มึนไปตามใจฝัน
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
7 กุมภาพันธ์ 2553

Bangkok Express

"เมื่อความเบื่อหน่ายมาย่างกรายในจิตใจ
หัวสมองที่แล่นน้อยนิดจะส่งพลังงานไปทั่วร่างและกลั่นกรองออกมาเพื่อทำสิ่งไร้สาระ"
(watmeari)




สัปดาห์ที่ผ่านไป ผมได้เจอกับผู้หญิงสองคน
ที่ผมไม่รู้จักนามของเธอ
แต่วีระกรรมของเธอ มันช่างทำให้ผมติดตราตรึงในใจยิ่งนัก



ผู้หญิงคนแรก อายุอานามมากอยู่
เราเจอกันครั้งแรกที่กลางถนน!
ผมจำหน้าของเธอไม่ได้นัก
แต่แผ่นหลังเธอของมันช่างบาดใจเสียจริง
อะอะ อย่าเพิ่งคิดว่าเธอใส่ชุดโป๊ เว้าหลังหรืออย่างไร มันถึงได้บาดใจผม
เธอใส่เสื้อผ้ารัดกุมมิดชิดครับ

ในวันพุธที่แสนเบื่อหน่ายและรถติด
ตอนแรกผมมีแผนะจะไปดูหนัง แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ได้ดู
เลยจะกลับบ้าน
แต่วันนั้นรถก็ติดอย่างบ้าระห่ำ
ผมคิดว่าถ้ารถเมล์มา ผมคงไม่ได้นั่งแน่ๆ
ผมเลยยอมเดินไปอีก 1 ป้าย เพื่อจะได้ขึ้นก่อนคนอื่น
จึงเดินไปที่สวนลุมและก็นั่งรอรถเมล์

เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน ประมาณครึ่งชั่วโมงได้
รถเมล์คันแรกก็ผ่านไป คนอย่างแน่น
อีกไม่นานนัก 10 นาทีต่อมา คนเริ่มเบาบาง
แต่ก็ไม่มีที่นั่ง ผมจึงสงวนท่าทีวางเฉย

แต่แล้วอีก 10 นาทีต่อมา ก็มีรถหนึ่งคัน
ผมไม่แน่ใจว่ามีที่นั่งหรือเปล่า
แต่ท่ีแน่ๆ มีคนยืนสองคน คือกระเป๋ากับอีกคนยืนออตรงประตู กำลังจะลง

รถคันนี้ค่อนข้างจะทำให้ผมหวั่นไหวพอควร
เพราะมันเล่นจอดเลนขวาสุด
ผมละหวั่นใจเสียจริงว่ามันจะไม่มาจอดริมฟุตบาท(อดขึ้นน่ะสิ)

ในจังหวะที่รถติดผมก็พยายามเดินออกไปกลางถนน แล้วก็โบกมือ(เปิดประตูเด้)
และนั่นคือจุดที่ทำให้ได้เจอกับผู้หญิงคนแรก.....



//ตัดภาพมาเย็นวันเสาร์


ผมนั่งรถเมล์สาย 177 จากสายใต้ใหม่กว่า
เพื่อไปสีลม
ตอนขึ้นเราก็ไม่ทันดูว่ามันวิ่งผ่านอะไรบ้าง
ผมมาพบว่า เป็นรถเมล์สายที่ไม่ควรจะขึ้นจริงๆ
เพราะมันวิ่งได้ส้นเท้ามาก
วิ่งจากไหนไม่รู้ละ แต่มาโผล่สายใต้ใหม่กว่า
แล้วก็ไปทางปิ่นเกล้าแล้วเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลศิริราช!!!
เท่านั้นไม่สาแก่ใจ เลี้ยวจากศิริราชไปออกสามแยกบ้านแขก!!
สำหรับจุดนี้ผมคิดว่ามันบ้าบอมาก
ยังไม่พอครับ แทนที่มันจะวิ่งไปวงเวียนใหญ่แล้วไปทางสะพานตากสินแล้วเข้าสีลม
มันเสือกไปลาดหญ้า แล้วค่อยมาขึ้นสะพานตากสิน
ผลคือ ติดบรรลัย ติดมันทุกจุดที่มันวิ่ง
จนผมคิดว่า มันวิ่งบ้าไรวะ ใครเขาวิ่งแบบนี้กัน
แล้วผมก็ตอบตัวเองได้ภายใน 3 วิ(ฉลาดจังเรา)
"เออ ก็เพราะไม่มีใครวิ่งกัน มันเลยต้องมีรถเมล์คันนี้วิ่งมารับคนไง
ถ้ามีเงินก็ไปแท็กซี่ หรือขับรถเองสิวะ"

พรรณนามายาวเยียด ผมขอย้อนกลับไป ณ จุดที่ทำให้เจอกับผู้หญิงคนที่สอง
เราเจอกันที่ รถเมล์สาย 177 เธอขึ้นป้าย หน้าคาร์ฟู
สำหรับเธอคนนี้แสนประทับใจมาก
เธอขึ้นรถเมล์ด้วยรอยยิ้มสดใส
หน้าขาว กับรอยยิ้มของเธอ มันช่าง.....


//ตัดกลับไปที่วันพุธ


ใน Chungking Express หนังสุดแสนประทับใจ เป็นหนังที่ผมดูหลายรอบเหลือเกิน
มีฉากคลาสสิคที่หลายคนเอามาเล่น และเอามาล้อ
คือฉากเจอที่พระเอกวิ่งชนผู้หญิงคนนึง จากภาพสปีดต่ำ มาสู่การหยุดภาพนิ่งสนิท
แล้วมีเสียงบรรยายว่า
"At the high point of our intimacy, we were just 0.01cm from each other. I knew nothing about her. Six hours later, she fell in love with another man. "

ผมก็ไม่คิดว่าเราจะได้เจออะไรแบบในหนัง
ในจังหวะที่ผมออกไปกลางถนน(เพื่อจะขึ้นรถเมล์)
ภาพดูเชื่องช้าเนิบนาบ
สปีดของภาพถูกหยุดนิ่งเมื่อผู้หญิงคนนั้น วิ่งมาชนผม
แล้วก็มีเสียงผมบรรยายว่า
"ณ จุดที่เราห่างกัน 0.1 เซนติเมตร
ผมไม่รู้จักเธอ
อีก 1 นาทีต่อมา เธอก็ลงนั่งที่นั่ง ท่ีเหลือตัวเดียว ที่ซึ่งควรจะเป็นของผม....."


เวลาหนึ่งชั่วโมง ที่ผมเฝ้ารอ
ถูกทำลายเพียงระยะ 0.1 เซนติเมตร โรแมนติคสาดดดดดดด

ชื่อไทยของ Chungking Express มีชื่อว่า "ผู้หญิงผมทอง ฟัดหัวใจโลกตะลึง"

สำหรับก็คิดชื่อตอนนี้ว่า "ยัยเจ๊ผมขาว ปาดหัวใจโลกตะลึง" ...



//ตัดมาวันเสาร์
ผู้หญิงคนที่สองที่เข้ามาชีวิตของผม
เธองามเฉิดฉายเหลือเกิน

เธอย่างก้าวอย่างช้าๆ และมั่นใจ
เธอเดินอย่างช้าๆ แล้วมาหยุดตรงหน้าผม โอ้ววว ไม่นะ...
แล้วก็เธอก็นั่งรถตรงเบาะหน้าผม
ผมหวั่นไหวมาก
คุณรู้ไหมว่า ผมรู้สึกอย่างไร.....


15 นาทีก่อนหน้านั้น

รถเมล์ติดแหงกมากที่สี่แยกบ้านแขก
วันนั้นเรามีนัดกับพี่ที่สีลม นัดเจอกันแล้วไปกินเนื้อย่างกัน
ซึ่งผมก็สายมากแล้ว
จิตใจก็ร้อนรุ่ม
ผมรู้ชะตาตั้งแต่รถเมล์สายนี้วิ่งมาเส้นโรงพยาบาลศิริราชแล้วละ
ยิ่งมาออกสี่แยกบ้านแขกนี่ รู้เลยยาวแน่
เพราะสี่แยกบ้านแขก เส้นนี้เหมือนลูกเมียน้อย
เป็นถนนเล็กๆ ที่ปล่อยไฟเขียวนิดนึง แล้วปล่อยไฟแดงยาวๆ
ในจังหวะที่รถติดอย่างยาวนาน "หน้าห้างคาร์ฟู"
รถเมล์ก็เริ่มเคลื่อนตัว
ผมคิดว่าเอาละ จะได้หลุดจากตรงน้ีเสียที
(ตอนนั้นผมยังเข้าใจว่าหลุดแยกนี้แล้วรถเมล์จะไปตรงรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่)
แต่แล้วรถเมล์วิ่งไปได้นิดเดียวแล้วก็หยุด
ผมบ่นในใจว่า เวร แม่งปล่อยไฟแดงแล้วเหรอ
แต่เปล่าครับ
รถเมล์จอดรับยัยหน้าสวยนั่น!
แล้วรถเมล์ก็รีบออกตัวอย่างเร็วเพื่อให้พ้นแยกนี้
แต่อนิจา เราเป็นคันแรก.....
ของไฟเขียวรอบต่อไป อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก(คลั่งมากตอนนั้น)



คือตอนที่ลงนั่งตรงเบาะหน้าผม ผมอยากจะถีบเบาะเธอจนแทบขาดใจ
เธอบ้าหรือเปล่ารถเมล์จอดนาน 15 นาที เปิดประตูทิ้งไว้ เสือกไม่ขึ้น
พอไฟเขียว เสือกเป็นคนดีมีระเบียบรอรถจอดเข้าป้ายแล้วขึ้น
แล้วผลที่ได้คือ รถไม่พ้นไฟเขียว เพราะต้องเสียเวลาจอดและรับคนคนเดียวขึ้นรถ
ทั้งที่จริงๆ สามารถเดินมาขึ้นรถได้เพราะตอนรถติด จอดห่างกับป้ายแค่ 2 ช่วงคันได้

จิตตอนนั้นแตกมาก
สัปดาห์นี้เราเจอผู้หญิงสองคนสองวัย ที่ทำให้ต่อมโรแมนติคพังทลาย


คนแรกทำให้การรอคอยของเราช่างหมดความหมาย

คนที่สองทำให้เวลาที่ไม่ควรจะเสียต้องมาเสียไปเปล่าๆ

โอ้ว หากหว่อง กาไว ทำให้แสงสี สัปประรดกระป๋อง ที่ฮ่องกงโรแมนติคได้


ผมเอง ภาวะรถติดกรุงเทพฯ โรแมนติคได้เช่นกัน!







ว่าแต่ มันโรแมนติคตรงไหนโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย (คลั่งแล้ว)


Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 1:17:15 น. 4 comments
Counter : 1104 Pageviews.  

 
(ขำจนจุกพูดไม่ออก)

สองปีที่ผ่านมานี้ entry นี้ของวัช เจ๋งสุด
พี่กีบขำกระอักไปเลย
เอ๊ะ!...นี่แกกะจะฆาตกรรมพี่แกโดยการทำให้ขำจนตายหรือเปล่า?!? ห๊ะะ นังน้องวัช!


โดย: พี่กีบ IP: 119.31.126.141 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:10:16 น.  

 
แล้วได้กระซิบด่าผู้หญิง2คนนั้นกับซอกประตูรถเมล์รึเปล่าครับ


โดย: yatiko IP: 172.27.57.57, 118.173.142.220 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:23:37 น.  

 
เปล่าครับ ซอกประตูรถเมล์ไม่ใช่ที่เก็บความลับครับ!

ศุกร์ผมจะไปสิมิลัน
ที่นั่นมีหินเรือใบ ผมว่าผมจะไปกระซิบความลับที่นั่นครับ!


โดย: วัช IP: 203.121.160.57 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:17:11 น.  

 
ผู้หญิงสองคนนั้นเค้าจะรู้มั้ยน๊า..ว่าเค้าได้ตราตรึงอยู่ในใจของชายคนหนึ่ง


โดย: ก่าแป๊ง วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:24:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]