Group Blog
All Blog
|
เมื่อสามีเธอเป็นแต๋ว บทที่ 4 หน้า 5 รุ่งเช้า ต้นข้าวบอกเธอว่าจะพาไปเที่ยวหาดราไวย์ หญิงสาวตื่นเต้นเตรียมตัวแต่เช้า สองหนุ่มก็ขอตามพี่ๆ ไปด้วย เพราะนานๆ ที ได้เที่ยวกับต้นข้าว ต้นข้าวพาเธอดูแหล่งขายมุก พอเห็นเธอสนใจเขาก็ซื้อให้ และพากินอาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งจากเรือ ทำเอาข้าวหอม ฟิน ละลายไปกับความอร่อย ข้าวหอมเห็นพระองค์ขาวที่อยู่บนเขาไกลๆ เธอถามเขาว่าข้างบนเขาใช่วัดหรือเปล่า เขาก็พาเธอไป ทางขึ้นเขาคดเคี้ยวและชันมากกว่าเขาที่ข้ามไปหาดป่าตองอีก ระหว่างทางขึ้นมีปางช้างเล็กๆ นักท่องเที่ยวลงถ่ายรูปกันบางคนก็ขับมอเตอร์ไซส์ขึ้นมา ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร “สวย มากๆ” เธอทั้งตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์บนยอดเขา “พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี”เธอดูป้ายบอกแล้วอ่านตาม“ใครที่มาภูเก็ตต้องมาไหว้พระบนเขานี้ ไม่งั้นมาไม่ถึง” “ฉันมาถึงแล้วน่ะสิ” เธอหมุนไปรอบๆ ลานหน้าพระที่หันไปทางตะวันออก “อธิษฐานขอพรท่านสิ จะได้มาอีก” เขาบอกเธอ ข้าวหอมเข้าไปไหว้พระขอพร แล้วอธิษฐานขอให้เธอได้มาเที่ยวภูเก็ตอีกครั้ง พอไหว้พระเสร็จพากันเดิมดูลมชมวิวบนลานหน้าพระ ซึ่งมีโอกาสได้เห็นท้องทะเลสุดตา “โห เจ้ ทะเลฝั่งนี้ ทำไมน้ำทะเลสีเขียว เมื่อวานที่หาดป่าตองน้ำยังเป็นสีฟ้าเลย” “ฝั่งนี้เป็นฝั่งตะวันออก เป็นฝั่งที่อยู่ใต้ลม ส่วนฝั่งตะวันตกได้รับลมจากทางเหนือก็จะมีสีฟ้า” “จริงเหรอเจ้ “ ทำหน้าฉงนฉงาย “จริงสิ ตอนเย็นจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพกันไหมล่ะ” อีกฝ่ายก็พูดเป็นเรื่องจริงจัง “เคยได้ยินแต่ชื่อ” เธอเคยได้เห็นพวกนักท่องเที่ยวเอาไปลงในเน็ต “เจ้ ถ้าอยากมาอีกจะได้มาไหม?” “ไหนทีแรกไหนบอกว่าจะไปอุดรไง” เข้าย้อน “อุดรก็ไป ภูเก็ตก็มา นะนะ” เธอเข้าไปเกาะแขนเขาเพื่อออเซาะ ต้นข้าวไม่ตอบแกล้งเดินหนีเด็กขี้อ้อนคนนี้ หลังจากลงจากเขา เขาพาแวะหาอะไรกินและแวะเที่ยวสวนสัตว์ และแวะไปนั่งเล่นที่หาดในหาน หาดเล็กๆ แต่ก็สวย มีนักท่องเที่ยวพอสมควร แต่ไม่พลุกพล่านเท่าป่าตอง พอได้เวลาก่อนพลบค่ำเขาก็พาไปแหลมพรหมเทพ “ต้องมาก่อนเวลาหน่อย คนเยอะมาก” เขาบอก แล้วก็เป็นจริงอย่างว่า หาที่จอดรถแทบไม่มี นักท่องเที่ยวต่างมารอชมพระอาทิตย์ตกดินจนแทบไม่มีที่ยืน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่ตก ก็พากันเดินลงไปที่แหลม บนแหลมไกลลิบๆ ตรงนั้น มีนักท่องเที่ยวไต่ลงมาพอสมควร มีพระพุทธรูปองค์เล็กตั้งอยู่ มีหมายเลขเหมือนเป็นพิกัด ข้าวหอมมองอย่างสนเท่ห์ “คืออะไรน่ะเจ้” ต้นข้าวเองก็ไม่ได้รู้ประวัติที่มาดีนัก “ผู้พิชิตแหลมพรหมเทพมั้ง” เขาตอบ ทำเอาข้าวหอมเงิบไปกับคำตอบที่ไม่น่าจะจริง ข้าวหอมสนุกถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ดึงสองหนุ่มไปถ่ายเป็นที่ระลึก ต้นข้าวเห็นอีกฝ่ายสนุกก็ยิ้ม เธอดึงเขาไปถ่ายรูปด้วยเหมือนกัน “Memory เต็มหรือยัง?” เขาอดเหน็บเธอไม่ได้ ได้เวลาที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้านักท่องเที่ยวยืนเรียงกันเพื่อดูภาพความสวยงามของธรรมชาติ พระทิตย์ดวงโตค่อยๆเลื่อนต่ำลง จนจรดกับเส้นขอบฟ้าไกล แล้วหายไปในทะเลพร้อมกับความมืดที่มาเยือน “สวยจัง” ข้าวหอมถ่ายรูปไล่เป็นสเต็บ “ดีนะวันนี้ไม่มีเมฆบัง” “เมื่อกี้ได้ขอพรด้วยนะ” “ขออะไรอีก ตอนนี้พระอาทิตย์ไม่รับคำขอใดใดแล้ว” “ทำไมล่ะ คำขอไม่ได้ยากเย็นเลยสักหน่อย พระอาทิตย์ไม่ได้เหนื่อยด้วย” “ขออะไร?” ต้นข้าวมองคนกวนคำขำๆ “ขอให้เจ้พาฉันมาชมพระอาทิตย์ตกทะเลที่นี่อีกไงคะ” หน้าเจ้าเล่ห์ยิ้มพรายเอ่ย ต้นข้าวยิ้มแทนคำตอบ เห็นว่าเย็นมากแล้วทั้ง 4 เลยกลับบ้าน รถติดที่ท่าฉลองบ้างเล็กน้อย พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯตอนเย็น ยังพอมีเวลาเที่ยวในช่วงเช้า ข้าวหอมแอบเห็น ป้ายอบเซาว์น่า “เจ้ ฉันอยากอบเซาว์น่า” เธอไม่รอช้าที่จะได้ทำกิจกรรมที่ไม่ควรขาด หากใครมาภูเก็ตแล้วไม่ได้ไป ภูเก็ตแฟนตาซี หาดป่าตอง ไหว้พระบนเขา หรือไปดำน้ำที่หมู่เกาะพีพี เข้าสปา อบเซาว์น่า มันก็เหมือนมาไม่ถึง สำหรับภูเก็ตแฟนตาซีกับหมู่เกาะพีพี ข้าวหอมไม่ได้ไป เพราะแค่ 2 วันที่ผ่านมา เที่ยวในเมืองกับหาด 2-3 ที่ ก็หมดวันแล้ว และมาครั้งนี้ไม่ได้วางแผนเพื่อมาเที่ยว เธอมาฉลองปีใหม่กับอากงของต้นข้าว “เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเช้ามีเวลาจะพาไป” ต้นข้าวบอกเธอ คืนนั้นอากงก็ยังให้จัดอาหารพิเศษจากร้านดังในภูเก็ตมาเลี้ยงครอบครัวเหมือนเดิม “อากงก็แก่แล้วนะ หวังว่าจะได้อุ้มเหลนก่อนตาย” อากงพูดแล้วส่งแก้วเล็กๆ ให้ต้นข้าว เขารับมา ถืออย่างเลี่ยงไม่ได้ มันน้ำเมื่อวานชัดๆ ดื่มไปแล้ววูบวาบกว่าจะนอนหลับ “ครับอากง” เขาตอบรับ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียใจ “อากงก็มีแต่หลานชาย ได้เจอกับข้าวหอมก็รู้สึกมีความสุข ได้อุ้มเหลนเร็วๆ นี้ก็จะดี อากงไม่รู้ว่าว่าจะอยู่ไปถึงวันไหน สมบัติมีเยอะ มันก็ไม่ใช่ว่าทำให้เรามีความสุขได้” “คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ ต้นกับข้าวหอมเองก็วางแผนมีหลานให้พวกเราค่ะ และอากงจะได้อุ้มเหลนแน่ๆ” แม่พูดเอาใจอากง “อากงยังแข็งแรง อากงยังหนุ่มยังแน่นอยู่นะคะ” ข้าวหอมทำเสียงออดอ้อนอีกคน อากงได้แต่หัวเราะชอบใจ ทั้งสะไภ้และหลานสะไภ้ที่พูดถูกใจ “ดื่มสิต้น วันนี้ 2 แก้วเลย” อากงบอก ต้นตาเหลือกลานทำหน้าไม่ถูก จะคายก็ไม่ได้ ในที่สุดอากงบังคับให้เขาดื่มไปสามแก้ว คนอื่นๆ คุยกันอย่างสนุก ข้าวหอมก็สนุกไปกับเขาด้วย โอห์มเอากีต้าร์มาเล่นเพลงกล่อนทุกคนฟังเพลินๆ ต้นข้าวไม่ไหวอยู่คนเดียวขอตัวไปนอน ส่วนข้าวหอมนั่งร้องเพลงกับโอห์มและอาร์มต่อ จนดึกมาก ข้าวหอมยังไม่อาบน้ำเลยขอตัวไปนอนอีกคน เข้ามาในห้องเห็นต้นข้าวนอนหงายหายใจหนักหน่วง “หลับแล้วเหรอ” เธอถามเขา เธอหายเข้าไปอาบน้ำ กลับออกมาหันรีหันขวาง ต้นกึ่งกลับกึ่งตื่น “กี่โมงแล้วเนี่ย” เขาเอ่ยถาม นอนเหงื่อแตกอยู่ตั้งนานคิดว่าน่าจะเช้าแล้ว “5 ทุ่มเจ้” “เพิ่ง 5 ทุ่มเองเหรอ นอนตั้งนานแล้วนะ” “เจ้เป็นไรหรือเปล่า เข้ามานอน ชั่วโมงเดียวเอง จะสว่างแล้ว เมาหรือไงคะ?” ต้นข้าวบอกไม่ถูก เขาคิดว่าหลับ แต่ก็ไม่หลับ มันวูบวาบ ร้อนจนเหงื่อออก “งั้นก็นอนสิ จะเดินแก้ผ้าไปถึงไหน” เขาต่อว่าเธอ “เค้าไม่มีเสื้อใส่” “ฮึ ทำไม?” “ก็ใส่ไปหมดแล้ว เหลือชุดเดียวไว้ใส่กลับ” “ทำไมเอามาน้อย” “ก็เจ้บอก 3 วัน ก็เลยเอามาแค่ 3 ชุด” ทำไมเธอไม่เผื่อบ้าง.... “อืม..ก็ไม่ต้องใส่” เขาพูดราวเป็นเรื่องปกติ ก็จริงนะ ข้าวหอมก็ชอบแก้ผ้าอยู่เป็นประจำ “ก็ได้” หญิงสาวเดินมาที่เตียง เธอนั่งลงแล้วเบียดตัวลงข้างต้นข้าว ต้นข้าวลุกนั่งแล้วดึงเธอไปนอนข้างในส่วนเขานอนด้านนอก “เดี๋ยวตกเตียงหล่อนไปนอนด้านใน แล้วก็ห่มผ้าด้วย” ข้าวหอมล้มลงนอนต้นข้าวปิดไฟ สักพักเสียงหายใจลึกของข้าวหอมบอกว่าหลับแล้ว พร้อมกับมือที่กอดก่ายเขาไว้ ต้นข้าวกึ่งหลับกึ่งตื่น เขาพยายามหลับตา แต่เสียงหัวใจที่เต้นระทึกเขานับจนถึงพัน มันไม่ได้ช่วยทำให้หลับได้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของข้าวหอมพอทำให้เขาสงบลงได้บ้าง ที่นอนคับแคบ แค่ตัวเขาก็แทบจะล้นเตียง เขาเบียดข้าวหอมเข้าไปอีกดึงเธอมาซบที่อก ดึงมือน้อยๆ ข้าวหอมมากอดเขาไว้ อกตูมน้อยๆ นิ่มๆ บดเบียดแผ่นอกเขา ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดอะไร นอกจากขยะแขยงขนลุก ก่อนนี้รู้สึกรังเกียจที่ต้องทนมองร่างอ้อนแอ้น เปือยเปล่าต่อหน้า แต่ตอนนี้เขาชินชา จนกระทั้ง
โดย: unitan วันที่: 11 มกราคม 2563 เวลา:7:38:38 น.
|
unitan
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Link |
บล็อกนี้ยังไม่ได้โหวตให้ค่ะ