งานดนตรี Tiger Translate ปีที่ 3
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมไปสนุกสนานกับงานดนตรี ของ Tiger Translate
ซึ่งปีนี้จัดเป็นที่ 3 แล้ว
ผมก็เป็นคนที่ไปมันทั้ง 3 ปี
แล้วก็ไปฟรีตลอด (ฮ่าๆๆ)
งานไทเกอร์ฯ นี้เขาบอกว่าเป็นงานดนตรี และ ศิลปะ
แต่จริงๆสำหรับผมจุดเด่นคือดนตรีนั่นแหละ
แต่ละปีเขาก็จะมีวงจากต่างประเทศเป็นตัวจูงใจ
ขอเกริ่นย้อนคร่าวๆ ดังนี้
ปีแรกจัดที่สวนลุมไนท์ ศิลปินจากเมืองนอกคือ Radio dept.
สำหรับปีนี้เราชอบมาก เพราะมีเวทีของค่าย so on ด้วย มันโคด
และวงอย่าง Radio dept. ก็เจ๋งมาก
ซาว์นของวงนี้ มีกลิ่นของ Shoegaze และ Dreampop ด้วยนะ(แนวโปรดปรานของเรา)
อย่างชุด Lesser Matters (2003) มันใช่เลยละ
แต่ปีนั้น คนไทยหลายๆๆๆ คน ไม่ปลื้มเท่าไหร่ (ได้ยินเสียงโห่ด้วย -_-' คนแม่งรอดูโมเดิร์นด็อก)
เพราะวงนี้มันไม่ใช่วงที่จะเล่นกับคนดูกลางแจ้ง พื้นที่เปิด
เป็นวงที่เหมาะกับคนดูในฮอล เล่นในกลุ่มประมาณนึงจะดีกว่า
ปีที่สอง จัดแดนเนรมิตเก่า ศิลปินเมืองนอกคือ New Young Pony Club
สำหรับวงนี้ผมไม่รู้จักมาก่อน แต่ดูกลุ่มพี่ๆ ที่ฟังเพลง(พี่ลิ้มนั่นแหละ ฮิๆ)
จะกริ๊ดกร๊าดเป็นพิเศษ
อีกอย่างเราได้บัตรฟรีจากพี่แนน ก็เลยไปก็ไป
ปีนั้นเราไม่ได้ดูวงไทยสักเท่าไหร่ (เพราะมีแต่วงที่ไม่ชอบทั้งนั้น ฮ่าๆ)
ไปถ่ายรูปเล่นและก็ได้ดู New Young Pony Club
ตอนนั้นโชคดี มุดไปหน้าสุดของเวที ถ่ายรูปได้เยอะเหมือนกัน
ส่วนแนวเพลง วงนี้จะเป็นแนวแดนซ์ๆ หน่อย
ก็สนุกดี คนที่ไม่เคยฟังมาก่อนก็สนุกได้
สำหรับสองปีที่ผ่านมา
ผมเขียนลงบล็อคด้วยนะ ยังไงไปหาอ่านเอาเอง ถ้าอยากจะอ่านอะนะ
ซึ่งผมถ่ายภาพไว้พอสมควร
เวลาไปดูคอนเสิรต์ถ้าเราพกกล้องไป
ผมจะรู้สึกว่าสนุกกับการถ่ายภาพ แต่ทำให้สนุกกับดนตรีน้อยลง
บางทีเราอยากปลดปล่อยความบ้าๆ บอๆ ในตัวเราให้เต็มที่
อยากกระโดดโลดเต้น
ถ้ามีกล้องมันก็ไม่สะดวก
แล้วยิ่งปีนี้ ศิลปินที่มาเป็น Placebo (ถ้าว่ากันจริงๆ ดังที่สุดกับสองวงก่อนหน้านี้ที่เคยจัดมากเลยละ)
ยิ่งรู้สึกอยากกระโดดให้เต็มที่
สำหรับสถานที่ที่จัด ปีนี้ไปจัดที่ ลานจอดรถ เอสพานาด รัชดา
ซึ่งไม่รู้ยังไง เสื้อแดงดันไปเส้นรัชดาพอดี
โชคดีที่งานไม่ล่ม ไม่งั้นคงเซ็งแย่
เมื่อวานผมไปสะพานควาย ไปอัดรูปให้พี่ที่ออฟฟิศ
แล้วก็แวะไปหาพี่กีบ ไปดูคอนเสิรท์ด้วยกัน
ไปถึงห้างเอสพานาด ประมาณ 6 โมงกว่าๆ
เจอ พิทและแก้ว
แล้วเราก็เข้าไปรับบัตรกัน
ซึ่งตอนนั้นวงดนตรียังไม่ได้เริ่มเล่น
แต่ก็มีเพลงจากดีเจที่มาเปิดแผ่น
ตอนแรกก็เปิดฝรั่ง วงไรสักอย่าง
แต่เพลงต่อมาที่เขาเปิด เราชอบมาก จนแทบอยากจะไปหาซื้อมาฟัง
เป็นเพลงไทยโบราณ เดาว่าน่าจะ 30-40 ปีที่แล้วเลยละ
ผมไม่รู้ว่าชื่อเพลงอะไร แต่จังหวะมันสนุกมาก โดนใจมากเลย
เพลงมันร้องว่า "ผู้ชายสมัยนี้นั้นมีแปลกๆ อะไรประมาณเนี่ย"
(มาทราบภายหลังว่า ดีเจเขาอยู่กลุ่ม สุดแรงม้าา เพลงที่เขาเปิดจะเป็น ดิสโก้ฟังค์ ฟังคกี้แจส เฮาส์ และลูกทุ่ง ฮ่าๆๆ ชอบว่ะ มันไปกันได้เว้ย)
พอรับบัตรเสร็จ เราก็มานั่งกินข้าว
ที่ร้านแกงกะหรี่ โคโค่ อะไรสักอย่าง
รสชาติก็โอเคนะ แต่พี่กีบบอกว่ามันดังมาก แต่เราก็ลงความเห็นว่า
ถ้าเทียบกับราคาและความดังที่เกินจริง
มันก็งั้นๆอะ แต่สำหรับเราโอเคกว่าพี่กีบนะ เพราะพี่กีบเลี้ยงอะ(ฮ่าๆๆๆๆ)
ที่เราชอบและประทับใจกลับเป็นชาร้อนที่เขาเอาเลม่อนมาฝานบางๆไว้ที่ก้นแก้ว
หอมอร่อยจัง (ไม่รู้ใช่เลม่อนชีลี อะไรนั่นที่ กอล์ฟ ไมค์โฆษณาป่าว ฮ่าๆ)
เราเดินกลับเข้าไปงานที ตอนนั้นวงแรก Abuse The Youth กับ Lula
ก็แปลกๆดี Abuse the youth นี่วงไทย แนวพังค์พ็อพ
กับ Lula พ็อพหวานๆ น่ารัก
ออกมาแปร่งๆหูดี แต่ชอบเพลงสุดท้ายที่เล่นคู่กันนะ
Lula เล่นคียบอร์ด กับซาว์นพังค์ของ abuse
ผมว่าเป็นช่วงเดียวที่รู้สึกว่ามันเข้ากันที่สุด
จากนั้นก็เป็น มหาจำเริญ แนว Electronic แดนซ์ๆ ประมาณน้ัน
วงนี้เล่นได้สนุกมาก
จากนั้นก็ต่อด้วย Flure วงนี้ขวัญใจวัยรุ่นอยู่แล้ว
แต่เราว่าวันนั้นเล่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ
ซาว์นดูด้อยๆไงก็ไม่รู้
แล้วช่วงเล่นด้วยกันก็มีน้อยไปหน่อย
ต่อมา Moderndog ก็เล่นดีตามมาตรฐาน
ช่วงเล่นกับ ริค เป็นช่วงที่เราประทับใจที่สุด
ริคร้องเพลง ที่เราชอบที่สุดของ Moderndog
"สิ่งที่ไม่เคยบอก"
ร้องได้หลอนได้ใจมาก ชอบมากเลย
เพลงที่แจมกันอีกเพลง ก็เจ๋งดี เพลงของ สาว สาว สาว
"รักคือฝันไป"
ออกแนวฮาเฮดี ดนตรีอัลเทอเนทีฟ กับเสียงร้องหลอนๆ ของริค มาร้องเพลงนุ๋งนิ๋งของสาว สาว สาว
:D
และต่อมาก็คือ Placebo วงที่หลายคนตั้งใจมาดูวงน้ีวงเดียว
สำหรับเราแล้ว สนุกสมใจดี
โดดมันมาก
ขนเพลงใหม่มาเล่นเยอะเลย
For What It's Worth, Battle for the Sun, Devil in the Details, Ashtray Heart
ส่วนเพลงเก่า ที่จำได้ก็มี Special K, Every You Every Me,
Song To Say Goodbye จากชุดที่แล้ว
มีหลายเพลงท่ีเราไม่คุ้นเท่าไหร่
จริงๆ ผมก็เหมือนหลายๆคน อยากให้เล่นเพลงเก่าๆ มากกว่า โดยเฉพาะชุดแรก
เพลงมันดิบ โดดมันดีนะ (พวก nancy boy, 36 degree พวกเนี่ย)
หลังจากจบ Placebo คนก็เริ่มเดินกลับ
แต่จริงๆ ยังมีวงที่เล่นต่อ
คือ Paradox กับ ดีเจ สุหฤทธิ์
เราลืมไปว่า เวทีคราวนี้เขาทำเป็นเวทีสองชั้น
ซึ่งวงอื่นก็ไม่ได้มีปัญหาเท่าไหร่
แต่วงอย่าง Paradox นี่
เป็นวงที่เหมาะจะเล่นข้างล่างมากกว่า
เพราะเป็นวงที่ชอบเล่นกับคนดู
พอไปเล่นชั้นสอง มันเลยจืดๆ ไปหน่อย
แต่ถึงกระนั้นก็เหอะ
เราก็ยังสนุกกับ Paradox ได้อยู่ดี
ขนเพลงที่เราชอบๆ อย่าง ฤดูร้อน, มีแต่เธอ, นักมายากล
(เสียดายไม่เล่น 3 มิติ ชอบเพลงนี้มากเลย เป็นเพลงที่เราชอบสุดของวงนี้เลยละ)
ช่วง Paradox เล่นเป็นช่วงที่เราได้โดดบ้าๆบอๆ ได้มากที่สุด
เพราะคนเริ่มเดินออก มีพื้นที่
แล้ววงก็บ้าๆ บอๆ โยนของเล่น ขนมมาให้(โยนปีโป้ กับโดโซะมาให้ ฮ่าๆ)
Paradox เล่นไป 6 เพลงได้มั้ง จำไม่ได้
แล้วต่อด้วย ดีเจ สุหฤทธิ์
ซึ่งการเล่นชั้นบนของ ดีเจสุหฤทธิ์นี่ จบเลยนะ ผมเดินออกเลย
เพราะมองไม่เห็นดีเจเลยด้วยซ้ำ
วันนั้นเดินกลับกับพี่กีบ แวะกินน้ำที่แมคโดนัลด์
เลยเจอพี่ซ้ง กับพี่โจ ซึ่งบ้านอยู่ทางเดียวกัน
ก็เลยกลับด้วยกันเลย ^^'
ถึงบ้านตี 1
รู้สึกปวดกระดูกคอนิดๆหน่อยๆ
สงสัยเราจะแก่เสียแล้ว :)
| Create Date : 21 มีนาคม 2553 |
| Last Update : 21 มีนาคม 2553 12:37:29 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 1143 Pageviews. |
|
 |
|
|
| โดย: ... IP: 10.11.1.144, 58.137.199.116 วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:12:14:12 น. |
|
|
|
| โดย: วัช IP: 203.144.144.164 วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:0:23:00 น. |
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
