มึนไปตามใจฝัน
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
19 ตุลาคม 2550

เที่ยวเสม็ดภาคอยากตัดจบ(แต่จบไม่ได้อะ) -_-'

หลังจากที่ผมได้ที่พักแล้ว (คืนละ 500 บาท)
เห็นเตียงคู่แล้วก็เซ็งๆ
มาคนเดียว นอนคนเดียวจ่ายคนเดียวเฮ้อ
ช่างมันเหอะ
ตอนนั้นได้เวลาบ่ายโมงแล้ว
เราก็เริ่มปฏิบัติการเดินลุยทั่วหาด
ผมลืมบอกไปว่า เพื่อนสำคัญอีกวง
ที่มากับ iPod ของผมคือ Supercar
วงดนตรีญี่ปุ่นที่ผมเอามาใช้เป็นชื่อบล็อคนั่นแหละ
วงนี้ผมฟังไม่เคยเบื่อเลย
ก็เปิดเพลงแล้วก็เดินๆๆๆ
ผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษไว้
แค่อยากเดินไปเรื่อยๆ
อยากรู้ว่าหาดอื่นๆ เป็นไงบ้าง
แต่ตอนนั้นหิวโคดๆ
ผมเดินจากหาดเทียนท่ีผมพัก
ขึ้นเนินนิดหน่อย


ก็มาถึงหาดวงเดือน
หาดนี้มีใหญ่ดี คนก็เยอะพอสมควร
ผมก็กินข้าวเติมพลัง
มื้อแรกของผมคือ กระเพราเนื้อครับ 50 บาท
อยากกินกุ้ง หมึกเหมือนกัน
แต่แพงอะ T_T
อาหารถูกสุดที่นี่ก็ราคาราวๆเนี่ยแหละครับ
ทำใจ
อยู่ที่นี่ผมหมดเงินไปกับค่าน้ำกระป๋องเยอะมาก
(กระป๋องละ 20) คือเดินมากแดดแรงด้วย
ก็เลยกระหายน้ำโคดๆ



เออ ผมไม่ได้ทิ้งขยะนะ
แค่ถ่ายรูปน่ะ แล้วก็เอากระป๋องไปทิ้งขยะครับ
มีหลายคนมาเที่ยวแล้วทิ้งขยะไม่เป็นที่เลย
แย่มากๆ

(รูปที่ผมล้างเป็นม้วนแรกนะครับ ถ่ายแค่อ่าววงเดือน)
ส่วนหาดอื่นต้องรออีกม้วนนึง
ส่วนขาวดำ ผมพลาดอย่างแรง
ถ่ายเสียไปทั้งม้วนครับ พลาดมากๆ
ใช้ LCA แล้วลืมไปว่าต้องกดค้าง
)

ภาพนี้ผมใช้ฟิวเตอร์ PL(เพิ่งใช้เป็นเฮ้ออ)
สนุกดีแฮะ ไว้จะเล่นอีกเยอะๆ


สีฟ้ามันเข้มข้นดีอิๆ


เจอเด็กเล่นน้ำดูสนุกดีนะ
น่าอิจฉาจังเราไม่มีใครเล่นด้วยฮือๆ


เรือมันยังมีคู่ของมันเล้ยยย ฮือๆๆ




ส่วนภาพนี้ภาพสุดท้ายของฟิล์มม้วนนี้ครับ


ฝรั่งคนนี้คงอารมณ์คล้ายๆ เราละมั้ง


หลังจากที่หาดวงเดือนแล้ว
ผมก็เริ่มลุยต่อ
เป็นอ่าวลุงหวัง
ซึ่งอยู่ติดกันกับวงเดือนเลย เดินแป๊บเดียว
ที่นี่มีจุดเด่นตรงสะพานปูนยื่นออกมา
บรรยากาศที่นี่ก็คึกคักพอประมาณ
วันนั้นมีการประกวดสุนัขด้วย
เห็นคนจุงสุนัขมาตรึมเลย มีกิจกรรมอะไรก็ไม่รู้
ก็เป็นที่สนุกสนานของเจ้าของดีนะ

ถัดจากอ่าวลุงหวังก็จะเป็นหาดนวล
ที่นี่เป็นหาดเล็กมาก น่าจะเล็กที่สุดที่เกาะนี้เลยนะ
แขกที่พักที่น่ีส่วนใหญ่มีแต่ฝรั่ง
สาวฝรั่งนุ่งบิกีนี่กันทุกคนเลย
ถ่ายไว้รูปนึงด้วย -_-'
บิกีนี่ที่ดี-_-'
เป็นหาดที่เหมาะกับมานอนพักจริงๆ
เพราะสงบและส่วนตัวมากๆ

ส่วนหาดอื่นๆ
ผมรู้สึกว่ามันเหมือนๆกันไปหมด
ต่างกันตรงที่พักของแต่ละที่ที่จะมีวิธีการทำให้ที่พักตัวเองน่าสนใจยังไงมากกว่า
ผมยอมรับว่าเดินๆๆไปก็จำอะไรไม่ค่อยได้
ถ่ายรูปไปตามเรื่องตามราว มั่วๆไปหมด
เดินไปถึงหาดทรายแก้ว
ที่นี่มีจุดเด่นคือรูปปั้นนางเงือกหรืออะไรสักอย่าง
เห็นเขาถ่ายรูปกันทุกคนเลย
เราก็ถ่ายมั่ง เดี๋ยวไม่อินเทรน
แล้วก็ดื่มน้ำกระป๋องอีกกระป๋อง
ก่อนจะเริ่มเดินกลับไปที่หาดเทียน
รู้สึกเหนื่อยๆ และก็เริ่มสงสัยตัวเองว่า
เราทำไปทำไมวะ
แต่จริงๆ น่าจะสงสัยตั้งแต่แรกว่ามาที่นี่ทำไมมากกว่านะ-_-'
เพราะมาคนเดียวถ้านอนอยู่เฉยๆก็ยังไงๆอยู่
ก็เลยต้องเดินๆๆๆ
และก็เดินแบบนี้แหละ
ตอนเดินกลับไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่
อาจจะเพราะเริ่มเบื่อๆและชินตากับทะเลด้วยแหละ
ก็รอถ่ายรูปสุดฮิตพระอาทิตย์ตกดิน

เรากลับไปที่หาดเทียนนวดขาอยู่สักพัก
ประมาณ5โมงก็เริ่มเตรียมตัว
แบกขาตั้งกล้องออกลุยอีกรอบ
ผมเดินไปทางอ่าวลุงดำแทน
เพราะที่นั่นมีสะพานไม้
เหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ
แต่ผมอาจจะโชคร้ายไปหน่อยไม่ได้ศึกษาทิศเลย
มันไม่ใช่ทิศตะวันตก
-_-'
ผมจึงได้แต่แบกขากล้องมาเก้อๆ
ไม่ได้ถ่ายไรเลย
สุดท้ายก็เลยฟ้าเกือบๆมืดไปรูปนึงแบบเซ็งๆ
ประมาณว่าไหนๆ ก็แบกมาละถ่ายๆไปซะรูปนึงละกัน
เด๋ียวจะไม่คุ้มที่แบกมา-_-'

ผมกลับไปกินข้าวที่พัก
ก็เลือกผัดผงกระหรี่หมู
แต่เขาทำไก่ให้...
ก็ได้ รอก็นานไม่เลือกแล้ว
(หรือจริงๆแกทำเสร็จนานแล้วแต่รู้ตัวว่าทำผิดเลยแกล้งไม่เสิรฟ์
ดูอาการเราหิวจัดๆเลยมาเสิรฟ์ฟะ แผนสูงนะเนี่ย)
เป็นผัดผงกระหรี่ที่ผมแน่ใจว่าไม่เขาก็ผมคงต้องเข้าใจคำว่าผงกระหรี่กันใหม่
เพราะน่าตามันคือไก่ผัดไข่เละๆมากกว่าจะเป็นผงกระหรี่นะ-_-'
แต่ก็โอเคอะ สั่งไปแล้วนี่ของก็แพง
แล้วก็มีเรือ่งบ้าบออีกเรื่องที่ขอบ่นคือ

"ไอส์ทีกระป๋อง"
ผมก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
ไอส์ทีกระป๋องมันก็ขายราคาเท่ากับเครื่องดื่มกระป๋องทั่วไปแหละโว้ยย
มันไม่ได้คิดราคาแพงขึ้นอะไรสักกะหน่อย
ทำไมเพ่ขายผม 30 บาทฟะ
ผมแค่กินข้าวกับเครื่องดื่มที่ไม่อัดลมจะได้ไม่ท้องอืด
เฮ้อ ให้ตายเถิดเซ็งจริงๆ
เป็นมื้อที่แสนเซ็ง

เออ แล้วยุงก็เยอะมากๆ
ยุงที่นี่โหดโคดๆ
เรียกว่าเป็นมื้อแห่งความทรงจำเลย

ด้วยความท่ีไม่รู้จะทำอะไรดี
หลังจากอาบน้ำเสร็จก็โทรศัพท์หาคนนั้นคนนี้
และสิ่งที่ได้ก็ความรู้สึกแย่กับตัวเอง
เรานี่เลวทรามชั่วร้ายแท้ๆ
ผมเข้านอนประมาณสองทุ่มได้
แต่เป็นค่ำคืนที่ยาวนาน
เพราะกว่าจะหลับ(ผมไม่ได้หลับ2ทุ่มมานานมากกกกก)
พอหลับแล้วอยู่ๆก็ตื่นมาตอน5ทุ่มกว่าๆ
แล้วก็หลับๆตื่นๆอยู่หลายทีมาก
กรรมคงสนองผมละมั้ง
เฮ้อ
ไว้รอฟิล์มอีกสองม้วนแล้วมาเล่าตอนจบนะค๊าบ

*ประกาศข่าวนิดหน่อยนะครับ
ในวันอังคารนี้วง The Passion of Anna
จะมีขึ้นเล่นหน้ามาบุญครองฝั่งโตคิวนะครับ
เวลา บ่ายโมงครึ่งโดยประมาณ
คือวงเราไปเล่นก่อนเปิดงานจริงน่ะครับ
คนที่เราติดต่อเขายืนยันแล้วว่าได้เล่นแน่
ก็ใครว่างหรือไปแถวนั้นลองมาดูวงเรานะครับ
** ซีดีวงเรา
จะวางขายในงานแฟต บู๊ทsupersub.org
กับบู๊ทหนังสือแฮปเพนนิ่งนะครับ
คุณแนนนักร้องของวงเธอไปขายหนังสือท่ีนี่
ซีดีวงเราจะเป็นแผ่นไรท์นะครับ
เป็นเดโม่ แต่จะใช้แผ่นยี่ห้อดีๆ
ของฟิลลิปครับ
จะมีปกสวยๆ(กำลังออกแบบกันอยู่)โดยคุณแนนและเก้งมือกลอง
ราคาน่าจะ 50 บาทนะ
ไว้เจอกันครับ




 

Create Date : 19 ตุลาคม 2550
4 comments
Last Update : 19 ตุลาคม 2550 22:59:04 น.
Counter : 1088 Pageviews.

 

พี่วัชเขียนเก่งจังค่ะ
ไปคนเดียวท่าทางจะเหงานะเนี่ยะ
รึเปล่า อิอิ

 

โดย: ไนน์ IP: 124.121.139.151 19 ตุลาคม 2550 23:07:39 น.  

 

วัชมีความสามารถพิเศษในการเขียนเรื่องตลกให้เป็นเรื่องเศร้า
และเรื่องเศร้าให้มันเป็นตลกแฮะ 555

โอ๋ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องวัชครั้งนี้
มันเป็นผลกรรมมาจากสี่ปีก่อนที่น้องวัชไม่ยอมไปเกาะกูด
ทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนไปเสม็ดแทน ส่วนวัชทิ้งพวกเราไปเกาะช้าง

มันต้องเป็นผลกรรมจากอันนั้นแน่ๆ

 

โดย: พี่กีบมั่นใจ IP: 210.213.10.102 19 ตุลาคม 2550 23:49:49 น.  

 

โอ้ว นั่นสิ เราลืมไปเลยนะเนี่ย
T_T
ฮ่าๆๆๆ นัดล้างตากันดีก่า
ไปเกาะกูดกันนนนนพี่น้องค๊าบ

 

โดย: วัชเจียเหว่ย 19 ตุลาคม 2550 23:54:24 น.  

 

น่าไปจังค่ะ รอได้งานก่อนเถอะ แล้วจะหาเรื่องไปมั่ง

 

โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส 20 ตุลาคม 2550 0:20:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]