ความพยายามที่ไม่ได้มาพร้อมกับความสำเร็จ (เสมอไป)
จำได้ว่าฉันพยายามจะเรียนดนตรีอย่างจริงจังครั้งแรกตอนอายุ 11 ขวบ (ถ้าไม่นับตามหลักสูตรที่โรงเรียนต้องสอน) เหตุผลเดียวที่ฉันอยากเรียนตอนนั้นก็คือ มันคงรู้สึกภูมิใจพิลึกถ้าเราได้ไปเดี่ยวดนตรีสักชิ้นคนเดียวอยู่บนเวที แล้วมีพ่อกับแม่มานั่งดูอยู่หน้าเวทีในวันงานโรงเรียน แต่เรียนไปได้เกือบปี เล่นเพลงได้ไม่ถึงครึ่งเล่มของสมุดโน้ต เหลือบมองเพื่อนข้าง ๆ เขาไปไกลกว่าฉันตั้งเยอะ จนแล้วจนรอดความพยายามก็ต้องจบลงไปพร้อม ๆ กับความฝันที่จะได้เดี่ยวเครื่องดนตรีสักชิ้นบนเวทีในโรงเรียนประถม
เขยิบมาเริ่มโตเป็นสาวสักหน่อย ฉันยังไม่ล้มเลิกที่จะเล่นดนตรีให้ได้ คงจะอยากเท่ห์ล่ะมั้ง เลยหากีตาร์ถูก ๆ สักตัวมาฝึกเล่น งานนี้ต้องขอบคุณพี่ชายฉันจริง ๆ ที่ลงทุนออกเงินซื้อให้ แถมไปเลือกให้เองกับมืออีกต่างหาก ลองเสียง ตั้งสายให้เสร็จสรรพ ตอนนั้นไม่รู้เลยจริง ๆ ว่ากีตาร์สายหนึ่งอยู่ตรงไหน เพราะความไม่รู้ คู่มือการสอนกีตาร์จึงมีวางอยู่เต็มห้อง แผนผังการจับคอร์ดถูกติดไว้ตามฝาผนังห้อง จำได้ว่าสมัยที่หัดเล่นใหม่ ๆ ต้องฝึกจับคอร์ดกันจนนิ้วข้างซ้ายด้านหนากันไปข้าง กลับมาจากโรงเรียนเปิดประตูห้องวางกระเป๋า ถุงเท้าไม่ยอมถอด วิ่งเข้าไปคว้ากีตาร์ก่อนเป็นอันดับแรกเลย เป็นอย่างนี้อยู่เป็นแรมเดือน จนเล่นได้ ร้องได้ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเล่นเป็นเพลง แต่พอเจอเพลงที่ต้องจับคอร์ดยาก ๆ เป็นต้องเปิดผ่านไปทุกที แล้วฉันก็มารู้ว่าเพลงที่เหมาะกับคอร์ดง่าย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเพื่อชีวิต เพลงแบบจับได้ 4 คอร์ดก็เล่นได้เป็นเพลง แล้วมันก็เล่นแต่เพลงพวกนี้ ไม่ยอมพัฒนาไปไหนสักที...ฝีมือเลยยังไม่ไปถึงไหน แต่กีตาร์ตัวโปรดกลับหายไปซะก่อน
กลับมานั่งทบทวนความพยายามในการเล่นดนตรีของตัวเองสมัยอายุ 11 ขวบ จนถึง ณ วันนี้ มันก็ยังเป็นเหมือนเป็ดอยู่ดี ที่เล่นได้ ร้องได้ แต่ก็ยังบินได้ดีไม่เท่านก และว่ายน้ำไม่เก่งเท่าปลา แม้ว่าความพยายามของฉันไม่มากพอเท่ากับนักดนตรีมืออาชีพ แต่ที่สำคัญคือฉันได้ทำมัน ฉันได้เรียนรู้ แม้ฉันจะไม่สามารถเล่นดนตรีเพื่อแสดงให้ใคร ๆ เห็นได้ ไม่สามารถขึ้นเวทีอวดใคร แต่อย่างน้อยฉันก็ได้แสดงให้ตัวเองได้เห็น และได้เห็นอารมณ์ตัวเอง
คงเหมือนตอนนี้ที่ตำหนิตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าความพยายามยังไม่พอ มันเลยไปไม่ถึงขั้นเทพ เรายังอยู่กับสิ่งที่ทำไม่เต็มที่ มันเลยไม่ก้าวหน้าไปไหน แต่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด และแรงกระตุ้นจากคนรอบข้างกลายเป็นความกดดันที่ฉันต้องยอมรับและเผชิญกับมัน ทำให้ฉันเดินหันหลังกลับไม่ได้ มีแต่จะต้องเดินหน้าต่อไป ปลอบใจตัวเองอยู่หลายครั้งว่า แม้จะเดินแบบกระเผก ๆ ก็ต้องไปให้มันถึงเส้นชัย นี่อาจเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ฉันสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่า ความพยายามจะมาพร้อมกับความสำเร็จ (จริง ๆ )
ปล. วันนี้รู้สึกคิดถึงกีตาร์ตัวแรกอย่างประหลาด เลยเขียนเรื่องนี้ขึ้นเพื่อรำลึกถึง...ถ้าได้จับกีตาร์อีกสักครั้ง ฮัมเพลงเบา ๆ คลอไปกับเสียงกีตาร์คงจะดี
ตีสามสี่สิบสี่ 11 มิ.ย. 51
Create Date : 11 มิถุนายน 2551 |
|
7 comments |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2551 19:02:09 น. |
Counter : 588 Pageviews. |
|
|
|