเต้นจัง เก่งมากเลยเดินทางคนเดียว Guawahati อยู่ในแคว้นอัสสัม

ป้าเคยไปค่ะแต่ไม่ได้ไปคนเดียวมีคนจัดพาไป ปันจาบยังไม่เคยไปค่ะ

โหวตท่องเที่ยวค่ะ


กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: พรไม้หอม 17 กันยายน 2557 11:19:04 น.  

 

ทุลักทุเลกว่าจะได้นั่งรถไฟอินเดีย ข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว

ยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าคนที่มีฐานะร่ำรวยจะเคยเห็นสภาพที่วาชิเห็นบ้างหรือเปล่า ผู้บริหารประเทศคงไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีเวลามาตรวจดูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน

 

โดย: สำรวจฟ้า IP: 58.137.161.226 17 กันยายน 2557 13:23:57 น.  

 

ตามมา
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog

 

โดย: เริงฤดีนะ 17 กันยายน 2557 16:18:34 น.  

 

แม้ภาพจะน้อยแต่เป็นการบรรยายที่ได้เห็นภาพอย่างชัดเจน
และได้อารมณ์มากๆ เลยค่า
อินเดียยังเป็นจุดที่น่าตื่นเต้นของคนที่อยากแสวงหาเช่นกัน อิอิ


มาส่งกำลังใจให้จ้า




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog



 

โดย: Rinsa Yoyolive 17 กันยายน 2557 20:23:27 น.  

 

อ่านแล้วลุ้นมากค่ะ กว่าจะผ่านวันนั้นไปได้นะคะ
ตอนนี้ก็โล่งไปเปลาะนึงแล้วนะคะ

 

โดย: ALDI 17 กันยายน 2557 22:14:46 น.  

 


Like ให้เป็นคนที่ 1
ลุ้นจนโล่งอกเลยค่ะ...เฮ้อเหนื่อยแทนเลยค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 19 กันยายน 2557 7:40:07 น.  

 

มีงี้ด้วย เปลี่ยนชานแบบนี้ได้ไง แบบนี้สับคนกันแย่เลย

ท่าทางเหนื่อยน่าดูเลยนะครับ เจอเรื่องแบบนี้

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 20 กันยายน 2557 17:34:19 น.  

 

ปาดเหงื่อ โฮะๆๆๆๆๆ ผจญภัยดีเหลือเกินแม่เอ๊ย ต้องตื่นตัวตลอดเวลาเลยนะเนี่ย เพลียแทนเลย

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 5 ตุลาคม 2557 15:07:20 น.  

 

ตกรถไฟในเมืองห่างไกลที่ไม่มีบริการนักท่องเที่ยวนี่มันสุดยอดพานิคเลยครับ
เจ้าหน้าที่ก็แสนจะมีใจให้บริการ ไม่รู้จักจันดิการ์ จับไปลงอัสสัมละกัน 555
ดีที่ตอนออกตั๋วผิดแล้วไปบอกเขา เจ้าหน้าที่ตรงนั้นแก้ให้นะ แล้วแต่คนจริงๆ ดวงกุดก็เจอเจ้าหน้าที่ห่วยไป
กิ่งสะเดาใช้แปรงฟัน อื้มหืม เทียบกับบ้านเราแล้ว มันย้อนยุคไปกี่ปีเนี่ย? สะเดาเป็นผักที่ผมเกลียดกลิ่นมันที่สุด
สุดท้ายก็รู้สาเหตุ (และยังคงเกิดอยู่ร่ำไป) รถไฟเปลี่ยนชานชลา เลยไปขึ้นผิดคัน -*- ลำบากนักท่องเที่ยวจริงๆแถบนี้

 

โดย: ชีริว 11 เมษายน 2560 22:06:12 น.  

 

สัญญาว่าจะกลับมาอ่านอย่างละเอียด ๆ แน่นอนจ้ะฟ้า

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 20 เมษายน 2560 5:42:29 น.  

 

เป็นพี่ก็คงใจฝ่อ ใจเสียเหมือนกัน ตกรถแล้วยังจะโดนไปที่ ๆ ไม่ได้ตั้งใจไปอีก เค้าก็ดี๊ดีเนาะ กุลีกุจอช่วย เกินคาดเลย

ความรู้ใหม่พี่อีกแล้ว กิ่งสะเดาไว้สีฟัน เอ แล้วขมมั้ยนั่น

ครั้งต่อไป ต้องเมียงมองหาคนที่ไปปลายทางเดียวกับเรา เกาะติดเค้าเลย เนาะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 24 เมษายน 2560 19:47:09 น.  

 

อ้าวววว!!!!!เฮ้ยยยยย....อ้ออออ....หัวใจจะวาย....หลานฟ้าตรู

จบแบบ หนังไทยชัดดดด.....

 

โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) 7 กุมภาพันธ์ 2562 0:56:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.