[Deep-Review] Shiseido : White Lucent Intensive Spot Targeting Serum+ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปูเป้ได้มีโอกาสได้ไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Shiseido : White Lucent Intensive Spot Targeting Serum+ โดยมีนักวิจัยจากสถาบัน Shiseido มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและคอนเซปต์เบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ แม้จะเป็นที่น่าเสียดายว่ารูปที่ผมถ่ายไว้ในงาน ทั้งสไลด์และอะไรต่อมิอะไรนั้นถูกห้ามเผยแพร่เพราะเป็นความลับของทางบริษัท แต่เอาเป็นว่าปูเป้จะขอเล่าผ่านตัวอักษรแทนละกันนะฮะ Shiseido : White Lucent Intensive Spot Targeting Serum+ (30ml / 4,700 THB) ถูกพัฒนาสูตรขึ้นมาจากการที่สถาบันวิจัย Shiseido ค้นพบว่า "จุดด่างดำที่ลดเลือนยาก" นั้นติดแน่นทนนานเหตุเพราะเซลล์ Keratinocytes ที่มีปริมาณของ Melann เข้าไปกระจุกสะสมตัวอยู่นั้นจะมีประสิทธิภาพในการแบ่งเซลล์น้อยลง ยิ่งมีเม็ดสีเมลานินมากเท่าไหร่ การแบ่งตัวก็น้อยลงเท่านั้น เป็นเหตุที่ทำให้บริเวณที่เป็นจุดด่างดำนั้นสามารถกำจัดออกได้เพราะว่ากลไลการผลัดเซลล์ตามธรรมชาตินั้นสูญเสียไปนั่นเอง... ทีนี้ก็เลยเป็นที่มาของเทคโนโลยี Melano Crush Energizer (MCE) โดยมีการทำงาน 3 อย่างก็คือ (1) เพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ Keratinocyte โดยมีกราฟแสดงให้เห็นว่าส่วนผสมของ MCE สามารถเพิ่มปริมาณ Anenosine Triphosphate (ATP) ซึ่งเป้นสารที่เป็นพลังงานของเซลล์ได้มากขึ้น (2) ให้การแบ่งตัวของเซลล์ผิวเป็นไปตามธรรมชาติ และ (3) คือเร่งการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งในขั้นตอนที่ (2) และ (3) นี้ทาง Shiseido ใช้ส่วนผสมของ Potassium Methoxysalicylate หรือ 4MSK ที่เป็นสารสิทธิบัตรของเขาเองในการทำหน้าที่นี้ (และจากข้อมูลที่เคยให้ไปในบทความก่อนหน้านี้ 4MSK ก็ยังขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ด้วย) ส่วนผสมที่เพิ่มปริมาณของ ATP ในเทคโนโลยี Melano Crush Energizer นั้นน่าจะเป็นสารสกัด Angelica Acutiloba Root Extract และ/หรือ Rehmannia Chinensis Root Extract เพราะนี่เป็นส่วนผสมองชนิดใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิม แต่จากการพยายามค้นหาข้อมูลนั้นยังไม่พบว่าสารสกัดสองชนิดนี้จะเกี่ยวกับการเพิ่ม ATP แต่ Angelica Acutiloba Root Extract นั้นถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ Whitening อื่น ๆ เหมือนกัน ส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งหลักมีทั้งหมด 3 ตัว เริ่มต้นจาก Tranexamic Acid ที่ลด Inflammation ลดการส่งสัญญาณที่จะไปกระตุ้นการผลิตเมลานิน กับ Potassium Methoxysalicylate จะขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase แบบ competitive inhibition ซึ่งคล้ายกับ Arbutin และ 2-0-Ethyl Ascorbic Acid (ซึ่งส่วนตัวก็งงนิดหน่อยว่าทำไมตัวนำหน้าถึงเป็นเลข 2 แทนที่จะเป็นเลข 3) ในปริมาณที่ไม่โดดเด่นนัก อย่างน้อยก็ช่วยเป็นแอนติออกซิแดนท์ได้ ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างเกี่ยวกับ Ethyl Ascorbic Acid คือมันช่วยลดการเกิดความหมองคล้ำแบบฉับพลันหลังเจอรังสี UV ได้ เพราะในปี 2004 ทาง Shiseido ได้แสดงให้เห็นว่าในเซลล์ผิวของเรา มีสาร Pre-Melanin (DHICA) กระจายอยู่ โดยปกติสารตัวนี้จะโปร่งใสไร้สี แต่พอสัมผัสกับรังสี UVA ก็จะเป็นสีน้ำตาลภายในไม่กี่ชั่วโมง เป็นการพิสูจน์ว่าเมลานินก็สามารถเกิดขึ้นภายนอกเซลล์เมลาโนไซต์ได้ สารไวท์เทนนิ่ง 2 ใน 3 ชนิดที่ใช้ในเซรั่มขวดนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ Shiseido เท่านั้น (เมื่อดูจากประวัติของสารไวท์เทนนิ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น จะเห็นว่า Shiseido จัดเป็นแนวหน้าที่มีนวัตกรรมด้านไวท์เทนนิ่งมากที่สุดรายหนึ่งทีเดียว) แต่ปัจจุบันสัทธิบัตรคุมครองได้หมดอายุลงแล้ว (ยกเว้น Potassium Methoxysalicylate) เราจึงเห็นแบรนด์อื่น ๆ ที่ใช้ส่วนผสมเหล่านี้ได้ ส่วนผสมที่ไมได้ถูกนำมากล่าวถึงแต่คิดว่าน่าสนใจก็คือ Glucosyl Hesperidin ที่อาจจะผลิตโดยบริษัท Hayashibar ซึ่ง Hesperidin เป็นหนึ่งในไบโอฟลาโวนอยด์ของพืชตระกูลส้ม สารชนิดนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งการไหลเวียนโลหิตเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะมีผลกับ "โทนผิว" ได้เหมือนกันเพราะการไหลเวียนของโลหิตที่ดีก็จะทำให้โทนผิวดูเปล่งปลั่งมากกว่าผิวที่มีการไหลเวียนโลหิตไม่ค่อยดี (Source : Melanin Hyperpigmentation Inhibitors from Natural Resources, Alpha Glucosyl Hesperidin, Shiseido Whitening Research) Ingredients : Water (Aqua), SD Alcohol 40-B (Alcohol Denat.), Glycerin, PEG-150, Tranexamic Acid, Cetyl Ethylhexanoate, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Potassium Methoxysalicylate, Dimethicone, Isostearic Acid, Phenoxyethanol, Carbomer, Aminomethyl Propanediol, Butylene Glycol, Lauryl Betaine, Xanthan Gum, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, 2-0-Ethyl Ascorbic Acid, Fragrance (Parfum), Disodium EDTA, Tocopheryl Acetate, Glucosyl Hesperidin, Polyquartinium-51, Sodium Metabisulfite, Limonene, Sodium Hyaluronate, Angelica Acutiloba Root Extract, Benzyl Benzoate, Serine, Rehmannia Chinensis Root Extract, Artemisia Princeps Leaf Extract, Sodium Benzoate. ส่วนผสมของ Alcohol ในอันดับที่สองเพื่อช่วยให้เนื้อเซรั่มแห้งไวและเสริมการดูดซึมของส่วนผสมสำคัญลงสู่ผิว แม้จะมี Glycerin และ Sodium Hyaluronate เพื่อพยายามที่จะเติมความชุ่มชื้นเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความแห้งกร้านได้ แต่ผมก็จะแนะนำให้คนที่ใช้เซรั่มตัวนี้ดูแลเรื่องความชุ่มชื้นด้วยการใช้ Lotion Mask หรือ Moisturizer ที่เหมาะกับสภาพผิวเป็นประจำด้วย เนื้อเซรั่มเป็นเจลบางเบาที่ค่อย ๆ แห้งแนบสนิทไปกับผิวอย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ จากการทดลองใช้พบว่าไม่ก่อปัญหาการลอกเป็นขุยเมื่อใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ทำการทดสอบ มีส่วนผสมของน้ำหอมเป็นกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ ไม่ฉุนจนเกินไป ความรู้สึกหลังทดลองใช้พบว่าสิวที่เกิดใหม่จะจางลงไวขึ้น และรอยสิวหรือจุดด่างดำที่มีอยู่แล้วก็จางลงอย่างสังเกตุได้ใน 2 สัปดาห์ เชื่อว่าหากใช้ติดต่อกันไปเรื่อย ๆ จะเห็นผลที่ชัดเจนกว่านี้ โดยรวมแล้ว Shiseido : White Lucent Intensive Spot Targeting Serum+ นั้นเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อลดเลือนจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอที่คาดหวังผลได้ แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็น่าพอใจกับผลที่ได้ทีเดียวล่ะ (ส่วนจะคุ้มค่าเงินที่จ่ายมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ละคนนะ) หากงบประมาณไม่ถึง แต่สนใจอยากได้สารไวท์เทนนิ่งที่คล้ายกัน อาจจะลองหาได้จากแบรนด์ในเครือ Shiseido สำหรับตลาด Masstige อย่าง Aqua Label ที่มีส่วนผสมของ Tranexamic Acid มาลองดูก็จะประหยัดเงินไปได้บ้างครับ สำหรับคำถามว่า "จะแพ้มั๊ย" "ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?" เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้งครับ ข้อดี - ส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งหลากหลาย ออกฤิทธิ์ในหลายกลไลของการเกิดเม็ดสี - รอยสิวและจุดด่างดำเก่า ๆ ที่ค้างเติ่งมานานก็สามารถทำให้จางลงได้ - โทนผิวดูกระจ่างขึ้น - เนื้อบางเบา ไม่มัน ไม่เป็นขุย ข้อเสีย - ปริมาณแอลกอฮอล์เยอะไปหน่อย ควรเติมความชุ่มชื้นให้เพียงพอ - มีส่วนผสมของน้ำหอม - ราคาสูง ***Sponsored Item*** - Shiseido : White Lucent Intensive Spot Targeting Serum+   Create Date : 05 มีนาคม 2555 10 comments Last Update : 8 มีนาคม 2555 0:14:07 น. Counter : 47952 Pageviews. Share Tweet

เทคโนโลยีก้าวไปไวมาก ขอบคุณคุณปูเป้ที่นำความรู้มาแบ่งปันครับ สุดยอดเลยครับ   โดย: xXx IP: 58.137.29.50 5 มีนาคม 2555 19:40:03 น.

ขอบคุณนะค่ัพี่ปูเป้   โดย: Pang IP: 223.207.201.139 5 มีนาคม 2555 19:46:54 น.

ขอบคุณพี่ปูเป้มากค่ะ ^^   โดย: polly IP: 125.25.114.1 5 มีนาคม 2555 19:49:17 น.

เเวะัมาชม ขอบคุณข้อมูล เเละรูปภาำพสวยๆ ค่ะ   โดย: mssuchira 6 มีนาคม 2555 0:19:57 น.

ราคาแพงอย่างมาก... ได้sampleมาลองใช้ ยังไม่เห็นผลประการใด(เพราะให้มาน้อย)ไม่มีอาการแพ้ แต่คงซื้อไม่ลงอ่ะค่ะ เหอๆ   โดย: Gib Gibbon IP: 203.131.217.8 6 มีนาคม 2555 12:00:31 น.

คาดว่าคงหาซื้อ(แถวบ้าน)ไม่ได้แน่นอน   โดย: bb IP: 87.148.179.219 6 มีนาคม 2555 21:19:10 น.

ตอนนี้ที่ยุโรปมีตัวนี้จำหน่ายแล้ว ถูกกว่าเมืองไทยเยอะเลย ขนาด 30 มิล คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,900 บาท   โดย: เปิ้ล IP: 83.82.122.158 13 ตุลาคม 2555 15:02:50 น.

เป็นคนผิวขาว-เหลือง มีกระตั้งแต่อายุ 10 ขวบค่ะ รักษายังไงก้อไม่หาย อย่างมากแค่จางลงนิดหน่อย พอโดนแดดก็กลับมาเห็นชัดขึ้นเหมือนเดิมจนหมอทักว่ามันจะขยายเป็นฝ้าได้ กลุ้มใจมากค่ะ คุณหมอใช้กรดอะไรซักอย่าบมาจิ้มที่กระ เจ็บมากจนทนไม่ไหว ตอนนี้เลิกแล้วค่ะ เป็นคนผิวแห้ง ติดตามคุณปูเป้มาสักปีนึงได้แล้วค่ะ เริ่มมีกำลังใจจะกลับมารักษาผิวแล้ว ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ   โดย: คุณแม่ลูกสอง IP: 125.27.89.254 25 มกราคม 2556 8:15:48 น.

รบกวนสอบถามน่ะค่ะ ตอนนี้มีปัญหาจุดด่างดำจากรอยสิวค่ะ ไม่จางลงเลย สนใจwhite lucent น่ะค่ะ แต่ด้วยราคาที่สูงเกินไป เสียดายตัง อยากถามคุณปูเป้ว่าจะมีผลิตภัณต์ตัวไหนบ้างที่ทำหน้าที่แบบนี้ได้ แต่ราคาถูกลงกว่านี้น่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ   โดย: Pook IP: 115.67.226.183 11 พฤษภาคม 2556 8:24:54 น.

ส่วนตัวใช้มาเกือบปีแล้วค่ะ รอยสิวจางลงแต่ก้ต้องใช้เวลา ส่วนเรื่องหน้าไบร์ทขึ้นก้คอนเฟิร์มค่ะ ดูมีราศี   โดย: แอล IP: 14.207.130.31 21 มิถุนายน 2556 2:40:45 น.