บล๊อกที่แล้ว (จิ่วจ้ายโกว 01) เราพาไปเที่ชมในอุทยานแห่งชาติ จิ่วจ้ายโกวมาแล้ว 3 ทะเลสาบอันสวยงาม วันนี้เรามาต่อกันเป็นตอนที่ 2 ซึ่งเป็นบล๊อกสุดท้ายของการมาเที่ยว จิ่วจ้ายโกว 1 วันเต็มๆ กับ Quality Express tour ... คราวที่แล้ว เราไปทางซีกขวามือตามแผนที่ เที่ยวเรียงไปตั้งแต่ Mirror Lake >> Arrow Bamboo Lake >> Five flower Lake ส่วนวันนนี้ เราก็จะมาต่อซีกขวาที่หนึ่ง และตามด้วยซีกซ้าย และไปจบกันที่ ขาของตัว Y ครับ  แผนที่เที่ยว อช.จิ่วจ้ายโกว เราจะเที่ยวจากปีกขวาของตัว Y ก่อน ตามวงกลม ข้อมูล จิ่วจ้ายโกว .. ความหมาย หุบเขาเก้าหมู่บ้าน เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535 ..............  ภาพ: CR. wikipedia ถัดลงมาจากทะเสาบ 5 สี หรือทะเลสาบนกยูง เราก็จะเดินเข้าไปชมน้ำตกที่ว่าสวยที่สุดของอุทยานจิ่วจ้ายโกว .. คือ น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall) ตรงนนี้ เราจะต้องใช้เวลาเดินพอควร ก็ถือว่าออกกำลังไปในตัว (จขบ. มีปัญหานิดหน่อย เลยไม่ได้เดินเข้าไปถ่ายภาพน้ำตกด้วยตนเอง เพียงเดินอยู่ด้านล่างของสายน้ำ).. ชื่อของน้ำตกแห่งนี้ได้มาจากลักษณะของน้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ เหมือนสายไข่มุกที่ส่องประกายระยิบระยับ ... น้ำตกธารไข่มุกเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานจิ่วจ้ายโกว และมีรูปทรงคล้ายพัด โดยมีความกว้างถึง 160 เมตร และสูงจากระดับน้ำทะเล 2,433 เมตร และมีสายน้ำที่ไหลลดหลั่นยาวถึง 310 เมตร นอกจากนี้ น้ำตกธารไข่มุกยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องไซอิ๋วอีกด้วย ที่ทะเลสาบเลยจะมี mascot ไซอิ๋วมายืนคอยให้นักท่องเที่ยวได้  เดินเข้ามาจะเจอน้ำธารน้ำไหลบ่าลงมาตามไหล่เขา เรื่องเล่า "น้ำตกธารไข่มุก หรือ น้ำตกนั่วรื่อหล่าง ซึ่งเป็นภาษาทิเบต แปลว่า ยิ่งใหญ่และอัศจรรย์ มีเรื่องเล่าว่า แต่เดิมบริเวณนี้ไม่ได้เป็นน้ำตกเป็นเพียงพื้นที่ต่างระดับเท่านั้น ต่อมาเมื่อพระสงฆ์รูปหนึ่งกลับมาสู่ดินแดนนี้ได้ซื้อกงล้อมาฝากเด็กหญิงชาวธิเบต เด็กหญิงคนนั้นเล่นกงล้อนี้และเดินมาจนถึงดินแดนแถบนี้ และสอนน้องสาวของเธอเล่นกงล้อนี้ด้วย ปีศาจโรซาไม่พอใจจึงเตะเด็กสาวนี้จนกงล้อกระเด็นพ้นไปจากผานี้ ทันใดนั้นกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากก็โถมพัดกลุ่มปีศาจนี้ลงไปจากภูเขา ที่ราบต่างระดับนี้จึงกลายมาเป็นน้ำตกตราบเท่าทุกวันนี้"  ร่มรื่นตามทางเดินที่เป็นสะพานไม้ จากจุดชมวิวน้ำตกธารไข่มุก เราเดินลงมาตามธารน้ำ จะมีสะพนให้เลือกเดินทั้งสองฝั่งน้ำ ชมน้ำที่ไหลลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ ชอบจุดไหนก็หยุดถ่ายภาพกันตรงนั้น เดินสบายๆ ฟังเสียงน้ำตกไปเรื่อยๆจนถึงลานจอดรถ ที่ปกติเขาจะมารอรับเราที่นั้น ทางเดินทั้งหมด ก็ยาวพอสมควร ... ข้างลานจอดรถจะมีห้องน้ำสะอาดให้เข้าด้วยนะครับ ต่อมาเราขึ้นรถตู้ VIP (กรุ๊บเราเช่าพิเศษ) หรือถ้าท่านใดมาเอง ก็รอขึ้นบัสสีเขียวของทางอุทยานได้นะ ออกไปทานข้าวที่ภัตราคารของอุทยาน ซึ่งอาหารก็เป็นแบบโต๊ะจีน มากมายเหมือนทุกวัน เยอะจนทานไม่หมด แต่รถชาดจะออกค่อนข้างมัน (อาจเป็นเพราะคนพื้นที่ที่เป็นชาวทิเบตเขาอยู่พื้นที่ที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี เช่นหุบเขาจิ่วจ้ายโกวนี่ก็สูงกว่า 2400 เมตรขึ้นไปแล้ว เลยต้องสะสมไขมันกันไว้สู้หนาว : จขบ. ) ทานข้าวเที่ยงเสร็จ ไปต่อกันที่ซีกซ้ายของอักษร Y ที่ทะเลสาบยาว (Long Lake) ทะเลสาบยาว เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดใน จิ่วจ้ายโกว ครอบคลุมพื้นที่ 930,000 ตารางเมตร (ประมาณ 581 ไร่) แหล่งที่มาของ ทะเลสาบยาว เป็นหิมะละลายจากภูเขา มีต้นสนซีดาร์ทั่วภูเขาล้อมรอบทะเลสาบ เมื่อมองจากระยะไกลสะท้อนเป็นทิวทัศน์อันงดงามเปรียบได้กับพระราชวังหยกในชั้นฟ้า ที่ด้านข้างของทะเลสาบมีต้นไม้เก่าที่เชื่อว่าเป็นเทพผู้พิทักษ์ทะเลสาบยาว ในฤดูหนาวทะเลสาบจะจับตัวแข็งหนาถึง 60 เซนติเมตร จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเล่นสเก็ต อีกที่หนึ่งที่สวยงามไม่แพ้จุดอื่นๆใน จิ่วจ้ายโกว ก็คือ สระหลากสี หรือ Five Colored Pool สระน้ำหลากสี (Wu Cai Chi) เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่เล็กที่สุดแต่สวยงามที่สุดในหุบเขาจิ่วจ้ายโกว สีสันของสระน้ำเกิดจากการตกตะกอนของหินทรายเวอร์ทีนบนพื้นทะเลสาบที่ไม่เรียบ รวมถึงสาหร่ายหลายชนิด .... อย่างไรก็ตาม ตำนานเล่าว่าสระน้ำแห่งนี้เป็นที่ที่เทพธิดาเซโมใช้สระผมและหวีผม และเทพเจ้าต้าเกะก็มาที่นี่ทุกวันเพื่อนำน้ำมาให้ สีของสระน้ำกล่าวกันว่ามาจากสีแดงของเซโมที่หลุดออกจากใบหน้าอันสวยงามของเธอและทำให้สีของน้ำเปลี่ยนไป ... สระน้ำหลากสี อยู่ที่ระดับความสูง 2,995 เมตร ความลึก 6.6 เมตร พื้นที่ 5,645 ตารางเมตร  ทางเดินลงสู่สระน้ำหลากสี  ดูนักท่องเที่ยว ว่าเยอะขนาดไหน แต่น่าเสียดายที่ตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่จิ่วจ้ายโกวไป ทำให้สระน้ำหลากสีแห่งนี้น้ำลดลงไปเยอะมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามความสวยของสีน้ำและบรรยากาศรอบข้างก็ยังสวยและอลังการมากๆอยู่ดี จากสระน้ำหลากสี เราเดินต่ออกไปรอรถที่จะวนมารับเราบนเส้นทางที่ออกไปจากอุทยาน ................  ออกจากสระหลากสี (Five colored Pool) เราก็ลงมาจอดที่ ทะเลสาบแรด ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ใหญ่เป็นที่ 2 รองจากทะเลสาบยาว ความสวยงามของทะเลสาบนี้ดูดได้จากภาพสะท้อนพื้นน้ำในทะเลสาบครับ เขาว่ามาแต่ละฤดูก็สวยไปคนละแบบครับ ทะเลสาบแรด (Rhino Lake) ตั้งอยู่ในอุทยานจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) มีขนาดกว้าง 2 กิโลเมตร มีพื้นที่ 200,000 เมตร เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ เสน่ห์อันน่าประทับใจของทะเลสาบนี้คือ หมู่เมฆและสายหมอกที่สะท้อนทะเลสาบแรดจนแยกไม่ออกว่าส่วนไหนที่เป็นท้องฟ้า ความเปลี่ยนแปลงของทั้งเมฆและหมอกในทุก ๆ เช้า ให้ความงดงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละวันอย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ทะเลสาบแรดเป็นทะเลสาบเดียวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวล่องเรือยอร์ชได้ มีเรื่องเล่าตำนานให้ฟังว่า "ในอดีตมีลามะรูปหนึ่งขี่แรดผ่านมายังทะเลสาบแห่งนี้ ในขณะนั้น ลามะได้ป่วยหนัก แต่หลังจากที่ได้ดื่มน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ก็หายดี จึงได้ทิ้งให้แรดเฝ้าทะเลสาบแห่งนี้ไว้ ทะเลสาบแห่งนี้จึงชื่อว่า ทะเลสาบแรด" นั่นเอง  ที่เห็นด้านขวามือใต้หลังคา คือที่โม่แป้งของชาวบ้าน (ทิเบต) ใช้พลังงานจากน้ำไปปั่นตัวโม่แป้ง  น้ำมาปั่นลูกโม่แป้ง ............................. ออกจากทะเลสาบแรด เราก็กลับมาหน้าอุทยานแห่งชาติจิวจ้ายโกวเพื่อไปขึ้นบัสเรา แล้วเดินทางเพื่อเข้าพักที่ Mijin Hotel ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟความเร็วสูง เจิ้งเจียงกวน ที่เราจะใช้เดินทางเข้านครเฉิงตูในวันรุ่งขึ้น ซึ่งห่างจากเมืองซงพานไม่มาก .... ระหว่างทางผ่านเทือกเขาสูงชัน ปกคลุมด้วยหิมะที่สวยงาม สลับกับหมู่บ้านชาวทิเบต ที่มีวัดและเจดีย์แบบทิเบตที่มองเห็นได้สวยงามมาก  นอกอุทยานจิ่วจ้ายโกว มีคลอง (แม่น้ำ?) ที่ไหลลงมาจากอุทยาน ใสมาก ส่งท้าย จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่ ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 500 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ A5 ของจีน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1992 คำว่า "จิ่วจ้ายโกว" หมายความว่า ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน เนื่องจากในสมัยก่อนมีหมู่บ้านของชาวทิเบตอยู่ 9 หมู่บ้าน ภายในพื้นที่อุดมไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลาย จนเรียกได้ว่าเป็น สวรรค์บนดิน สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบอัลไพน์หลากสี น้ำตก ภูเขา และป่าไม้ แต่ช่วงเวลาที่ถือเป็นไฮไลท์ที่สุดของที่นี่ก็คือ ฤดูใบไม้ร่วง ที่ละลานตาไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีทั่วหุบเขา บทสรุป ถ้าถามผู้เขียนว่า ดินแดนแถบนี้ ( เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตเชียงอาป้า (Aba Tibetan Qiang Autonomous Prefecture) สวยจริงไหม? ก็ขอตอบตรงนี้ได้เลยว่า สวยมากๆเมื่อเทียบกับประเทศอย่างสวิตเซอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แคนนาดา สแกนดิเนเวีย หรือแม้แต่ญี่ปุ่น ที่ผู้เขียนเคยไปเห็นมา ... ไม่น่าเชื่อว่าจีนเขาจะมีธรรมชาติที่สวยงามแบบนี้ ห้องน้ำตามอุทยาน หรือ Service area ของรัฐบาล ปรับปรุงดีขึ้นมากเกือบใกล้เคียงกับ ปตท.บ้านเรา ยังเหลือแต่ที่ของเอกชนที่ยังเหมือนเมื่อก่อนอยู่ ส่วนผู้คนนั้นยังต้องปรับอีกนิดหน่อย (สำหรับคนรุ่นเก่าของเขา..)  คลอง หรือ แม่น้ำหน้าอุทยานจิ่วจ้ายโกว   ขวา : ถ่ายกับไกด์ท้องถิ่น ................................ |